เที่ยวสไตล์ Beach camping บนเกาะแบบส่วนตัวสุดๆ ที่เกาะ "นาคาน้อย"

" นาคาน้อย "หลายคนคงคุ้นหูกับชื่อนี้ เพราะเป็นข่าวให้เราได้ยินกันอยู่บ่อยๆ ในช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้ชื่อนี้กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง เนื่องจากพื้นที่ส่วนหนึงบนเกาะเป็นของครอบครัว หิรัญพฤกษ์ ซึ่งเราก็แค่คุ้นจากการที่นักข่าวนำเสนอข่าวเรื่องพื้นที่ การบุกรุกป่า แต่ไม่ได้ใส่ใจกับชื่อนี้มาก จนกระทั่งเทศกาลเที่ยวทะเลมาถึง และเปิด Instagram มาเจอป้ายชื่อ Naganoi beach camp พร้อมเบอร์ติดต่อ ทางเราก็มีช่วงวันหยุดลงตัวพอดี และอยากนอนแคมป์ริมทะเล ฟังเสียงคลื่น เลยลองติดต่อไป สรุปบุควัน จองเต้นท์ มีกิจกรรม เครื่องเล่นให้เช่า พร้อมตั้งเตาปาร์ตี้ทะเลได้ด้วยทริปนี้เราไปทั้งหมด 8 คน 4 เต้นท์ เกือบกลายเป็นเกาะส่วนตัวแล้วเชียว แต่อีก 1 เต้นท์ที่เหลือบนเกาะเค้ามาแบบคู่รัก ทางเราก็จะมีความเกรงใจอยู่หน่อยๆเกาะนาคาน้อยอยู่ในเขต อ.ถลาง จ.ภูเก็ต การข้ามเกาะต้องมาต่อเรือที่ท่าเรืออ่าวปอ ระยะเวลาเดินทางจากท่าเรือไปเกาะโดยสปีดโบ๊ทไม่เกิน 10 นาที เค้ามีนาคาใหญ่ด้วยอยู่ใกล้กันเพิ่งรู้ ราคาที่พักเป็นราคาเหมารวมค่าเรือไป-กลับ และอาหารเช้ามาแล้ว ลองหาข้อมูลกันดูเป็นที่พักในพื้นที่ของบ้านหิรัญพฤกษ์ และบนเกาะยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวเล่น ทำกิจกรรม แต่เป็นแบบไป-กลับค่ะ ฉะนั้นบนเกาะจะมีความเป็นส่วนตัวตั้งแต่ 4 โมงเย็นจนถึงประมาณ 10 โมงเช้าของอีกวัน มันก็จะเป็นช่วงที่รู้สึกว่าเกาะนี้เป็นของเรา กลุ่มเรามาถึงเกาะพร้อมกับทะเลที่เตรียมมาเผาช่วงบ่าย นักท่องเที่ยวเต็มเกาะ แต่แยกส่วนที่พักกับส่วนที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเล่น แต่พี่จีนของเราก็ยังคงล้ำเส้นอยู่ดี มาดูหน้าตาที่พักของเราบนเกาะกันค่ะ

หลังจากเลือกเต้นท์ได้แล้ว แดดกำลังเปรี้ยง ทางเราก็ออกไปสำรวจเกาะ เล่นกิจกรรม ตากแดด อัพเลเวลสีผิวกันต่อ โดยฝั่งที่ป็นพื้นที่ส่วนตัวจะมีมุมถ่ายรูป มุมกิจกรรมตามภาพ

ต่อไปก็ถึงเวลากิจกรรมอัพเวลสีผิว เริ่มค่ะ...

ช่วงเวลาหลัง 4 โมง เสมือนเกาะนี้เป็นของเรา และบวกกับความสามารถพิเศษที่นำติดตัวมา ความเจื้อยแจ้วเจรจา เห็นสปีดโบ๊ทเล็กผ่านมา ตะโกนเรียก ขอกระโดดขึ้นเรือออกทะเล ไปให้อาหารไก่กะพี่ที่ดูแลอุปกรณ์บนเกาะ พี่เค้าก็ใจดีให้เราทั้ง 8 คนขึ้นไปด้วย เรือแทบสปีดไม่ไหว บรรทุกเยอะเกิน พี่เค้าขับวนไปฝั่งที่เลี้ยงหอยมุก แล้วก็กลับพามาส่งที่ท่า

ความพอใจไม่จบแค่นั้น หลังจากพี่คนแรกขับพามาส่ง เราก็เล่นวอลเลย์บอล พายแคนู อยู่สักพัก พี่อีกคนขับเรือมาเทียบกลับจากตกปลา ทางเราก็เข้าไปชาร์จเจรจา ไปตกปลาอีกป่าวพี่ หนูไปด้วย ผลของการขอออกไปตกปลา ภาพที่ได้มาคือ...ชมพระอาทิตตกกลางทะเลลลลล ฟินฝุด

ผลจากการติดเรือไปตกปลา ชมพระอาทิตย์ตกกลางทะเล ขากลับพี่เค้าขับพาวนรอบเกาะ ย้ำ! รอบเกาะทั้งเกาะ 1 รอบ ตื่นตาตื่นใจ วิวดี กิจกรรมแน่น คุ้มเกินคุ้ม คุณค่าทางจิตใจล้วนๆ ต้องขอบคุณพี่ใจดี ขับพาออกไปไม่บ่นซักคำ เงินก็ไม่ได้ ปลาก็ไม่ติดเบ็ด กลับมาไม่ทันนกเงือกคู่ออกจากป่ามากินน้ำเลย เนื่องจากเกาะเพิ่งเปิด ระบบนิเวศยังสมบูรณ์ พอค่ำๆ ปูลมตัวเบ้งวิ่งว่อนเต็มหาด พอเดินไปใกล้ๆ วิ่งไวเป็นบ้า คือไม่เคยเห็นปูลมตัวใหญ่โย่งแบบนี้เต็มหาดมาก่อน

เย็นๆ จะมีนกเงือกคู่บินมากินน้ำ ซึ่งเราไม่ทัน อีกกิจกรรมหลังพระอาทิตย์ตกรอย่างทะเล คือเดินดูปูเสฉวน อันนี้จะมีเจ้าหน้าที่ถือโคมไฟพาเราไปเดินดู จะต้องเดินไปฝั่งหลังเกาะยิ่งใกล้เขตป่า จะเจอบ้านปูเสฉวนแปลกๆ พอน้ำลดปะการัง สาหร่ายโผล่ติดหาดทราย ตื่นตาไปอีก ไม่คิดว่าบีชแคมป์ครั้งนี้นอกจากจะได้ความส่วนตัว ยังเจอธรรมชาติแบบที่ไปที่เดียวครบทุกอย่างแบบนี้ ไปดูปูกัน...O.O

จากนั้นเราก็กลับมาทำการย่างทะเลอาหารเย็น จัดปาร์ตี้กันต่อ สำหรับใครมาตัวเปล่า เย็นๆ จะมีเจ้าหน้าที่มารับออเดอร์ค่ะ ส่วนเราหากินกันเอง จ่ายเฉพาะค่าเช่าเตา 400 บาท เพราะตอนติดต่อเต้นท์ที่พัก เจ้าหน้าที่บอกว่าสามารถมาปิ้งย่างที่เกาะได้ แต่ต้องเตรียมของมาเอง มีครัว มีจานชามให้ยืมได้ แต่! คุยรายละเอียดให้ดีเพราะเดี๋ยวจะมีปัญหา เพราะส่วนที่เราพักคือพื้นที่ของบ้านหิรัญพฤกษ์ แต่ครัว พื้นที่นอกรั้วเป็นสัมปทานเป็นของเจ้าอื่น ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้มีค่าใช้จ่าย ต้องตกลงกันให้เรียบร้อยก่อนเนอะ

เรายังมีความเตรียมพร้อมบ้างเตรียมทะเล ชามพลาสติกมาจากในเมือง พร้อมน้ำดื่ม ขนม ของแห้ง แต่ระหว่างรอเพื่อนทีท่าเรือ มีความตกหล่นเกิดขึ้น น้ำอัดลมหาย ขนมหาย หมวกหาย น่าจะมีการหยิบผิด หยิบเกิน เพราะนักท่องเที่ยวที่ท่าเรือเยอะ แก็งค์เรามีความบ้าหอบฟาง หอบของลงเรือเยอะมากก ขากลับนี่เบาหวิวเลยทิ้งทุกอย่างไว้ ไม่เก็บกลับ บรรยากาศตามภาพ...

เต้นท์ที่พักเป็นเต็นท์กันน้ำ ไม่ต้องห่วงเรื่องฝนตกแล้วจะรั่ว นอนสบายหลับสนิทตลอดคืน เพราะฝนตกช่วงตี เรายังไม่รู้เรื่องเลย

ข้อแนะนำ: เนื่องจากเป็นเกาะที่ต้องปั่นไฟใช้เอง กระแสไฟที่มีให้ใช้แค่พอยังชีพเท่านั้น ไฟส่องสว่าง ชาร์จแบต พัดลม มีปลั๊กสามตาให้ ใครที่ไปแบบห่วงสวยไดร์ ที่หนีบ ถ้าไม่อยากโดนด่า อย่าเอาไปเพราะจะทำให้ไฟดับทั้งเกาะ แล้วมันร้อนอบอ้าวมาก

เช้าวันรุ่งขึ้น...นัดตื่น 6โมง เพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้น สรุปนาฬิกาไม่ปลุก ตื่นมา 6.30 น. เพราะเหงื่อแฉะหน้า ฝนตกไม่รู้ตัว อากาศเลยอบอ้าว  พอตื่นเสร็จปรับรูรับแสงม่านตา เช็ดหน้า ล้างตา ก็ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันต่อ ไปดูภาพอากาศยามเช้าบนเกาะกันต่อ

ว่าด้วยเรื่องเกาะกลางทะเล จะเป็นเกาะเล็กๆ จะโผล่ช่วงน้ำลด หรือช่วงข้างแรม มีคนบอกว่าถ้าน้ำลดมากๆ สามารถเดินจากเกาะนาคาน้อยไปถึงเกาะกลางทะเลได้ อันนี้ข้อมูลไม่ชัวร์นะ แต่ก่อนที่จะถึงเกาะมีร่องน้ำอยู่ ซึ่งจะเห็นชัดมากเป็นแนวร่องยาว ทำให้กระแสน้ำเปลียนทิศ และไม่ควรขับหรือพายอะไรไปเล่นแนวนั้น เพื่อความปลอดภัย

จากนั้น ก็พายแคนูเล่นหน้าหาด พายวนไปมาในระยะไม่ไกล น้ำไม่ลึกมาก ยามเช้าคลื่นเรือยังไม่มี น้ำใสแจ๋ว เห็นแนวปะการังกอใหญ่ที่เกิดใหม่ หน้าเกาะ เป็นปะการังหูกวาง ( อันนี้ไม่แน่ใจถูกป่าว ) แล้วก็ก้อนกลมๆ กอใหญ่มาก และเยอะด้วย พายดูวนไปค่ะ มีคุยกับพี่เจ้าหน้าที่เค้าบอกว่าเดี๋ยวมันก็ตาย เพราะหน้าหาดถูกรบกวนเยอะจากเรือที่มาจอด จากนักท่องเที่ยวเดินเล่น แล้วก็ไม่สามารถล้อมเขตได้ เพราะเป็นพื้นที่ทะเล ไม่ใช่พื้นที่อนุรักษ์ส่วนตัว ภาพหน้าหาดพายเรือวนดูปะการัง สามารถนำสน็อกเกอร์มาดำดูได้นะคะ

เดินเล่นหาดเสร็จ ก็มานั่งชมวิวทะเลหน้าเต้นท์แบบเงียบๆ เพราะยังไม่มีนักท่องเที่ยวมาวุ่นวาย

กลับมากรุงเทพฯ ด้วยความประทับใจ เพราะสิ่งที่ได้เกินคุ้ม เพราะนอกจากค่าที่พักแล้ว อุปกรณ์ต่างๆ การออกไปดูพระอาทิตย์ตกกลางทะเล นั่งสปีดโบ๊ทรอบเกาะ อันนี้ได้มาฟรีเพราะฝีปากล้วนๆ ความจริงบนเกาะมีกิจกรรมให้เล่นเยอะมาก ที่เราสามารถเล่นได้ฟรีจากการพักที่แคมป์คือ แคนู สน๊อกเกอร์ วอลเลย์บอล แบตมินตันอันนี้ขอยืมพี่เค้าได้ ส่วนกิจกรรมเสียตังค์บนเกาะประกอบด้วย Jetski, Parasail, Scuba, Banana boat สอบถามราคาได้จากเจ้าหน้าที่

.

ใครที่มีเวลาว่าง อยากหาที่พักผ่อนแบบสงบ แนะนำค่ะ เพราะช่วงเวลายามเย็น จนถึงสายๆ อากาศดีๆ ไม่มีคนรบกวน ได้กลิ่นอายธรรมชาติ สูตรอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด พายเรือดูปะการังหน้าหาด มีความเป็นส่วนตัวสูงมาก เย็นถึงดึกก็มีปูลมตัวใหญ่โย่งมาวิ่งเล่นหน้าหาดเป็นเพื่อน ดึกๆ ก็เดินดูปูเสฉวน ใครจะแบกเป้ไปตามหาแรงบันดาลใจ ทำชิล หรือใครจะชวนเพื่อนมาเป็นกลุ่มสอบถามเต้นท์ว่างกันก่อนก็ดี เพราะเค้ามีที่พักรองรับแค่ 5เต้นท์เท่านั้น ว่าแล้ววันหยุดที่จะถึงนี้ เตรียมแพ็กของไปติดเกาะแบบส่วนตัวกันค้าาา...ขอจบบทความเกาะนาคาน้อยไว้เท่านี้ พวกเราเหล่านาคีกลับขอขึ้นฝั่งก่อนนะฮะ บั๊ย แฮปปรี้!