*~บทที่ 7~*

แม้ช่วงเวลาอันสุดแสนจะเร่าร้อนของวาดลัดดากับแฟนหนุ่มอย่างโชติวุฒิจะผ่านไปอย่างรวดเร็วตามความคิดของคนทั้งคู่ แต่ห่างออกไปราวหนึ่งช่วงตึกภายในห้องของคณิต คือ ช่วงเวลาแห่งความเงียบเหงาที่สุดแสนจะยาวนาน

หนุ่มน้อยนอนกระสับกระส่ายพลางพลิกตัวไปมาอย่างว้าวุ่นใจ เขาไม่สามารถหยุดความคิดที่มีต่อวาดลัดดา ณ ขณะนี้ได้ ทั้งๆ ที่รู้ดีว่าในเวลานี้เจ้าหล่อน กำลังทำอะไรอยู่ ซึ่งความเป็นจริงชายหนุ่มควรทำใจยอมรับและเฉยชากับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตั้งนานแล้ว แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเอาแต่โทษตนเองที่ปากแข็งไม่ยอมสารภาพรักกับเธอ จนกระทั่งต้องมาเสียท่าให้กับชายหนุ่มที่ก้าวเข้ามาชุบมือเปิบแล้วคว้าตัวเธอไป แต่สิ่งที่น่าเจ็บใจยิ่งกว่านั้นก็คือ ท่าทีที่วาดลัดดาแสดงออกมาว่าเป็นห่วงและรักโชติวุฒิมากแค่ไหน นั่นยิ่งทำให้คณิตปวดใจและร้าวลึกมากกว่าเดิม

ความทรมานที่เกิดขึ้นอยู่ทุกวัน มันทำให้เขาอยากจะกลั้นใจตายวันละหลายๆ รอบแต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ชายหนุ่มพึงใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ นั่นก็คือ การได้อยู่เคียงข้างวาดลัดดา หญิงสาวผู้เป็นที่รัก ซึ่งเธอเปรียบเสมือนอากาศบริสุทธิ์ที่ให้เขาได้หายใจ และอยู่อย่างมีความหวังต่อไปในทุกๆ วัน

คณิตดีดตัวขึ้นมาจากที่นอน หลังจากต้องทนฝืนตนเพื่อข่มตาให้หลับอยู่นาน ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเตียงเพื่อเปลี่ยนชุด และไม่ลืมที่จะหยิบแจ็คเก็ตสีเทาตัวโปรดมาสวมทับกับเสื้อยืดสีขาวก่อนที่จะออกไปข้างนอก หนุ่มน้อยมุ่งตรงไปยังร้านเหล้าซึ่งตั้งอยู่ตรงมุมถนนฝั่งตรงข้ามของหอพัก เขาจำไม่ได้ว่าเริ่มมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่และติดใจมันตั้งแต่ตอนไหน พอรู้สึกตัวอีกที ก็จำได้ว่าที่นี่มักจะเป็นที่แรกที่เขานึกถึงเสมอยามรู้สึกทุกข์ใจ

ชายหนุ่มหย่อนก้นลงบนเก้าอี้หน้าเคาท์เตอร์ แล้วสั่งเบียร์เป็นการอุ่นเครื่องเหมือนอย่างเคย ก่อนที่จะนั่งพูดคุยปรับทุกข์กับบริกรพร้อมๆ กับจิบเบียร์ไปพลางและสูบบุหรี่ไปพลาง ใครจะรู้ว่าหนุ่มน้อยที่ดูสุภาพอ่อนโยนและค่อนข้างเหนียมอายอย่างเขา จะกลับกลายเป็นนักเที่ยวยามราตรีเหตุเพราะผู้หญิงเพียงคนเดียว

คณิตสั่งเบียร์เพิ่มเป็นแก้วที่สองหลังจากพ่นควันออกมาด้วยท่าทีที่เจนโลก บางทีที่เขารู้สึกติดใจในวิถีชีวิตยามค่ำคืนแบบนี้ นั่นอาจเป็นเพราะชายหนุ่มเชื่อในคำกล่าวที่ว่า เหล้าไม่เคยทำให้ใครต้องเจ็บปวด ( อาจแค่เฉพาะตอนนี้ ) ก็เป็นได้ เขาสอดส่ายสายตามองดูผู้คนที่มาเที่ยวด้วยความเพลิดเพลิน จนบางทีก็รู้สึกอิจฉาหลายๆ คนที่มาเที่ยวด้วยกันเป็นคู่ไม่ได้

กลางดึกของคืนวันจันทร์ที่ร้านเหล้ากลับบางเบาไร้ซึ่งผู้คนกว่าปกติ นั่นอาจเป็นเพราะวันนี้ตรงกับวันทำงานวันแรกของสัปดาห์ และด้วยความที่ผู้คนไม่แน่นหนานัก เป็นเหตุให้คณิตเหลือบไปเห็นหญิงสาวร่างเล็ก ผมสั้นซอย ดูโดดเด่นด้วยชุดสีแดงเพลิงที่สะดุดตา เจ้าหล่อนควงคู่มากับหนุ่มใหญ่ที่ดูมีฐานะ แต่ทว่าหัวล้าน แถมลงพุง หนำซ้ำยังดูมีอายุห่างจากเธอมากอยู่หลายรอบ ชายหนุ่มนึกย้อนความทรงจำได้ว่า เขาเคยพบผู้หญิงคนนี้เมื่อตอนกลางวัน แต่ทว่าชายหนุ่มที่เดินควงคู่มานั้น กลับไม่ใช่นายแพทย์หนุ่มอย่างที่เคยเห็น

“ ผู้หญิงอะไร...หน้าไม่อาย ” หนุ่มน้อยบ่นพึมพำถึงความเจ้าชู้ในตัวเธอ ก่อนที่จะหันหน้ากลับไปยังเคาท์เตอร์เพื่อสั่งเบียร์เพิ่มอีกแก้ว ซึ่งพอดีกับที่หนุ่มใหญ่หัวล้านพาทิพย์อำพันมานั่งข้างๆ หนำซ้ำยังสั่งเบียร์ให้กับเจ้าหล่อนเช่นกัน

หนุ่มน้อยพยามยามนั่งหันหลังเพื่อไม่ต้องการที่จะให้เธอได้เห็นหน้า ชายหนุ่มรู้ดีว่าไม่ใช่สิ่งสมควรที่จะให้เจ้าหล่อนรู้ว่าเขามาเที่ยวในที่แบบนี้ และถ้าหากเธอเห็นหน้าเขาและจำได้ว่าเคยพบกัน ดีไม่ดีอาจจะมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นตามมา


“ ดื่มหน่อยนะคะเสี่ย ” ชายหนุ่มได้ยินเสียงหวานๆ ที่ทิพย์อำพันกล่าวออดอ้อนชายแก่ที่ควงมา เขาเหลือบมองดูเธอก็พบว่าหล่อนกำลังยื่นแก้วเบียร์ส่งให้ชายหัวล้านด้วยท่าทีที่เต็มไปด้วยจริตจะก้าน

“ ฮ่อออ...ขอบใจนะจ๊ะหนู ” เสี่ยเฒ่าตอบรับ พลางเอื้อมมือที่หยาบกร้านทั้งสองข้างไปจับเข้าที่มือของทิพย์อำพันขณะที่เธอกำลังประคองแก้วอยู่

หญิงสาวส่งยิ้มให้อย่างแหยงๆ ก่อนที่จะค่อยๆ เอามือออกจากแก้ว แล้วแอบเช็ดกับชายกระโปรงอย่างรู้สึกรังเกียจ

“ ฮ่าาา หนูจ๋า...เสร็จจากที่นี่แล้ว เราจะไปต่อกันที่ไหนดีจ๊ะ ?? ” ชายแก่ถามพยาบาลสาวด้วยสายตากรุ้มกริ่ม

“ คงไปต่อไม่ได้หรอกค่ะ พรุ่งนี้หนูต้องทำงานแต่เช้า ” หล่อนตอบเสียงอิดออด

“ ฮั่นแน่!! อยากได้ค่าตัวเพิ่มใช่มั้ย ?? ไปเถอะนะหนูเดี๋ยวเสี่ยจ่ายเพิ่มให้เป็นสองเท่าเลย ” เขาต่อรอง

“ ไม่ได้จริงๆ ค่ะเสี่ย... ” เธอปฏิเสธ แต่เสี่ยใหญ่กลับมองว่าหญิงสาวเล่นตัว ซึ่งแม้แต่คณิตเองก็เข้าใจไปแบบนั้น แล้วก็ไม่วายที่หนุ่มน้อยจะบ่นพึมพำเกี่ยวกับตัวเธออีก

“ จะเล่นตัวทำไม...เขาให้ขนาดนี้ก็น่าจะรีบคว้าไว้ ” ชายหนุ่มพูดจบก็กระดกเบียร์จนหมดแก้วก่อนที่จะลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ…

“ เสี่ยขา...เดี๋ยวหนูขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ!! ” ทิพย์อำพันทำเสียงออดอ้อน

“ ได้จ้า...แต่รีบกลับมาไวๆ นะ เดี๋ยวเสี่ยขาดใจซะก่อน ” เขาขอร้องเธอ

หญิงสาวไม่ตอบอะไรเพียงแต่ฉีกยิ้มให้กับเสี่ยใหญ่ เผยให้เห็นฟันสีขาวที่เรียงตัวสวยอยู่ภายใต้เรียวปากที่เคลือบด้วยลิปสติคสีแดงฉาน

พยาบาลสาวลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำก่อนที่จะเหลือบมองเขากลับมาด้วยสายตาที่ยั่วยวน แต่เพียงแค่ผ่านขอบกำแพงพอให้ลับตาเสี่ยใหญ่เท่านั้น เธอก็เบะปากแสดงท่าทีที่ขยะแขยงในตัวเขาขึ้นมาในทันที…

++++++++++++++++++++++++++++++

หญิงสาวล้างมือในอ่างอยู่อย่างนั้นราวกับว่า มือของเธอเลอะคราบสกปรกที่ฝังลึกเสียเต็มประดา ก่อนที่จะพึมพำกับตนเองออกมาอย่างหงุดหงิด

“ ไอ้แก่สกปรก เอามือมาจับฉันอยู่ได้...รู้อย่างนี้ฉันไม่รับงานเสียดีกว่า!! ” เธอบ่นอย่างหัวเสีย

ครั้นเจ้าหล่อนล้างมือจนพอใจและคิดว่ามันสะอาดพอแล้ว เธอก็เช็ดมือด้วยกระดาษชำระก่อนที่จะเดินออกไป แต่ทันใดนั้นหญิงสาวก็ชนเข้ากับคณิตที่เดินออกมาจากห้องน้ำฝั่งตรงข้ามอย่างไม่ทันตั้งใจ

“ นี่!! ตาบ้า ระวังหน่อยสิ เดินชนฉันแล้วเห็นไหม!! ” ทิพย์อำพันกล่าวอย่างหัวเสีย ก่อนที่จะเหลือบมองหน้าเขา

ชายหนุ่มเห็นเธอก็ตกใจจึงรีบเบือนหน้าแล้วเดินหนี เพราะกลัวเธอจะเห็นเข้า

“ เอ๊ะ!! อะไรกัน เดี๋ยวสิ...ไม่คิดจะขอโทษฉันเลยเหรอไง ?!! ” เจ้าหล่อนร้องเรียกพลางเดินตาม

ชักไม่เข้าท่าแล้วสิ!!...หนุ่มน้อยคิดในใจ เขารีบเดินไปที่เคาท์เตอร์แล้ววางเงินให้กับบริกรเป็นค่าเครื่องดื่ม ก่อนที่จะรีบเดินออกไปจากตรงนั้น แต่กลับไม่ทันการเพราะทิพย์อำพันได้ยืนขวางทางเขาไว้พอดี

“ นี่!! พ่อคนไร้มารยาท เดินชนฉันแล้วไม่คิดจะขอโทษกันเลยหรือไง ?? ” หญิงสาวร้องถาม

หนุ่มน้อยก้มหัวปะหลกๆ ทำทีเป็นขอโทษ เขาทำอยู่อย่างนั้นซ้ำๆ เพื่อไม่ต้องการให้เธอเห็นหน้า

“ เงยหน้าพูดเป็นมั้ย ?!! นี่เห็นว่า เป็นเรื่องตลกหรือยังไง ?!! ” เจ้าหล่อนหงุดหงิด

เสี่ยเฒ่ามองเห็นทิพย์อำพันกำลังยืนโวยวายอยู่อีกฟากหนึ่งของร้าน ด้วยความสงสัยเขาจึงลุกขึ้นไปดู เผื่อจะได้ช่วยเธอไกล่เกลี่ยหวังทำคะแนนเพื่อให้เจ้าหล่อนพอใจ

“ เกิดอะไรขึ้นจ๊ะหนู...ให้เสี่ยช่วยมั้ย ?? ” ชายแก่ถาม

“ ไม่เป็นไรหรอกค่ะเสี่ย...เขาแค่เดินชนหนู แล้วไม่ขอโทษเท่านั้นแหละ!! ” หญิงสาวหัวเสีย

“ เฮ้ยย!! อะไรวะน้องชาย ลื้อเดินชนเขา แล้วไม่ขอโทษ ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลยนี่หว่า!! ” เสี่ยค่อนขอดคณิตเพื่ออวดสาว พลางจับบ่าเขาไว้ทางด้านหลัง

หนุ่มน้อยสะดุ้งโหยงทันทีที่มือของเสี่ยใหญ่จับลงไปบนบ่า จึงทำให้เขาเผลอเงยหน้าเหลือบไปมองด้านหลัง เผยให้ทิพย์อำพันเห็นหน้าของชายหนุ่มอย่างชัดเจน

หญิงสาวถึงกับผงะ เธอจำได้ทันทีว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นเพื่อนของวาดลัดดา ซึ่งเจ้าหล่อนได้พบกับเขาเมื่อตอนเที่ยงของวันแม้จะเป็นช่วงเวลาไม่กี่นาทีก็ตาม แต่ความไม่ถูกชะตาของเธอที่มีต่อเขาในตอนแรกกลับทำให้หญิงสาวจำหนุ่มน้อยคนนี้ได้อย่างขึ้นใจ และถ้าหากเขาจำเธอได้ ดีไม่ดีชายหนุ่มอาจนำเรื่องของเธอกับเสี่ยหื่นกามไปเล่าให้พิมพ์ประภัสร์ฟัง แน่นอนว่าหากเรื่องนี้ถูกแพร่งพรายออกไป ตำแหน่ง ศรีภรรยาของศัลยแพทย์หนุ่มผู้มีชื่อเสียง จะต้องมลายลงเป็นแน่ ซึ่งหญิงสาวจะยอมปล่อยให้เรื่องเป็นเช่นนี้ไปไม่ได้

“ ไม่เป็นไร...ช่างมันเถอะ!! ” เธอกล่าวให้อภัยด้วยความรีบร้อน พลางเดินหนีเขาอย่างรวดเร็ว

คณิตมองตามเธอไปอย่างงุนงง เสี่ยใหญ่เองก็เช่นกัน เขาร้องเรียกเธอพลางเดินตามไปที่โต๊ะ หญิงสาวหยิบกระเป๋าจากเคาท์เตอร์แล้วเดินออกมาทำท่าว่าจะหนี ซึ่งพอดีกับที่เสี่ยเดินเข้าไปหา

“ หนูจ๋า...จะรีบไปไหน ?? เบื่อแล้วเหรอ ?? ” เขาร้องถาม

“ หนู...หนูจะกลับบ้านแล้วค่ะ หนูปวดหัว ปวดท้องด้วย คิดว่าน่าจะเป็นไข้ทับระดูน่ะค่ะ ” เธอหาข้ออ้าง

“ ไข้...ทับ...ระดู ?? ” ชายแก่สงสัย

“ หนูป่วยเป็นประจำเดือนค่ะ...วันมามาก...แถมไม่ค่อยสบาย ครั่นเนื้อครั่นตัวไปหมด!! ” หญิงสาวแกล้งทำทีเป็นไม่สบาย พลางเอามือกุมท้องและกุมขมับ

เสี่ยใหญ่มองดูเธออย่างสงสัยพลางครุ่นคิดไปมา...

“ นะคะ...หนูขอกลับบ้านก่อนแล้วกัน แล้วค่อยเจอกันใหม่ ” หล่อนอ้อนวอน

“ อะไรวะ ?!! ทำอย่างนี้ได้ยังไง ?? อั๊วจ่ายเงินไปแล้วนะ!! ” เสี่ยหงุดหงิด

“ หนูก็มาตามที่ตกลงกันแล้วไงคะเสี่ย แต่วันนี้มันเหตุสุดวิสัยจริงๆ นี่คะ!! ” เธอโต้

“ ไม่ได้!! อั๊วไม่ยอม!! ” เสี่ยแก่ยืนกราน

คณิตที่เฝ้ายืนดูเหตุการณ์อยู่ตรงนั้นเห็นคนทั้งคู่ต่างถกเถียงกันอยู่นาน ท่าทางเสี่ยใหญ่ดูเหมือนจะไม่พอใจอะไรบางอย่างในตัวของทิพย์อำพัน ชายหนุ่มแปลกใจเล็กน้อยกับเหตุการณ์ตรงหน้า แต่ก็ต้องทำทีเป็นหลบเมื่อเห็นพยาบาลสาวเหลือบมองมา หนุ่มน้อยคิดในใจว่าไม่ใช่ธุระอะไรที่เขาจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว จึงผละตนเองเดินออกมาจากร้านนั้น

ทางด้านทิพย์อำพันหลังจากที่โต้เถียงกับเสี่ยใหญ่อยู่สักพัก เธอก็ตัดสินใจหยิบเงินที่เขาจ่ายมาให้ในตอนแรกกลับคืนไปเพื่อให้หมดเรื่องหมดราวที่จะมารั้งกัน แต่เสี่ยเฒ่าไม่ยอม หนำซ้ำยังยืนกรานว่าจะให้เธอไปต่อกับเขาในคืนนี้

หญิงสาวแสดงท่าทีปฏิเสธอย่างเห็นได้ชัด หล่อนอ้างถึงเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ว่า เธอถูกจ้างมาเพื่อเป็นเพื่อนเที่ยวกับเขาเท่านั้นไม่ใช่ขายบริการ แต่ชายแก่กลับไม่ฟังหนำซ้ำยังลากเธอออกมาจากร้าน แล้วพยายามจับขึ้นรถเพื่อที่จะพาไปขึ้นสวรรค์

“ กรี๊ดดดดด ปล่อยฉันนะไอ้บ้า!! ไอ้ลามก!! ” ทิพย์อำพันกรีดร้องสลับกับด่าทอ

“ ฝันไปเถอะนางหนู!! คืนนี้มาเป็นของเสี่ยมา!! ” ชายแก่กล่าวอย่างหื่นกระหาย

หญิงสาวยื้อยุดกับเขาอยู่ตรงลานจอดรถหลังร้าน พลางเอามืออีกข้างทุบตีหวังจะให้ปล่อยเธอ

“ เฮ้ย!! เปิดประตูรถ...เร็วๆ สิวะ!! ” เขาเร่งสั่งคนขับรถให้มาเปิดประตู

เมื่อเห็นดังนั้นพยาบาลสาวกลับยิ่งกรีดร้องหนักขึ้นด้วยความตื่นกลัว เธอพยายามดันตนเองไม่ให้เข้าไปอยู่ในรถ แต่ก็สู้แรงชายอย่างเสี่ยใหญ่ไม่ไหว หญิงสาวโดนผลักให้เข้าไปจนตัวติดกับเบาะ แต่ยังมิวายที่หล่อนจะส่งเสียงเล็ดลอดออกมา แม้ว่ามันแทบจะทำให้หมดแรง แต่เธอก็ยังดิ้นสลับกับส่งเสียงร้อง พลางภาวนาขอให้มีคนเข้ามาช่วย…

และดูเหมือนว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะมีจริง ไม่ทันที่เสียงกรีดร้องครั้งสุดท้ายจะหมดลง ไม้หน้าสามขนาดเหมาะมือก็ฟาดลงมาบนท้ายทอยของเสี่ยใหญ่ จนถึงกับล้มฟุบลงไปกองอยู่ที่หน้าตักของเธอพอดี และตามด้วยคนขับรถของเสี่ยที่ถูกฟาดจนสลบอยู่กับพื้นอีกเช่นกัน

หญิงสาวเห็นดังนั้นจึงรีบดันตนเองออกมาจากรถโดยไม่รีรอ และจะหันไปขอบคุณแก่ผู้ที่มาช่วยชีวิตไว้ แต่ทว่ากลับต้องรู้สึกกระอักกระอ่วนใจเพราะผู้ที่ช่วยชีวิตเธอนั้นคือ คณิต นั่นเอง

หนุ่มน้อยมองดูผลงานของตนที่นอนกองอยู่กับพื้นสักครู่หนึ่ง ก่อนจะหันมาที่ทิพย์อำพัน หญิงสาวรีบเบือนหน้าหนีเขาทันทีพลางเดินจ้ำฝีเท้าออกมาอย่างรวดเร็ว

“ คุณ...เดี๋ยวก่อนสิคุณ!! ” หนุ่มน้อยตะโกนเรียก แต่เธอกลับทำเป็นหูทวนลมแสร้งไม่ได้ยิน

“ เดี๋ยวก่อนคุณ...คุณ...คุณทับทิม!!! ” คณิตเรียกชื่อเธอ หลังจากที่นึกชื่อเจ้าหล่อนได้

หญิงสาวชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินชายหนุ่มเรียกชื่อ แต่เธอก็พยายามที่จะไม่หันกลับไป…

“ คุณลืมกระเป๋าไว้บนรถ!! ” หนุ่มน้อยร้องเรียกอีกครั้ง

ทิพย์อำพันได้ยินดังนั้นจึงรีบสำรวจตนเอง แล้วก็พบว่าเธอลืมกระเป๋าไว้จริงๆ หญิงสาวหมุนตัวกลับแล้วเดินไปที่รถของเสี่ยนั่น แต่หนุ่มน้อยกลับหยิบมันออกมา แล้วยื่นส่งให้เธอเอง หล่อนจึงคว้ามันไว้และมองหน้าเขา

“ นาย...รู้จักชื่อฉันด้วยเหรอ ?? ” หญิงสาวถามด้วยความสงสัย

“ ก็...วันนี้...ผมได้ยินคุณหมอเรียกชื่อของคุณ ก็เลย...ลองเรียกดู ” เขาพูด

“ ถ้าอย่างนั้นฉันขอให้นายลืมชื่อของฉัน ลืมตัวฉัน แล้วก็เหตุการณ์ทั้งหมดในวันนี้จะได้ไหม ?? ” เธอขอร้อง

“ ทำไม ?? คุณกลัวคุณหมอจะรู้เรื่องที่คุณออกมาเที่ยวกับไอ้เสี่ยหื่นนี่เหรอ ?? ” ชายหนุ่มย้อนถาม

“ ก็...ทำนองนั้นแหละ!! รับปากฉันได้หรือเปล่า ?? ” ทิพย์อำพันขอร้องอีกครั้ง

“ นี่...ผมไม่อยากจะยุ่งกับคุณนักหรอกนะ ไม่ต้องย้ำให้มากก็ได้ ” คณิตขมวดคิ้ว

“ ก็ดี...ฉันจะได้ไม่ต้องเปลืองน้ำลาย ” หญิงสาวพูดจบพลางทำท่าจะเดินออกไป แต่ชายหนุ่มกลับจับข้อมือของเธอไว้

“ เดี๋ยวก่อน!! คุณยังไม่ได้ขอบคุณผมเลยนะ!! ” เขาว่า

พยาบาลสาวหันกลับมาพร้อมกับทำหน้าล้อเลียนใส่ หนำซ้ำยังปฏิเสธออกไปด้วยน้ำเสียงห้วนๆ…

“ โอยยย...โอยยย ” อยู่ๆ เสียงร้องโอดโอยก็ดังขึ้นบริเวณแถวเท้าของคณิต

ทั้งเขาและทิพย์อำพันก้มลงไปมองที่มาของเสียงนั่น ก็พบว่าเป็นเสียงของเสี่ยเฒ่าที่ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด และทำท่าเหมือนกับว่ากำลังจะได้สติ ทั้งคู่มองหน้ากันแล้วรีบวิ่งออกมาจากตรงนั้น ก่อนที่ชายแก่หัวล้านและคนขับรถจะฟื้นขึ้นมาแล้วเห็นพวกเขาทั้งคู่...

คณิตและทิพย์อำพันวิ่งออกมาจนถึงอีกฟากหนึ่งของถนน ซึ่งไกลพอที่ทั้งสองคนจะเชื่อได้ว่าหลบพ้นจากบริเวณลานจอดรถของร้านแล้ว

“ นี่นาย!! ปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้ ” หญิงสาวร้องบอกพลางสลัดมือให้ออกจากเขา

“ ผมไม่ได้อยากจะจับตัวคุณนักหรอกนะ...อย่าคิดไปไกล ” ชายหนุ่มค่อนขอด

“ ฉันเองก็ไม่ได้อยากให้นายมาโดนตัวฉันนักหรอกย่ะ!! ” เธอเถียง

“ ถ้าอย่างนั้นก็แยกย้ายกันตรงนี้ แล้วหวังว่าผมคงจะไม่ได้เจอกับคุณอีก ” หนุ่มน้อยพูดออกมาเพื่อจะได้รีบไปให้พ้นๆ

“ แน่นอน!! ฉันเองก็ไม่ได้อยากจะเจอนายเหมือนกัน ” หญิงสาวพูดจบแล้วหันหลังเดินจากไป

“ ผู้หญิงอะไร...นิสัยเสีย ” หนุ่มน้อยบ่นพึมพำแล้วส่ายหน้า ก่อนที่จะเดินออกไปจากบริเวณนั้นเพื่อกลับห้อง

ทิพย์อำพันเรียกรถแท็กซี่เพื่อให้ไปส่งเธอยังอพาร์ทเม้นท์ หญิงสาวหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋า แล้วต่อสายหานายหน้าที่ให้งานแก่เธอในวันนี้


“ สวัสดีค่ะ...ทับทิมเองนะคะ คือ...ลูกค้าทำเกินข้อตกลงที่จ้างค่ะ หนูเลยขอไม่รับงานอีกแล้ว ขอโทษทีนะคะ!! ” ไม่ทันที่อีกฝ่ายจะพูดอะไร พอเธอกล่าวจบจึงกดวางสายแล้วปิดเครื่องทันที

หญิงสาวแกะซิมส์ที่อยู่ในมือถือออกมาแล้วหักมันทิ้ง ก่อนที่จะใส่ซิมส์ใหม่เข้าไปในเครื่องเพื่อเปิดการใช้งาน

พยาบาลสาวสัญญากับตนเองว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะรับงานเป็นเพื่อนเที่ยวให้กับพวกเสี่ยแก่ๆ กระเป๋าหนักๆ เพราะคิดว่ามันไม่คุ้มกับสิ่งที่จะต้องเจอ แถมเปลืองตัวโดยใช่เหตุ ซึ่งตามข้อตกลงแล้วเธอจะไม่รับงานขายบริการแต่อย่างใด แต่ครั้งนี้มันมากเกินกว่าที่จะรับไหว หญิงสาวจึงตัดสินใจที่จะเลิกทำอย่างเด็ดขาด

ทิพย์อำพันเดินกลับขึ้นห้องด้วยความเหนื่อยหน่าย เธออาบน้ำและสวมชุดนอนผ้าซาตินที่ดูเบาสบาย จากนั้นจึงทิ้งตัวลงบนเตียง แต่ก่อนที่จะหลับตาหญิงสาวนึกย้อนถึงเหตุการณ์ในค่ำคืนนี้ที่ได้พบเจอ รวมไปถึงเรื่องที่หนุ่มน้อยได้เข้ามาช่วยเหลือเธอไว้ ถึงแม้เจ้าหล่อนจะไม่รู้ว่าเขาชื่ออะไร แต่ก็รู้ว่าชายหนุ่มมีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับพิมพ์ประภัสร์

แต่สิ่งนั้นกลับทำให้หญิงสาวไม่รู้สึกหวั่นใจใดๆ เกี่ยวกับเรื่องความลับ นั่นเพราะเธอมีความรู้สึกบางอย่างที่เชื่อใจหนุ่มน้อยคนนี้...อย่างไรก็ดีพยาบาลสาวก็แอบกล่าว ขอบคุณ เขาอยู่ในใจ ก่อนที่จะผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า

+++++++++++++++++++++++++++++