วันหนึ่ง " มาดามลูลู่ " แม่หมอประจำ " SistaCafe " และเป็น AE ประจำเว็บไซต์ ได้เดินแบกร่างตุ้ยนุ้ยของตัวเองลงมาหาเจ๊แล้วขอให้เขียนวิจารณ์คลิปวิดีโอตัวหนึ่ง  หลังจากที่เจ๊ได้ดูวิดีโอตัวนี้จบเจ๊ต้องเดินออกจากออฟฟิศด้วยสมองอันว่างเปล่า ตีตั๋วไปนั่งคุยกับคิงคองที่พาต้าปิ่นเกล้า เพราะตัวคลิปวิดิโอแทบจะไม่มีอะไรให้เจ๊ได้เม้าท์เลย!!!!   แต่ในที่สุดเจ๊ก็ค้นพบสัจธรรมในคลิปนี้และจะมาชำแหละออกเป็นส่วน ๆ ให้อ่านกันค่ะ  ขอบคุณเจ๊คิงคองเพื่อนสาวมา ณ ที่นี้ด้วยที่ช่วยให้เจ๊ค้นพบทางออก 

ก่อนอื่นมาชมวิดีโอกันก่อนค่ะ เราจะได้เข้าใจตรงกัน และเจ๊เองจะได้ไม่โดนหาว่าสปอยด้วย 

พร สาวออฟฟิศทำงานด้านบัญชี ผู้รีบบึ่งเข้ามาทำงานตั้งแต่ 8:25 น. เพื่อแต่งหน้า แต่แล้วสิ่งที่แต่งไว้ตั้งแต่เช้ากลับพังทลายลงเพียงไม่กี่ชั่วโมง ฉากนี้เป็นการสะท้อนปัญหาการแต่งหน้าไม่ติด หน้าหมองคล้ำของสาวออฟฟิศค่ะ

ทำไมต้องเป็นสาวออฟฟิศ? 
ปัญหาแต่งหน้าไม่ติดเกิดจากหน้าแห้ง ขาดความชุ่มชื้นค่ะ โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว หรือกับคนที่อยู่ในห้องแอร์วันละหลายๆ ชั่วโมงอย่างสาวออฟฟิศ  สาวๆ จะลองสังเกตตัวเองก็ได้นะคะ ว่าตอนที่แต่งหน้ารู้สึกเหมือนเอาแป้งเด็กมาทาหน้าหรือเปล่า บางนางมีคราบแป้งหล่นลงบนพื้นด้วย นี่คือปัญหาของการแต่งหน้าไม่ติดค่ะ

ทำไมต้องเป็นสาวฝ่ายบัญชี?
จะเห็นว่าพร นางเอกของเรา พูดถึงเรื่องการปิดงบ นั่นหมายความว่านางทำงานบัญชีค่ะ  สาวๆ บัญชีจะเป็นแผนกที่มีความสวยเป็นวงจรแบบลูกน้ำยุงลาย  คือจะมีช่วงที่นางสามารถสวยได้จริงๆ และจะมีช่วงที่นางต้องรีบปั่นบัญชีให้ทันงบ ซึ่งตอนนั้นนางจะต้องทำงานดึกดื่นจริงๆ  ต่อให้สวยแค่ไหนในช่วงนั้นก็เป็นป้าได้ทุกคนค่ะ

ในออฟฟิศจะมีมนุษย์แบบนี้อย่างน้อย 1 คนค่ะ คนที่กวนประสาท และชอบมาเรียกเราว่าป้า  เอาจริงๆ ต่อให้เราสวยแค่ไหนมันก็เรียกเราป้าอยู่ดีค่ะ ถ้าเราแก่กว่ามัน  ฉากนี้ไอ้แว่นมันเข้ามากวนประสาทนางเอกของเราด้วยการเสนอคอร์สหน้าตึงด้วยแม็กเย็บกระดาษค่ะ  แต่สาวพรก็มีความอดทนดีนะคะ เพราะถ้าเป็นเจ๊อาจจะเสนอคอร์สปากตึงด้วยแม็กเย็บกระดาษให้มันแล้ว

หลังจากโดนสัมภเวสีรังควาน สาวพร จึงรีบแก้กรรมด้วยการแต่งหน้าเพิ่ม!! 

หลังจากทานข้าวเสร็จ เพื่อนแอนผู้ใจดี  ก็กลับมาพร้อมครีมซองราคาหลักสิบที่หาซื้อได้ใน 7-11 ชวนให้คิดว่ากระเป๋ากุชชี่ที่เราเห็นนางถึอเข้าฉากเหมือนเป็นการจงใจอวด เป็นของอิมพอร์ทจากเสินเจิ้น พร้อมตรารับประกันงานมิลเลอร์ก็อปเกรด A เสียจริงๆ

สาวพรรู้สึกขอบคุณเพื่อนแอนเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าในใจจะคิดถึงเรื่องกระเป๋าปลอมจนแสดงออกมาทางสีหน้าอย่างชัดเจน 

เลิกงาน สาวพรคิดขึ้นได้ เอาครีมที่เพื่อนแอนให้กลับไปทาดีกว่า ...แต่เอ๊ะ   ออฟฟิศนี้กลับกันเร็วไปมั้ยคะ เพิ่ง 6 โมงเย็นเอง สงสัยพวกนางจะเลิกงานกันตั้งแต่ 4 - 5 โมงเย็น

ไอ้แว่นก็ยังคงสวมบทเป็นสัมภเวสีเช่นเคย วันนี้มันมาขอคลิปหนีบกระดาษที่โต๊ะสาวพร ส่วนสาวพรพอได้ครีมไปใช้ก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เกิดความมั่นอกมั่นหน้ากล้าเล่นมุข 5 บาท 10 บาท ว่า  " ไม่มี ไม่เคยถ่าย "   เลยโดนไอ้แว่นเอาอุปกรณ์ที่เหมาะกับการหนีบปากตัวเองมาเล่นนางคืน โดยส่งคลิปที่สาวพรให้มาเกินให้นางไว้ใช้หนีบขึงดึงหน้าตัวเองแทน  

ทันใดนั้น เพื่อนแอน ก็มาตามงาน เพื่อให้แน่ใจว่าสาวพรได้ใช้ครีมที่นางซื้อให้จริงๆ

เวลาผ่านไป 7 วัน ...

ไอ้แว่นเดินมาที่โต๊ะสาวพรอีกครั้ง วันนี้มันเล่นใหญ่กว่าทุกวัน ขำหนักกว่าทุกวัน วันนี้มันมาหากาว ไม่ใช่เพื่อเอาไปดม หรือเอาไว้ทาปากตัวเอง แต่มันจะเอามาดึงหน้าสาวพร!! 

แต่ภาพที่มันเห็นคือ มีสาวสวยนั่งอยู่ที่โต๊ะ ซึ่งนั่นไม่ใช่สาวพร  

ไอ้แว่นเห็นผู้หญิงคนใหม่ถึงกับอุทานว่า สวย!  

ทันใดนั้นสาวพรก็ปรากฏกายออกมา  พร้อมกับใบหน้าที่แต่งเต็ม  มีพัดลมเป่าให้ผมพลิ้วแบบ Beyoncé ตระการตาด้วย Backlight เพิ่มความเปล่งประกายให้เส้นผม และที่สำคัญเป็นภาพสโลว์โมชั่น  ฉากนี้ทำให้เจ๊ถึงกับน้ำตาไหล โถ.. สาวพรคงจะโดนไอ้แว่นล้อจนทนไม่ไหวตัดสินใจฆ่าตัวตายกลายเป็นผีสาวมาแก้แค้นสินะ  ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็คือพนักงานใหม่ที่เข้ามาทำแทนนางนี่เอง

สาวพรยังไม่ตาย แค่สภาพผิวหน้าดีขึ้นจนสามารถแต่งหน้าติดได้ ในเวลา 7 วัน ทำให้ไอ้แว่นตกใจอ้าปากค้าง แต่สำหรับเจ๊ เจ๊อ้าปากค้างตรงที่นางยังไม่ตาย กับการแต่งตัวของน้องพนักงานใหม่นี่แหละ นางแต่งใหญ่มาก 

สาวพรสวยจนไอ้แว่นเขิน เดินไม่เป็น ชนขอบโต๊ะจนเอกสารหล่นไปเลย 

ในตอนจบ เพื่อนสาวแอน เดินมาดูผลงานพร้อมทำหน้าคล้ายจะลำเลิกบุญคุณที่โต๊ะสาวพร  ในฉากนี้นางแต่งตัวแล้วดูเหมือนเภสัชกรมากๆ  

ถ้าสังเกตช่วงเวลาในคลิป จะเห็นว่าการทาครีมบำรุงไม่ไช่ทาแล้วเห็นผลได้เลย แต่มันจะเริ่มเห็นผลในวัดถัดๆ มา สำหรับในคลิปนี้ใช้เวลาเห็นผล 7 วันค่ะ