เนิ่นนานมาแล้วตั้งแต่สมัยอดีตกาล มนุษย์ทุกผู้ ทุกคนต่างอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ไม่มีแบ่งเขา แบ่งเรา จนกระทั่งเข้าสู่ยุคประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม มนุษย์เริ่มแบ่งแยกชนชาติ เชื้อชาติ ศาสนา จนทำให้เกิดเป็นชุมชน เป็นเมือง เป็นอาณาจักร และประเทศ
เมื่อเกิดการแบ่งเขาแบ่งเราขึ้น ทำให้การเดินทางท่องไปตามที่ต่างๆ เริ่มยากลำบาก เพราะมีกฎระเบียบ บางที่ก็ไปได้ บางที่ก็ไม่สามารถไปได้
และเพื่อพิสูจน์ว่า มนุษย์เราสามารถเดินทางอย่างไร้พรมแดนได้ Valerio Vincenzo ช่างภาพชาวยุโรป จึงกำเนิดโปรเจค Borderline, Frontiers of Peace ขึ้น เพือเป็นการถ่ายภาพแนวเขตชายแดนต่างๆ ในยุโรป ซึ่งสถานที่ที่เขาถ่ายมา ดูเผินๆ อาจจะมองว่าเป็นแค่ภาพวิวทิวทัศน์ทั่วไป แต่จริงๆ แล้วสถานที่ตรงนั้นคือ ชายแดนที่แบ่งอาณาเขตแสดงความเป็นเจ้าของไว้ต่างหาก

Valerio Vincenzo
ซึ่งโปรเจคนี้เขาใช้เวลาถึง 8 ปี ด้วยกัน รวมแล้วเป็นระยะเวลากว่า 10,000 ไมล์ ในการเดินทาง โดยมีเพียงแค่กล้อง Hasselblad 1964 เท่านั้น
ทีนี้เราลองมาดูภาพถ่ายของเขาดีกว่าว่าสถานที่เดียวจะแบ่งเป็นสองประเทศได้อย่างไร

เส้นทางการเดินทางของ Valerio Vincenzo

พรมแดนฝรั่งเศสและเยอรมนี

พรมแดนโปแลนด์และลิทัวเนีย

พรมแดนสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี

พรมแดนเยอรมนีและโปแลนด์

พรมแดนโรมาเนียและบัลแกเรีย

พรมแดนออสเตรียและสาธารณรัฐเช็ก

พรมแดนออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ และเยอรมนี

พรมแดนฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์

พรมแดนเยอรมนีและสาธารณรัฐเช็ก

พรมแดนลัตเวียและเอสโตเนีย

พรมแดนโปรตุเกสและสเปน

พรมแดนสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี

พรมแดนสาธารณรัฐเช็กและโปแลนด์

พรมแดนฮังการีและออสเตรีย

พรมแดนเบลเยี่ยมและเนเธอร์แลนด์

พรมแดนโปแลนด์และสโลวาเกีย

พรมแดนโปแลนด์และสโลวาเกีย

พรมแดนอิตาลีและออสเตรีย
ลองจินตนาการดูสิ ถ้าหากไม่มีประเทศเขตแดนใดๆ ก้อนหิน ดินทราย ต้นไม้ อากาศและน้ำ ล้วนเป็นของพวกเราทุกคน นี้ต่างหากที่เป็นสิ่งที่เราควรรักษาไว้ ถ้าผู้คนละความโลภและความกระหาย โลกนี้ก็จะน่าอยู่ขึ้นเยอะ เพราะว่าโลกนี้มันเป็นของเราทุกคนครับ .
Comments