1. SistaCafe
  2. 6 สิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาด!!! เมื่อโดนแฟนทิ้ง
div-gpt-ad-1738652799410-17388794

" ความรัก " เป็นสิ่งที่ไม่เข้าใครออกใคร รักกันวันนี้ ก็หมดรักได้ นับประสาอะไรกับการโดนบอกเลิก การมีแฟนบางครั้งก็ไม่ใช่สิ่งที่ยั่งยืน ไม่มีอะไรมาการันตีได้ว่าคุณกับแฟนจะรักกันไปจนชั่วฟ้าดินสลาย คบกันมานานขนาดไหน หรือว่าแต่งงานมีลูกแล้วก็ยังเลิกรากันได้... ดราม่าขนาดนี้ ใช่แล้วค่ะ บทความนี้ไม่ใช่เรื่องสำหรับคนกำลังอินเลิฟแน่นอน แต่เป็น

เรื่องของคนที่โดนแฟนทิ้ง!

ไม่ว่าแฟนคุณจะทิ้งคุณไปด้วยเหตุผลบ้าบออะไรก็ตาม  สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ดึงสติกลับมา พร้อมกับมาอ่านสิ่งที่เรากำลังจะบอกต่อไปนี้ ว่า

อย่าทำเป็นอันขาดในสภาวะอกหักแบบนี้!


1. หยุดร้องไห้, พร่ำเพ้อละเมอหาถึงรักที่จบไปแล้ว


ก่อนที่จะให้คนอื่นช่วยเรา เราต้องช่วยตัวเองก่อนค่ะ อันดับแรกคือต้องควบคุมตัวเองให้ดี ระงับอารมณ์ความรู้สึกของเราให้สงบนิ่งที่สุด การร้องไห้ ตีโพยตีพายเรียกร้องให้เขากลับมานั้นไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้น เพราะ

" คนจะไป ก็ต้องไป "

เราไม่สามารถไปเหนี่ยวรั้งตัวเขาให้อยู่กับเราได้ ต่อให้รั้งตัวได้ แต่เมื่อใจของเขามันไม่อยู่กับเรา ทุกอย่างมันก็จบ!





ทางที่ดี ช่วงแรกๆ อย่ารื้อฟื้นความทรงต่างๆ เกี่ยวกับตัวเขาออกมา จะเป็นการดีที่สุด ไม่เช่นนั้นมันจะยิ่งเป็นการทำร้ายความรู้สึกตัวเองมากขึ้น พยายามอย่าฟื้นฝอยหาตะเข็บ หรือหาเหตุผลว่าทำไมเขาถึงทิ้งเราไป สิ่งที่ควรจะทำให้ได้ ณ จุดนั้นคือ

" อยู่กับปัจจุบัน "

มีอะไรสำคัญที่ต้องทำอีกมากมาย มากกว่าจะไปนึกถึงเรื่องวันวานให้ต้องช้ำใจเล่นนะคะ



2. อย่าโพสต์อะไรลงโซเชียลเด็ดขาด


ในโลกแห่งความเป็นจริง นอกจากจะต้องเลิกร้องไห้ หยุดพร่ำเพ้อถึงเขาคนนั้นแล้ว ในโลกโซเชียลก็ต้องทำด้วย จริงอยู่ที่ Facebook, Instagram, Twitter หรืออะไรต่างๆ เหล่านั้นเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเรา เราสามารถโพสต์หรือแชร์อะไรไปก็ได้ แต่จงอย่าลืมว่าเมื่อมันถูกโพสต์ลงไปแล้ว สิ่งเหล่านั้นก็จะไปอยู่ในที่ที่เป็นสาธารณะโดยทันที!



ไม่ใช่แค่เรื่องอกหักเท่านั้น เรื่องอื่นๆ ก็ด้วย การโพสต์อะไรลงไปบนโลกโซเชียลนั้น มันเป็นการแสดงความเป็นตัวตนของเราในอีกทางหนึ่ง ยิ่งเป็นการแสดงอารมณ์อย่างรุนแรง มันจะทำให้คนภายนอกมองเราในทางที่ไม่ดี โดยไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเราเป็นคนอย่างไร ที่แย่ไปกว่านั้นมันอาจเป็นการรบกวน ทำให้คนอื่นเกิดความรำคาญได้  ซ้ำร้ายไปกว่านั้น หากแฟนเก่ามาเห็นโพสต์ของเราด้วยแล้ว มีแต่เสียกับเสียค่ะ เพราะมันอาจทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองตกเป็นจำเลยในเรื่องนี้อย่างเสียไม่ได้ มองหน้ากันไม่ติดไปเลยล่ะทีนี้





หากอยากหาที่ระบายความรู้สึก หรือทนไม่ไหวแล้ว ต้องโพสต์ความรู้สึกนั้นออกไปให้ได้ แนะนำให้ตั้งสเตตัสในเฟสบุ๊ค อยากเขียน อยากระบายความอัดอั้นตันใจอะไร ก็ปล่อยออกมาให้หมดเลย แต่!!!....ให้ตั้งค่าเป็น Only Me ไปนะคะ เห็นคนเดียวไปนั่นแหละ เราอาจจะอยากให้มีคนมาคอมเมนต์ปลอบเราให้รู้สึกดีขึ้น แต่อย่าลืมว่าเพื่อนในเฟสบุ๊คนั้นไม่ได้มีแค่เพื่อนที่สนิทกันนะคะ เราคงไม่อยากให้คนเป็นร้อยเป็นพันต้องมารับรู้เรื่องของเราแล้วเอาไปโพนทะนาหรอก จริงมั้ย?



หรือในอีกทางหนึ่ง ระบายให้เพื่อนสนิทฟังค่ะ อยากร้องไห้ อยากจะอะไรก็ปล่อยมันออกมาให้หมด คนเป็นเพื่อนกัน ย่อมรับฟังกันได้อยู่แล้ว :)


3. ตามตื๊อทุกวิถีทาง



นึกถึงเวลาที่เราถูกตื๊อให้ซื้อคอร์สความงามของสถาบันความงามในราคาแพงๆ สิคะ ชอบรึเปล่า? มันน่ารำคาญใช่มั้ยล่ะ เวลาที่มีใครมาตามตื๊อให้ทำอะไร ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม กับแฟนเก่าก็เหมือนกันค่ะ การที่เขาทิ้งเรา มันก็หมายความว่าเขาหมดรักเราแล้ว จะตามตื๊อไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะว่าเขาคงไม่กลับมาแน่นอน มิหนำซ้ำเขาจะยิ่งรำคาญเรามากขึ้นจนอยากจะถอยหนีไปให้ห่างๆ เราเลยก็ได้ โดนบอกเลิกก็ว่าหนักพอแล้ว นี่ถ้าโดนเขามึนตึง เพิกเฉย ไม่ใยดี มันไม่หนักกว่าหรือ? คิดดูนะคะ



4. เรียกร้องความสนใจ


ที่จริงการโพสต์อะไรลงบนโซเชียลมีเดียก็เป็นการเรียกร้องความสนใจอยู่แล้ว แต่ในข้อนี้มันรุนแรงกว่านั้นค่ะ บางคนอาจจะบอกว่าตัวเองไม่สบาย อ่อนแอ หรือทำร้ายตัวเอง ( ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือการฆ่าตัวตายเพื่อประชดรัก!! ) เพื่อให้เขากลับมาสนใจ ต้องการให้เขาสงสาร โดยมีนัยประมาณว่า

" อย่าทิ้งฉันไป ฉันอยู่ไม่ได้โดยไม่มีคุณ "



พูดจริงๆ เลยนะคะ แฟนเก่าของคุณเขาอาจจะกลับมาสนใจคุณเพราะความสงสาร แต่!!! ความสงสาร กับ ความรัก มันเป็นคนละเรื่องกันค่ะ ดีไม่ดีความสงสารกลับกลายเป็น

' สมเพชเวทนา '

หรือกลายเป็น

' ความรำคาญ '

จนถึง

' เกลียดขี้หน้า '

ไปเลยก็ได้ ยิ่งเป็นแบบนี้ยิ่งเหมือนเราทำตัวไม่มีค่าอะไร แล้วแบบนี้คุณค่าของเราอยู่ที่ไหนล่ะคะ ลุกขึ้นมาอย่างสตรอง อย่ามัวแต่นั่งจ๋อยเป็นหมาหงอย แบบนี้มันไม่ทำให้อะไรดีขึ้น อย่างน้อย

ต้องรักตัวเอง ก่อนที่จะให้คนอื่นมารักค่ะ!



5. หาคนใหม่มาดามใจทันที



ถ้ามีคนใหม่เข้ามา แล้วคุณรู้สึกรักเขาจริงๆ เราก็ขอแสดงความยินดีด้วย แต่ทว่าชีวิตคนเรามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น! เพราะถ้าเพิ่งเลิกกับแฟนเก่า ไม่มีทางที่คุณจะอยากมีใครเข้ามาใหม่ทันทีหรอก อย่างน้อยมันก็อาจจะมีความอาลัยอาวรณ์รักที่เพิ่งผ่านพ้นไป เว้นเสียแต่ว่าใจจริงนั้นคุณก็ไม่ได้รัก

" คนในอดีต "

ของคุณเลย



ถึงคนใหม่ของคุณจะดีสักแค่ไหน แต่ถ้าหากว่าคุณยังคิดถึงคนเก่าๆ มันก็ไม่ได้ช่วยให้สภาพจิตใจของคุณดีขึ้นมาหรอก มันยิ่งจะเป็นการทรมานทั้งตัวคุณและ

" คนใหม่ "

โดยที่แฟนเก่าก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เรียกว่า

งานนี้คุณจะเจ็บ และยังพาคนอื่นมาเจ็บด้วยนะคะ



6. ระรานแฟนใหม่ กิ๊กใหม่ ของแฟนเก่า



ข้อนี้เรียกว่ารุนแรงที่สุดแล้วล่ะมั้ง จริงอยู่ที่ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน เราและเขามีสิทธิ์ที่จะรัก, เลิกรัก และมีใครคนใหม่แวะเวียนเข้ามาอยู่เสมอ หากเรื่องของเรากับเขามันจบไปแล้ว เขาก็มีสิทธิ์ที่จะไปมี

" คนใหม่ "

คราวนี้ก็เป็นเรื่องของ

" เขาสองคน "

แล้ว เราเองก็ไม่ควรจะไปเป็น

" คนที่สาม "

ในความสัมพันธ์ครั้งนี้ เพราะเราอยู่ในฐานะ

" คนนอก "

เท่านั้น การไประรานความสัมพันธ์ของคนอื่น นอกจากจะไม่ดีในสายตาของคนคู่นั้นแล้ว คุณจะยังดูไม่ดีในสายตาของคนรอบข้างด้วย ที่สำคัญมันเป็นพฤติกรรมที่ทำให้เรา

" ดูไม่แพง "

เป็นอย่างยิ่ง!


*******************************************************



การเลิกรากันของคู่รักแต่ละคู่ต่างมีเหตุผลต่างกัน บางคู่อาจจะยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ ( แม้จะไม่ 100% ) ถึงจะเป็นเรื่องใหญ๋ แต่มันไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิตค่ะ

เศร้าได้ แต่อย่าเศร้านาน

จนกลายเป็นการจมอยู่กับความทุกข์ไปตลอด ชีวิตของคนเราต้องเดินหน้าต่อไปค่ะ ในอนาคตจะมีใครคนใหม่เข้ามาหรือไม่ สิ่งนี้มันไม่สำคัญเลยค่ะ สุดท้ายมันขึ้นอยู่ที่ว่า เราพอใจและเป็นสุขกับชีวิตที่เรามีมากแค่ไหน เชื่อสิคะ

" โดนแฟนทิ้งน่ะ "

มันเรื่องเล็กๆ ไม่ถึงกับตายหรอก!



ขอเป็นกำลังใจให้สาวๆ ทุกคนพบเจอชีวิตดีๆ เจอคนดีๆ เข้ามาในชีวิตนะคะ อะไรต่างๆ ที่ผ่านมาก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตละกันเนอะ หวังว่าบทความของเราจะเป็นกำลังใจ เป็นแรงฮึดในสาวๆ ลุกขึ้นมาแบบสตรองๆ กันได้นะคะ วันนี้ขอตัวลาไปก่อน บ๊ายบาย


บทความที่เกี่ยวข้อง

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้