"แก้วนี้ / จานนี้ใส่น้ำตาลหรือเปล่าคะ!? "
น่าจะเป็นคำถามยอดฮิตของสาวๆ ที่กำลังไดเอทแทบทุกคน
ก็แหม... ใครๆ ก็รู้ทั้งนั้นว่าน้ำตาลกับความอ้วนเป็นของคู่กัน ถ้ากินเยอะก็กลายเป็นหมูอู๊ดๆ พอดี
ผู้หญิงหุ่นบางร่างน้อยจึงเห็น ' น้ำตาล ' เป็นศัตรูตัวฉกาจของการลดน้ำหนัก เลี่ยงได้เป็นเลี่ยง โดยเฉพาะสารเคมีอย่าง ' สารให้ความหวาน ( sweeteners ) ' ยิ่งต้องหนีให้ไกลเลยล่ะ
หากเธอกินน้ำตาลเชิงเดี่ยว ( น้ำตาลขาวแบบขัดสี ) ในปริมาณมากๆ จะส่งผลกระทบกับระบบเผาผลาญได้ ทำให้คอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์สูง ความต้านทานต่ออินซูลินการสะสมไขมันในตับและช่องท้อง เป็นโรคอ้วน เบาหวาน โรคหัวใจหรือแม้แต่มะเร็ง!
แม้จะมีสารให้ความหวานที่มีสารตั้งต้นเป็น ' น้ำตาลธรรมชาติ ' มากมายในท้องตลาด แต่กินมากๆ ก็เกิดโรคได้เช่นกัน เผลอๆ จะอันตรายกว่าน้ำตาลทรายขาวปกติเสียอีก
และนี่คือบทความ' สารให้ความหวานธรรมชาติ 6 ชนิดที่อันตรายสุดๆ 'ให้เธอได้รู้และรับมือ ควบคุมปริมาณเพื่อสุขภาพที่ดีค่ะถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเล้ย!
1. น้ำหวานจากเกสรดอกไม้ ( Agave Nectar )
Agave nectar หรือน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ เป็นสารให้ความหวานจากธรรมชาติยอดฮิต มักนำมาใช้แทนน้ำตาลปกติเพราะมีค่าดัชนีน้ำตาล GI ( glycemic index ) ต่ำ
อย่างไรก็ตาม...น้ำหวานชนิดนี้มี ' ฟรุกโตส ' สูงมาก หากกินเยอะเกินไปจะเกิดภาวะดื้ออินซูลินในระยะยาว ทำให้ระดับน้ำตาลและอินซูลินในเลือดพุ่งสูงเรื้อรัง ไม่ลดต่ำเท่าภาวะปกติง่ายๆ ซึ่งหากเป็นแบบนี้ต่อเนื่องอาจทำให้เกิดโรคได้ค่ะ
น้ำตาลปกติมีฟรุกโตส 50% แต่น้ำหวานจากเกสรดอกไม้มีมากถึง 70-90% เลยทีเดียว โดยรวมแล้ว กินน้ำตาลทรายขาวปกติยังปลอดภัยกว่าค่ะ
2. น้ำตาลอ้อย ( แบบไม่ขัดสี / ออร์แกนิก )
" น้ำตาลอ้อย " เป็นสารให้ความหวานธรรมชาติอีกชนิดหนึ่งที่เรามักเห็นเป็นส่วนประกอบของ ' อาหารเพื่อสุขภาพ ' หลากหลายชนิด แม้จะเป็นแบบออร์แกนิกไม่ขัดสี แต่น้ำตาลก็คือน้ำตาลอยู่ดี
กระบวนการผลิตน้ำตาลอ้อยอาจต่างจากน้ำตาลปกติอยู่บ้าง แต่องค์ประกอบทางเคมีนั้นเหมือนกันเด๊ะ ที่สำคัญ ร่างกายก็แยกแยะความแตกต่างระหว่างน้ำตาลสองชนิดนี้ไม่ได้ด้วยสิ
ในระบบย่อย ร่างกายจะแยกน้ำตาลออกเป็นกลูโคสและฟรุกโตส ดังนั้นจึงส่งผลต่อระบบเผาผลาญเหมือนกันทุกอย่าง กินเยอะก็อ้วนได้เหมือนกันนั่นเอง
3. น้ำอ้อยระเหย ( Evaporated Cane Juice )
อาจจะไม่คุ้นชื่อนัก แต่น้ำตาลอ้อยระเหย ( evaporated cane juice ) มักเจอในส่วนประกอบของอาหารสำเร็จรูปทั้งหลายแหล่ ดูมีประโยชน์ต่อสุขภาพเพราะคำว่า ' น้ำอ้อย ' ใช่ไหมคะ แต่ที่จริงก็ไม่ต่างจากน้ำตาลปกติหรอกนะ
บริษัทผู้ผลิตอาหารต่างๆ ตั้งใจหลอกลูกค้าด้วยการใส่คำว่า ' ระเหย ' ( evaporated ) ทำให้เราคิดว่ามีนำตาลแค่นิดเดียว ทั้งที่จริงเป็นปริมาณมหาศาล เมื่อสารให้ความหวานชนิดนี้ไปถึงลำไส้และตับ ร่างกายก็แยกประเภทไม่ได้แล้ว รู้แค่ว่าเป็น ' น้ำตาล ' เท่านั้นเองค่ะ
4. น้ำตาลทรายแดงไม่ขัดสี ( brown sugar )
ในกระบวนการผลิต ' น้ำตาล ' จะมีน้ำตาลสองส่วน คือน้ำตาลปกติ ( สีขาว ) ที่ใช้ได้จริงและกากน้ำตาล ( สีน้ำตาล ) แยกออกมาเตรียมนำไปทิ้ง แต่บางครั้งเมื่อนำไปสกัดและเข้ากระบวนการทางโรงงาน อาจมีการผสมกากน้ำตาลเข้าไปเพิ่ม ทำให้น้ำตาลมีสีน้ำตาล เรียกว่า ' น้ำตาลทรายแดง ' นั่นเองค่ะ
กากน้ำตาลมีความเป็นน้ำตาล 50% และมีแร่ธาตุปนอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ถ้าพูดกันตรงๆ คือน้ำตาลทรายแดงคือ น้ำตาลปกติที่นำมาผสมกับกากน้ำตาลที่อันตรายน้อยกว่าเท่านั้น แต่ข้อดีคือ แร่ธาตุในกากนั้นไม่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพแต่อย่างใด
เพราะน้ำตาลชนิดนี้มีน้ำตาลทรายขาวปนอยู่ครึ่งต่อครึ่ง หากกินเยอะก็ส่งผลร้ายได้เช่นกัน ต้องควบคุมปริมาณในการกินให้ดีค่ะ ^^
5. น้ำตาลมะพร้าว
น้ำตาลมะพร้าวมีที่มาจากการลำเลียงของน้ำหวานในต้นมะพร้าว กระบวนการผลิตก็ง่ายๆ เป็นธรรมชาติ แค่สกัดน้ำหวานแล้วปล่อยให้น้ำมะพร้าวระเหยเป็นไอ มีส่วนประกอบของไฟเบอร์และแร่ธาตุ มีค่าดัชนีน้ำตาล ( GI ) ต่ำกว่าน้ำตาลปกติ
แต่เสียใจด้วย...น้ำตาลมะพร้าวมีฟรุกโตสสูงมาก โดยรวมแล้วประมาณ 35-40% น้อยกว่าน้ำตาลปกติแค่นิดหน่อยเท่านั้น แม้จะอันตรายน้อยกว่าน้ำตาลขาว แต่ก็อันตรายอยู่ดี อย่ากินเยอะดีที่สุดค่ะ
6. น้ำผึ้ง
น้ำผึ้งเป็นสารให้ความหวานที่สาวๆ ยอมรับมากที่สุด เพราะมาจากธรรมชาติ ( ผึ้งผลิตจากน้ำหวานเกสรดอกไม้ ) มีสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินและแร่ธาตุ แต่อัตราส่วนของน้ำตาลก็ยังมีเยอะมากถึง 80% เลยล่ะค่ะ
งานวิจัยหลายแห่งเปรียบเทียบ ' น้ำผึ้ง ' กับ ' น้ำตาลปกติ ' และพบว่าน้ำผึ้งมีผลข้างเคียงต่อระบบเผาผลาญน้อยกว่า อันตรายน้อยกว่าคล้ายน้ำตาลมะพร้าวนั่นแหละ
ถ้าเธอสุขภาพปกติดี กินน้ำผึ้งในปริมาณที่เหมาะสมก็ไม่เกิดปัญหาอะไร เพราะมีประโยชน์กว่าน้ำตาลขาวและคอร์นไซรัปแน่นอน แต่ถ้ากินเยอะก็อ้วน ไม่ได้ช่วยลดน้ำหนักแต่อย่างใดค่ะ
==========================
ถึงแม้สารให้ความหวานจากธรรมชาติ 6 ชนิดนี้จะมีส่วนประกอบพื้นฐานจาก ' น้ำตาลขัดสี ' บางชนิดก็มีอันตรายน้อยกว่า มีประโยชน์กว่า แต่หากกินเยอะก็ทำให้เกิดโรค ส่งผลต่อความอ้วนและระบบเผาผลาญได้เช่นกัน
หากเธอสุขภาพปกติ กินขนมหวานบ้างในปริมาณที่เหมาะสม เป็นกำลังใจให้ชีวิตก็ไม่ผิดอะไร แต่อย่ากินเพลิน กินรัวๆ จนระดับน้ำตาลในเลือดสูงปรื๊ด นอกจากจะป่วยง่าย จะมีไขมันสะสมเป็นห่วงยางตามต้นแขน ต้นขา หน้าท้องด้วยน่ะสิ
จัดความสมดุลให้ชีวิตได้ แล้วสาวๆ ซิสต้าจะมีความสุขกับของหวานโดยไม่ต้องทรมานค่ะ ^^
==========================
Cr. 6 Healthy Sugars That Can Harm You [ authoritynutrition ]
https://authoritynutrition.com/6-healthy-sugars-that-can-kill-you/
บทความที่เกี่ยวข้อง
5 เคล็ดลับ กินน้ำตาลอย่างไรให้ 'ไม่อ้วน'
https://sistacafe.com/summaries/6649
14 วิธีหยุดกินน้ำตาลแบบขาดสติ!! ของสาวอยากผอม
https://sistacafe.com/summaries/5471
เลิกอ้วน! 10 ส่วนผสม รสหวาน ใช้แทน 'น้ำตาล' ได้
https://sistacafe.com/summaries/3079