ใครก็รักช่วงชีวิตมหา'ลัยทั้งนั้น เพราะมันเป็นช่วงที่เปิดอิสระ เปิดโลกกว้างให้ชีวิตได้เต็มที่ แต่จะมีสักกี่คนที่ตั้งเป้าหมายชีวิตตัวเองไว้แล้วว่า
" ฉันจบไป ฉันจะได้อะไรบ้าง ? "
อย่ากักขักตัวเองให้อยู่กับความรู้สึกแย่เลยนะคะ
" ใช่สิ!! ชั้นไม่ได้ดาวมหาลัย ไม่ใข่คนสวยนี่ "
เลิกพูดกับตัวเองแบบนี้เด็ดขาดเลยค่ะ
จำไว้กับตัวเองเสมอเลยว่า
" ทุกคนมีความงามเป็นของตัวเอง "
มันขึ้นอยู่กับว่า ตัวเราจะหาคุณค่าของตัวเองเจอรึเปล่า ? เจอแล้วปล่อยผ่าน หรือเจียระไนมันออกมาให้ไปปิ๊งปั๊งใส่ใครรึเปล่า ?
ทุกคนสวยได้ โดดเด่นได้ แม้ไม่ใช่ดาวค่ะ
มามะ! สาวๆ เรามาสร้างตัวเองให้เป็นดาวโดดเด่นก่อนเรียนจบกัน
เพื่อที่ว่าจบไปแล้วบริษัทไหนก็จองตัว ไปทำงานที่ไหนก็มีแต่คนรัก หรือแม้แต่ชีวิตส่วนตัวก็มีคนเข้าหาเรื่อยๆ ไม่ขาดสาย หัวกระไดไม่แห้งกันเถอะ
ตั้งใจเรียน

หัวใจสำคัญของการมาเรียนแน่นอนว่า มันก็คือ
เรื่องเรียนน่ะสิ!
พยายามให้ถึงที่สุดนะคะ ยิ่งเกรดสวยงาม คว้าเกียรตินิยมได้ ยิ่งมีโอกาสที่จะถูกจองตัวให้เข้าสัมภาษณ์งานได้ง่ายมากๆ ค่ะ
แต่สำหรับคนที่ทำยังไง๊...ยังไงก็ไม่เก่ง เป็นคนที่เรียนปานกลางไปจนถึงแย่มาก ขอให้เข็นตัวเองให้จบให้ได้ค่ะ ถึงแม้ว่า เกรดจะไม่เด่นพอให้ใครมอง แต่การเรียนจนจบมันบ่งบอกถึงนิสัยของสาวๆ อย่างหนึ่งนะคะว่า
อย่างน้อยฉันก็รับผิดชอบตัวเองได้ตลอดรอดฝั่งจนได้
แหละจ้ะ!
เปิดมิตรภาพให้กว้าง

เลิกได้แล้วนะคะนิสัยที่ว่าเพื่อนชั้นเกลียดใคร ชั้นก็เกลียดด้วย ไม่พอใจใครก็ไปตบ
No! No!
ไม่เอานะจ๊ะสาวๆ เรียนมหา'ลัยคือ โตเป็นผู้ใหญ่กันแล้วนะคะ ใครดีมาก็ดีตอบ ใครไม่ชอบเราก็ช่างเขาไม่สนใจ เลือกคบเพื่อนได้ แต่
อย่าปิดกั้นตัวเองในการเข้าสังคม
นะคะ ขอบอกไว้เลยค่ะว่า ยิ่งเรารู้จักเพื่อนมากเท่าไหร่ รู้จักคนเก่งในด้านต่างๆ มากแค่ไหน ตอนจบมหา'ลัยไปเนี่ย มีประโยชน์ต่อชีวิตกันและกันมากเลยนะคะ เพราะ Connection ที่แข็งแรงนี่แหละค่ะ ทำให้เราได้งานง่าย ทำธุรกิจก็ง่าย อีกทั้งยังมีชีวิตที่สนุกสนานอยู่ได้เรื่อยๆ ไม่ยอมแก่ซะด้วยล่ะ !
หัดแต่งหน้าบ้าง

หัดทำความรู้จักกับสกินแคร์ และเครื่องสำอางทั้งหลายให้ชินนะคะ ไม่เพียงแต่จะทำให้เราดูดี สวยสมวัยอยู่เสมอ เวลาไปสมัครงานหรือเข้าทำงาน จะได้ไม่มานั่งเครียดว่าแต่งยังไงถึงจะสวยนะ ? แบบนี้จะแก่ไปมั้ยนะ ? เรียนรู้ไว้แต่เนิ่นๆ ยิ่งประสบการณ์สูง ทักษะแม่นยำค่
ะ ( บางคนจบปุ๊บ พอรับปริญญาก็แต่งหน้าเอง ไม่ต้องจ้างช่างแต่งหน้าก็มีค่ะ )
เดี๋ยวนี้เครื่องสำอางก็ไม่แพงเกินไปแล้วเนอะ ราคานักศึกษา คุณภาพดีเยี่ยมมีเยอะแยะมาก ลองซื้อมาใช้ อ่านรีวิวในอินเทอร์เน็ต เปิดคลิปในยูทูปฝึกแต่งดูนะคะ
ฝึกภาษาให้แน่นเข้าไว้

ถึงจะเรียนไม่เก่ง แต่เชื่อเถอะค่ะว่า ภาษาต่างประเทศเปิดโอกาสคนเรามานักต่อนักแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องของการงาน การศึกษาต่อ ไปจนถึงชีวิตส่วนตัว ( ได้แฟนฝรั่ง ได้แฟนต่างชาติ อิอิ ^^ ) อย่าละเลยความสำคัญของภาษา คิดซะว่าเรียนให้มันจบ เก็บหน่วยกิตให้ครบเป็นอันพอนะคะ อะไรที่พอจะทำให้เราแน่นภาษาได้ทั้งฟัง-พูด-อ่าน-เขียน จะไปเรียนพิเศษหรือไป Work And Travel หรือรับจ๊อบดูแล นศ. ต่างชาติ ทำไปเถอะค่ะ ประโยชน์เกิดที่ตัวเราทั้งนั้น หลายคนที่ไม่ตั้งใจเรียน แล้วมาดั้นด้นขวนขวายเอาในตอนทำงาน บอกได้อย่างเดียวค่ะว่า เหนื่อยมากกกก เรียนก็ไม่เต็มที่ เพราะต้องคอยหาเวลาว่ามีช่วงไหนว่างบ้างหลังจากทำงาน ดูแลครอบครัวแล้ว
ทำงาน Part Time

หาเวลาว่างรับจ๊อบเก็บตังค์ค่าขนมกันเถอะจ้ะ นอกจากจะได้เงิน ได้เพื่อน ได้เรียนรู้โลกของการทำงานแล้ว บางทีเราอาจได้ทักษะบางอย่างติดไม้ติดมือไป เวลาที่นึกจะเปิดธุรกิจ หรือเข้าไปร่วมงานในระดับที่เหนือกว่านี้ด้วยนะ เช่น ทักษะการชงกาแฟ ทักษะการทำธุรกิจร้านเสื้อผ้าแฟชัน ซึ่งหาสอนที่ไหนไม่ได้เชียวนะ
( ถ้าอยากไปเรียนให้เก่งกว่านี้ เขาสอนกันเป็นคอร์สที่แพงมากกกก เริ่มจากการฝึกเป็นลูกมือตามร้านต่างๆ น่ะ เจ๋งสุดแล้ว )
เข้ากิจกรรมจิตอาสา

ไม่เพียงแต่ได้โปรไฟล์เก๋ๆ ไว้ให้กรรมการสอบสัมภาษณ์งานเลือกเราเป็นอันดับต้นๆ แล้ว เรายังได้เพื่อนเพิ่มมากขึ้น ได้เรียนรู้สังคมตามความเป็นจริงมากขึ้นอีกด้วย ว่าในขณะที่เราโชคดีกว่าคนอื่น ได้กิน ได้เที่ยว ได้มีความเป็นอยู่ดี ยังมีคนด้อยโอกาสกว่าเราตั้งเยอะที่ควรให้ความช่วยเหลือบ้าง หันมามองดูบ้างนะ...
เป็นการเตือนสติตัวเองเบาๆ ค่ะว่าอย่าหลงระเริงกับความบันเทิงส่วนตัวมาก ถ้ามีโอกาสก็ควรแบ่งปันน้ำใจให้คนอื่นบ้างตามสมควร
อย่าอายที่จะดีเบทกันในห้องเรียน

อย่าเป็นสาวช่างเม้าท์อย่างเดียว ยิ่งโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว สาวๆ ควรหัดพูดอะไรที่เป็นสาระให้มากขึ้น กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์ กล้าที่จะถามตอบปัญหาในคลาสเรียนให้ชิน อย่ามัวแต่เขินอายอีกต่อไปค่ะ มีลูกไม้อะไรจะนำเสนอรายงานหน้าชั้นเรียน มีเทคนิคอะไรเด็ดๆ ปล่อยของออกมาได้เต็มที่เลย เวลาไปทำงานเราจะได้ไม่เคอะเขิน กล้าๆ กลัวๆ ใครเห็นก็จะได้ชื่นชมในความเป็นมือโปรของเรายิ่งขึ้นไปอีก
อ่านหนังสือเยอะ ๆ

เข้าหอสมุด / ห้องสมุดคณะไป แล้วอย่าเพียงแต่หาหนังสือมาทำรายงานนะคะ อะไรที่เราอยากอ่าน อยากรู้อยากเห็น หยิบยืมมาอ่านให้ชินจนเป็นนิสัยค่ะ ขอบอกไว้เลยว่า พอเราเรียนจบไปแล้วเราจะมีโอกาสได้ทำอย่างนี้น้อยมาก พูดง่ายๆ ก็คือ เริ่มมีภาระมากขึ้น จนหาเวลาอ่านหนังสือดีๆ สักเล่มได้ยากแล้ว
การฝึกอ่านหนังสือให้มากเข้าไว้ตั้งแต่เป็นนักเรียน-นักศึกษา คือ การบ่มเพาะนิสัยความเป็นคนช่างสังเกต และรอบรู้ของเราค่ะ ยิ่งอ่านมาก ยิ่งสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองมาก พอเจอข่าวอะไรปุ๊บเราจะได้ไม่หลงเชื่อง่าย เจออะไรในโลกโซเชียลเราจะได้มีวิจารณญาณมากขึ้น รวมไปถึงการอ่านนิสัยใจคอคนที่สามารถมองปรื๊ดเดียวก็พอจะอนุมานได้ออกทันที
( อาจจะดูเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อ แต่ลองดูเถอะค่ะ ถ้าได้อ่านหนังสือสัก 10 เล่ม ลองสังเกตตัวเองดูว่า เป็นคนที่ช่างสังเกตจริงมั้ย ? การอ่านมันคือ การฝึกสายตาไม่ให้ละเลยความละเอียดค่ะ )
ฝึกทักษะ IT

อย่าใช้คอมพ์ฯ เพียงแค่พิมพ์รายงานใน Word Excel หรือเอาไว้เล่นโซเชียลแค่นั้นนะคะ สาวๆ ควรจะเรียนรู้ถึงโปรแกรมตัดต่อ ( ภาพ เสียง วิดีโอ ) และการเขียนโปรแกรมไว้บ้าง เพราะมันไม่เพียงแต่มีผลต่อการสมัครงานในบริษัทชั้นนำเท่านั้น แต่มันยังช่วยให้เราได้ค่าขนมจากการรับจ๊อบในเน็ตเรื่อยๆ ด้วยแหละค่ะ
ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเป็นประจำ

จะปาร์ตี้หนักแค่ไหน นอนน้อย เรียนหนักเพียงใด สาวๆ อย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะคะ อะไรที่พอจะบำรุงสุขภาพ ดื่มเข้าไป โด๊ปเข้าไปค่ะ มีเวลาออกกำลังกายก็ทำ อย่ามัวแต่รีรออะไรทั้งนั้น สุขภาพที่ดีไม่เพียงแต่ทำให้ผิวพรรณสดใส ร่างกายแข็งแรง ตัวเรายังบุคลิกภาพดี โดดเด่นเป็นสง่าด้วยนะ
เรียนรู้เรื่องความรัก

จะเป็นแอบรัก หรือได้รัก หรือรักแล้วอกหัก ก็รักไปเถอะค่ะ โตแล้ว ฝึกตัวเองให้มีประสบการณ์เรื่องคู่บ้าง พอจบไปจะได้ไม่ต้องมาคิดมากว่า เอ๊ะ! ฉันจะเริ่มยังไงดีนะกับเรื่องความรัก ? ทำยังไงดีอยากแต่งงานแต่ไม่มีใครมาจีบ ? ลองๆ กันไปให้รู้เลยจ้ะสาวๆ
" อกหัก ดีกว่ารักไม่เป็น "***ระวังเรื่องเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนด้วยนะคะ เรื่องแบบนี้ถึงแม้จะเป็นเรื่องธรรมชาติที่ใครๆ ก็เป็นกัน แต่ก็อย่าเปิดเผยมากจนเกินงาม และอย่าเขินอายจนไม่รู้วิธีป้องกันตัว สาวๆ ควรรู้จักวิธีป้องกันตัวเอง รักตัวเองเข้าไว้ ถ้าไม่พร้อมจริงๆ ก็อย่าเพิ่งมี ถ้ามีก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้งสองคน ( การทิ้งให้ใครรับผิดชอบฝ่ายเดียว มันไม่ใช่ความรักหรอกค่ะ )
เวลาของผู้ใหญ่มันผ่านไปไวเสมอค่ะ ถ้าคิดว่าขาดอะไร หรือรู้ตัวว่าต้องการอะไรบ้าง รีบกอบโกยโอกาสให้ตัวเองเสียตั้งแต่ตอนที่ยังมีเวลานะคะ เพราะถ้าเลยวัยไปแล้ว ถึงแม้จะทำได้ แต่มันก็ไม่เต็มที่เท่าการทำอะไรตามวัย ตามโอกาสที่เอื้ออำนวยหรอกเนอะ!! ด้วยความเป็นห่วง และปรารถนาดีค่ะ ^^
บทความที่เกี่ยวข้อง

4 ขั้นตอน ทำให้ 'คนที่แอบชอบ' มาจีบเรา ก่อนเรียนจบ !
https://sistacafe.com/summaries/507
![External Link: [ เคล็ดลับ ] เรียนอย่างไรให้ได้ผล !! ✌](https://img.sistacafe.com/resizer?url=1443064556-1437716384-giupo.png&w=220)
[ เคล็ดลับ ] เรียนอย่างไรให้ได้ผล !! ✌
https://sistacafe.com/summaries/1665

รักในวัยเรียน รักไวไฟ ความรักที่มักง่ายของวัยรุ่น
https://sistacafe.com/summaries/951