สาวซิสต้าที่มีแฟนแล้ว เคยเจอปัญหา“ ความรักหมดช่วงโปรโมชั่น ”บ้างไหมคะคบกันมานานจนความสัมพันธ์เป็นไปอย่างเรียบๆ จนถึงขั้นจืดชืดน่าเบื่อ จากที่ตื่นเต้น ต้องแอบแม่แชทคุยกับแฟน หลบๆ ซ่อนๆ จนถึงจุดที่แม่ปล่อยให้โทรศัพท์ตามสบาย เซ็ง ไม่ตื่นเต้นเลย!เจอหน้ากันทีก็ไม่รู้จะคุยอะไรให้เกิดความรู้สึกมุ้งมิ้งๆ ใจสั่น เต้นตึกตักๆ เหมือน 14 อีกครั้งฉันคงฝันกลางวันมากเกินไปใช่ไหม หรือหาแฟนใหม่ดี ( ล้อเล่น! )
สาวๆ ไม่ต้องห่วงอีกต่อไป วันนี้เรามีหัวข้อสนทนาสำหรับ“ คู่รัก ”ที่เธอสามารถนำไปใช้กับแฟน แล้วรู้สึกคึกคัก ตื่นเต้นเหมือนตอนจีบกันใหม่ๆเพราะเราจะขุดตั้งแต่หัวข้อในอดีต ปัจจุบัน ยันอนาคตเลย!จะมีอะไรบ้าง เลื่อนลงมาอ่านเล้ย!
อดีต
1. ความทรงจำสุดประทับใจของทั้งคู่
บางครั้งการคบกันมานาน ทำให้เราหลงลืมช่วงเวลาดีๆ ที่เธอทั้งคู่เคยประทับใจม้าก มากมาก่อน
เช่น เดทแรก ไปสวนสนุกครั้งแรก เดินจับมือกันครั้งแรก เสี้ยววินาทีที่มือแตะกันทำให้หัวใจสูบฉีด หน้าแดงผ่าวๆ แค่ไหน
คงสนุกและตลกดีถ้ากลับไปย้อนความทรงจำเก่าๆ อีกครั้ง
ถ้าจำได้ก็ย้อนไปถึงนาทีที่รู้จักกันครั้งแรก มารื้อฟื้นกันอีกครั้งว่าทำไมเธอกับเขาจึงตุกหลุมรักกันได้
โอ๊ย แค่คิดก็ฟินเวอร์!
2. วัยเด็กของเขาและเธอ
การเล่ารายละเอียดช่วงชีวิตวัยเด็กของตัวเองให้อีกฝ่ายฟัง ทำให้เธอรู้ตึ้นลึกหนาบาง อุปนิสัยส่วนตัวของเขามากขึ้นเขาจบประถมที่ไหน เป็นเด็กเรียนหรือเด็กกิจกรรม มีรักแรกคือใคร ( สวยกว่าเราหรือเปล่า ฮึ่มๆ )ทำให้รู้ว่าวัยเด็กหล่อหลอมให้เขากลายเป็นแฟนที่น่ารักเหมือนทุกวันนี้ความทรงจำในอดีตแบบนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เธอทั้งสองใกล้ชิดกันมากขึ้น แต่ครอบครัวของเขาและเธอจะปรับตัวเข้าหากันง่ายมากขึ้นอีกด้วย
“ วัยเด็ก ”เป็นความทรงจำที่มีค่า ถ้าคิดจะแบ่งปันประสบการณ์นี้กับใครแล้ว แปลว่าเราจริงจังกับรักครั้งนี้ ไม่ได้คบเล่นๆลองเล่าสิว่าเมื่อก่อนเธอเป็นหัวหน้าแก๊งอะไร ชอบไปเล่นซนที่ไหน การขุดวีรกรรมสนุกๆ จากลิ้นชักความทรงจำออกมา อาจทำให้เธอคุยติดลม ไม่อยากให้การสนทนาครั้งนี้จบก็เป็นได้ ก็วัยเด็กเป็นวัยที่สนุกที่สุดแล้วนี่นา!
3. ความทรงจำของแต่ละฝ่ายที่ “ หวานปนขม ”
ใครๆ ก็อยากพูดถึงแต่ความทรงจำที่มีความสุข แต่บางครั้ง “ ความทรงจำร้ายๆ ” ก็บ่งบอกบุคลิกลักษณะของเธอได้ชัดเจนมากขึ้นการแบ่งปันประสบการณ์กับแฟนในเรื่องเหล่านี้เป็นการทดสอบว่าเธอ “ รักและไว้ใจ ” เขาสุดๆ( ไม่รักคงไม่กล้าเล่าเรื่องไม่ดีของตัวเองหรอก จริงไหม )บางความทรงจำก็อาจฝังรากลึกอยู่ในใจ รอใครสักคนมาช่วยบรรเทาอยู่ก็ได้นะความทรงจำในที่นี้อาจเป็นได้ทั้งผู้คนต่างๆ ที่เคยทำให้เจ็บช้ำน้ำใจ บทเรียนที่ได้รับจากสิ่งต่างๆ ที่เคยทำผิดพลาด หรือประสบการณ์ร้ายๆ ที่เธอเคยพบเจอเมื่อได้ระบายออกไป เธอทั้งคู่จะรู้สึกเข้าใจ และเห็นใจอีกฝ่ายมากขึ้น ทำให้ความรักเบ่งบานขึ้นในใจโดยไม่รู้ตัวเลยล่ะ ^w^
4. อุปสรรคที่เธอทั้งคู่ก้าวข้ามผ่านมาได้
แม้แต่คู่รักที่มีความสุขที่สุดในโลกก็ต้องเคยเจออุปสรรคในชีวิตคู่เช่นกัน!มนุษย์มีรัก โลภ โกรธ หลง ยิ่งมาอยู่ด้วยกันสองคนย่อมมีช่วงเวลาที่โกรธเคือง งอน ไม่เข้าใจกันอยู่แล้วแต่ประเด็นไม่ใช่การฟื้นฝอยหาตะเข็บว่าเธอทะเลาะกันรุนแรงแค่ไหน แต่เธอทั้งคู่เรียนรู้อะไรจากการทะเลาะนี้ เพื่อจะได้ไม่ทำผิดซ้ำอีกต่างหาก
เมื่อได้พูดคุยกันอย่างจริงจังแล้ว คู่รักที่ดีจะได้บทเรียนจากพฤติกรรมในอดีต และพร้อมที่จะซ่อมแซมแก้ไขความสัมพันธ์ให้สมบูรณ์รอยร้าวเล็กๆ จะได้เชื่อมประสานกันอีกครั้งหนึ่ง โอ๊ย หวานน้ำตาลขึ้น! ><
ปัจจุบัน
5. ความรู้สึกของกันและกัน
สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดในการพูดคุยคือ “ มีความซื่อสัตย์และจริงใจต่อกัน ”เปิดเผยความรู้สึกให้อีกฝ่ายรับรู้อย่างจริงใจ ทำให้เขาเคยชินว่าเธอรู้สึกอย่างไร เขาจะได้รู้ว่าควรแสดงออกต่อเธอแบบไหนให้ไม่กระเทือนจิตใจกัน เมื่อไม่มีความลับปิดบังต่อกัน ก็ทำให้คุยกันได้อย่างสนิทใจมากขึ้น ทำให้เข้าใกล้คำว่า “ รัก ” ได้อย่างหมดข้อสงสัย
ถ้าเป็นแฟนกันแต่โกหกว่ารู้สึกดีเพราะกลัวแฟนโกรธ แต่ในใจอึดอัดสุดๆ วันหนึ่งก็ไม่พ้นระเบิดตู้ม! ชีวิตคู่ไปได้ไม่นานหรอกค่ะ
6. แบ่งปันชีวิตประจำวันของกันและกัน
ในโลกยุคโลกาภิวัตน์นี้ ผู้หญิงต้องทำงานทัดเทียมกับผู้ชาย ทั้งสองฝ่ายต่างมีชีวิตส่วนตัวของตัวเอง หายากที่คู่รักคู่ไหนจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืนอีกฝ่ายก็ต้องไปเรียน ไปทำงานหาเลี้ยงชีพกันทั้งนั้นอย่างมากก็มาเจอกันหลังเลิกงานหรือวันหยุดเท่านั้นเอง!ระหว่างใช้ชีวิตประจำวัน แต่ละฝ่ายก็เจอทั้งเรื่องดี เรื่องร้ายให้ปวดหัวปนกันมากมาย ใช้โอกาสนี้เล่า ( หรือระบายนั่นแหละ ) ให้แฟนรู้สิ!
ไม่จำเป็นต้องรอเก็บมาคุยในวันหยุดเท่านั้น จะโทรหรือแชทบ่นกับแฟนก็ย่อมได้เช่น “ วันนี้สอบวิชานี้ยากจังเลย เค้าตกแน่ๆ ” หรือ “ วันนี้เจ้านายกินรังแตนที่ไหนมาก็ไม่รู้ อารมณ์เสียใส่เค้าซะงั้น ตัวเองพาไปปลอบกินขนมหน่อย ” คุยกันแบบนี้ทำให้ทั้งเธอและแฟนใกล้ชิดกันมากขึ้น เพราะรู้ความเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายตลอดเวลา
แม้จะเป็นแค่รายละเอียดเพียงยิบย่อย เช่น แฟนมาบ่นให้เธอฟังว่า“ เค้าป่วย ไอไปตั้งสิบหนแน่ะ ”เธอก็อย่ารำคาญ แต่แสดงท่าทีว่าเธอสนใจและเป็นห่วงให้เขาเห็นเธออาจะตอบไปว่า“ งั้นเค้าเอายาไปให้นะ ”ได้ใจหนุ่มไปเต็มๆ!
7. เรื่องตลกที่รู้กันแค่สองคน
ไม่มีอะไรที่น่ารักกุ๊งกิ๊งไปกว่าคู่รักที่มี“ โค้ดลับ ”ที่รู้กันแค่สองคนอีกแล้วล่ะ!แค่อีกฝ่ายขยิบตาสองครั้ง ถูนิ้วไปมา พูดคำแปลกๆ ที่ไม่มีความหมาย หรือทำหน้าที่รู้กันแค่สองคนว่าหมายความว่าอะไรอาจจะเป็นเรื่องทะลึ่ง หรือเรื่องฮาๆ ที่เจอกันแค่สองคน แค่คิดก็ฮาแล้ว!เมื่อเรามีโค้ดลับที่ทำแล้วรู้กันเองแค่เธอกับแฟน ทำให้เธอทั้งคู่รู้สึกใกล้ชิดกันแค่พูดคำตลกออกมาให้หัวเราะก๊าก ก็ทำให้บรรยากาศน่าเบื่อมีชีวิตชีวาขึ้นทันทีเชียว
โค้ดลับนี้มีความพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง คือยิ่งใช้มาก แล้วคนไม่เข้าใจเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งขำขึ้นเท่านั้น!นึกถึงภาพเพื่อนทั้งห้องเกาศีรษะด้วยความงง แต่เธอกับแฟนหัวเราะจนลงไปนอนกลิ้งกับพื้นสิ ฮาไปอีก!
8. ความชอบเฉพาะตัวของแต่ละฝ่าย
คู่รักที่ดีต้องเคารพสิทธิ และความชอบส่วนตัวของแต่ละฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นประเภทภาพยนตร์ เพลงที่ชอบ งานอดิเรก อย่าบังคับให้อีกฝ่ายต้องเปลี่ยนอะไรเพื่อเธอ เพราะยิ่งทำให้เขาอึดอัดและทำให้ความรักเกิดการระหองระแหงในที่สุดเว้นที่ว่างให้แฟนบ้าง ถ้าเขาไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน ก็อย่าทำตัวเป็นกาวเหนียวๆ หรือลูกหมีโคอาล่าที่ติดสอยห้อยตามเขาไปทุกที่ให้เขามีเวลาส่วนตัวบ้าง เชื่อใจกันหน่อย ไม่แอบไปมีกิ๊กที่ไหนหรอกน่า!
ถ้าคนเป็นแฟนกันไม่สามารถพูดทุกเรื่องของตัวเองได้ ต้องคอย “ แอ๊บ ” สร้างอิมเมจเป็นสาวใสๆ แบ๊วๆ ตลอดเวลาไปกินข้าวกันที่ไหนต้องเลือกร้านสเต๊กอย่างเอียงอาย ( ทั้งที่ในใจมองร้านส้มตำข้างๆ ตาเป็นมัน )แบบนี้มันไม่ใช่แล้วอะกิ๊ฟ!ความรักที่ดีต้องสบายใจ และเป็นตัวของตัวเองมากที่สุดเมื่ออยู่ใกล้กัน ถึงจะถูกต้องเปิดเผยตัวตน แมนๆ คุยกันไปเลย อย่าไปกลัวถ้าคนละแนวจนเข้ากันไม่ได้ ก็ยังมีเวลาถอย ไม่ต้องถลำลึกให้ต้องเสียใจมากกว่านี้ =w=b
9. ช่วงเวลาเปิ่นๆ บ๊องๆ ของทั้งคู่
ช่วงเวลา“ โก๊ะกัง ”อาจเป็นสิ่งที่ทำให้เธอหน้าแตก เป็นประสบการณ์ที่เธออยากฝังใส่หม้อดินแล้วขังลืมไปเลย แต่ในทางกลับกัน มันอาจเป็นช่วงเวลาที่เล่าแล้วสนุกที่สุดก็ได้นะ!เวลาแบ่งปันเรื่องฮาๆ ขำๆ โป๊ะแตกของตัวเองให้อีกฝ่ายฟัง ถือเป็นสัญลักษณ์ว่าคนเล่า “ เชื่อใจ ” อีกฝ่ายว่าจะไม่ไปแพร่งพรายต่อ วัดใจกันไปเลยว่า เคยทำเรื่องน่าอายขนาดนี้ยังรักกันอยู่ไหม
การเล่าเรื่องน่าอาย เป็นโอกาสในการหาเรื่องหัวเราะกับแฟน อย่าเครียดนักเลย!ยิ่งเธอปลดปล่อยตัวตนรั่วๆ ออกมาเมื่อไหร่ เธอกับแฟนก็จะรู้สึกใกล้ชิดมากขึ้นเท่านั้นมารั่วกันเถอะ เย้!
อนาคต
10. แผนในอนาคตของเธอทั้งคู่
เมื่อเธอกับแฟนคบมานานจนมาถึงจุดๆ หนึ่ง เธอจะต้องตัดสินใจแล้วว่า “ จะหยุดหรือไปต่อ ”จะเป็นแฟนกันต่อไปเรื่อยๆ หรือข้ามขั้นไปถึงขั้นแต่งงานให้เป็นเรื่องเป็นราวการคุยประเด็นนี้ร่วมกันแสดงถึงความเคารพและให้เกียรติอีกฝ่ายว่า“ เราไม่ได้คบเธอเล่นๆ นะ ”และแสดงความต้องการว่าอยากมีอีกฝ่ายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตตลอดไปไงล่ะ
คู่รักที่ดีมักวางแผนร่วมกันเสมอ ยิ่งถ้าเป็นการตัดสินใจในเรื่องใหญ่มากขึ้นเท่าไหร่ ก็มีผลกระทบกับความสัมพันธ์มากขึ้นเท่านั้นทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่คุยได้หมด ตั้งแต่การแต่งงานมีลูก ไปจนถึงเย็นนี้จะกินร้านไหนดีว่าแล้วก็มาวางแผนกันเถอะแต่วัยรุ่นวัยใส เอาแค่พรุ่งนี้กินข้าวร้านไหนก็พอนะ ไม่ต้องคิดถึงมีลูกกี่คน นั่นก็ข้ามขั้นไป!
11. ความหวังของแต่ละฝ่าย
คู่รักที่ดีจะคุยกันเรื่องความหวังร่วมกันในอนาคตข้างหน้า!การคุยกันอาจเป็นเรื่องที่ เธอต้องการให้ความสัมพันธ์ในอนาคตดำเนินต่อไปยังไง หรืออยากให้สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปได้ด้วยดีแค่ไหน
ไม่ต้องมีแผนที่ตีกรอบเป๊ะๆ บอกระยะเวลาอย่าง 3 ปี 5 ปีหรอกนะ ไม่จำเป็นต้องผูกมัดตัวเองขนาดนั้น!แค่เข้าใจตัวตนของกันและกัน รู้ว่าแต่ละฝ่ายต้องการอะไรในอนาคตก็พอ แค่เข้าใจกันก็ทำให้ชีวิตคู่ก้าวต่อไปได้อย่างมีความสุขแล้ว!
12. ความฝันของเธอทั้งคู่
ข้อสุดท้ายเป็นหัวข้อที่ดีที่สุด เพราะบ่งบอกว่าเราให้ใจกับคนนี้จริงๆ นั่นคือความฝันร่วมกันของเธอและแฟน!ไม่ใช่แค่เล่าว่าเมื่อคืนเธอฝันว่าอะไร แต่เป็นความฝันใหญ่ๆ ที่ส่งผลต่อทั้งชีวิตในอนาคตของเธอต่างหากล่ะ!จะเป็นฝันที่จริงจังหรือดูบ๊องบวมแค่ไหนก็เล่าได้ทั้งนั้น แค่ได้เผยความในใจก็พอแล้ว
นึกภาพเธอกับแฟนนั่งดูดาวด้วยกัน บรรยากาศเย็นๆ สบายๆ แล้วเขาก็บอกว่า“ เค้าอยากเป็นหมอ อยากช่วยเหลือคนทั้งโลก “เธอเลยเสริมว่า“ งั้นเราเป็นพยาบาลแล้วกันนะ จะได้ไปรักษาคนไข้ด้วยกันไง ”ฮิ้ววว เขินไปอีก!
==========================================
บทสนทนาในหัวข้อต่างๆ ที่เรายกมาข้างต้น ต่างมีความหมายและแฝงนัยยะของความรักแทบทั้งสิ้น!ถึงจะเป็นเรื่องที่ดูเล็กน้อย เป็นรายละเอียดปลีกย่อยที่จะลืมมันไปซะก็ได้เช่น เธอชอบยางรัดผมสีอะไร เขาชอบพับมุมกระดาษที่อ่านไม่จบข้างซ้ายหรือขวา มันจะมีความหมายที่ยิ่งใหญ่ทันที เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจำได้ส่ใจความรู้สึกของกันและกัน เชื่อใจ ไว้ใจกัน พยายามที่จะสื่อสารกับอีกฝ่ายด้วยความเข้าใจแบบนี้ก็แน่ใจได้เลยว่าความสัมพันธ์จะยืนยาว คงทนไปนานแสนนาน เหมือนตำนานเจ้าหญิงเจ้าชายในเทพนิยายเลยแหละ
คนที่มีแฟนแล้วก็ขอให้ครองรักกับเจ้าชายของเธอ ส่วนคนโสดก็ขอให้ตามหาเจ้าชายในฝันจนเจอนะคะ เอาใจช่วย สู้ๆ ค่ะ!
==========================================
บทความที่เกี่ยวข้อง
11 เคล็ดลับ ง่ายๆ เป็น "คู่รักตัวอย่าง" ให้คนอื่น อิจฉา! v(*´∀`*)v
https://sistacafe.com/summaries/2270
8 วิธีทำให้เขารักเรา เหมือนตอนเพิ่งจีบกัน!!
https://sistacafe.com/summaries/1493
15 ไอเดีย การออกเดท เติมความหวาน สำหรับคู่รัก
https://sistacafe.com/summaries/339
Cr. 12 Things Happy Couples Talk About and Feel Closer!
http://www.lovepanky.com/love-couch/romantic-love/12-things-happy-couples-talk-about-and-feel-closer