สวัสดีค่าา สาวๆSistaCafe ทั้งหลาย
ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน ในบรรดาวิชาเรียนทั้งหมด ตั้งแต่ประถม มัธยม จนถึงมหาวิทยาลัย
' ภาษาอังกฤษ '
ก็เป็นสิ่งที่วัยรุ่นไทยหลายคนอยากหลีกเลี่ยง
รู้สึกอาย กลัวพูดผิดแล้วดูเด๋อ ไม่แม่นแกรมมาร์ ไม่ใช่ภาษาพ่อแม่เรา กลัวใช้ศัพท์ได้ไม่ดี อาจารย์สอนไม่เข้าใจ ไม่ชอบวัฒนธรรมต่างชาติ etc.
และที่เชื่อว่าส่วนใหญ่เป็น แต่ไม่กล้าบอกตรงๆ คือ ' กลัวเพื่อน ( คนไทย ) ล้อ ' ภาษาก็เลยไม่พัฒนาสักที ;___;
ใครที่กำลังกังวล ทั้งอยากเพิ่มเกรดวิชานี้ให้มากกว่าเดิม, อยากเปลี่ยนทัศนคติในการเรียนภาษาอังกฤษให้ดีขึ้น หรือกำลังลังเลในการไปเรียนต่อเมืองนอก แต่กลัว Culture Shock ต่างๆ
วันนี้เรามี 7 ข้อคิดดีๆในการเรียนภาษาอังกฤษจากคลิปสัมภาษณ์ของ SistaCafe จากพี่ ' พีชชี่ ' หรือชื่อเรียกใน Youtube Channel : Peachii ว่า ' ชะนีพีชชี่ & สตีเฟ่นโอปป้า ' ที่มีชื่อเสียงจากการอัพคลิป Vlog ชีวิตในประเทศอังกฤษมาให้สาวๆ ได้อ่าน แล้วนำไปปรับใช้กัน!
เริ่มกันเลยค่า
1. การเรียนภาษา ควรเริ่มจาก 'การฟัง' แล้วหัดพูดตาม
ปกติการเรียนภาษาอังกฤษในเมืองไทย มักจะขึ้นต้นด้วยการ เขียน-อ่าน-ฟัง-พูด ซึ่งผิดหลักในการเรียนรู้ตามธรรมชาติของมนุษย์ค่ะ!
ไม่ว่าจะเรียนภาษาใดๆ ก็ตาม เราควรเริ่มจากการ ' ฟัง ' เสียงของภาษานั้นๆ ก่อน เลียนแบบการออกเสียง accent ต่างๆ แล้วหัดพูดตาม จึงจะเรียนรู้ภาษานั้นได้ง่ายและคล่องที่สุด
ภาษาอังกฤษก็เช่นกัน! ดังนั้นสาวๆ คนไหนที่มีปัญหาในด้านทักษะการพูด-ฟัง ต้องหาฟังสื่อภาษาอังกฤษเยอะๆ แล้วพูดกับคนอื่นดู
ถ้าไม่มีใครให้คุยด้วยจริงๆ คุยกับตัวเองก็ได้ค่ะ /พี่พีชบอก
2. ถ้าฝึกฝนภาษาให้ดี เราจะก้าวหน้าไปเรื่อยๆ จนแซงหน้าคนที่ดูถูกเรา
ต้องยอมรับจริงๆ ว่า สังคมไทยทุกวันนี้ บางคนก็ยัง ' เหยียด ' และ ' ดูถูก ' คนไม่เก่งภาษา หรือถ้าพยายามพูดก็จะจับผิดให้ได้
ทำให้สาวๆ หลายคนขาดความมั่นใจ หรือไม่อยากมีปัญหา ก็เลือกที่จะไม่พูดเลย ทำให้ทักษะภาษาอังกฤษไม่พัฒนา
พี่พีชให้คำแนะนำว่า ถ้าเราตั้งใจฝึกฝนให้ดี เราก็จะก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อยๆ แต่คนที่นินทา ดูถูกเรา เขาก็จะก้าวไปอยู่ข้างหลังไปตลอด
คือไม่มีอิทธิพลอะไรกับชีวิตเราอีกต่อไป ดังนั้นอย่าท้อนะคะซิส! ^^
3. ถ้าเราใฝ่รู้มากพอ มีสื่อดีๆ ฟรีๆ ในอินเตอร์เน็ตให้เรียนมากมาย
สมัยก่อน เมื่อ 10-20 ปีที่แล้ว ไม่ได้มีสื่อเพื่อการเรียนรู้ที่เข้าถึงง่ายเหมือนยุค 4.0 แบบนี้หรอกค่ะซิส
อยากหาความรู้ต้องไปห้องสมุด เดินทางไกล ลำบาก สื่ออย่างเพลง วิทยุ รายการต่างๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษก็ยังไม่แพร่หลายมาก คนยุคเก่าต้องใช้ความพยายามหลายเท่าตัว เพื่อจะพูดได้คล่องเทียบเท่าเจ้าของภาษา แต่สมัยนี้ หากเธอใฝ่รู้มากพอ สื่อในอินเตอร์เน็ตมีเยอะมาก เรียกว่าชีวิตนี้ก็ดูไม่หมด!
ยกตัวอย่างโซเชียลทางวิดีโอที่ใหญ่ที่สุด คงหนีไม่พ้น Youtube ซึ่งมีคลิปมากมายให้เลือกชม
ทั้งสอนภาษา, บล็อกเกอร์, รายการโทรทัศน์ฝรั่งมากมายที่อัพคลิปย้อนหลัง หรือจะเข้าไปดูของพี่พีชก็ได้นะคะ ^^
4. เราไม่อาจคาดหวังสิ่งใหม่ จากการกระทำเดิมๆ ได้
อันที่จริง พี่พีชพูดเรื่องนี้ในหัวข้อเรื่อง ออกจาก Comfort Zone แต่เราคิดว่าก็เอามาปรับใช้กับการเรียนภาษาอังกฤษได้เช่นกัน!
หากเรายังใช้วิธีการเรียนแบบเดิมๆ เน้นแกรมมาร์มากกว่าการสื่อสาร ไม่ยอมคุยกับคนต่างชาติ แต่หวังว่าตัวเองจะพูดคล่องได้เทียบเท่า Native Speaker ก็เป็นไปไม่ได้ถูกมั้ย?
เราไม่อาจคาดหวังสิ่งใหม่ๆ จากการกระทำเดิมได้ หากทำแบบเดิม ชีวิตก็จะเหมือนเดิม
หากต้องการให้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป ก็ต้องเริ่มจากตัวเรา ปรับพฤติกรรมหรือทัศนคติไปทีละนิด แล้วชีวิตจะดีขึ้นแน่นอนค่ะ
5. ทำพลาดแล้วเรียนรู้จากมัน ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ
ข้อคิดนี้ใช้ได้ดีสุดๆ! ในการเรียนภาษา เราทุกคนต้องผ่านจุดที่เขียนผิด พูดผิด กันอยู่แล้ว ( ขนาดภาษาแม่อย่างภาษาไทย ก็ใช่ว่าจะเขียนถูกกัน 100%
) แต่อยู่ที่ว่า เราจะจัดการยังไงกับความผิดพลาดนั้น ปล่อยผ่าน หรือเรียนรู้จากมันมากกว่า
พี่พีชแนะนำว่าให้ลองทำพลาด แล้วเรียนรู้จากมัน เพราะ ' ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ( No one's perfect ) '
อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป แค่อย่าทำผิดซ้ำ เราก็ก้าวหน้าในการเรียนภาษาอังกฤษได้แล้วค่ะ
6. อุปสรรคที่ใหญ่สุด แก้ยากที่สุด แต่ก็แก้ง่ายที่สุด ก็คือตัวเราเอง
อุปสรรคที่ยากที่สุด ในการจัดการปัญหาต่างๆ ในชีวิต มักมาจาก ' ภายใน ' ของเราเองนี่แหละค่ะซิส!
ลำบากกายไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าความคิดของเราเป็นลบ มองอะไรก็ท้อไปหมด ชีวิตจะลำบาก หรือพูดง่ายๆ ว่า อุปสรรคที่ใหญ่สุด ยากสุด แต่ก็แก้ง่ายที่สุด ก็คือตัวเราเอง!
หากเราปรับ Attitude ( ทัศนคติ ) ให้เป็นบวก คิดว่าภาษาไม่ใช่เรื่องยาก แต่เป็นเรื่องสนุกแทน ชีวิตของสาวๆ จะเปลี่ยนแปลงไปในทางดีขึ้นอย่างแน่นอน
ลองดู!
7. ตั้งเป้าหมายในการพัฒนาตัวเอง เพื่อเป็น " ตัวเองในแบบที่ดีขึ้นกว่าเดิม "
การเรียนที่มีประสิทธิภาพทุกอย่าง ควรมีเป้าหมายเป็นขั้นเป็นตอน การเรียนภาษาอังกฤษก็เช่นกัน!
ถ้าเราสามารถตั้งจุดหมายได้ว่า อยากพัฒนาทักษะด้านไหน ( ฟัง พูด อ่าน เขียน ) อยากเก่งไปเพื่ออะไร ( เรียนต่อ ทำงานด้านxx ได้เงินเดือนดีๆ ดูหนังได้โดยไม่ต้องพึ่งซับ เป็นแฟนคลับนักร้องฝรั่ง etc. ) จะทำให้เรามองภาพในอนาคตได้ชัดเจนขึ้น และมีกำลังใจที่จะเรียนมากขึ้นค่ะ
พี่พีชแนะนำไว้ว่า ให้พัฒนาเป็น ' Better version of yourself ' คือไม่สูญเสียความเป็นตัวเอง แต่เป็นตัวเองในแบบที่ดีขึ้น ตราบใดที่เป็นเป้าหมายในเรื่องดีๆ ก็ลุยเลยค่ะ!
------------------
อ่านข้อคิดครบทั้ง 7 ข้อแล้ว รู้สึกมีกำลังใจในการเรียนภาษาอังกฤษขึ้นแล้วหรือยังคะซิส ^ ^ อันที่จริงสำหรับเรา ไม่ว่าจะภาษาอะไร ถ้าอยากฟังพูดอ่านเขียนให้คล่อง ก็ต้องเริ่มจากการตั้งเป้าหมาย มีขั้นตอน คลุกคลีกับสื่อภาษานั้นให้เยอะๆ ทั้งเพลง หนังสือ ภาพยนตร์ มันจะค่อยๆ ซึมซับไปเรื่อยๆ พยายามหาเพื่อนต่างชาติคุยด้วยก็จะดีมาก
ภาษาไม่มีทางลัดค่ะ ถ้าอยากเก่งต้องอยู่กับมันทุกวัน ติวแค่ตอนสอบ ยังไงก็ไม่เก่ง ( นี่ประสบการณ์ตรงของคนเขียนเลย ) ถ้าเรามีแพชชั่น รักในภาษาอังกฤษจริงๆ เราจะขวนขวายพัฒนาทักษะโดยอัตโนมัติ หาสิ่งยึดเหนี่ยวให้ได้ แล้ว English จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ^^
วันนี้เราต้องขอตัวลาไปก่อนแล้วล่ะค่ะ ขออวยพรให้สาวๆ ทุกคนเรียนภาษาอังกฤษอย่างมีความสุข ด้วยรักจาก SistaCafe และพี่พีชชี่ Enjoy!
------------------
ติดตามคลิปอื่นๆ จากทาง SistaCafe Channel ได้ที่นี่เลย!
https://www.youtube.com/channel/UCBprglBI3go1nm29cAYs_gw