โกนขนหน้าดีป้ะ? 5 สิ่งที่จะเกิดกับผิวหน้า ถ้าเราทำการโกนขนด้วยตัวเอง! 🤔😸
ขนหน้าเยอะจนอยากกำจัด แต่ถ้าโกนเองผิวหน้าจะเป็นไรมั้ยน้า...
เผยแพร่: 30 พ.ค. 2561 18:10 น.
Views: 91,403
รหัสบทความ: 47489
แม้ว่าเราจะผิวเนียน ผิวใสแค่ไหน แต่ถ้าไม่ไร้ขนก็รู้สึกขัดใจอยู่ดี
ถึงแม้ผู้หญิงมีหนวดนิดๆ คนเขาจะว่าเซ็กซี่ แต่เอาจริงๆ ผู้หญิงคนไหนก็ไม่อยากมีหนวดทั้งนั้นแหละ
แถมปัญหาเรื่องขนไม่ได้มีแค่หนวดอย่างเดียว เพราะส่วนอื่นๆ บนใบหน้าก็ยังมีขนอยู่ด้วย
เป็นปัญหาในการแต่งหน้า และรู้สึกขัดใจ
ทำไมผู้หญิงอย่างเราไม่ผิวใสกริ๊บ เนียนกริ๊บ ไร้ขนกันนะ!
คนทุกคนมีขนบนใบหน้าทั้งนั้น แม้แต่ผู้หญิงที่แลดูเส้นขนน้อย ก็ยังมีขนสีอ่อนๆ อยู่บนหน้า
ซึ่งถึงจะไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถทารองพื้นได้เนียนกริ๊บเหมือนไร้เส้นขนอยู่ดี นี่ขนาดเส้นขนเล็กๆ อ่อนๆ นะ
แล้วผู้หญิงที่มีเส้นขนบนหน้าเห็นชัดล่ะจะหนักใจแค่ไหน ถ้ามีเงินจะเอาไปลุยคลีนิกเลเซอร์ให้จบๆ กันไปเลย
แต่ติดตรงที่เงินไปทำเลเซอร์ไม่ใช่น้อยๆ นี่สิ ดังนั้น
ความคิดที่ว่าอยากจะโกนขนหน้าด้วยเอง ถอนขนเอง หรือไปให้ช่างหมั่งหมิงให้ก็เวียนเข้ามาในหัวอยู่เรื่อย
เกือบจะโกนเองอยู่หลายครั้ง วันละหลายๆ รอบ
แต่ก็ต้องหยุดความคิด เพราะไม่รู้ว่าถ้าโกนขนบนใบหน้าไปแล้ว มันจะส่งผลเสียอะไรรึเปล่า
ใครที่กำลังกังวล สับสนอยู่ล่ะก็ ไม่ต้องสับสนอีกต่อไปแล้ว เพราะวันนี้เราจะมาบอก
ผลดี ผลเสีย รวมถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อเราทำการโกนขนบนใบหน้า!
5 สิ่งที่จะเกิดขึ้นบนผิวหน้า ถ้าเรากำจัดขนด้วยตัวเอง!
1. ผิวดูดีขึ้นทันตาเห็น
มีคนเคยโกนขนบนใบหน้าและพบว่าใบหน้าดูดีขึ้นทันตาเห็น ทั้งๆ ที่เหมือนไม่น่าจะเห็นผลอะไรได้มากขนาดนั้น แต่ก็ดีขึ้นอย่างบอกไม่ถูก "หลังจากโกนขน รู้สึกว่าผิวจะนุ่มขึ้น เนียนขึ้น ใสขึ้น และตอนทารองพื้น ทาง่ายมาก เหมือนทาลงบนผ้าไหมยังไงยังงั้นเลย"
ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ฟังดูง่ายๆ และงงๆ ปนกันไป แต่เราอธิบายได้ จากคำอธิบายของ ดร. โกลเดนเบิร์ก เขากล่าวไว้ว่า "การโกนขน จะทำให้พื้นผิวมีความนุ่มเนียนได้อย่างทันที และทำให้เมคอัพติดหน้า ไปกับผิวหน้าได้ดีมากขึ้น" เธอกล่าวต่อ "มันเป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่ดี ที่เรามักจะใช้ก่อนไปงานสวยๆ เพื่อให้ผิวดูมีออร่ามากยิ่งขึ้น"เพราะการโกนขน จะสร้างพื้นผิวที่เนียนมากขึ้นแก่โปรดัคส์ต่างๆ รวมไปถึงซึมซับสกินแคร์ได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ฟังแล้วแทบจะหยิบมีดโกนมาปาดขนบนหน้าเลยนะเนี่ย
2. แต่หลังโกนก็ต้องได้รับการดูแลที่ดีมากขึ้น
ไม่ว่าจะใช้สกินแคร์อะไรอยู่ก็ตามหลังจากโกนขนบนใบหน้าแล้ว เราอาจจะต้องมาทำการพินิจสกินแคร์ที่ใช้กันอยู่อีกรอบ เพื่อจะได้มั่นใจว่า สกินแคร์ที่ใช้จะไม่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองโดย ดร. ซาล ได้แนะนำว่า "คุณควรใช้มอยซ์เจอไรเซอร์หลังจากการโกนขนบนใบหน้าด้วย"นอกจากนี้แล้ว ก็ควรจะเคร่งครัดในการทาครีมกันแดดด้วยทุกครั้ง อย่าลืมว่าที่บนผิวหน้าเรามีขน เหตุผลหนึ่งในนั้น ก็คือมีไว้เพื่อป้องกันแสงแดดด้วยนี่แหละ ฉะนั้นเราต้องไม่ลืมทาครีมกันแดดเพื่อช่วยป้องกันผิวจากแสงแดดนะจ๊ะ
ส่วนโปรดัคส์ที่ควรใช้หลังโกนขนขอแนะนำให้ดูไอเทมที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้, คาโมไมล์, allantoin และ AquaCacteen ซึ่งเป็นสารที่จะได้จากต้นกระบองเพชรแต่ก่อนจะใช้อะไรขอให้ไปทำการทดสอบการแพ้สารเหล่านี้ก่อนด้วยนะจ๊ะสำหรับใครที่คิดจะโกนขนหน้า แล้วแต่งหน้าทันที ให้เปลี่ยนความคิดเลย อย่างน้อยคุณต้องพักผิว 1 ชั่วโมงก่อนทำการลงเครื่องสำอางเน้อ
3. หากคิดจะโกนขนบนใบหน้าต้องระวังให้มาก
สำหรับใครที่จะใช้หมั่นหมิง
อาจจะไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะใช้เส้นด้ายในการดึงเส้นขน ซึ่งผลที่ได้ก็เหมือนการถอนขนบนใบหน้า
สิ่งที่ควรระวังคือความสะอาดของเส้นด้าย และช่างที่ทำการหมั่งหมิงให้
แต่สำหรับ
ใครที่ใช้มีดโกน ให้ใช้มีดโกนสำหรับเส้นขนบนใบหน้าเท่านั้น
เพื่อความปลอดภัยว่าจะไม่บาดผิว
และที่สำคัญต้องชัวร์ว่า ต้องสะอาดด้วยนะ
ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ไม่ผิด เพียงแต่ว่า
หลังทำการกำจัดเส้นขน ควรจะล้างหน้าให้สะอาดอย่างอ่อนโยน ทามอยซ์เจอไรเซอร์ และต้องทำความสะอาดใบมีดบ่อยๆ และหมั่นเปลี่ยนบ่อยๆ
ไม่ควรใช้เกิน 1 เดือน
และถ้าหากมีดดูไม่สะอาดก็อย่าไปใช้
ซื้อใหม่เสี่ยงเปลืองตังน้อยกว่าใช้อันเก่า แล้วผิวหน้าระคายเคืองนะจ๊ะ
ถึงแม้การโกนขนหน้าจะทำได้ด้วยตัวเอง แต่ควรจะให้ผู้มีประสบการณ์ทำการกำจัดให้จะดีกว่านะจ๊ะ
4. ไม่ว่าจะหมั่งหมิงหรือโกน ก็ต้องเตรียมผิวให้พร้อม
การกำจัดขนไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องดีแน่ ถ้าหากเราไม่มีการเตรียมผิวให้พร้อมก่อนทำการกำจัดขนถ้าหากใครจะทำการกำจัดขนควรจะทำความสะอาดผิว และสครับผิวก่อนทำการกำจัดขนเสมอ เพื่อป้องกันการเกิดขนคุด หรือแม้กระทั่งความสกปรกที่อาจจะไปติดตามใบมีด หรือรูขุมขนของเราในขณะกำจัดขนได้ และถ้าบ้านใครมีน้ำอุ่นการเปิดน้ำอุ่นขณะโกนขน ไอน้ำร้อนๆ จะช่วยให้เส้นขนนุ่มได้ขึ้นอีก แถมเส้นขนก็ตั้งขึ้นอีก 30%ตอนโกนก็ควรใช้ตัวช่วยในรูปแบบครีม จะดีกว่าฟองโฟมหรือฟองสบู่เพราะถ้าฟองโฟมจะเกิดช่องว่างที่มีดโกนของเราอาจจะไม่แนบชิดกับผิวเท่าที่ควรและอย่าลืมใช้คลีนเซอร์ที่อ่อนโยนต่อผิวหลังทำการโกนด้วยนะจ๊ะ
5. จะโกนกี่ครั้ง ขนก็ขึ้นมารูปแบบเดิม
ถึงแม้การมีผิวหน้าเนียนไร้เส้นขน จะเป็นฝันของสาวๆ ทุกคน แต่ที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ยังคงรักษาขนบนใบหน้าเอาไว้นั้น เป็นเพราะว่าความเชื่อแบบผิดๆที่ว่าอาจจะเกิดผลเสียในระยะยาวอย่างความเชื่อที่ว่ายิ่งโกน ขนจะยิ่งขึ้นหนามากกว่าเดิม และจะกลายเป็นแย่กว่าเก่าแต่ผู้เชี่ยวชาญแทบทุกคนได้กล่าวเหมือนกันว่าความเชื่อนี้ไม่จริงเลยดร. ซาล แถลงไขความเชื่อนี้เอาไว้ว่า "มันเป็นความเชื่อที่ผิด ที่คิดว่าขนที่ขึ้นใหม่จะกลับมาหนากว่าเก่า มันเป็นความเชื่อเก่าๆ ไปแล้ว เพราะการโกนขนไม่ได้ทำให้รูขุมขนมากขึ้นกว่าเดิมซะหน่อย"ส่วน ดร. โกลเด้นเบิร์ก ก็สนับสนุนว่า "การโกนไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้ขนขึ้นมาเข้มขึ้นด้วย เพราะการกำจัดขนบนใบหน้า ไม่ได้มีผลอะไรต่อผิวของเรามากนัก และไม่สามารถส่งผลต่อเส้นขนบนใบหน้าในระยะยาวได้"อันนี้ก็แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคน แต่ผู้เชี่ยวชาญเขาว่าไว้ยังงี้ ก็ฟังหูไว้หูนะจ๊ะ
น่าจะมีหลายคนทีเดียว ที่่รู้สึกกลัวการโกนขนบนใบหน้า เราก็ด้วยนี่แหละคนหนึ่ง แต่พอรู้แบบนี้แล้ว
ก็ดูเหมือนว่าการกำจัดขนจะไม่ได้หน้ากลัวอย่างที่คิดนะ เพียงแต่ต้องระวังในขั้นตอนการกำจัดขน และต้องเอาใจใส่ผิวที่ไร้ขนมากขึ้นอีกนิด
แต่ก็แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคน
ถ้ากลัวว่าการโกนขน หรือหมั่งหมิงจะทำให้ผิวแย่ลง เราก็เก็บเงินเพื่อไปเลเซอร์เส้นขนกันเถอะ ค่อยๆ ออมเดี๋ยวก็ได้เนาะ!
