คบกันมานานจนรู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้ว มันก็ต้องมีบ้างแหละที่เริ่มหมดมุข จืดชืด ไม่หวือหวาเหมือนตอนจีบกันใหม่ๆ เราพอใจที่ได้เจอความรักดีๆ แบบนี้ หรือเราเริ่มรู้สึกเบื่อขี้หน้าแฟน เบื่อทุกอย่างที่กำลังเป็นอยู่ ลองเช็คกันทีละข้อ
#1 อะไรที่แสดงความ 'พิเศษ' ต่อกันมีน้อยลงมาก

จำวันเกิดหรือวันครบรอบกันไม่ได้ไม่เป็นไร ยังให้อภัยว่าอาจจะยุ่งเกินจนลืม แต่คนเราเป็นแฟนกันถ้าไม่มีเรื่องให้ตื่นเต้นกันบ้างนี่สิแปลก !
อย่างน้อยควรจะมีกิจกรรม หรือของขวัญอะไรก็ได้ที่ทำให้รู้สึกว่าชีวิตของการมีแฟนมันพอจะแตกต่างจากชีวิตโสดบ้าง ถ้าชั่งน้ำหนักแล้วมันไม่ต่างอะไร หรือแย่กว่าตอนอยู่ตัวคนเดียว คงต้องคุยกันบ้างถึงเรื่องนี้ ดูเผินๆ อาจจะดูเล็กๆ งี่เง่า แต่ถ้ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรู้สึก มันไม่เล็กเลยนะเธอ
#2 เริ่มเปรียบเทียบกับคนอื่นบ่อยมากขึ้น

คำพูดมักจะสื่ออะไรบางอย่างเกี่ยวกับความคิดของคนพูดเสมอ ถึงแม้จะเป็นการพูดเล่น ขำๆ มันก็ต้องมีความหมายแฝงและอาจมีความรู้สึก' ไม่ขำ 'ซ่อนอยู่
ถ้าเราเริ่มพูดถึงคู่อื่น หรือความเป็นแฟนที่แสนดีของคนอื่นให้แฟนเราฟัง ( หรือในมุมกลับกัน แฟนเราเป็นคนทำแบบนี้ซะเอง ) การจับเข่าคุย พูดกันเปิดอกก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงชวนเลิกกันหรอก มันดีกว่าเราปล่อยไปเพราะคิดว่าไม่มีอะไร แล้วมารู้สึกตัวเอาตอนสายไปแล้วนะ
#3 อะไรที่เคยทำให้เป็นปกติ กลายเป็น ' ไร้สาระ '

ถ้าลืมยังพอจะเข้าใจได้ว่างานยุ่ง งานเยอะ มีภาระสำคัญอื่นๆ ให้คิดให้ทำเยอะแยะ แต่ถ้าจู่ๆ ก็มาบอกว่า' ไร้สาระน่าาาา... เล่นอะไรก็ไม่รู้ 'ในสิ่งที่เราก็ทำให้กันเป็นปกติ มันคือสิ่งที่ไม่ปกติแล้ว
แต่กระนั้นก็อย่าฟูมฟาย ดราม่าใส่เขา หรือพูดชวนทะเลาะ ใจเย็นๆ ค่อยๆ คุยกัน
' เธอไม่ชอบหรอ ? มีอะไรที่อยากให้แก้ไขรึเปล่า ? ไม่ชอบก็บอกกันตามตรงได้นะจะได้ไม่ทำอีก '
ตกลงกันดีๆ แฟร์ๆ รักจะได้ยืดยาวราบรื่นต่อไป
#4 ละเลยความรู้สึกมากขึ้น เพราะคิดว่า ' ก็อยู่ได้ ไม่เห็นเป็นไรนี่ '

สาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้คู่รักหลายคู่เลิกกันแบบฟ้าผ่า ก็คือ ปัญหาเล็กๆ ที่สะสมมานาน โดยเฉพาะการมองข้ามความรู้สึก คิดไว้หลายครั้งว่า
' ไม่เห็นเป็นไรนี่ เธอเป็นคนบอกเองว่าโอเค อยู่ไหว '
แต่ลืมเช็คให้แน่ใจว่า' เธอก็ต้องการความช่วยเหลือจากเรานะ สนใจกันหน่อยสิ '
คนที่พูดว่า
' ไม่เป็นไร '
ต้องแน่ใจจริงๆ ว่าตัวเองโอเคนะ และห้ามคิดว่า การไปขอความช่วยเหลือแฟนเราในภายหลังเมื่อไม่โอเคจริงๆ จะแปลว่าเสียหน้า หรือเกรงใจ
--- เป็นแฟนกัน ควรบอกให้กันรู้ทุกเรื่อง อย่าให้ต้องเดาใจกัน ความรักมันไม่ใช่เกม เดาใจกันบ่อยมันเหนื่อย
ในขณะที่คนที่เห็นว่าแฟนตัวเองบอกว่า
' ไม่เป็นไรจริงๆ '
ก็อย่าเพิ่งเชื่อว่า เขา / เธอจะพูดอย่างนั้นจริงๆ เพราะลึกๆ เขา / เธอ ก็อยากให้เราช่วยเหลือ เพียงแต่เกรงใจเราหรือไม่ก็อยากจะขอเวลาลองด้วยตัวเองสักตั้ง ปล่อยให้เขา / เธอแก้ปัญหาไปสักระยะ แล้วเราค่อยยื่นมือไปช่วย ดีกว่าไม่สนใจใยดีสักนิด จนกลายเป็นมองข้ามความรู้สึกโดยไม่รู้ตัว
#5 ขี้เกียจมีกิจกรรมคู่รักกันตามปกติที่เคยมี

อย่าคิดลึก ไม่ได้หมายถึงเรื่อง18+ อย่างเดียว 555+ ในที่่นี้หมายความว่า อะไรที่เราเคยทำให้กันเป็นปกติ เช่น คุยโทรศัพท์, ออกไปทานข้าวด้วยกัน, ออกไปเที่ยวกัน ถ้าไม่นับเรื่องงาน หรือภารกิจอื่นที่สำคัญมากๆ แต่มาง้องแง้งงอแง' ไม่เอาอ่ะเธอ เราเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เราขี้เกียจ 'หรือบางทีก็ไม่บอกไม่กล่าว นึกจะปิดเครื่องก็ทำ นึกจะไม่รับโทรศัพท์ก็ไม่รับอย่างงั้น ไม่ติดต่อกลับด้วย แบบนี้มันสมควรแก่การน้อยใจแล้ว
อย่าเก็บความน้อยใจไว้ในใจ ความอดทนไม่ช่วยให้ความรักราบรื่นได้ เพราะสักวันก็ต้องระเบิดออกมา รีบเคลียร์ รีบคุยกันให้รู้เรื่องเพื่อหาทางออกให้เจอโดยด่วน
#6 เอาเรื่องอื่นมาเป็นข้ออ้างมากขึ้น

เวลาเปลี่ยน อะไรก็เปลี่ยนไปเป็นธรรมดา ยังพอจะรับได้ว่า คนเรามันก็ต้องปรับตัวเข้ากับสถานการณ์เสมอ แต่การไม่บาลานซ์ชีวิตให้ดี เลือกทุ่มเทอย่างหนึ่งมากๆ ผลักสิ่งที่เคยสำคัญเป็น' ของตาย 'นี่สิแปลก
ติดงานมากขึ้น, ติดเพื่อนมากขึ้น, บ่นว่าไกลไม่อยากมาหา, บ่นนั่นบ่นนี่จนเหตุผลของคนรักกันดูด้อยมากๆ ไปเลยเริ่มเป็นสัญญาณอันตรายมากๆ ที่อาจต้องเลือกแล้วว่าจะห่างกันสักพักเพื่อให้ปรับเข้าหากันให้ดีขึ้น หรือจบกันตรงนี้ซะที จะได้มีอิสระเต็มที่ไปเลย
ยังไหวรึเปล่า ? หัวใจเราเท่านั้นที่ตอบได้
อย่ายื้อกันถ้านานวันยิ่งรู้สึกแย่มากๆ
ถ้าชั่งน้ำหนักแล้วมีคู่ลำบากกว่าเป็นโสด
ถึงเวลาทบทวนตัวเองให้ดีแล้วจ้ะ ว่าจะเอาไงต่อไป :D
บทความที่เกี่ยวข้อง

เช็คหัวใจกันหน่อยมั้ย? ว่าเรา 'แค่นึกถึง' หรือ 'ยังคิดถึง' แฟนเก่า
https://sistacafe.com/summaries/5664

8 สัญญาณที่บอกว่าคุณกับแฟน ควรคบกันแบบ "เปิดเผย" สักที!
https://sistacafe.com/summaries/5514

10 วิธีก้าวข้าม " อุปสรรคในชีวิตคู่ " o(〒﹏〒)o
https://sistacafe.com/summaries/5435