ในวันที่อยากจะแต่งสวยให้เพอร์เฟ็กต์ที่สุด ผู้หญิงอย่างเราก็จะทำทุกอย่าง เพื่อให้ออกมาดูดีในสายตาคนอื่น ไม่ว่าจะเป็น

เสื้อ ผ้า หน้า ผม เครื่องหน้าที่บรรจงจัดแต่งอย่างประณีต

ซึ่งอาจจะเป็นการแต่งกายทุกวัน หรือเป็นวันสำคัญ เจอคนสำคัญอะไรก็ตามแต่

ส่วนใหญ่เราก็คาดหวังว่าลุคของเราในวันนั้น จะต้องเพอร์เฟ็กต์ไปตลอดทั้งวัน

และแม้จะมั่นใจในทุกๆ อย่างที่ตัวเองตระเตรียมมาแล้ว

ก็มีอุปสรรคอย่างหนึ่ง ที่ควบคุมไม่ได้.... " เจ้ารังแควายร้าย" นี่เอง!


ใครที่เกิดมาแล้วไม่เคยเป็นรังแคเลย นับว่าโชคดีไป แต่คิดว่า

ส่วนใหญ่จะต้องเคยประสบกับปัญหารังแคอย่างแน่นอน

โดยเฉพาะใครที่เป็นบ่อยๆ รักษาไม่หายขาด เดี๋ยวก็มา เดี๋ยวก็มา จะต้องยิ่งรู้สึกรำคาญใจ กับรังแคแสนดื้อด้านแน่นอน

เพราะนอกจากจะทำให้ผมเราดูไม่สวยแล้ว ยังมาระรานบนเสื้อ บนไหล่ของเราอีก แล้วยิ่งวันไหนที่แต่งตัวเข้มๆ นะ ความมั่นใจหดหายไปฮวบๆ เลย!

เชื่อว่าหลายคนน่าจะลองหาวิธีกำจัดรังแคกันมามากแล้ว บางคนโชคดีหายจากรังแคได้

แต่บางคนแม้จะลองมาหลายวิธีแต่ก็ไม่หาย ที่เป็นอย่างนั้น อาจเป็นเพราะว่าคุณรักษารังแคได้ไม่ตรงจุดนั่นเอง

ส่วนใหญ่อาจจะเข้าใจว่า รังแคมีสาเหตุมาจากเรื่องเดียวกันหมด แต่จริงๆ แล้วเปล่าเลย รังแคนั้นมีถึง 5 ประเภท

ก่อนจะทำการรักษารังแค ไปทำความรู้จักกับรังแคทั้ง 5 ประเภทกันก่อนดีกว่าจ้า


" 5 ประเภท ของรังแค " รู้แล้วค่อยแก้ รับรองหายขาด!


1. รังแคที่เกิดจากผิวหนังแห้ง

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/07/46/51/0746518edac9dbfc75fa5077ae0b7313.jpg

ถ้าใครเป็นรังแคอยู่เป็นปกติ เดี๋ยวเป็น เดี๋่ยวหาย

แก้ได้สักพักเดี๋ยวก็กลับมา

ให้ลองสังเกตเลยว่าคุณเป็นคนผิวแห้งรึเปล่า

เพราะรังแคส่วนมากมักจะเกิดขึ้นได้ง่ายกับบุคคลที่มีผิวหนังแห้ง. บางคนอาจจะเป็นผิวแห้งโดยพันธุกรรม

แต่อาการผิวแห้งที่เป็นผลมาจากอากาศหนาว หรือแม้แต่ผลกระทบจากแชมพูที่ใช้เป็นประจำก็มีส่วนทำให้ผิวหนังศีรษะแห้งเช่นกัน.

โดยเฉพาะ

ผู้ที่มีผมหยักศก

มักจะมีปัญหากับรังแคมากกว่าผู้ที่มีผมประเภทอื่นๆ จากสาเหตุทั้งหลายเหล่านี้

การใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของซัลเฟต ซึ่งเป็นตัวช่วยให้เกิดฟองโฟมเยอะๆ นี่แหละ ที่จะเป็นสาเหตุทำให้เกิดรังแคจากอาหารหนังศีรษะแห้งได้

ฉะนั้นแชมพูขวดต่อไป

พยายามหลีกเลี่ยงแชมพูที่มีส่วนผสมของซัลเฟตนะจ๊ะ

เดี๋ยวนี้ก็ค่อนข้างหาได้ง่าย ไม่ต้องกลัวจะหายากเล้ย


2. รังแคที่เกิดจากหนังศีรษะมัน

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/a9/9a/a6/a99aa61ebe66f535872cbce355781ea6.jpg

เอ้า เมื่อกี้บอกว่ารังแคเกิดจากผิวแห้ง อันนี้หนังศีรษะมันก็เป็นได้ด้วยเหรอ คำตอบก็คือได้เหมือนกันนะ

เพราะรังแคนั้นมีหลายประเภท และหนังศีรษะที่มัน ก็เป็นสาเหตุของรังแคอีกประเภทหนึ่งเช่นกัน

Sebum หรือเรียกง่ายๆ ว่า ไขผิวหนังนั้น เป็นน้ำมันธรรมชาติ ที่ถูกผลิตมาจากต่อมไขมัน

เพื่อทำให้ผิว และเส้นขนคงความชุ่มชื้น เพื่อป้องกันความแห้ง อีกนัยหนึ่งก็มีประโยชน์ต่อการชะลอวัยของผิวหนังได้ด้วย

แต่อย่างไรก็ตามบางครั้งร่างกายของเราอาจจะมีการผลิต Sebum ส่วนเกินได้เช่นกัน

และจากการผลิตที่มากเกิดความจำเป็นนั้น

อาจเกิดจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น ช่วงที่ตั้งครรภ์, มีภาวะเครียด หรือแม้แต่แชมพูที่ใช้เป็นประจำ

เหล่านี้ก็อาจจะทำให้เกิดการผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป และเมื่อ

Sebum ไปผสมรวมกับเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ก็จะทำให้เกิดรังแค ที่มีสาเหตุจากหนังศีรษะมันนั่นเอง

โดยอาการจากรังแคประเภทนี้จะสังเกตได้ว่ามีอาการคัน รังแคอาจเป็นแผ่นใหญ่ๆ ออกสีเหลือง


3. รังแคที่มีสาเหตุจากเชื้อรา

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/09/19/0a/09190a45cca7354e9a6e283231f74f8f.jpg

รังแคที่มีสาเหตุมาจากเชื้อรา

ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อที่เรียกว่า

Malassezia globosa

บนหนังศีรษะ

โดยการติดเชื้อราอาจจะลุกลาม และเกิดอาการมากขึ้น

เมื่อหนังศีรษะมีความมันมาก หรือ pH ไม่อยู่ในสภาวะบาลานซ์

นอกจากนี้แล้วรังแคประเภทนี้มีความร้ายกว่านั้น เพราะบางทีมัน

อาจจะแพร่เชื้อมาจากอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกับคนอื่น อย่างเช่น หวี, ผ้าขนหนู หรือหมวก

ก็ได้เช่นกัน

เชื้อราชนิดนี้จะทำการผลิต กรดโอเลอิก ซึ่งอาจจะทำให้เซลล์ผิวหนังเพิ่มเยอะมากขึ้น และกลายเป็นรังแคในที่สุด

โดยอาการรังแคจากสาเหตุนี้จะสังเกตได้ว่ามักจะมีอาการคัน และรังแคจะมีสีขาว หรือสีเหลือง


4. รังแคที่เกิดจากการใช้ " ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม "

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/5e/1e/96/5e1e962528e09740f4477c746f777a13.jpg

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีไลฟ์สไตล์การใช้โปรดักส์สำหรับเส้นผมบ่อยๆ เป็นประจำทุกวัน และใช้หลายๆอย่าง ไม่ซ้ำกันอย่าง 5 โปรดักส์ภายในวันเดียวล่ะก็บอกเลยว่าควรจะหยุดพฤติกรรมแบบนี้ได้แล้วนะจ๊ะหรือถ้าหยุดไม่ได้ อย่างน้อยก็ควรจะเพลาๆ ลงหน่อยจะดีกว่านะ

ก็เข้าใจว่าเป็นผู้หญิงก็อยากจะรักสวยรักงาม อยากมีผมสวยๆ ทุกวัน แต่บางครั้งการใช้มากเกินไปก็ไม่ดีต่อร่างกาย และกลายเป็นโทษสำหรับความสวยงามแทนอีกต่างหากนะโดยเฉพาะการใช้โปรดักส์ที่ต้องทิ้งค้างไว้บนเส้นผม และหนังศีรษะของเรา อย่าง leave-in conditioners, เจลแต่งผม, เซรั่ม, น้ำมันใส่ผม, มูส หรือแฮร์สเปรย์ต่างๆสิ่งเหล่านี้ถึงจะทำให้ผมดูสวยได้ แต่ก็ทำให้ลุคเสียจากรังแคได้เช่นกัน

โปรดักส์เหล่านี้จะไปรวมตัวกับเหล่าเซลส์ผิวหนังที่ตายแล้ว หรือแม้แต่ความสกปรกตกค้างบนหนังศีรษะจนกลายเป็นรังแคขึ้นมา แถมยิ่งไปกว่านี้อาจนำไปสู่อาการผมร่วงด้วยนะจ๊ะอาการรังแคจากสาเหตุนี้ดูได้ง่ายๆ เลยคือ จะเป็นรังแคค่อนข้างใหญ่และมีสีขาว หรืออาจจะเป็นผงสีเหลืองก็ได้ นอกจากนี้ยังมีอาการคันระคายเคือง และมีผมร่วงร่วมด้วยนะ


5. รังแคที่เกิดจากอาการ " เซ็บเดิร์ม "

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/ea/10/03/ea1003a2938e1b6249da0ffcd7a63199.jpg

Seborrheic dermatitis หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่า เซ็บเดิร์ม คือการอักเสบทางผิวหนังเรื้อรังซึ่งอาจเกิดบนส่วนต่างๆ บนร่างกายได้โดยเฉพาะส่วนที่มีต่อมไขมัน และมีการผลิตมาก ซึ่งส่วนที่ว่านี้ รวมไปถึง คอ, หลังหู, บนใบหน้า, คิ้ว และหนังศีรษะ

จากการวิจัยพบว่ามันอาจเป็นอาการอักเสบที่มีต่อยีสต์ ซึ่งพบได้ทั่วไปบนผิวหนังชั้นนอก นอกจากนี้ความเครียด และฮอร์โมน ก็อาจจะมีส่วนในการกระตุ้นเซ็บเดิร์มได้เช่นกันโดยรังแคที่เกิดจากเซ็บเดิร์มจะสังเกตได้ว่า เป็นสะเก็ดสีขาว หรือเหลือง, มีแผ่นเป็นสะเก็ดผิวหนัง มีความมัน มีสีแดง และมีอาการระคายผิวหนัง

ใครที่มีอาการรังแค ก็สามารถรักษาได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการ

เลือกใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของ Ketoconazole Salicylic acid, Selenium sulfide, Coal tar, Zinc pyrithione  และหลีกเลี่ยงแชมพูที่มีส่วนผสมของ ซัลเฟต

นอกจากนี้การ

รับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของ zinc, วิตามินบี และไขมัน

ก็สามารถช่วยป้องกันอาการรังแคได้เช่นกัน ส่วนการดูแลเส้นผมให้

งดเว้นจากโปรดักส์ตกแต่งเส้นผม รวมไปถึงการทำเคมีกับเส้นผม อย่างดัดผม ยืดผม ทำเคมีแรงๆ ต่างๆ ก็จะช่วยป้องกันได้จ้า