รูปภาพ:

สวัสดีค่ะ สาว ๆ ชาวSistaCafeที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะมาทดสอบเล็ก ๆ น้อย ๆ กับขั้นตอนเบา ๆ ในการเบลอผิวโดยใช้ไพรเมอร์บทความนี้เหมาะสำหรับผู้รับชมทุกวัย ไม่ว่าจะมีปัญหาผิวหน้าเกี่ยวกับรูชุมขนกว้าง แต่งหน้ายาก ไม่ติดหน้า เครื่องสำอางไม่ติดทน ฯลฯ หรือไม่มีปัญหาก็ตาม ขอบคุณสาว ๆ ที่หลงเข้ามาในบทความเราแล้ว แฮ่

ขอบอกก่อนว่าจริงๆก่อนหน้านี้เราไม่ค่อยได้สนใจขั้นตอนนี้เท่าไหร่ ( เรียกว่ามองข้ามเลยก็ว่าได้ ) เพราะคิดว่าร่องรอยรูขุมขนเราเป็นไม่หนักขนาดนั้น ( +ความขี้เกียจของนังเด๋อคนนี้ ) จนวันนึงได้รับกล่องปริศนาที่มีไพรเมอร์มาด้วยจากจีบัน เราก็เลยเริ่มลองใช้ และใช้งานจริงในการแต่งหน้าบางครั้ง เราก็รู้สึกเออมันแต่งหน้าง่ายขึ้นนะ จนตัดสินใจหามาลองเองบ้างวันนี้ได้ฤกษ์งามยามดีเลยมาลองให้สาวๆได้ดูกับน้องส้มกันไปรับชมกันเลยค่า เย่<3

รูปภาพ:รูปภาพ:

แท๊แด เปิดตัวน้องส้มที่หาซื้อจากตลาดแถวบ้าน( ไม่รู้ว่าจริงๆปกติเขาใช้ส้มพันธุ์อะไรกัน เจอตลาดมีอันไหนก็นะ คว้ามาเลยจ้ะ ) มองดูรอบๆ ก็ยังไม่ค่อยมีจุด ๆ เหมือนรูขุมขนเท่าไหร่ก็เริ่มลงมือแกะสลักบนเปลือกส้มกันเลย เย้ย ไม่ใช่ ก็จิ้มๆดินสอกด ( เพิ่งมารู้สึกหลังทำเสร็จว่ารูขุมขนคนเรามันจะใหญ่เท่าดินสอกดจิ้มลงไปขนาดนี้เลยเรอะ 5555 ) มีผู้เข้าร่วมการทดลองอยู่ข้าง ๆ น้องส้ม คือMaybelline baby skin pore eraserและIllamasqua beyond veil skin glowing gel

รูปภาพ:

Maybelline baby skin pore eraserไพรเมอร์เนื้อซิลิโคน ราคาเพื่อนคู่คิดมิตรคู่กระเป๋าตัง เกลี่ยง่าย ปกปิดรูขุมขนค่อนข้างโอเค หลังทาผิวสัมผัสจะรู้สึกลื่นๆ ช่วยให้แต่งหน้าง่ายขึ้น ไม่เป็นคราบ และไม่ทำให้สีเมคอัพเพี้ยนเพราะว่าไม่มีสี ส่วนตัวเรายังไม่ค่อยชอบเนื้อของเจ้าตัวนี้เท่าไหร่ เนื่องจากพอทาแล้วรู้สึกมัน ๆ ผิวหน่อยนึง แต่ถ้าใช้แก้ขัดยามเหงาเมื่อขาดเขา (?) ก็พอใช้ได้อยู่

ข้อดี: เบลอรูขุมขนได้โอเค ไม่เป็นคราบ สีเมคอัพไม่เพี้ยน

ข้อเสีย: ไม่ชอบความรู้สึกตอนทา ให้ความรู้สึกมัน ๆ ผิว

รูปภาพ:

Illamasqua beyond veilไพรเมอร์เนื้อเจล ราคาแอบแรงกว่าตัวบนนิดนึง ช่วยเบลอรูขุมขน ฟรีซเมคอัพให้ติดทนและไม่ทำให้สีเมคอัพเพี้ยน ผิวสัมผัสดี ไม่หนัก ไม่มันผิว เหมาะกับงานผิวฉ่ำ ลื่น เนียน ไม่อุดตันผิว เราชอบมากและจะหยิบมาทาใช้บ่อยกว่าตัวบน


ข้อดี: เบลอรูขุมขนได้ดี ทาแล้วผิวดูสวยฉ่ำ ลื่น เนียน มีออร่ามากขึ้น เมคอัพติดทนมากขึ้น

ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง

วิธีใช้ไพรเมอร์อาจจะใช้ผสมกับรองพื้น หรือ ทาหลังลงบำรุง ก่อนลงเมคอัพ ส่วนใหญ่เราจะใช้วิธีแต้มไปที่ใบหน้า 5 จุด แล้วปาดออกตามแนวขนใบหน้าแล้วค่อยแท็บๆ ลงผิว ตามนี้ค่ะ บำรุง > กันแดด > ไพรเมอร์ > เมคอัพ ( แต่ถ้าเป็นกันแดดผสมรองพื้น หรือครีมอะไรก็ตามที่มีลักษณะเป็นเบส/ปรับสีผิวควรทาหลังลงไพรเมอร์นะคะ )


มาเริ่มทากันเลยค่า > <

รูปภาพ:รูปภาพ:

หลังจากทาก็จะสามารถพอเปรียบเทียบความต่างได้ใช่ไหมคะ ว่าเปลือกส้มที่มีรูจากการจิ้มๆ พอทาไพรเมอร์แล้วผิวจะเรียบเนียนกว่า พอทาเมคอัพแล้วสวยกว่าเปลือกส้มอีกฝั่งที่ลงแค่รองพื้นเดี่ยวๆ + เรารู้สึกว่าปาดง่ายกว่าด้วย

ขั้นตอนการลงไพรเมอร์ ( สำหรับเรา ) เราว่าก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญเหมือนกัน ที่จะทำให้การแต่งหน้าง่ายขึ้น สวยขึ้น และเมคอัพติดทนมากขึ้น เหมือนเป็นฟิลเตอร์คลุมผิวให้มีการเติมเต็มร่องรอย เพื่อให้ผิวเรียบเนียนขึ้นอีกระดับหนึ่ง

โดยส่วนตัวคือ เราใช้ไพรเมอร์ของเมเบอร์ลีนสลับกับอิลลาฯ เราว่าทั้งสองช่วยเบลอรูขุมขน และช่วยให้แต่งหน้าได้ดีขึ้น แต่จะใช้อิลลาฯก่อนแต่งหน้าบ่อยกว่า เพราะชอบผิวสัมผัสของเจ้าตัวนี้มากกว่า และก็ให้การบำรุง + ลุคหน้าฉ่ำแบบที่ใจต้องการ

รูปภาพ:

วันนี้ก็มาลงบทความเบา ๆ ไม่มากมายตามสไตล์คนป่วยยังไม่หายดีนะคะ ยังไงก็รักษาสุขภาพกันด้วยเด้อ


ไว้เจอกันใหม่บทความหน้านะคะ สวัสดีค่ารักรักรัก <3

รูปภาพ: