" ความรัก " เป็นสิ่งที่ไม่เข้าใครออกใคร รักกันวันนี้ ก็หมดรักได้ นับประสาอะไรกับการโดนบอกเลิก การมีแฟนบางครั้งก็ไม่ใช่สิ่งที่ยั่งยืน ไม่มีอะไรมาการันตีได้ว่าคุณกับแฟนจะรักกันไปจนชั่วฟ้าดินสลาย คบกันมานานขนาดไหน หรือว่าแต่งงานมีลูกแล้วก็ยังเลิกรากันได้... ดราม่าขนาดนี้ ใช่แล้วค่ะ บทความนี้ไม่ใช่เรื่องสำหรับคนกำลังอินเลิฟแน่นอน แต่เป็น
เรื่องของคนที่โดนแฟนทิ้ง!
ไม่ว่าแฟนคุณจะทิ้งคุณไปด้วยเหตุผลบ้าบออะไรก็ตาม สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ดึงสติกลับมา พร้อมกับมาอ่านสิ่งที่เรากำลังจะบอกต่อไปนี้ ว่า
อย่าทำเป็นอันขาดในสภาวะอกหักแบบนี้!
1. หยุดร้องไห้, พร่ำเพ้อละเมอหาถึงรักที่จบไปแล้ว

ก่อนที่จะให้คนอื่นช่วยเรา เราต้องช่วยตัวเองก่อนค่ะ อันดับแรกคือต้องควบคุมตัวเองให้ดี ระงับอารมณ์ความรู้สึกของเราให้สงบนิ่งที่สุด การร้องไห้ ตีโพยตีพายเรียกร้องให้เขากลับมานั้นไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้น เพราะ
" คนจะไป ก็ต้องไป "
เราไม่สามารถไปเหนี่ยวรั้งตัวเขาให้อยู่กับเราได้ ต่อให้รั้งตัวได้ แต่เมื่อใจของเขามันไม่อยู่กับเรา ทุกอย่างมันก็จบ!

ทางที่ดี ช่วงแรกๆ อย่ารื้อฟื้นความทรงต่างๆ เกี่ยวกับตัวเขาออกมา จะเป็นการดีที่สุด ไม่เช่นนั้นมันจะยิ่งเป็นการทำร้ายความรู้สึกตัวเองมากขึ้น พยายามอย่าฟื้นฝอยหาตะเข็บ หรือหาเหตุผลว่าทำไมเขาถึงทิ้งเราไป สิ่งที่ควรจะทำให้ได้ ณ จุดนั้นคือ
" อยู่กับปัจจุบัน "
มีอะไรสำคัญที่ต้องทำอีกมากมาย มากกว่าจะไปนึกถึงเรื่องวันวานให้ต้องช้ำใจเล่นนะคะ
2. อย่าโพสต์อะไรลงโซเชียลเด็ดขาด

ในโลกแห่งความเป็นจริง นอกจากจะต้องเลิกร้องไห้ หยุดพร่ำเพ้อถึงเขาคนนั้นแล้ว ในโลกโซเชียลก็ต้องทำด้วย จริงอยู่ที่ Facebook, Instagram, Twitter หรืออะไรต่างๆ เหล่านั้นเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเรา เราสามารถโพสต์หรือแชร์อะไรไปก็ได้ แต่จงอย่าลืมว่าเมื่อมันถูกโพสต์ลงไปแล้ว สิ่งเหล่านั้นก็จะไปอยู่ในที่ที่เป็นสาธารณะโดยทันที!
ไม่ใช่แค่เรื่องอกหักเท่านั้น เรื่องอื่นๆ ก็ด้วย การโพสต์อะไรลงไปบนโลกโซเชียลนั้น มันเป็นการแสดงความเป็นตัวตนของเราในอีกทางหนึ่ง ยิ่งเป็นการแสดงอารมณ์อย่างรุนแรง มันจะทำให้คนภายนอกมองเราในทางที่ไม่ดี โดยไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเราเป็นคนอย่างไร ที่แย่ไปกว่านั้นมันอาจเป็นการรบกวน ทำให้คนอื่นเกิดความรำคาญได้ ซ้ำร้ายไปกว่านั้น หากแฟนเก่ามาเห็นโพสต์ของเราด้วยแล้ว มีแต่เสียกับเสียค่ะ เพราะมันอาจทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองตกเป็นจำเลยในเรื่องนี้อย่างเสียไม่ได้ มองหน้ากันไม่ติดไปเลยล่ะทีนี้

หากอยากหาที่ระบายความรู้สึก หรือทนไม่ไหวแล้ว ต้องโพสต์ความรู้สึกนั้นออกไปให้ได้ แนะนำให้ตั้งสเตตัสในเฟสบุ๊ค อยากเขียน อยากระบายความอัดอั้นตันใจอะไร ก็ปล่อยออกมาให้หมดเลย แต่!!!....ให้ตั้งค่าเป็น Only Me ไปนะคะ เห็นคนเดียวไปนั่นแหละ เราอาจจะอยากให้มีคนมาคอมเมนต์ปลอบเราให้รู้สึกดีขึ้น แต่อย่าลืมว่าเพื่อนในเฟสบุ๊คนั้นไม่ได้มีแค่เพื่อนที่สนิทกันนะคะ เราคงไม่อยากให้คนเป็นร้อยเป็นพันต้องมารับรู้เรื่องของเราแล้วเอาไปโพนทะนาหรอก จริงมั้ย?
หรือในอีกทางหนึ่ง ระบายให้เพื่อนสนิทฟังค่ะ อยากร้องไห้ อยากจะอะไรก็ปล่อยมันออกมาให้หมด คนเป็นเพื่อนกัน ย่อมรับฟังกันได้อยู่แล้ว :)
3. ตามตื๊อทุกวิถีทาง

นึกถึงเวลาที่เราถูกตื๊อให้ซื้อคอร์สความงามของสถาบันความงามในราคาแพงๆ สิคะ ชอบรึเปล่า? มันน่ารำคาญใช่มั้ยล่ะ เวลาที่มีใครมาตามตื๊อให้ทำอะไร ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม กับแฟนเก่าก็เหมือนกันค่ะ การที่เขาทิ้งเรา มันก็หมายความว่าเขาหมดรักเราแล้ว จะตามตื๊อไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะว่าเขาคงไม่กลับมาแน่นอน มิหนำซ้ำเขาจะยิ่งรำคาญเรามากขึ้นจนอยากจะถอยหนีไปให้ห่างๆ เราเลยก็ได้ โดนบอกเลิกก็ว่าหนักพอแล้ว นี่ถ้าโดนเขามึนตึง เพิกเฉย ไม่ใยดี มันไม่หนักกว่าหรือ? คิดดูนะคะ
4. เรียกร้องความสนใจ

ที่จริงการโพสต์อะไรลงบนโซเชียลมีเดียก็เป็นการเรียกร้องความสนใจอยู่แล้ว แต่ในข้อนี้มันรุนแรงกว่านั้นค่ะ บางคนอาจจะบอกว่าตัวเองไม่สบาย อ่อนแอ หรือทำร้ายตัวเอง ( ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือการฆ่าตัวตายเพื่อประชดรัก!! ) เพื่อให้เขากลับมาสนใจ ต้องการให้เขาสงสาร โดยมีนัยประมาณว่า
" อย่าทิ้งฉันไป ฉันอยู่ไม่ได้โดยไม่มีคุณ "
พูดจริงๆ เลยนะคะ แฟนเก่าของคุณเขาอาจจะกลับมาสนใจคุณเพราะความสงสาร แต่!!! ความสงสาร กับ ความรัก มันเป็นคนละเรื่องกันค่ะ ดีไม่ดีความสงสารกลับกลายเป็น
' สมเพชเวทนา '
หรือกลายเป็น
' ความรำคาญ '
จนถึง
' เกลียดขี้หน้า '
ไปเลยก็ได้ ยิ่งเป็นแบบนี้ยิ่งเหมือนเราทำตัวไม่มีค่าอะไร แล้วแบบนี้คุณค่าของเราอยู่ที่ไหนล่ะคะ ลุกขึ้นมาอย่างสตรอง อย่ามัวแต่นั่งจ๋อยเป็นหมาหงอย แบบนี้มันไม่ทำให้อะไรดีขึ้น อย่างน้อย
ต้องรักตัวเอง ก่อนที่จะให้คนอื่นมารักค่ะ!
5. หาคนใหม่มาดามใจทันที

ถ้ามีคนใหม่เข้ามา แล้วคุณรู้สึกรักเขาจริงๆ เราก็ขอแสดงความยินดีด้วย แต่ทว่าชีวิตคนเรามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น! เพราะถ้าเพิ่งเลิกกับแฟนเก่า ไม่มีทางที่คุณจะอยากมีใครเข้ามาใหม่ทันทีหรอก อย่างน้อยมันก็อาจจะมีความอาลัยอาวรณ์รักที่เพิ่งผ่านพ้นไป เว้นเสียแต่ว่าใจจริงนั้นคุณก็ไม่ได้รัก
" คนในอดีต "
ของคุณเลย
ถึงคนใหม่ของคุณจะดีสักแค่ไหน แต่ถ้าหากว่าคุณยังคิดถึงคนเก่าๆ มันก็ไม่ได้ช่วยให้สภาพจิตใจของคุณดีขึ้นมาหรอก มันยิ่งจะเป็นการทรมานทั้งตัวคุณและ
" คนใหม่ "
โดยที่แฟนเก่าก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เรียกว่า
งานนี้คุณจะเจ็บ และยังพาคนอื่นมาเจ็บด้วยนะคะ
6. ระรานแฟนใหม่ กิ๊กใหม่ ของแฟนเก่า

ข้อนี้เรียกว่ารุนแรงที่สุดแล้วล่ะมั้ง จริงอยู่ที่ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน เราและเขามีสิทธิ์ที่จะรัก, เลิกรัก และมีใครคนใหม่แวะเวียนเข้ามาอยู่เสมอ หากเรื่องของเรากับเขามันจบไปแล้ว เขาก็มีสิทธิ์ที่จะไปมี
" คนใหม่ "
คราวนี้ก็เป็นเรื่องของ
" เขาสองคน "
แล้ว เราเองก็ไม่ควรจะไปเป็น
" คนที่สาม "
ในความสัมพันธ์ครั้งนี้ เพราะเราอยู่ในฐานะ
" คนนอก "
เท่านั้น การไประรานความสัมพันธ์ของคนอื่น นอกจากจะไม่ดีในสายตาของคนคู่นั้นแล้ว คุณจะยังดูไม่ดีในสายตาของคนรอบข้างด้วย ที่สำคัญมันเป็นพฤติกรรมที่ทำให้เรา
" ดูไม่แพง "
เป็นอย่างยิ่ง!

*******************************************************
การเลิกรากันของคู่รักแต่ละคู่ต่างมีเหตุผลต่างกัน บางคู่อาจจะยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ ( แม้จะไม่ 100% ) ถึงจะเป็นเรื่องใหญ๋ แต่มันไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิตค่ะ
เศร้าได้ แต่อย่าเศร้านาน
จนกลายเป็นการจมอยู่กับความทุกข์ไปตลอด ชีวิตของคนเราต้องเดินหน้าต่อไปค่ะ ในอนาคตจะมีใครคนใหม่เข้ามาหรือไม่ สิ่งนี้มันไม่สำคัญเลยค่ะ สุดท้ายมันขึ้นอยู่ที่ว่า เราพอใจและเป็นสุขกับชีวิตที่เรามีมากแค่ไหน เชื่อสิคะ
" โดนแฟนทิ้งน่ะ "
มันเรื่องเล็กๆ ไม่ถึงกับตายหรอก!
ขอเป็นกำลังใจให้สาวๆ ทุกคนพบเจอชีวิตดีๆ เจอคนดีๆ เข้ามาในชีวิตนะคะ อะไรต่างๆ ที่ผ่านมาก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตละกันเนอะ หวังว่าบทความของเราจะเป็นกำลังใจ เป็นแรงฮึดในสาวๆ ลุกขึ้นมาแบบสตรองๆ กันได้นะคะ วันนี้ขอตัวลาไปก่อน บ๊ายบาย
บทความที่เกี่ยวข้อง

11 เรื่องดีๆ สำหรับคน "อกหัก"
https://sistacafe.com/summaries/5729

6 พฤติกรรมสุดจะทน ที่ทำให้ผู้หญิงโดนทิ้ง
https://sistacafe.com/summaries/8650

4 วิธีเอาตัวรอด สภาวะอกหักเฉียบพลันช่วงสอบ!!
https://sistacafe.com/summaries/6806