▼ปัจจุบันคือสังคมแห่งความเครียด▼

รูปภาพ:https://kenkoh-shukan.jp/wp/wp/wp-content/uploads/2016/01/upset.png

ว่ากันว่าสังคมปัจจุบันนี้เป็นสังคมแห่งความเครียดที่ทุกคนยังคงใช้ชีวิตกันต่อไปเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่มีคนเครียดกันมากขึ้น ด้วยความที่เป็นสังคมที่เต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสาร เพราะงั้นถึงไม่อยากรู้แต่มันก็เข้าหูอยู่ดีกลายเป็นว่ายิ่งเพิ่มความเครียดมากขึ้นไปอีก

" เครียดเรื่องการบ้านกับงานพิเศษจนหัวจะระเบิดอยู่แล้ว "

" เครียดจนผมหงอกแล้วววววว"

▼ความเครียดมี 2 ประเภท▼

รูปภาพ:http://www.kenkosansai.net/hpgen/HPB/img/feature/0909/sp-0909-img02.jpg

ความเครียดจะส่งผลต่อสภาพจิตใจเราแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของมัน เช่น เวลาเราหลับตาตื่นตอนเช้าได้ยินเสียงนกร้องจิ๊บๆ หรือเสียงแม่ชงกาแฟให้กินตอนเช้าเอง ก็จะส่งผลต่อสภาพจิตใจเราทำให้เราอารมณ์ดีสดชื่น กรณีนี้เราก็เรียกว่า “ ความเครียด ” เหมือนกันนะยูสเตรส ( Eustress)คือ ความเครียดบวก ที่เวลาเรารับรู้แล้วรู้สึกดีตอบดีสเตรส ( Distress ) คือ  ความเครียดลบ ที่เวลาเรารับรู้แล้วจะรู้สึกไม่ดีตอบ

▼ความเครียดบวก ( ยูสเตรส )▼

รูปภาพ:http://nikibi-project.com/wp/wp-content/uploads/2014/08/shutterstock_74460358.jpg

“ ยูสเตรส ” คือความเครียดบวกที่เราได้กำไรจากมันเพราะการที่เราก้าวข้ามความรู้สึกอัดอั้นในใจจนรู้สึกได้รับการเติมเต็มหรือประสบความสำเร็จ อย่างเช่น เวลาที่มุ่งมั่นที่จะทำบางสิ่งแล้วเกิดความเครียดในเวลาเพราะผ่านมันไปยากนั่นก็หนึ่งในความเครียดประเภทหนึ่งเหมือนกัน ที่เวลาเราก้าวข้ามมันได้แล้วจะรู้สึกได้รับการเติมเต็มและสำเร็จลุล่วง หรือแม้กระทั่งตอนออกกำลังกายหรือเล่นเกมแล้วชนะเองก็คือยูสเตรสเหมือนกันตัวอย่างพฤติกรรมง่ายๆ

พฤติกรรมตอนที่เราทำอาหารให้แฟน⇒ ลุ้นว่าเขาจะอร่อยหรือเปล่าปัญหาโลกแตกที่แก้ไม่ได้อย่างเวลาเราสูญเสียความชื่นชอบของเราไป⇒ พอเรารู้สึกอยากจะทำมันให้สำเร็จ เราก็จะเกิดความรู้สึกท้าทายกับมัน

▼ความเครียดลบ ( ดีสเตรส )▼

รูปภาพ:http://www.solution-strategy.net/img/aaa31166b44896b725d14b63eaba39a5011_s.jpg

และไม่ใช่แค่ฝืนในสิ่งที่ไม่อยากทำนะการฝืนจนสุขภาพเราแย่ลงก็เป็นความเครียดลบกับเราเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เราไม่สบายตัวจากอากาศร้อนหรืออากาศหนาวหรือจะหงุดหงิดกับเจ้านายขี้บ่นทั้งหมดล้วนเป็นดีสเตรสค่ะตัวอย่างพฤติกรรมง่ายๆเลคเชอร์ที่มหา'ลัยน่าเบื่อ⇒เ ราเลยหนีจากความเครียดด้วยการนอนบ้างอ่านการ์ตูนบ้างในห้องเรียนเครียดเกินไป⇒ ทั้งที่อยากเรียนแต่ดันไม่เข้าใจก็เลยเครียด

▼งั้นเรามาลดดีสเตรสแล้วเพิ่มยูสเตรสกันเถอะ!!▼

รูปภาพ:https://www.tomas.co.jp/schola/common/images/uploads/2017/05/mother_oec11-980x735.jpg

ความเครียดสองอย่างนี้จะมีระดับที่เชื่อมกับการปรับตัวในสังคมเราอย่างเหมาะสม แต่ถ้าบาลานซ์ทั้งสองตัวนี้ล่มมันก็จะทำให้ร่างกายเราพังแล้วล้มป่วยได้เลยนะ ขอแค่เรารับมือกับความเครียดที่ดีได้ ยูสเตรสก็จะทำงานได้ดี แต่ถ้าเราคิดลบ  มันจะเกิดดีสเตรสซึ่งทำให้ส่งผลทางลบต่อตัวเราเพราะงั้นการที่เราจะแก้ไขเรื่องดีสเตรสนั้น ก่อนอื่นเราก็ต้องเข้าใจตัวเราก่อนว่าดีสเตรสสำหรับเรานั้นคืออะไร เช่น ถ้าสาเหตุที่เกิดดีสเตรสของเรามาจากนิสัยที่ไม่ดีของเจ้านายล่ะก็ ลองคิดวิธีคลายเครียดนอกเวลางานดูสิแต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีความเครียดเลยมันจะดีหรอกนะเราก็ต้องรักษาระดับความเครียดให้เหมาะสม สิ่งสำคัญในการเลือกว่าจะมีดีสเตรสหรือยูสเตรสเยอะกว่าก็ขึ้นอยู่กับงานที่เราทำตอนนั้นนะจ๊ะการที่เราเครียดไม่ได้แปลว่าเป็นเรื่องไม่ดีเท่านั้น มันรวมถึงการที่เรารักษาระดับความเครียดอย่างไม่เหมาะสมด้วยแต่ความเครียดที่เราควรให้ความสำคัญอย่างยูสเตรสน่ะ ก็ควรเก็บไว้เยอะๆ แล้วหันมาลดดีสเตรสกันดีกว่าเนอะ