1. SistaCafe
  2. 9 นิสัยที่ควรทำ เมื่อเข้าสู่ 'วัยทำงาน'


เพื่องาน เพื่อเงินในอนาคต สาวๆ ซิสต้าอาจจะคิดว่าการปูทางมีแค่ 2 อย่าง ไม่เรียนให้เก่ง ก็ดูแลตัวให้สวยสุดๆ ถึงจะหางานได้ง่าย แต่ในความจริง นายจ้างหรือลูกค้าเค้าไม่ได้คาดหวังเพียงแค่ 2 สิ่งนี้น่ะสิ!


จากประสบการณ์อันโชกโชนของพี่อาร์ตที่เข้ามาสู่วัยทำงานแล้ว ( ฟังดูแก่เลย --" ) เชื่อเถอะจ้ะว่าเราควรปูพื้นฐานตัวเองให้มากกว่านั้น เพอร์เฟคที่สุดได้ยิ่งดี ต่อให้ใครจะว่าน่าหมั่นไส้ ก็ยังดีกว่าจบไปแล้วรู้สึกเคว้ง เริ่มอะไรไม่ถูกเลยนะ ( ถือฤกษ์งามยามดีเปลี่ยนตัวเองซะตั้งแต่ปีใหม่นี้ยิ่งดีเลย ^^ )



#1 เห็นความสำคัญของการตรงต่อเวลา

นิสัยที่ให้เพื่อนรอ ไปสาย ไปเลท ควรเลิกได้แล้ว ตอนนี้เพื่อนอาจจะไม่ว่าอะไร หยวนๆ กันไป ( เหรอ? ) แต่โตไปต้องไปเจอผู้หลักผู้ใหญ่อีกมาก ไม่มีใครหยวนๆ ให้กับเรานะจ๊ะ แม้เราจะมีเหตุผล ไม่ใช่ข้ออ้างก็ตามทีมืออาชีพของทุกสายงานเริ่มที่การตรงต่อเวลานะจ๊ะ


#2 หัดแต่งตัว

ที่จริงสาวๆ เริ่มจะมีออกงานตามโอกาสต่างๆ บ้างแล้วในวัยเรียน เช่น งานพร็อม, งานบายเนียร์, งานแต่งงาน ( ไปเป็นแขกร่วมงานนะจ๊ะ ไม่ใช่เป็นเจ้าสาว 555+ ) สำหรับสาวที่ไม่ชอบแต่งตัวควรปรับตัวเสียตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วแหละ เพราะในวัยทำงานมันจะมีอีกหลายลุคที่เราไม่สามารถเลี่ยงได้เลย โดยเฉพาะในลุคยูนิฟอร์มทำงาน ถ้าไม่อยากดูแก่ ก็ต้องทำการบ้านกันล่วงหน้าสักหน่อย


#3 หนักเอาเบาสู้กับทุกงาน

ไม่มีมารยาหญิงในการทำงานแบบมืออาชีพ อยากอยู่รอดก็ต้องแกร่ง ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ถ้ายังไม่ได้ทำ ไม่มีการอ้างปวดท้องเมนส์อย่างพร่ำเพรื่อ ไม่มีการอ้างสิทธิสตรีเพื่อเรียกร้องความเห็นใจ ความเป็นมืออาชีพคือการแสดงความรับผิดชอบต่องานอย่างถึงที่สุด ( แต่ก็อย่ามากเกินไปจนป่วยหนักนะจ๊ะ หาจุดพอดีกันนิดนึง )


#4 ดูแลสุขภาพ

ไม่เพียงปวดท้องเมนส์เท่านั้นที่ต้องหาทางแก้ไขให้ไม่กระทบกับหน้าที่การทำงาน สุขภาพทั่วไปทั้งสุขภาพกาย ผิวพรรณ และจิตใจก็ต้องดูแลเสียตั้งแต่วัยรุ่นๆ นี่แหละยิ่งดี เพราะผู้หญิงเมื่อเข้าสู่วัยทำงานความเสื่อมโทรมจะบุกเร็วมาก มากในขนาดที่ว่าเทียบกับวัยเรียนคือคนละเรื่องกันเลย สิวเอย อ้วนเอย สมัยเรียนที่น่ารำคาญใจมันก็แค่ทำให้เราบ่นไปงั้นๆ แต่พอวัยทำงานปุ๊บ สิวเป็นเดือน อ้วนเป็นปีเลยนะจ๊ะ ( เว้นเสียแต่สาวๆ จะหาทางลัด ซึ่งมันก็ต้องใช้ตังค์พอควรแหละ )


#5 เลิกงอแงได้แล้ว

ตอนที่ยังสาววัยเรียนเรามีเวลาอีกมากที่จะกินๆ เล่นๆ จึงไม่รู้สึกว่าการเป็นคนขี้แยให้กับหลายปัญหามันจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร แต่พอถึงวัยทำงานปุ๊บ! ต้องเลิกนะจ๊ะ ยิ่งโตเป็นผู้ใหญ่ ภาระยิ่งมีให้ทำตั้งเยอะ มัวแต่มานั่งร้องไห้กัน นั่นไม่เอา นี่ไม่เอา เดี๋ยวก็ตามโลกไม่ทันหรอก ที่สำคัญก็คือ' ไม่มีใครอยู่ตามใจเราได้ตลอดเวลาหรอกนะ 'แต่ก็ไม่ได้ห้ามถึงกับขนาดที่ว่าอย่าร้องไห้แม้แต่สักครั้งเดียว อันนั้นก็เกินป๊ายยยย 555+ น้ำตาเป็นกลไกธรรมชาติจ้ะ ร้องบ้างก็ได้เวลาที่เราอดทนถึงที่สุดแล้ว เอาแค่ล้างตาล้างใจให้ใสวิ้งพร้อมรับเช้าวันใหม่ดีกว่าเนอะ

#6 พึ่งพาผู้ใหญ่ให้น้อยที่สุด

อยากเป็นอิสระมากขึ้น สาวๆ ก็ต้องพร้อมที่จะเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นด้วยการมีส่วนร่วมหลายอย่างที่พ่อแม่เคยทำ เคยรับผิดชอบโดยหลักในบ้าน ถ้าพูดกันตามตรงก็คือไม่พ้นเรื่อง' เงิน 'นั่นแหละ ถ้าเป็นไปได้ พยายามหางานพิเศษทำตั้งแต่วัยเรียน นอกจากจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทางบ้านไปได้บางส่วน เรายังมีทุนไว้สำหรับหางานหรือทำธุรกิจหลังเรียนจบอีกด้วยนะ

#7 เดินทางให้เก่ง

เราไม่อาจพึ่งพาพ่อแม่ให้คอยไปรับ-ส่งเราได้ตลอดแน่นอน ในอนาคตเราอาจจะได้ไปทำงานต่างจังหวัด ไปเรียนต่อต่างประเทศ การพึ่งพาตัวเองนี่แหละดีที่สุดแล้ว



ไม่เพียงการจดจำเส้นทาง, สอบใบขับขี่ หรือหัดออกทริปเท่านั้นที่ต้องหัดทำด้วยตัวเองซะตั้งแต่ยังวัยรุ่น การเอาตัวรอดระหว่างที่เดินทางไปลำพังก็เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เกิดสถานการณ์คับขัน เราจะได้ปลอดภัยไงล่ะ

#8 เลิกมองความรักแบบเด็กๆ โฟกัสถึงอนาคตมากขึ้น

สาเหตุหนึ่งที่หลายคู่ที่คบกันตั้งแต่สมัยเรียนไม่สามารถไปกันรอดได้เมื่อถึงวัยทำงาน นั่นก็เพราะพวกเขาปรับตัวไม่ทันในเรื่องมุมมองความรัก เคยคบกันแบบเด็กๆ ใสๆ ยังไง ก็ยังจะคบกันไปอย่างนั้น จนลืมไปว่าภาระของความเป็นผู้ใหญ่มันโหดร้ายและหนักหน่วงขึ้นทุกวัน



ถ้ายังอยากจะคบกันให้นานๆ ไม่ต้องถึงกับโฟกัสที่การหางานหาเงินร่วมกันก็ได้ แต่อะไรที่เป็นนิสัยงี่เง่าแบบเด็กๆ ควรเลิกไปซะ เช่น งอนในเรื่องไม่เป็นเรื่อง, เจ้าชู้ไปทั่ว, รักสนุกไม่คิดผูกพัน ทั้งเขาและเราควรปรับตัวให้พร้อมกับอนาคตที่กำลังจะมาถึง เชื่อพี่อาร์ตเถอะว่าในวัยผู้ใหญ่ อกหัก-หาคนรักไม่ได้เป็นเรื่องเล็กมาก เพราะเรื่องงานและเงินเป็นเรื่องที่จริงจังที่สุดแล้ว

#9 เรียนภาษาให้เก่งระดับ excellent

การคิดว่าจะเรียนเพื่อให้มันผ่านๆ ไปเป็นความคิดที่อันตรายที่สุด วัยเรียนนี่แหละนาทีทองของการเรียนภาษาอย่างมากแล้ว ไม่ว่าจะภาษาอังกฤษหรือภาษาที่ 3 อื่นๆ ควรฟัง-พูด-อ่าน-เขียน เอาให้ดีเลิศไปเลย ใครว่าดัดจริตก็อย่าแคร์ เพราะภาษามีผลต่อการทำงานมากกว่า 50% ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความได้เปรียบที่สามารถทำงานอะไรก็ได้ ( ได้ค่าจ้างที่สูงกว่าเงินเดือนแบบไทยๆ ด้วย ), นำไปสอบวัดทักษะแล้วอัพเงินเดือนได้, ต่อยอดธุรกิจให้ไกลกว่าที่คิดได้ หรือผลประโยชน์อื่นๆ ที่เป็นผลข้างเคียง เช่น มีโอกาสได้ทำงานในต่างประเทศ, มีคอนเนคชันเป็นเพื่อนชาวต่างชาติหลายคน, ได้แฟนฝรั่ง( Wow!! )

อย่าคิดจะมาเรียนเอาทีหลังเมื่อตอนทำงานแล้ว เพราะในวัยทำงานมักจะหาเวลาที่เหมาะสมลงตัวได้ยากมากพอมีเวลาก็ไม่มีเงินไปเรียน พอมีเงินเรียนก็ไม่มีเวลา หรือถ้าจะเรียนแบบเปิดหนังสืออ่าน ดูรายการใน youtube ก็ไร้ซึ่งระเบียบ ในที่สุดก็ล้มเลิกโปรเจคซะเอง ล้มเหลวไม่เป็นท่า


สิ่งไหนยังไม่ได้เริ่ม เริ่มเสียแต่วันนี้เลยจ้ะสาวๆ


ทำแล้วดูเกินวัย ดีกว่าเลยวัยมาแล้วรู้สึกเสียดายนะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้