สัญญาณเตือน 5 อาการของความรักที่จืดจาง
รู้ไว้ก่อน เผื่อจะแก้ไขได้ทันเวลา
เวลาเราคบกับใครสักคนมานาน หรือได้ระยะหนึ่งแล้ว มันก็เกิดความคาดหวังในความรักขึ้นมาใช่มั้ยล่ะ แต่บางทีพอคบๆ ไปก็ดูเหมือนจะเจออุปสรรค ซึ่งไม่รู้ว่าเกิดจากเรา หรือเขา หรืออะไรกันแน่ มันเป็นเพียงแค่ความรักธรรมดา เป็นเรื่องปกติที่จะเจอกันในคู่รักทุกคู่ หรือจริงๆ แล้วมันเป็น " สัญญาณเตือนภัยว่ารักเราไม่เข้าท่า " กันแน่...?
1. ไม่รักษาสัญญา

นี่คือไฟแดง สัญญาณแรกที่จะเจอในความสัมพันธ์แบบนี้ ลองตั้งคำถามว่า มีกี่ครั้งที่คู่รักของคุณรักษาสัญญา ? หรือถ้าคำตอบคือไม่มี ก็ลองคิดดูว่า แล้วมีกี่ครั้งที่เขาพยายามจะรักษาสัญญา? คำถามเหล่านี้ คุณไม่จำเป็นต้องใส่อารมณ์ เค้นถามหรืออะไรใดๆ ทั้งสิ้นนะ เพียงแค่เงียบๆ แล้วสังเกตดูก็พอแล้ว คำสัญญาสำหรับคู่รักถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถือเป็นการเติมเต็มซึ่งกันและกัน ฉะนั้นก่อนจะสัญญาอะไร ปกติหากแคร์กันก็ควรจะพินิจพิจารณาอย่างดีในระดับนึงก่อน ว่าสัญญาแล้วจะรักษาสัญญาได้มั้ย ถ้าไม่ คนรักก็จะต้องเสียใจแน่นอนอยู่แล้ว แล้วคนรักของคุณล่ะ ตอบรับสัญญาทุกอย่าง โดยแทบจะไม่คิดอะไรเลยรึเปล่า ?
2. หัวเราะเยาะกับเรื่องน่าอายของเรา

สัญญาณเตือนอันเจ็บปวดอันนี้คือ เรื่องใหญ่มาก หากคู่รักคู่ไหนที่มีการกระทำแบบนี้ ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม บอกได้คำเดียวตัวใหญ่ๆ เลยว่า " ไม่ " ถ้าสมมติรักคุณเกิดรอยร้าวขึ้นเพราะเรื่องพวกนี้ล่ะก็ อย่าคิดที่จะซ่อมแซม รื้อฟื้น หรือเปลี่ยนอะไรใดๆ เลย เพราะหากใครที่มีการกระทำแบบนี้ ถือว่าขาดคุณสมบัติการเป็นคู่รักที่ดีมากๆ ไปเลย เพราะคงไม่มีใครอยากโดนหัวเราะเยาะ หรือตอกย้ำ กับเรื่องที่เราเองก็อาจจะละอายและรู้ตัวดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำหนัก ภูมิหลัง หรืออะไรก็ตามแต่ หากเขากล้าหัวเราะเยาะกับเรื่องพวกนี้ทั้งที่เป็นคู่รักกันแล้วล่ะก็ ไม่ต้องคิดเลยใช่มั้ยว่า " เขาให้เกียรติคุณตรงไหน " คู่รักที่ดีจะต้องยอมรับในสิ่งที่เราเป็นได้ ปลอบใจ หรือไม่ก็สนับสนุนในสิ่งที่ดีขึ้น ช่วยให้คนรักไม่ต้องรู้สึกละอาย นี่สิ คือคนรักที่ดีจริงๆ !
3. ปิดบังเราจาก ชีวิตใน Social media ทั้งหลาย

ชีวิตในโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น Facebook twitter หรืออะไรก็ตามแต่ มันก็เปรียบเสมือนตัวตนของเราในอีกโลกหนึง หนำซ้ำยังอาจเปิดเผยความเป็นตัวตนของเรามากกว่าในชีวิตจริงอีกด้วยซ้ำ ฉะนั้นหากคุณสงสัยว่าเขาได้ปิดบังซ่อนเร้นอะไรเราอยู่รึเปล่า คุณไม่จำเป็นต้องทำตัวสืบเป็นโคนัน ถึงขั้นสปาย แฮ็คเขาไปในเฟสบุคเขา แอบอ่านแชท แอบล็อคอิน เพื่อจะดูว่าเขาทำอะไรบ้างหรอกนะ ( ถึงแม้ว่าจะเป็นคู่รักกัน แต่การก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวโดยเจ้าตัวไม่รู้ ก็ถือว่าไม่เหมาะสมอยู่ดีนะ เป็นการไม่ให้เกียรติเป็นอย่างยิ่ง ) เพียงแค่ว่าลองสังเกตดู หากพบว่าเขาทำท่าเหมือนแชทๆ อะไรอยู่ อาจจะลองทักไปก็ได้ หากเขาบริสุทธิ์ใจ เขาก็จะไม่มีท่าทีปิดกั้นคุณ แต่ถ้าเขามีอะไรปิดบังอยู่จริงๆ เขาก็จะมีท่าทีให้เราสังเกตเห็นชัดเจนแน่อนน ไม่ว่าจะสะดุ้ง มีท่าทีหลุกหลิก หรือโกรธ นี่มันต้องมีอะไรอยู่แล้วแหละน่า !
4. พูดจาส่อเสียดด้วยเรื่องที่มีแต่เขาเท่านั้นที่รู้

ในความสัมพันธ์ย่อมเกิดการขัดแย้งอยู่แล้วเป็นธรรมดา มักจะต้องมีปากเสียงกันบ้าง ซึ่งตอนที่ทะเลาะกันอยู่นั้นอาจจะเผลอมีหลุดปาก พูดอะไรไม่ดีออกไปบ้าง แต่กับใครก็ตามหากโมโหอยู่แล้วงัดเอาความลับ หรือเรื่องไม่ดี เรื่องน่าอายอะไรก็ตามที่เราเคยเล่า ระบายให้เขาฟัง เอามาใช้ส่อเสียด ด่าเราเนี่ย ขอจงตระหนักไว้เลยว่า คนคนนั้นไม่เข้าท่าแน่ๆ การที่เราระบายอะไรให้ใครฟัง บอกความลับให้เขาฟัง และมีแต่เขาเท่านั้นที่รู้เรื่องของเรา นั่นก็แปลว่า เราไว้ใจเขา และมั่นใจว่าเขาจะไม่บอกใคร แต่หากเขากลับนำมันย้อนมาใช้เพื่อทำให้เราเสียใจ เพื่อความสะใจ หรือเพียงแค่ชัยชนะล่ะก็...... ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนแบบนี้ดีจริงเหรอ ?
5. เอะอะก็ร้องไห้

สำหรับข้อนี้ จะรวมถึงทั้งผู้ชายและผู้หญิงเลย สำหรับคู่รักบางคู่ เวลาทะเลาะกัน หรือโดนพบว่าทำความผิดอะไร บางคนอาจจะมักร้องไห้เวลามีปัญหากัน ซึ่งการร้องไห้ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรหรอก แต่คุณก็รู้ใช่มั้ยว่า " น้ำตา " อ่ะ พอใครเห็นก็ต้องใจอ่อนกันทั้งนั้นแหละ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าผู้ชายร้องไห้ให้เห็นนี่ อื้อหือ ไม่ต้องพูดถึงเลย น้ำตาลูกผู้ชายเห็นแล้วน่าสงสารกว่าผู้หญิงจริงมั้ย แล้วหากเวลาที่คุณทะเลาะกัน เขามักจะร้องไห้เสมอ และปัญหาก็จะจบลงได้ ไม่ว่ายังไงก็ตาม แต่มันไม่ใช่เรื่องดีหรอก เพราะการร้องไห้หลังจากทะเลาะกันบางที อาจเป็นการร้องเพื่อหนีปัญหา เลี่ยงความขัดแย้ง หรืออะไรก็ตาม แต่หากทำทุกครั้งบ่อยๆ เข้าเนี่ย มันก็เริ่มจะไม่เข้าท่าแล้วแหละ หากปัญหาจบทุกครั้งเพราะน้ำตา คุณก็อาจจะปล่อยให้ปัญหาเหล่านั้นมันผ่านๆ ไป ซึ่งอาจจะทำให้เขาได้ใจ และทำผิดเดิมๆ ซ้ำๆ อยู่เสมอ แล้วตกลงมันจะเป็นความรักที่เข้าท่ามั้ยเนีย?
สัญญาณทั้ง 5 ข้อนี้ คือข้อเสียที่เห็นชัดๆ ในความสัมพันธ์แบบคู่รัก ซึ่งเอาไว้เป็นแนวทางสำหรับสาวๆ ที่เกิดความข้องใจ และรู้สึกไม่สบายใจในความสัมพันธ์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของคุณเองว่าเขาคนนั้นของคุณเป็นคนดีหรือไม่ หากมีข้อใดข้อหนึ่งตรง แต่อาจจะเคยทำแค่ครั้งเดียว แล้วบางทีเขาพยายามที่จะเลิกนิสัยแบบนั้นแล้ว ถ้ายังงี้ เวลาอาจจะช่วยให้ความรักของคุณเข้าท่าก็ได้นะ แต่สำหรับผู้ชายของใครที่ตรงกับสัญญาณเตือนเหล่านี้และ เป็นบ่อยๆ เราก็ขอบอกเลยว่า " ไม่เข้าท่าเอาซะเล้ย! "
บทความที่เกี่ยวข้อง

