ตอนที่ 4.2 : เธออยากให้เขา แต่ฉันเจ็บ P. 2

แต่ปัญหามันอยู่ที่... ฉันน่าจะจ้องพวกเขาอย่างโจ่งแจ้งเกินไป เพราะความคิดที่ประดังประดาออกมาจากหัวผู้หญิงนั้นกำลังบอกว่า เธอทั้งเคืองทั้งอายที่ฉันเผือกเรื่องของเธอมากไป

อะไรกัน ฉันก็แค่มองแค่นี้ทำเคือง

“ทำอะไร อายซะบ้าง นี่ที่สาธารณะนะ คนอื่นเขาจ้องมองเราอยู่” เธอว่าก่อนจะเหลือบตามาทางฉันที่กำลังเผือกอย่างไม่เกรงใจ

และความคิดในหัวของฝ่ายชายที่หันมาส่งสายตาอาฆาตฉันคือ เขาก็กำลังอายที่ฉันมองเขาแบบนั้น แล้วยังไม่พอ มือที่ฉันถือโทรศัพท์ดันเป็นองศาเดียวกับที่เห็นแล้วจะต้องเข้าใจผิดว่าฉันถ่ายคลิปพวกเขาอยู่ ฝ่ายชายจึงโมโห คิดจะกระชากโทรศัพท์ฉันไปดูเดี๋ยวนั้น

อ่อ ฉันเข้าใจแล้วว่าจะเคืองฉันทำไมกัน

เท่านั้นแหละ ฉันจึงรีบวางโทรศัพท์ลง

“เอ่อ... หนูไม่ได้ถ่ายคลิปอะไรนะคะ” แล้วหันขวับกลับมองไบค์ที่กำลังกวาดส้มตำคำสุดท้ายเข้าปาก “ไปเถอะแก”

“ไมอ่ะแก” เขาถามด้วยหน้าสีหน้างุนงง แต่ฉันก็ดึงแขนเขาให้ลุกขึ้นก่อนที่ชายคนนั้นจะด่าฉันแล้วกระชากโทรศัพท์ฉันไปดู ถึงตอนนั้นฉันอาจจะอายจนกลายเป็นคนถ่ายคลิปประจานชาวบ้านไม่ได้ๆ ไม่อยากดังในพันทิปนะค๊า

“ไปเหอะ”

“เห้ย เรายังไม่ได้กินน้ำเลย” ไบค์ยังบ่นต่อ

ฉันกวาดสายตามองขวดน้ำที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ

“ก็ยกไปด้วยสิวะ น้ำขวด ไม่ใช่น้ำแก้วร้าน” ฉันว่าก่อนจะเดินลากเขาออกมาจากร้านในที่สุดเฮ้อ~ ยังดีที่คู่นั้นไม่แรงขนาดไปตามมาขอดูข้อมูลโทรศัพท์ฉันเดินนำไบค์ไปที่ตลาด จากนั้นก็พาเขาเดินดูของขวัญไปเรื่อยๆ ซึ่งฉันก็บังเอิญเจอร้านเสื้อร้านหนึ่ง ซึ่งมีเสื้อขายเกือบร้อยสีให้เลือกในราคาตัวละร้อยเดียว ฉันนี่ตาลุกวาว หยุดเดินแล้วเลือกซื้อเสื้อในทันใด ถ้าซื้อห้าร้อยก็ได้ตั้งห้าตัว

กรี๊ดดด ฉันอยากจะมาตลาดนี้ทุกอาทิตย์ เพราะเข้าห้างที เสื้อยืดแบบนี้ได้แค่ตัวเดียวด้วยซ้ำมั๊งว่าแล้วฉันก็จิ้มเลือกเสื้ออยู่พักใหญ่ ก่อนจะหันไปมองไบค์ที่ยังหันซ้ายหันขวาไปที่ร้านอื่น เชิงว่าจะมองหาของขวัญดีๆ ให้พู่กัน

“แกไม่เอาเหรอ” ฉันถาม ก่อนจะยื่นเสื้อห้าตัวให้พี่คนขาย“ไม่อ่ะ เราเตรียมตังค์มาแค่สำหรับเสื้อคู่ว่ะ”

คำตอบของเขาทำให้ฉันต้องงอหน้าแบบเซ็งๆ ใจเขานี่มาเพื่อของขวัญเท่านั้นสินะ ทำไมไม่คิดจะเอ็นจอยชีวิตที่มีฉันบ้างว๊า“โห น้อง ซื้อตั้งห้าตัว ก็แบ่งเสื้อร้านนี้ให้แฟนซักตัวสิ เขาก็กะจะซื้อเสื้อคู่ให้น้องเลยนะ” พี่คนขายแซวฉันจนฉันต้อง รีบปฏิเสธหน้าเหวอ

“เอ่อ ไม่ใช่แฟนค่ะ”“โธ่พี่ แฟนผมซื้อตั้งห้าตัว แถมให้ผมตัวนึงได้ไหม” ไบค์แสร้งแกล้งเป็นแฟนฉัน จนฉันต้องรีบแอบอ่านใจเขาว่าเขาคิดอะไรกันแน่

หัวใจของฉันเต้นระรั่วขณะอ่านความคิด บางทีเขาอาจจะมีใจให้ฉันบ้างก็ได้แต่... คำตอบที่ได้มากลับทำฉันใจแป้ว เขาแค่ต้องการได้ของฟรีเท่านั้น แงงง อุตส่าห์แอบดีใจ

เจ้าของร้านหรี่ตามองไบค์ที่กำลังยิ้มแป้น “น้องผู้หญิงเขาบอกแล้วนี่ว่าไม่ใช่แฟน”“บ้าเหรอพี่ แฟนจริงๆ ไม่งั้นจะมาสองคนเหรอ” มันยังคงส่งสายตาใสซื่อ แสดงละครต่อบทจะเจ้าเล่ห์ก็เจ้าเล่ห์นะนายไบค์ เพื่อของฟรีเนี่ย

“อ่ะๆ พี่ให้ เลือกสักตััว” เจ้าของร้านว่า“ให้แฟนผมเลือกแล้วกัน” ไบค์ว่าก่อนจะส่งให้ฉันเลือกเสื้อแทนเขา ฉันจึงตัดสินใจเลือกเสื้อสีเทาให้

จริงๆ ใจเขาไม่ได้อยากทำให้ฉันดีใจหรือหลอกเจ้าของร้านต่อไปหรอก แต่เขาเลือกเสื้อผ้าไม่เป็นต่างหากแต่นี่ถ้าฉันไม่มีความสามารถอ่านใจแกนะไบค์ ฉันคงดีใจจนลอยขึ้นไปหาดาวบนท้องฟ้าแล้ว แกไม่ควรทำกับฉันแบบนี้เลยนะ


เมื่อฉันและไบค์เดินออกจากร้าน ฉันจึงรีบบ่นออกไปอย่างฉับไว “แหม เพื่อของฟรี ทำขนาดนี้เลยเหรอคะ คุณไบค์”

“เห้ยไม่ได้ดิวะ เรามันคนบ้านจน อะไรฟรีได้ก็เอา จริงๆ ถ้าเจ้าของร้านไม่ให้ เราก็ไม่กะจะตื้อนะ แต่เขาดันให้แบบง่ายๆ นี่หว่า” เขาว่าพลางเดินไปที่ร้านเสื้อคู่

และตามสเต็ปเดิม เจ้าของร้านก็คิดว่าเราเป็นแฟนกัน

โอ๊ยยย พี่อย่าเข้าใจผิดเลยค่ะ หนูรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ อยู่ตรงกลางใจ

“คู่นี้น่ารักจังเลยค่ะ พี่ว่าเอาเสื้อรูปตัวการ์ตูนผู้ชายกับผู้หญิงที่พี่เป็นคนเพ้นท์เองดีกว่า” พูดจบพี่เจ้าของร้านก็ไม่สนใจท่าทางการปฏิเสธของฉัน แล้วหยิบเสื้อคู่ที่ของผู้หญิงจะเป็นรูปผู้หญิงนั่งเขิน แต่ของผู้ชายจะเป็นรูปผู้ชายหันไปหอมแก้ม และมีข้อความที่แบ่งระหว่างเสื้อสองตัวนี้ว่า ‘รักเสมอ’ ‘รักตลอดไป’

มันน่ารักมากอ่ะ เห็นแล้วอยากจะแย่งยัยพู่กันไปใส่เอง

ตัวนี้แหละน่ารักแก” ฉันหันไปบอกไบค์ที่ยังจะเลือกตัวอื่นต่อ

ใจจริงก็อยากจะเก็บไว้เผื่อถึงเวลาของฉันกับไบค์จะได้ใส่เองหรอกนะ แต่อย่างนั้นก็เถอะ การที่บอกเขาไปอย่างซื่อสัตย์น่าจะดีกว่า

ก็ฉันไม่ซื่อสัตย์เรื่องที่รู้ว่ายัยพู่กันมีชู้แล้วนี่นา แอบรู้สึกผิดเล็กน้อยอ่ะ

“ใช่ค่ะ แฟนน้องบอกแล้ว เลือกเลยเชื่อพี่ ลิมิเต็ด อิดิชั่นนะคะ”

คำว่าแฟนที่พี่เจ้าของร้านว่า ทำฉันอยากจะจินตนาการไปว่า ฉันเป็นคนใส่เสื้อนี้ไปเที่ยวทะเลกับไบค์เลยนะ แต่พอมาสู่โลกความเป็นจริงแล้ว...

“งั้นก็ได้ครับ พี่บอกว่าสวย เพื่อนผมก็บอกว่าสวย แฟนผมคงชอบเหมือนกัน”

เพร้ง! ไม่ใช่เสียงหน้าแตกนะคะ (แต่อาจจะเป็นเสียงหน้าของเจ้าของร้าน) เสียงหัวใจฉันแตกร้าวค่ะ รู้สึกร้าวรานเมื่อได้ยินคำพูดของมัน

ฮือออ เช็ดน้ำตาแป๊บ

“เท่าไรครับ” ไบค์ถามเจ้าของร้าน

ฉันมองไบค์ที่จ่ายตังค์อยู่ก็ยิ่งเจ็บใจตัวเอง ทำไมเมื่อตอนปีหนึ่งฉันถึงปล่อยโอกาสให้ลอยหายไปอย่างง่ายดาย ทั้งที่จริงๆ ไบค์เคยชอบฉันก่อนจะชอบพู่กันด้วยซ้ำ แต่ก็เพราะการที่ฉันได้รัับรู้ความคิดในแง่ร้ายของคนตั้งแต่เด็กนั่นแหละ มันเลยทำให้ฉันไม่คิดจะไว้ใจเขาง่ายๆ จนสุดท้าย ก็อย่างที่เห็น ต้องทนเจ็บปวดดูคนที่แอบชอบไปมีความสุขกับคนอื่น

เย่~ ปรบมือรัวๆ ให้กับความโง่ของยัยเกลหน่อยค่า

“เกล”

“...”

“เกล!” ไบค์ตะโกนเรียกฉันระหว่างพร่ำเพ้ออยู่ในใจ

“ฮะ”

“ไปกินน้ำกันเหอะ หิว” ไบค์พูด

ฉันพยักหน้าก่อนจะเดินตามไบค์ไปที่ร้านกาแฟโบราณที่จัดร้านแบบเก่าๆ สมชื่อ ซึ่งน่านั่งมากเลยล่ะ รสชาติชานมเย็นที่สั่งไปก็เด็ดมาก จะขัดใจก็แต่ร้านซีดีเพลงข้างๆ ดันเปิดเพลงตื๊ดเสียจนร้านกาแฟโบราณกลายเป็นผัับไปเลยทีเดียว แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ร้านข้างๆ เปิดเพลงตื้ดเท่าไร แต่มันอยู่ที่เขาเปิดไม่จบเพลงต่างหาก กำลังอินกับเพลงแต่ต้องถูกขัดด้วยการเปลี่ยนเพลงซะงั้น วู้ววว ต่อทองหล่อดีกว่าจ้า

เดี๋ยวๆๆๆๆ ที่นี่มีเด็กๆ อ่านอยู่ ควรพูดถึงแต่สิ่งสวยงามบนโลกใบนี้ค่ะเกล

จังหวะที่ฉันกับไบค์กำลังนั่งดื่มด่ำกับชานมเย็นก็บังเอิญได้ยินเสียงพวกผู้หญิงที่นั่งโต๊ะข้างๆ บ่นเรื่องแฟนซื้อของให้

เอ่อ...ทำไมช่วงนี้ได้ยินเรื่องของคนอื่นบ่อยจัง ไม่ต้องเสียเวลาอ่านความคิดเลย

“แฟนเราซื้อเสื้อคู่มาให้ เรารู้สึกแบบ วันครบรอบทั้งที ซื้อให้แค่นี้เองเหรอ”

“ก็น่ารักดีออก” เพื่อนอีกคนตอบ

“แต่วันครบรอบต้องทำอะไรให้ยิ่งใหญ่กว่านี้ป่ะ ฉันล่ะอิจฉาแก ได้แฟนรวย เอาดอกกุหลาบมาให้เป็นคันรถ” แม่คนบ่นก็ยังพูดต่อด้วยน้ำเสียกระแนะกระแหน

แหม อยากได้ขนาดนั้น ไม่ทำงานหาเงินเองล่ะจ้ะ คิดแต่ว่าจะให้ผู้ชายเอามาให้ คนแบบนี้เขาเรียนว่าสวยแต่รูป จูบไม่หอบย่ะ

“ไม่หรอก กุหลาบก็ไม่เห็นจะเอาไปทำอะไรได้เลย แฟนฉันเก่งศิลปะ ฉันอยากให้แฟนวาดรูปคู่ระหว่างฉันกับเขามากกว่า”

“จะบ้าเหรอ กุหลาบสิเจ๋ง ลงไอจีอวดชาวบ้านได้สบาย ฉันว่าฉันต้องหาแฟนรวยๆ แบบเธอแล้วแหละ”

ได้ฟังพวกเธอบ่นแล้วฉันก็สะดุ้งนิดๆ รู้สึกได้เลยว่าไบค์คงจะเครียดกับของขวัญราคาไม่กี่ร้อยที่เขาซื้อมาแน่ และเมื่ออ่านความคิดเขาแล้ว ก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เสียด้วย ฉันจึงต้องแกล้งปลอบใจทั้งๆ ที่รู้ว่ายัยพู่กับเป็นผู้หญิงแบบอยากได้ผู้ชายรวยเหมือนกับผู้หญิงโต๊ะข้างๆ

“ไม่เป็นไรหรอกแก พู่กันอาจจะไม่ใช่คนแบบนั้นก็ได้นะ”

เอ่อ...นี่ฉันพูดแบบนี้กับเขาจริงๆ เหรอ? โอ้ยกระดากปากที่ต้องเข้าข้างคนชั่ว แต่ฉันกลัวไบค์เสียใจนี่นา

“เราว่าของขวัญของเรามันต้องไม่เจ๋งแน่ๆ ”

“เฮ้ย ไม่หรอก แกคิดมาก อย่าเอาตัวเองไปเทียบกับคนอื่นสิ แกมีดีตั้งเยอะ”

และแล้วก็ดูเหมือนว่าไบค์จะคิดอะไรบางอย่างออก เขาสบสายตาฉันอย่างมีเลศนัย ก่อนจะจับมือฉันทั้งสองข้างเชิงเป็นการขอร้อง

“เกล แกเก่งศิลปะนี่ แกวาดรูปคู่ของเรากับพู่กันให้หน่อย ถ้าเราไปถึงเกาะเสม็ดนะ เราจะดีดกีตาร์ร้องเพลงเซอร์ไพรส์พู่กันเลย” ไบค์พูดจบก็หลับตาเพ้อถึงเหตุการณ์ในอนาคต แล้วก็หันมาสบตาฉันใหม่ ก่อนจะกระพริบตารัวๆ ใส่ฉันแล้วพูดต่อ “นะ แกเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของเรา ถ้าแกไม่ช่วยเรา เราก็ไม่รู้จะทำยังไง”

เจอเขาอ้อนวอนมาแบบนั้นฉันก็ต้องจำใจยอมรับคำขอร้อง

ฉันพยักหน้า “อือ”

สรุปทุกอย่างที่ทำมาวันนี้ก็เพื่อตัวแกและพู่กันสินะ ความรู้สึกแบบนั้น ที่แกเคยมีให้ฉันมันหายไปไหนหมดวะ แกอยากให้เขา แต่ฉันเจ็บว่ะ


#โปรดติดตามตอนต่อไป