ท่องโลกนิยายไปกับ Mocking Tales คาเฟ่ทองหล่อ 2 ฟีลลิ่งในหนึ่งเดียว
เวลาเปลี่ยน ฟีลลิ่งก็เปลี่ยน ตามที่คาเฟ่ทองหล่อแสนเก๋ กับคอนเซ็ปต์ Day Dessert & Night Bar สองช่วงเวลาคู่ขนานของโลกแห่งเทพนิยายที่มีชื่อว่า "Mocking Tales"
ย้อนกลับไปถึงความหวานของนิทานก่อนนอน เทพนิยายเจ้าชายและเจ้าหญิง เชื่อว่าเรื่องราวเหล่านี้ยังคงซ่อนอยู่ในความจำเล็กๆ ของทุกคนใช่ไหมคะ เช่นเดียวกับ " Mocking Tales " คาเฟ่ทองหล่อ 4 แห่งนี้ ที่นำไอเดีย Fairy tale หรือเทพนิยายมาเนรมิตเป็นร้านน่านั่ง งานโรแมนติกก็มา งานหรูหราก็มี งานนี้ตามไปมุงกันด่วนนนนนน !!
[Mocking Tales คาเฟ่ทองหล่อ] หน้าร้านตกแต่งในสไตล์โกธิค ทั้งสะดุดตาและยังดูลึกลับชวนเดินเข้าไปค้นหามากๆ
สำหรับร้าน " Mocking Tales " ตั้งอยู่ในโครงการ The Maze Thonglor จัดเป็นอีกหนึ่ง คาเฟ่ทองหล่อ ชิคๆ ในย่านกลางเมืองแห่งนี้ค่ะ พูดถึงความเก๋นอกจากการแต่งร้านที่ไม่เหมือนใครแล้ว
เรื่องราวหรือคอนเซ็ปต์ยังน่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะเขาได้หยิบเอาความสวยงามของเทพนิยายมาตีความออกเป็น 2 ด้าน ในแบบ Daylight Nightlight คล้ายๆ การ์ตูนดังของดิสนีย์ ที่เดี๋ยวนี้ถูกนำมาสร้างเป็นหนังเพื่อบอกเล่าเรื่องราวฝั่ง Darkside ของตัวร้ายในมุมมองอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่นั่นเองค่ะ
Location
Mocking Tales ตั้งอยู่ใน The Maze ทองหล่อ ชั้น G ซ.ทองหล่อ 4 ถนนสุขุมวิท 55
รายละเอียดสถานที่
Mocking Tales ตั้งอยู่ใน The Maze ทองหล่อ เดินทางง่ายๆ เพียงนั่ง BTS ลงสถานีทองหล่อ ออกประตู 3 เข้าซอยสุขุมวิท 55 หรือทองหล่อ เดินมาเรื่อยๆ ก็ไม่ไกลมากค่ะ หรือจะนั่งรถเมล์แดงหรือมอเตอร์ไซต์วินมาลงที่หน้า The Maze ทองหล่อ ก็ได้เช่นกัน ร้านจะอยู่ด้านในสุดฝั่งซ้ายมือค่า
คาเฟ่ทองหล่อไม่ได้มีแค่ร้านเดียวนะ



Day Dessert & Night Bar @ Mocking Tales คาเฟ่ทองหล่อ
จากตีมข้างต้นทำให้รูปแบบการเสิร์ฟอาหารของ " Mocking Tales " บอกเลยว่ากิ๊บเก๋ไม่เหมือนใครด้วยการนำเสนอแบบ Day Dessert & Night Bar ในช่วงเวลากลางวันสาวๆ จะได้มานั่งทานขนมหวาน จิบเครื่องดื่มเบาๆ จำพวกชากาแฟ แบบคาเฟ่ใสๆ แต่พอพระอาทิตย์ตกดินปุ๊บ หลังเวลา 18.00 น. เป็นต้นไป Mocking Tales จะแปลงร่างเป็นบาร์ค็อกเทลให้นั่งดริ๊งก์ชิลล์ๆ กลายเป็นอีกฟีลลิ่งหนึ่งไปเลยล่ะขอบอก
[Mocking Tales คาเฟ่ทองหล่อ] นอกจากหุ่นเหล็กอัศวินแล้ว สัตว์สตาฟฟ์ก็เป็นอีกของตกแต่งที่ช่วยทำให้บรรยากาศร้านดูมีเสน่ห์ขึ้น
[Mocking Tales คาเฟ่ทองหล่อ] หุ่นเหล็กอัศวิน ผู้พิทักษ์ปราสาทถูกจับมาตกแต่งกระจายทั่วบริเวณร้าน
นอกจากนั้นแล้ว มาที่ร้านนี้ไม่ต้องกลัวเบื่อ เพราะทางร้านจะหมุนเวียนเปลี่ยนตีมตกแต่งร้าน รวมไปถึงเมนูอาหารเป็น chapter แบ่งออกเป็น 3 chapter ต่อปี โดยนำ Fairy Tale เรื่องต่างๆ มาเป็นแรงบันดาลใจ ถ้าเพื่อนๆ ไปในช่วงนี้จะอยู่ในช่วง chapter " Under The Sea" เรื่องราวของใต้ท้องทะเลลึก
แบบนี้เลิกงานก็ไปกินของหวานไม่ทันสิ ข้อนี้สำหรับสาวๆ วัยทำงานที่ชอบทานของหวานก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะด้วยทำเลคาเฟ่ทองหล่อ ทำให้ " Mocking Tales " ยังคงเสิร์ฟเมนูของหวานยาวไปจนถึงเวลา 22.30 น. เลยจ้า
ทางด้านเมนูขนมของที่นี่จะเป็นเมนูเฉพาะที่คิดขึ้นใหม่ตามคอนเซ็ปต์ร้านหาคาเฟ่ใดมาเหมือนค่ะคุณ แถมยังเป็นเมนูโฮมเมดที่วัตถุดิบใช้ของดีคุณภาพคับแก้ว โดยเฉพาะไอศกรีมที่มีให้เลือกมากกว่า 12 รสชาติ เป็นรสชาติใหม่ที่ทีมเชฟคิดขึ้นมาเองอีกด้วยนะ
[Mocking Tales คาเฟ่ทองหล่อ] แต่งร้านให้เข้ากับบรรยากาศของ chapter "under the sea" บริเวณเพดานห้อยของตกแต่งที่ได้ไอเดียมาจากเจ้าแมงกะพรุนนั่นเอง
[Mocking Tales คาเฟ่ทองหล่อ] โคมไฟแมงกะพรุนเมื่อสะท้อนกับแสงไฟ blacklight ยิ่งให้ฟีลท้องทะเลลึกขึ้นไปอีก
ส่วนของหน้าตาเรียกได้ว่าวิลิศมาหรา สวยปังอลังการ มีลูกเล่นในการกินให้ได้ตื่นตาตื่นใจกันทุกเมนูเลยทีเดียวค่ะ มาเริ่มต้นที่เมนูแรกที่เป็นไฮไลท์ ใครมาเป็นอันต้องจัดอย่าง Inferno Moutain ( 480++ บาท ) ช็อกโกแลตภูเขาไฟที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก The Lord of The Ring
ช็อกโกแลตรูปทรงภูเขาที่เมื่อราดด้วยเหล้าส้มและจุดไฟ จะละลายกลายเป็นภูเขาไฟลาวาสอดไส้ข้างในไว้ด้วยไอศกรีมโฮมเมด 3 ลูกโตที่สามารถเปลี่ยนรสได้ตามชอบใจ ทานคู่กับบราวนี่แท้ๆ รสชาติเข้มข้น ปิดท้ายด้วยการราดซอสราสเบอร์รี่ผสมเหล้าส้ม จานนี้น่าจะถูกใจสำหรับสายขนมที่ไม่ชอบทานหวานมากได้ดีเลยค่ะ
[Mocking Tales คาเฟ่ทองหล่อ] ช็อกโกแลตภูเขาไฟลาวา จุดไฟราดด้วยเเหล้าส้มเป็นการกินของหวานที่ตื่นตามากๆ เลยค่ะ
[Mocking Tales คาเฟ่ทองหล่อ] ข้างในอัดแน่นไปด้วยไอศกรีมโฮมเมดลูกเบิ้ม แต่ที่เลิฟสุดๆ ขอยกให้บราวนี่ที่รสชาติเข้มข้นและไม่หวานเลี่ยน
ไปต่อกันที่เมนูพิเศษใหม่แกะกล่องที่มีแค่ช่วง chapter " Under The Sea " นี้เท่านั้น กับ Sacred Groung under the sea ( 320++ บาท ) วุ้นหยดน้ำที่เสิร์ฟพร้อมไอศกรีม ผลราสเบอร์รี่สด และเค้กราสเบอร์รี่ จัดแต่งให้มีความคล้ายปะการังใต้ท้องทะเล
แถมยังมีความว้าวตรงที่ส่วนของวุ้นหยดน้ำจะสามารถเรืองแสงได้เมื่อกระทบกับแสงไฟ blacklight จากซีเคร็ตเคล็คลับของร้านโดยเฉพาะ เลอค่ามากๆ
[Mocking Tales คาเฟ่ทองหล่อ] เมนูสเปเชียลที่คิดขึ้นมาต้อนรับ chapter "under the sea" วุ้นหยดน้ำเรืองแสงรสชาติเปรี้ยวอมหวานคล้ายรสของลิ้นจี่ แถมยังมีกลิ่นหอมกุหลาบอีกด้วย
กินหนักขนาดนี้เดี๋ยวจะติดคอ ต้องขอจิบเครื่องดื่มสวยๆ ตาม งานนี้ " Mocking Tales " จัดมาให้ทั้งสายใสและสายเข้ม แก้วแรกกับ Cookie Mint Monster milk shake ( 175 บาท ) สำหรับใครที่เป็นคอมินต์เลิฟเวอร์ แก้วนี้มีความแนะนำเพราะทำมาจากไอศกรีมมินต์โฮมเมดที่ให้มินต์เต็มๆ หอมสดชื่น
[Mocking Tales คาเฟ่ทองหล่อ] เครื่องดื่มสีฟ้าน้ำทะเลที่ได้แรงบันดาลใจมาจากคาแรคเตอร์คุกกี้มอนสเตอร์ แก้วนี้มาแค่เฉพาะ chapter "under the sea" ช่วงนี้เท่านั้นนะ
แต่สำหรับสายเข้มคอกาแฟควรลอง Shining Tropical ( 125 บาท ) เป็นการนำกาแฟมามิกช์เข้ากับผลไม้อย่างเสาวรส ความขมของกาแฟถูกตัดด้วยความเปรี้ยวของเสาวรส ง่วงแค่ไหนจิบทีมีตื่นแน่นอนค่ะ
[Mocking Tales คาเฟ่ทองหล่อ] เอาความเปรี้ยวของเสาวรสมาผสมเข้ากับความขมและรสชาติเฉพาะของกาแฟ ทำให้แก้วนี้เป็นเครื่องดื่มรสชาติใหม่ที่ช่วยให้เฟรชมากๆ
Castle of Beauty and the Beast @ Mocking Tales คาเฟ่ทองหล่อ
ชิมอาหารกันพอหอมปากหอมคอแล้ว กลับมาเดินชมตัวร้านกันสักหน่อย แน่นอนหากขึ้นชื่อว่าเป็น คาเฟ่ทองหล่อ ความชิคของร้านย่อมไม่น้อยหน้ากัน เช่นเดียวกับ " Mocking Tales " ที่มีในคอนเซ็ปต์เทพนิยายเม้าท์กันไปข้างต้น ทำให้การตกแต่งจงใจให้ออกมาเป็นเหมือนปราสาทโบราณที่ได้แรงบันดาลใจมาจากในเรื่อง โฉมงามกับเจ้าชายอสูร ( Beauty and the Beast )
[Mocking Tales คาเฟ่ทองหล่อ] ด้านในสุดนอกจากจะเป็นบาร์แล้ว ยังออกแบบให้เป็นเหมือนห้องอาหารขนาดใหญ่ภายในปราสาท
[Mocking Tales คาเฟ่ทองหล่อ] ปูนปั้นมังกร ของตกแต่งที่ช่วยเพิ่มมนต์ขลังให้ปราสาทโบราณแห่งนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์
ตัวร้านคุมโทนสีดำเป็นหลัก จุดเด่นอยู่ที่การนำบานประตูเหล็กยืดโบราณมาตกแต่งตามส่วนต่างๆ และที่ขาดไม่ได้คือเหล่าหุ่นเหล็กอัศวินซึ่งทำหน้าที่เหมือนผู้พิทักษ์สถานที่แห่งนี้ แสงไฟสลัวๆ ช่วยเพิ่มบรรยากาศ กลิ่นอายโกธิค เหมือนได้หลุดเข้ามานั่งเล่นในปราสาทของเจ้าชายอสูร
โดยแบ่งโซนต่างๆ ให้เหมือนห้องต่างๆ ในปราสาท ไม่ว่าจะเป็น หอคอย ห้องอาหาร ห้องใต้ดิน ห้องปรุงยา ฯลฯ แต่ถ้าเพื่อนๆ มาช่วงกลางคืนแนะนำให้แมทช์เสื้อผ้าสีขาวมานะจ๊ะ เพราะแสงไฟ blacklight ที่ติดอยู่ทั่วบริเวณร้านจะกระทบให้ดูเรืองแสงได้ ให้อีกบรรยากาศหนึ่งที่ยิ่งสวยขึ้นไปอีก
[Mocking Tales คาเฟ่ทองหล่อ] เคาน์เตอร์บาร์ใช้ประตูเหล็ดยืดมาดัดแปลงแต่งบริเวณส่วนบน ดูดิบเท่แปลกตาทีเดียวค่ะ
[Mocking Tales คาเฟ่ทองหล่อ] แบ่งโซนจำลองเหมือนห้องใต้ดินของปราสาท ที่สามารถมองทะลุเข้าไปข้างในได้
[Mocking Tales คาเฟ่ทองหล่อ] ต่อติมเป็นชั้นลอยเล็กๆ ให้เป็นมุมไพรเวทโซนสำหรับลูกค้า โดยสร้างจากไอเดียห้องปรุงยาในปราสาท
[Mocking Tales คาเฟ่ทองหล่อ] บรรยากาศภายในห้องใต้ดิน เป็นมุมเล็กๆ แสนโรแมนติก เหมาะกับคู่รักมานั่งมุ้งมิ้งนะจ๊ะมุมนี้
มีโฉมงามแล้วก็ต้องมีเจ้าชาย " Mocking Tales " เขาก็มีเจ้าชายเหมือนกัน งานนี้ไม่ใช่เจ้าชายอสูรนะออกตัวก่อนเลย เพราะชายหนุ่มผู้นี้คือพ่อค้าแซ่บประจำร้านซึ่งก็คือคุณเจี้ยน หนึ่งในหุ้นส่วนควบตำแหน่งบาริสต้า ผู้เคยไปวาดลวดลายเชคเครื่องดื่มไกลถึงประเทศออสเตรเลีย เรียกว่ามาคาเฟ่ทองหล่อแห่งนี้มีทั้งอาหารจริงให้อิ่มท้อง และอาหารตาให้อิ่มใจ สาวๆ นั่งทั้งวันไม่มีเบื่อ เราลองมาแล้วยู้วววว :P
[Mocking Tales คาเฟ่ทองหล่อ] บาริสต้าและหุ้นส่วนผู้ดูแลฝั่งเครื่องดื่มของร้านอย่างคุณเจี้ยน นอกจากหน้าจะหล่อแล้ว ฝีมือการเชคยังไม่น้อยหน้าด้วยนะขอบอก
เอาเป็นว่าใครเป็นสายไหนก็เลือกมาตามเวลาที่ถูกใจได้เลย เพิ่มเติมอีกนิดสำหรับในทุกๆ วัน พุธ-ศุกร์ ทางร้านเขาก็มีดนตรีสดมาเล่นด้วยนะ หากอยากจะมานั่งชิลล์จิบแอลกอฮอล์ฟังดนตรีดีๆ ก็ดูเป็นตัวเลือกที่เข้าท่าไม่น้อย งานนี้ SistaCafe ขอปักหมุดแรงๆ หนึ่งทียกให้ " Mocking Tales " เป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ทองหล่อที่ไม่ควรพลาด!!