เพราะเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ !!~ จ๊อกกกก ๆ ๆ ๆ ~( โอ้โห...พูดแค่นี้ เสียงท้องก็ร้องแล้ววว )
สวัสดีสาวซิส
#สายกิน
ทั้งหลายค่ะะ!! ก็อย่างที่บอกไปว่า
' เรื่องกินมันเป็นเรื่องใหญ่จริง ๆ ' ก็ใครจะทนหิวได้ล่ะ แถมเกิดมาทั้งทีมันก็ต้องไปลองกินของอร่อยกันสักหน่อย เพราะการได้กินของอร่อย ๆ ก็ถือเป็นการสร้างความสุขอย่างนึงเลยนะคะ
( หลายคนคงกำลังผยักหน้าตามกัน หงึก ๆ เลยใช่ไหมล่ะ )
ซึ่งสำหรับ #ซิสสายกิน ผู้ช่ำชองทั้งหลาย เราก็เชื่อว่า ถ้าเป็นในประเทศไทย ก็คงจะรู้แหล่งที่กินของอร่อย ๆ กันเกือบหมดแล้ว เพราะมีรีวิวให้ตามอ่านกันเพียบ ในวันนี้เราก็เลย
อยากจะชวนสาวซิส Go Inter กันหน่อยกับ' ลิสต์ประเทศที่ต้องไป 'เพื่อไปเฟ้นหาของกิน MUST TRY น่ากิน!!
ที่เราจะขอจัดหนักจัดเต็มมาให้สาวซิสกันในวันนี้
ถ้าพร้อมแล้ว ก็เตรียม ' ช้อน ' ' ส้อม ' และ ' ตั๋วเครื่องบิน ' กันให้พร้อม...แล้วไปตะลุยกินกันเลยจ้าา
++++++++++++++++++++++++++++++++
- ญี่ปุ่น -
สำหรับประเทศ' ญี่ปุ่น ' แดนปลาดิบเราเชื่อว่าคงเป็น Destination ที่สาวซิสหลายคนต้องอยากไปเที่ยวกันอย่างแน่นอนด้วยเมืองที่ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหนก็สวย หรือจะเที่ยวฤดูไหนก็ได้ เมืองก็มีความ minimal ผู้คนก็น่ารักอาหารก็อร่อยเพราะเป็นแหล่งรวมวัตถุดิบชั้นเยี่ยม!!โอ้โห...อะไรก็ดี๊ดีขนาดนี้ว่าแล้วก็ตามไปดูกันเลยดีกว่าว่า...มีเมนูไหนที่ #ซิสสายกิน ไม่ควรพลาดกันบ้างง
\\ ปลาดิบ //
เมื่อพูดถึง ' ปลาดิบ ' แล้ว แน่นอนเลยว่า ยังไงก็ต้องญี่ปุ่นเท่านั้น!!และสำหรับสาวซิสคนไหน ที่อยากจะกินปลาดิบแบบสดจริง ก็ต้องลองมาที่' ตลาดปลาซึกิจิ 'เลยค่ะะ เพราะเป็นที่ที่โด่งดังและขึ้นชื่อมาก ๆ ซึ่งทุก ๆ เช้าก็จะมีการประมูลปลาให้ดูแบบสด ๆ อีกด้วยและรอบ ๆ ตลาดปลา ก็จะมีร้านขายซูชิ ซาชิมิ เรียงรายอยู่เต็มไปหมด ซึ่งก็มั่นใจได้เลยว่า...ทุกร้านที่เข้าไปลองชิม เค้าสดจริงกันทั้งนั้นเรียกได้ว่า เป็นสวรรค์ของคนรักปลาดิบ ขนานแท้เลยค่ะแต่สำหรับสาวซิสคนไหนที่อยากจะสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ก็แนะนำให้รีบไปภายในเดือน กันยายน - ตุลาคม ปีนี้เลยค่ะเพราะว่า...ตลาดปลาเค้ามีออกกำหนดที่จะย้ายไปที่ย่าน Toyosu ในเขตโคโตะ เป็นที่เรียบร้อยโดยวันที่ 6 ตุลาคม จะเป็นการเปิดตลาดวันสุดท้ายค่ะ
\\ ราเมง //
มาที่ญี่ปุ่นทั้งที อีกสิ่งที่ไม่ควรพลาดเลยนั้นก็คือ ' ราเมง ' นั้นเองคงไม่มีที่ไหนกินราเมงได้อร่อยเท่าประเทศต้นตำหรับอยู่แล้วล่ะค่ะซึ่งร้านราเมงอร่อย ๆ นั้นก็กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียวสำหรับแต่ละพื้นที่ซิสก็จะได้ลิ้มรสความอร่อยของราเมงที่ไม่เหมือนกัน เนื่องจากวัตถุดิบที่แต่ละร้านนำมาทำ ก็จะไม่เหมือนกันเรียกได้ว่า...ไม่ว่าซิสจะไปเที่ยวส่วนไหนก็ประเทศก็สามารถลองไปหากินกันได้เล้ยยซึ่งเมืองที่มีร้านราเมงเด็ด ๆ ที่เป็นที่นิยมของคนทั่วไป ก็จะมีทั้งโตเกียว โอซาก้า และเกียวโต นั้นเองค่ะะ หรือวิธีสังเกตร้านอร่อยที่ง่ายที่สุดก็คือ ร้านไหนมีคนต่อคิวเยอะ ๆ ร้านนั้นแหละเด็ด!!
\\ โอโคโนมิยากิ //
สำหรับ' โอโคโนมิยากิ ' หรือ แพนเค้กญี่ปุ่นก็เป็นอะไรที่สาวซิสไม่ควรพลาดเหมือนกันถ้านึกไม่ออก โอโคโนมิยากิก็จะเป็นการเอาส่วนผสมต่าง ๆ มากมายที่นำมาคลุกเคล้าให้กันกับแป้ง แล้วค่อยนำไปย่างบนเตาร้อน ๆ มีการราดซอสรสเปรี้ยวหวาน มายองเนส โรยตกแต่งด้วยปลาแห้งและสาหร่ายเป็นอาหารที่ทั้งสนุกและอร่อยในเวลาเดียวกันซึ่งโอโคโนมิยากิที่มีคนญี่ปุ่นนิยมกินกัน ก็มีด้วยกัน 2 สไตล์ ก็คือ สไตล์โอซาก้า และสไตล์สไตล์ฮิโรชิม่า โดยที่สไตล์ฮิโรชิม่าจะมีการแบ่งเป็นชั้น ๆ แยกแป้งกับผักอย่างชัดเจน ส่วนแบบโอซาก้าก็จะเป็นแบบที่เราเห็นกันทั่วไป ซึ่งก็อร่อยทั้งสองแบบสองสไตล์!!
\\ เนื้อย่าง //
ถ้าพูดถึงเนื้อคุณภาพดี เกรดพรีเมี่ยมแล้ว แน่นอนเลยว่าจะต้องนึกถึงญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัวโกเบที่ขึ้นชื่อในเรื่องของรสชาติและรสสัมผัสอันละเอียดอ่อนสุดฟินหรือเนื้อวัวมัตสึซากะที่เรียกกันว่าเป็น ' เนื้อวัวลายหินอ่อน 'เพราะมีความสมดุลระหว่างเนื้อแดงและไขมันอย่างยอดเยี่ยม สีสวยน่ากินสุด ๆ พอย่างแล้วก็จะได้รสละมุมลิ้น เรียกได้ว่า...เป็นสวรรค์ของคนรักเนื้อจริง ๆแต่ถ้าใครที่ไม่ใช่สายเนื้อ ถ้าพูดถึงเนื้อหมูของญี่ปุ่นก็ถือได้ว่า...เป็นอะไรที่อร่อยไม่แพ้กัน!!กับหมูคุโรบูตะที่มีความนุ่มลิ้นละลายในปากแทบจะทันทีเมื่อเริ่มเคี้ยว เรียกได้ว่าเป็นราชันย์แห่งเนื้อหมู เลยทีเดียวค่ะะ
\\ หม้อไฟญี่ปุ่น - โอเด้ง //
มาที่ต้นตำหรับกันทั้งทีจะพลาดหม้อไฟญี่ปุ่น และ โอเด้ง ไปไม่ได้เลยค่ะซิส!!สำหรับหม้อไฟที่ญี่ปุ่นเค้าจะเรียกกันว่าNabe ( นาเบะ )เป็นหม้อไฟร้อน ๆ ที่ใส่เครื่องต่าง ๆ เข้าไปมากมาย โดยหม้อไฟของแต่ละภูมิภาคก็จะแตกต่างกัน เพราะใช้เครื่องและน้ำซุปที่ต่างกันออกไปสำหรับส่วนของโอเด้งจริง ๆ แล้วก็เหมือนกับหม้อไฟญี่ปุ่น แต่จะต่างกันที่ความบ้าน ๆ เพราะวัตถุดิบส่วนใหญ่ของโอเด้งจะเป็นพวกของทอด เต้าหู้ ไส้กรอก ลูกชิ้น ไข่ต้ม และผักซึ่งทั้งสองเมนูนี้เคล็ดลับความอร่อยก็จะอยู่ที่น้ำซุปนั้นเอง
++++++++++++++++++++++++++++++++
- เกาหลี -
มาถึงประเทศต่อมา ที่ไม่ว่าจะเดินไปไหนก็ต้องพูด อันยอง หรือ พูดชื่อประเทศขึ้นมาปุ๊บก็ต้องนึกถึง โอปป้า ขึ้นมาก่อนสิ่งอื่นใดกับประเทศ' เกาหลี ' แดนกิมจิซึ่งซิสก็คงจะได้เห็นอาหารตามซีรีส์กันมาบ้างแล้วแน่ ๆ ว่าปกติแล้วเค้าจะกินอะไรกันแต่ในวันนี้เราจะพา#ซิสสายกินไปรู้จักกับอาหารเกาหลีให้มากขึ้นค่ะะ เพราะที่เกาหลีเค้าไม่ได้มีแต่กิมจิหรอกนะคะ
\\ ชึกซอก ต๊อกโบกี //
สำหรับ' ชึกซอก ต๊อกโบกี 'จะเป็นหม้อกระทะร้อนที่สามารถกินได้หลายคนมีรสชาติออกจะเผ็ดตามซอสฉบับเกาหลีกันสักหน่อย ซึ่งในหม้อก็จะประกอบไปด้วยเส้นก๋วยเตี๋ยว เส้นมาม่า ไข่ต้ม ต๊อกโบกี ออมุก ผักนิดหน่อย บางร้านจะมีให้สั่งชีสเพิ่มลงไปได้ซึ่งก็คงจะถูกใจสาวซิสที่เป็น cheese lover เพราะการได้กินต๊อกกับชีสยืด ๆ มันก็จะทำให้ความอร่อยเพิ่มขึ้นไปอี๊กก
\\ บิบิมบับ //
อีกหนึ่งเมนูฮิตของเกาหลี กับ บิบิมบับ หรือ ข้าวยำเกาหลี นั้นเอง!!โดยจะเป็นข้าวเกาหลีที่เสิร์ฟบนชามหินร้อน ๆ โปะด้วยผักต่าง ๆ สำหรับใครที่ชอบเนื้อก็สามารถใส่เนื้อลงไปด้วยได้ จากนั้นก็จะราดด้วยซอสโคชูจังแต่ถ้าใครชอบเผ็ดมากก็ใส่เพิ่มได้ปิดท้ายด้วยการตอกไข่ดิบ ไข่ดาว หรือไข่ลวกตามลงไป ซึ่งก่อนจะกินก็ต้องคลุกเคล้าทุกอย่างเข้าด้วยกันก่อน
\\ คิมบับ //
' คิมบับ ' ก็คือ ข้าวห่อสาหร่ายน้้นเองแต่ข้าวห่อสาหร่ายของเกาหลี กับญี่ปุ่นมันก็ไม่เหมือนกันหรอกนะ เพราะสำหรับคิมบับ ไส้ข้างในส่วนมากก็จะเป็นแตงกวาดอง ผัก ไข่ เนื้อสัตว์ ต่าง ๆแล้วก็จะทำเป็นแค่แท่งเล็ก ๆ สั้น ๆ เหมาะมากกับการพกเดินไปกินไปค่ะะซึ่งคนเกาหลีเค้าก็มักจะกินคิมบับเป็นอาหารเช้าหรืออาหารว่างค่ะ ราคาก็ไม่แรงถ้าสาวซิสได้ไปเกาหลี ก็อย่าลืมหามาลองทานกันนะคะ
\\ ซัมเกทัง //
ซิสหลายคนอาจจะกลัวกับเมนูนี้ แต่รับรองว่า...กินแล้วสุขภาพดีแน่นอน!!กับ' ซัมเกทัง ' หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ ' ไก่ตุ๋นโสม ' นั้นเองเป็นอาหารที่จะเอาไก่ทั้งตัวไปต้มลงในซุปโสมเพื่อให้ได้ออกมาเป็นซุปไก่แสนอร่อย และเพราะเป็นการตุ๋น ทำให้เนื้อไก่ที่ได้จะมีรสชาติทั้งนุ่มทั้งหวาน ส่วนข้างในตัวไก่จะยัดไส้ด้วยข้าวเกาหลี โสม พุทธา เกาลัด และเครื่องสมุนไพรต่าง ๆยิ่งได้ทานคู่กับกิมจิรสเผ็ดก็จะยิ่งอร่อย
\\ จาจังมยอน //
สำหรับสาวซิสคอซีรีส์เกาหลี คงไม่มีใครไม่รู้จัก' จาจังมยอน ' หรือที่เราชอบเรียกกันว่า บะหมี่ดำนั้นเองเป็นเมนูง่าย ๆ ที่คนเกาหลีชอบกินกัน ซึ่งทีเด็ดของจาจังมยอน ก็จะอยู่ที่ซอสน้ำดำ ซึ่งตัวซอสก็ทำมาจากถั่วดำ โดยมีการใส่ทั้งหัวหอม มันฝรั่ง และหมูชิ้นหนา ๆ นุ่ม ๆ ลงไปด้วยเชื่อเถอะว่า...ถ้าซิสได้ลองกินแล้ว ก็ต้องรู้สึกชอบอย่างแน่นอนเลยย
\\ ซัมกยอบซัล //
สำหรับ' ซัมกยอบซัล ' หรือ ' หมูย่างเกาหลี 'เป็นเมนูที่ถ้าสาวซิสมาเกาหลี แล้วไม่ได้มาลองกินดูสักครั้ง ก็เหมือนกับสาวซิสมาไม่ถึงเกาหลีนะคะเพราะเนื้อหมูของเค้าเนี่ยถือว่าสุดยอด ทั้งนุ่ม ทั้งหวาน และที่พลาดไม่ได้เลยนั้นก็คือ หมูสามชั้น นั้นเองรับรองว่า ได้รสชาติที่อร่อยไม่เหมือนที่เรากินอยู่ในเมืองไทยแน่ ๆ ค่ะะ ( แค่เห็นท้องก็ร้องแล้วค่ะซิสส )
\\ คัลกุกซู //
' คัลกุกซู ' เห็นหน้าตาแบบนี้ มันก็คือก๋วยเตี๋ยวน้ำใสฉบับเกาหลีนั้นเองค่ะ!!จุดเด่นของเมนูนี้ จะอยู่ที่เส้นที่เหนียวนุ่มและน้ำซุปรสกลมกล่อมซึ่งก็มีให้เลือกหลากหลายแบบเหมือนกัน ซึ่งคนเกาหลีเค้าก็นิยมกิน คัลกุกซู กันในหน้าหนาว เพราะคงไม่มีอะไรเยียวยากำจัดความหนาวได้ดีไปกว่า การซดซุปร้อน ๆ อีกแล้วล่ะ
\\ แนงเมียน //
มาถึงอีกเมนูกับ' แนงเมียน ' ( NaengMyeon ) หรือว่า บะหมี่โซบะเย็นของเกาหลีเป็นเมนูที่คนเกาหลีเค้ามักจะกินกันในช่วงอากาศร้อน ๆซึ่งจริง ๆ แล้วแนงเมียนก็มีขายในทุกฤดูเลย เพราะงั้นสาวซิสก็หายห่วงได้เลย จะไปเที่ยวช่วงฤดูไหนก็มีให้กินแน่นอน และแนงเมียนก็มีให้เลือกหลากหลายแบบเหมือนกันค่ะสำหรับเคล็ดลับในการทำเนงเมียนเย็นให้อร่อยนั้น ก็อยู่ที่การต้มเคี่ยวน้ำซุปจนใสและหวานหอมนั้นเองค่ะ
++++++++++++++++++++++++++++++++
- ไต้หวัน -
ถ้าพูดถึง ' ไต้หวัน ' แล้ว คงบอกได้คำเดียวว่า...เป็นอีกหนึ่งสวรรค์ของคนรักของกิน Street Food ที่แท้ทรู!!เพราะพอสาวซิสเดินไปถึงแหล่งที่เค้าขาย Street Food เมื่อไหร่ จะเห็นได้เลยว่ามีร้านค้าตั้งเรียงรายเต็มไปหมด ชนิดที่เลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียวในเรื่องของรสชาติก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง เพราะมีครบทุกรสชาติ ทั้งเผ็ด หวาน เค็ม เปรี้ยว ไม่ว่ายังไงก็ถูกว่าคนไทยชัวร์ !!ว่าแล้ว...เราก็ลองตามไปดูกันดีกว่าว่า ถ้าได้ไปเที่ยวที่ไต้หวัน#ซิสสายกินอย่างเราต้องห้ามพลาดเมนูอะไรกันบ้างง
\\ ชานมไข่มุก //
ถ้าจะให้พูดถึง ที่สุดของที่สุดความเป็นชานมไข่มุกที่อร่อย ยังไงก็ไม่พ้นต้นตำหรับอย่าง ' ไต้หวัน ' อย่างแน่นอนค่ะ!!ซึ่งมีก็ร้านดังที่ได้ชื่อว่า...เป็นร้านต้นตำหรับ Original ของขมนมไข่มุกอีกด้วยกับร้านที่ชื่อว่า ' Chun Shui Tang 'แต่ก็ใช่ว่าร้านอื่นที่ขายชานมไข่มุกเค้าจะไม่อร่อยนะคะซิส วิธีสังเกตง่าย ๆ ก็คือ ร้านไหนที่คนรอคิวต่อแถวกันยาวเหยียดร้านนั้นแหละเด็ด!!ซึ่งสิ่งที่ทำให้ ชานมไข่มุก ของไต้หวันอร่อยไม่เหมือนใครนั้นก็คือ...ชาที่มีกลิ่นหอมเตะจมูก และเม็ดไข่มุกที่นุ่ม เคี้ยวเพลินสำหรับบางร้านไข่มุกเค้าก็มีให้เลือกไซส์ได้ด้วยนะคะ ใครอยากกินเม็ดไข่มุกลูกเล็ก หรือลูกใหญ่ก็เลือกจิ้มเอาได้เลยค่าานอกจากนี้ด้วยน้ำชานมที่ทำมาเย็น ๆ พอกันคู่กับเม็ดไข่มุกร้อน ๆ มันช่างเป็นการผสมผสานที่ลงตัวสุด ๆ
\\ เต้าหู้เหม็น //
เชื่อว่า...สาวซิสหลายคนต้องเคยได้ยินกิติศัพท์ของเจ้า' เต้าหู้เหม็น 'กันมาบ้างแน่ ๆด้วยกลิ่นที่โชยแรงมาตั้งแต่หน้าปากซอยไปถึงท้ายซอยจนหลายคนไม่อยากกินเพราะคิดว่ามันต้องรสชาติแย่เหมือนกลิ่นของมันแน่ ๆแต่ซิสคะ ซิสกำลังโดนหลอกด้วยกลิ่นของมันอยู่นะคะเพราะถ้าได้ลองกินแล้ว รับรองจะต้องรัก!!แล้วเค้าว่ากันว่า...ยิ่งเหม็นเนี่ยแปลว่ายิ่งอร่อยด้วยนะคะถ้าใครมีโอกาสได้ผ่านร้านที่เค้าขายเต้าหู้เหม็น เราก็อยากให้ซิสได้ลองชิมดูนะคะ ( มาไต้หวันทั้งทีก็ต้องลองสักครั้งค่ะ )และสำหรับเทคนิค กินเต้าหู้เหม็นยังไงให้อร่อย ก็คือ...การกินตอนที่มีเพิ่งทอดเสร็จใหม่ ๆ เนี่ยแหละถ้าปล่อยให้เย็นแล้ว รสชาติความอร่อยของมันก็จะลดลงแบบสุด ๆ เลยแหละ
\\ ขาหมูหมั่นโถว //
สำหรับ' ขาหมูหมั่นโถว ' ภาษาจีนเค้าเรียกว่า ' Gua Bao 'อย่างที่เห็นก็จะเป็นแป้งหมั่นโถวหนานุ่มที่เอาไปนึ่งจนได้ที จากนั้นก็ทำการผ่ากลางแล้วก็ยัดไส้ขาหมู และผักเข้าไปตรงกลาง ซึ่งไส้มันก็ดูจะล้น ๆ ทะลักออกมาหน่อย ๆเวลากินตอนหนาว ๆ มันก็จะมีความฟิน ส่วนรสชาติก็จัดเลยว่าดี!!
\\ Shou Zhua Bing //
' Shou Zhua Bing ' หรือที่เรามักจะเรียกกันว่า ' แพนเค้กไต้หวัน 'ซึ่งสำหรับหน้าตาของแพนเค้กมันจะไม่ได้เป็นแบบฝรั่ง ที่เราเห็นว่าเป็นแผ่นกลม ๆ ราดด้วยน้ำผึ้งแต่เป็นแผ่นแป้งที่เอาไปจี่บนกระทะจนกรอบ ส่วนไส้ซิสก็สามารถเลือกใส่ได้ตามใจชอบเลยคิดซะว่า...เหมือนเครปญี่ปุ่นบ้านเรา แต่แป้งก็จะอร่อยคนละแบบ
\\ น้ำแข็งใส //
เมื่อมีของคาวกันไปแล้ว ของหวานเราก็ไม่ควรจะพลาดกันนะคะซิสและถ้าได้ไปเยือนไต้หวัน ของหวานที่พลาดไปไม่ได้เลยนั้นก็คือ ' เมนูน้ำแข็งใส ' นั้นเอง!!สำหรับเครื่องที่ใส่บางอย่างก็จะคล้าย ๆ กับ เช็งซิมอี๊ บ้านเราแต่เครื่องของเค้าจะมีความเหนี่ยวหนุบ เคี้ยวมัน แถมยังให้เครื่องมาเยอะมากอีกด้วยเรียกได้ว่า...กินคนเดียวอาจจะไม่หมด นอกจากนี้ซิสก็จะได้ลิ้มรสชาติแบบไต้หวันแท้ ๆ กันอีกด้วยค่ะ
++++++++++++++++++++++++++++++++
- ฮ่องกง -
สำหรับเกาะเล็ก ๆ ที่เป็นสวรรค์ของเหล่านักช้อปอย่าง ' ฮ่องกง ' ที่มีครบจบในที่เดียวทั้งเรื่อง กิน เที่ยว ช้อป !!สำหรับในเรื่องของอาหาร เค้าก็ไม่เป็นสองรองใคร ด้วยรสชาติที่เข้มข้นบวกกับวัตถุดิบชั้นเลิศ ทำให้หลายคนที่ไปฮ่องกง ก็จะไม่ค่อยพลาดตามหาร้านอร่อยกินกันบางคนถึงกับต้องบินกลับไปกินซ้ำกันเลยทีเดียวว่าแล้ว...ก็ตามไปดูกันดีกว่าว่า ถ้าได้ไปฮ่องกงแล้ว จะต้องห้ามพลาดกินอะไรกันบ้าง
\\ โจ๊ก //
สำหรับเมนูอาหารเช้าที่คนฮ่องกงนิยมกินกันมาก ๆ เลย นั้นก็คือ ' โจ๊ก ' นั้นเอง!!ซิสหลายคนอาจจะสงสัยว่า " ทำไมต้องเดินทางถ่อไปถึงฮ่องกงเพื่อที่จะกินโจ๊ก?? " แต่ซิสค่ะ ถ้าได้ไปยังไงก็ต้องไปลองค่ะ เพราะว่ารสชาติและเนื้อสัมผัสของโจ๊กที่ฮ่องกงนั้น ไม่เหมือนกับบ้านเราค่ะเพราะสไตล์แบบฮ่องกง โจ๊กจะมีความเหลวกว่า แต่ก็ความหอมกว่านั้นเองทำให้แทบจะละลายเลยเมื่อกินเข้าไป แถมเค้ายังมีเครื่องให้เลือกเยอะมากกก และคนฮ่องกงเค้าก็ชอบกินคู่กับ ก๋วยเตี๋ยวหลอดและปาท่องโก๋
\\ ติ่มซำ //
นึกถึงติ่มซำ ก็ต้องนึกถึงฮ่องกง!!แน่นอนว่าติ่มซำนั้นเป็นเมนูอันดับต้น ๆ ที่จะต้องกินให้ได้เมื่อมาเที่ยวฮ่องกงเพราะมีร้านติ่มซำดัง ๆ ที่ขึ้นชื่อในฮ่องกงมากมาย ซึ่งหนึ่งในร้านที่เรารู้จักกันดีก็คือ Tim Ho Wan ร้านติ่มซำระดับมิชลินนั้นเองแต่ไม่ว่าจะเป็นร้านไหน ๆ ความอร่อยก็ไม่ต่างกันมาก เพราะเครื่องแน่น ๆ ชิ้นโต ๆ แถมด้วยความสดใหม่ ทำให้ติ่มซำของฮ่องกงเป็นหนึ่งในใต้หล้านั้นเองค่ะะะ
\\ ห่านย่าง - หมูแดง - หมูกรอบ - เกี้ยวกุ้ง - บะหมี่ //
ถ้าพูดถึงอาหารจีน แต่ไม่พูดถึงพวก ' ห่านย่าง เป็ดย่าง หมูแดง หมูกรอบ เกี๊ยวกุ้ง ' ก็คงจะไม่ได้!!แถมที่ฮ่องกงเค้ายังสามารถปรุงรสชาติออกมาได้ถึงแบบสุด ๆเวลากินก็จะรู้สึกได้เลยว่า เนื้อจะไม่แห้งจนเกินไป แถมน้ำที่ใช้ราดก็ยังซึมเข้าไปอยู่ในเนื้อได้ดีแบบสุด ๆ กัดแล้วมีความ juicy นิด ๆ ส่วนเกี๊ยวกุ้งน้ำซุปก็จะมีความกลมกล่อม กุ้งก็ตัวโต แป้งบาง ๆ
\\ วาฟเฟิลไข่ //
ขนมง่าย ๆ ที่เป็นของฮิตของคนฮ่องกงเป็นวาฟเฟิลที่มีลูกร่างเหมือนไข่เล็ก ๆ เป็นแผงที่มีขายในบ้านเรา แต่เรื่องของรสชาติก็อาจจะต่างกันหน่อยและในเมื่อเรามาเยือนถึงถิ่นต้นตำหรับทั้งที แล้วก็ต้องชิมกันสักหน่อย ซึ่งเจ้าดังเจ้าเด็ดเค้าก็มีอยู่หลายเจ้าแต่เราก็อยากจะแนะนำให้ลองไปกินของร้าน ' Mammy Pancake 'เป็นร้านนึงที่ดังมาก ๆ เพราะมีแป้งที่เหนียวนุ่ม ให้ไส้เยอะ แถมยังเป็นหนึ่งใน Bib Gourmand ของมิชลินด้วยนะ
\\ ทาร์ตไข่ //
มาต่อกันด้วยอีกหนึ่งขนม Street Food ที่เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน นั้นก็คือ ' ทาร์ตไข่ ' นั้นเอง!!ซึ่งลักษณะของทาร์ตไข่ของฮ่องกงนั้น มันก็ไม่เหมือนกับทาร์ตไข่ที่เรากินกัน เพราะตัวแป้งไม่ได้ใช้แป้งพายกรอบ ๆ ส่วนไส้ก็มักจะเป็นครีมคัสตาร์ดมากกว่าพวกไข่แดงไข่ขาวทำให้ได้รสชาติที่แตกต่าง ไม่เหมือนในไทยอย่างแน่นอนเลย
++++++++++++++++++++++++++++++++
- จีน -
สุดท้ายก็ขอปิดด้วย ' ประเทศจีน ' ที่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประชากรเยอะเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกและเชื่อเถอะไม่ว่าซิสจะเดินทางไปที่ไหน ก็จะเห็นคนจีนอยู่แทบจะทุกที่ทำให้ในเรื่องของอาหารจีน ก็มีการส่งต่อไปยังประเทศต่าง ๆ ทั้วโลกอีกด้วยแต่ถ้าจะกินอาหารให้มันได้รสชาติแบบต้นตำหรับ มันก็คงจะต้องไปกินถึงถิ่น!!และถ้าพร้อมแล้ว เราก็ไปดูกันดีกว่าค่ะะ
\\ เสี่ยว หลง เปา //
' เสี่ยวหลงเปา ' หนึ่งในติ่มซำที่อร่อยสุด ๆ แถมยังได้ประสบการณ์กินที่แปลกใหม่เพราะเวลากินซิสจะต้องค่อย ๆ กัดแล้วจิมน้ำซุปที่อยู่ด้านในซะก่อน ไม่อย่างนั้นน้ำซุปมีพุ่ง กระเด็นแน่นอน!!แต่เห็นแบบนี้ก็ใช่ว่าจะทำง่ายนะคะซิสส เพราะเสียวหลงเปาที่อร่อยจะต้องมีแป้งที่บางและน้ำซุปที่กลมกล่อมฉะนั้นถ้าทำไม่เก่งแล้วล่ะก็ น้ำซุปก็จะซึมรั่วออกมาก่อนที่เราจะได้กินนั้นเอง
\\ เกี๊ยว //
เวลาที่ซิสจะไปสั่งเกี๊ยวกินที่จีน ถ้าพูดว่า Dumpling คนท้องถิ่นก็อาจจะฟังแล้วงงได้ ให้เรียกว่า' Jiao zi ' ( เจี่ยวจึ ) หรือว่า ' Hun Dun ' ( หุนตุ้น )แทนค่ะซึ่งเกี๊ยวก็จะมีทั้งแบบทอด และแบบนึ่งซึ่งแบบนึ่งเนี่ยเค้าก็จะมีซอสราดมาให้เลือกหลายรสเหมือนกัน และขอบอกเลยว่าเกี๊ยวที่จีนเนี่ย เป็นอะไรที่อร่อยมาก ๆเป็นอีกสิ่งที่มาจีนจะต้องลองกินค่ะ
\\ ชาวข่าว //
ชื่ออาจจะฟังดูจีนไปสักหน่อยแต่ถ้าจะให้เปรียบเทียบ ' ชาวข่าว ' ก็คงจะพูดได้ว่าเหมือน BBQ เสียบไม้นั้นเองแต่มันก็จะต่างกันที่รสชาติและน้ำซอสที่เอามาใช้นั้นเองบางคนถ้าชอบกินเผ็ดหน่อย ที่ร้านเค้าก็มีการใส่ผงหม่าล่าลงไปนิด ๆ ด้วยเหมือนกันซึ่งชาข่าวเนี่ย เค้าก็มีของให้เลือกเยอะมาก ๆ จะสายเนื้อหรือสายผัก ก็มีให้เลือกหมดเลยนะะ
\\ ฮั่วโกว //
สำหรับเมนู' ฮั่วโกว 'เป็นอาหารของมณฑลเสฉวน แต่จริง ๆ ตอนนี้ก็มีร้านเปิดให้กินอยู่ทั่วไปถ้ามองเผิน ๆ แล้วก็อาจจะเหมือนกับ ชาบูบ้านเราเพราะมันก็จะมาเป็นหม้อน้ำซุปให้ซิสหยิบเครื่องลงไปต้มแต่ที่ต่างกันคือ ตัวน้ำซุปจะเป็นน้ำมันกับพริกซะส่วนใหญ่ ทำให้เวลากิน ก็จะได้รสชาติที่เผ็ด ๆ หอม ๆ
\\ หม่าล่าทาง //
สำหรับเมนู' หม่าล่าทาง 'ก็จะมีความคล้าย ๆ กับ ชาวข่าวแต่จะต่างกันตรงที่ หม่าล่าทาง ที่ร้านเค้าจะเอาทุกสิ่งอย่างที่เราเลือกเอาไปต้มแทน และมาเป็นชามซุปซึ่งทางร้านเค้าก็จะมีการใส่ผงหม่าล่าลงไปด้วย ซึ่งซิสก็สามารถเลือกระดับความเผ็ดได้ ว่าอยากกินแบบเผ็ดน้อยหรือเผ็ดมากเครื่องก็จะมีให้เลือกมากขึ้น เพราะที่ร้านเค้าก็จะมีกเส้นก๋วยเตี๋ยวให้เลือก รวมถึงปาท่องโก๋ด้วย ราคาก็จะขึ้นอยู่กับปริมาณของที่เราเลือกนั่นเอง
\\ เป็ดปักกิ่ง //
ถึงจะได้ชื่อว่า' เป็ดปักกิ่ง 'แต่จริง ๆ แล้ว Original ไม่ได้เกิดที่กรุงปักกิ่งแต่อย่างใดเป็นอาหารที่ต้องบอกว่า คนทั่วโลกไม่มีใครไม่รู้จักเวลาที่กินก็จะมีทั้งตัวแป้งที่เหนียวนุ่ม หนังเป็ดที่ทั้งบางทั้งกรอบ น้ำซอสรสเข้มข้น และผักเครื่องเคียงต่าง ๆ ที่ใส่แล้วห่อ ทำให้ได้รสชาติที่อร่อยลงตัวสุด ๆซึ่งซิสก็ไม่ต้องเป็นกังวลว่า ถ้าจะกินเป็ดปักกิ่งอร่อย ๆ ต้องกินที่ปักกิ่งอย่างเดียวหรือเปล่า เพราะร้านอาหารที่เสริฟเป็ดปักกิ่งอร่อย ๆ ก็มีอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ
++++++++++++++++++++++++++++++++
จะเห็นได้ว่า...อาหารของแต่ละประเทศนั้นก็จะแตกต่างกัน ยิ่งมีวัฒนธรรม หรือสภาพภูมิประเทศที่แตกต่างกันมากเท่าไหร่ อาหารก็จะแตกต่างตามไปด้วยแต่ไม่ว่าอาหารแต่ละชาติจะเป็นยังไง ก็ล้วนแต่น่ากินทั้งนั้นถึงบางร้านที่เค้าว่าดัง ๆ ที่ต่างประเทศมาเปิดที่เมืองไทย แต่เชื่อเถอะไม่ว่ายังไงก็สู้บินไปกินที่ประเทศต้นตำหรับไม่ได้หรอกค่ะะะส่วนซิสคนไหนมีโอกาสได้เดินทางท่องเที่ยว ตามประเทศที่เรามาแนะนำกันในวันนี้ ก็อย่าลืมลองแวะไปกินกันนะคะ รับรองว่า...จะไม่มีผิดหวังแน่นอนแถมยังได้ลองกินอะไรที่แปลกใหม่แบบที่ไม่เคยกินที่ไหนมาก่อนด้วยแล้วซิสจะรู้ว่า ของอร่อยบนโลก ยังเตรียมตัวรอให้ซิสได้ไปชิมอีกเพียบค่ะะะสำหรับวันนี้เราก็คงต้องขอตัวลาซิสทุกคนไปก่อนนะคะ บ๊ายบายย