สวัสดีค่ะ


นี่เป็นบทความแรกของเม่เลย ขอแนะนำตัวสั้นๆ ก่อนนะคะ

เม่เป็นคนชอบแต่งหน้าแต่งตัวด้วยลุคเบาๆ ใสๆ สบายๆ เน้นไปทางสไตล์ไต้หวัน-จีน-ญี่ปุ่น ค่ะ

ดังนั้นคงไม่มีพวกรีวิวรองพื้นหน้าแน่นคิ้วแน่นลุคฝรั่งนะคะ


บทความนี้ก็เลยจะมารีวิวเครื่องสำอางของ

Canmake

ค่ะ ( แบรนด์เครื่องสำอางราคาย่อมเยาจากประเทศญี่ปุ่น ) เป็นตัวบลัชออนกับอายชาโดว์ แค่ 2 ชิ้นก็สามารถสวยได้แล้ว!!


ปกติสาวๆ เวลาแต่งหน้า จะลงสีสันบนใบหน้านี่ต้องใช้เครื่องสำอางกันเยอะใช่ไหมคะ ทั้งบลัชออน อายแชโดว์ เฉดดิ้ง ไฮไลท์ ฯลฯ แต่เจ้า canmake 2 ชิ้นที่จะมารีวิวนี้ เป็นเครื่องสำอางที่สามารถใช้แทนเฉดดิ้งและไฮไลท์ได้เลยค่ะ แถมถ้าอยากได้ลุคเบาๆ สบายๆ จะใช้แทนอายไลเนอร์ด้วยเลยก็ได้นะ!


อะเมซิ่งขนาดนี้ ไปดูกันเลยดีกว่า

รูปภาพ:

เจ้าสองตัวที่เห็นเนี่ย ( ไม่รวมน้ำหอมของ canmake ด้านหลัง แต่แอบกระซิบเลยว่าหอมมากกกกก ก.ไก่ล้านตัวววววว ) เป็นบลัชออนเนื้อแป้งกับอายชาโดว์เนื้อแป้งของ canmake ค่ะ


มีหลายสีให้เลือกสรรนะ แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบแต่งหน้าโทนชมพู-พีช เลยเลือกบลัชออนสีชมพูไม่แรงมาก กับอายแชโดว์โทนชมพู-น้ำตาลมาค่ะ


สองตัวนี้ canmake เขามีแปรงขนาดเล็กมาให้ในตัวด้วยนะเออ ขนแปรงก็นุ่มนิ่มฟินเวอร์วังมาก ตัวฟองน้ำก็ดีค่ะ ติดสีดี แต่เสียตรงที่เปื่อยง่ายไปหน่อย


เนื้อบลัชออนเนียนดีค่ะ ปัดออกมาจะเป็นสีเบาๆ ใครชอบปัดออกมาให้แน่นๆ อาจจะไม่ชอบ แต่โดยส่วนตัวเม่ว่าได้ลุคเบาๆ ดีนะ ถ้าอยากได้เข้มแค่ไหนก็ปัดให้หนักมากขึ้นแค่นั้น


ส่วนอายชาโดว์เนื้อแน่น มีชิมเมอร์นิดหน่อย ทาแล้วสีชัดพอสมควร ชัดกว่าบลัชออน แล้วก็ติดทนกว่าด้วยค่ะ ถ้าไม่ขยี้ตาหนัก ก็ติดตั้งแต่เช้าจนเย็นเหมือนกัน


มาดูเนื้อแบบใกล้ๆ กัน ( ในภาพเราใช้บลัชออนไปพอสมควรแล้วนะคะ )

รูปภาพ:รูปภาพ:

ส่วนที่ว่า 2 ตลับนี่เอาอยู่เป็นยังไง มาฟังคำอธิบายกัน


1. เม่ใช้บลัชออนในการแต่งแก้มค่ะ อ๊ะๆ แต่บลัชออนตัวนี้ สามารถใช้แทนอายชาโดว์ได้ด้วยนะ!!

สำหรับใครที่อยากได้ลุคสีชมพูหวาน ดูซอฟท์ๆ เหมือนขนมสายไหม ลองใช้บลัชออนตัวนี้เป็นอายชาโดว์ดูค่ะ รับรองไม่ผิดหวัง!!


2. อายชาโดว์ไม่ใช่แค่อายชาโดว์ค่ะ เราสามารถใช้สีน้ำตาลอ่อนมาเป็นเฉดดิ้งไล้ดั้ง และใช้สีชมพูอ่อนกับช่องตรงกลางมาใช้เป็นไฮไลท์ค่ะ


ดูภาพประกอบคำอธิบายได้เลยยยยยย

รูปภาพ:

อธิบายตามเลขนะคะ

1 ใช้เป็นไฮไลท์บริเวณหน้าผาก ปลายจมูก คาง และใต้ตาได้ ( จะใช้เดี่ยวๆ หรือผสมกับ 5 ก็ได้ )

2 ใช้เป็นเฉดดิ้งไล้ดั้งจมูกได้

4 ใช้แปรงหัวตัดเขียนเป็นอายไลเนอร์ได้ ( เขียนแล้วเอาแปรงอื่นมาเกลี่ยให้ฟุ้งๆ จะทำให้ตาดูโตขึ้นด้วยนะ! )

5 ผสมกับ 1 ใช้เป็นไฮไลท์ หรือจะใช้เติมความเป็นประกายให้ถุงใต้ตา / หัวตา /ขอบตาล่างก็ได้ตามสะดวกเลยเผื่อไม่เห็นภาพสี เม่เลยลองแต้มๆ มาให้ดูกันด้วยค่ะ

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

ส่วนเมื่อแต่งเสร็จแล้วเป็นยังไง ต้องลองมาดูกันค่ะ

**ภาพทุกภาพเป็นภาพของเม่เอง รบกวนอย่านำไปใช้โดยไม่ได้ขออนุญาตนะคะ แล้วก็ขอความร่วมมืองดวิจารณ์ด้วยถ้อยคำไม่สุภาพค่ะ**

รูปภาพ:

สีอายแชโดว์หวานฟุ้งค่ะget this look :- ใช้ 1 รองเปลือกตาทั้งหมด- 3 จากขอบตาขึ้นมาเลยชั้นพับตานิดหน่อย- 2 บริเวณขอบตา เกลี่ยให้ฟุ้งขึ้นมาจนถึงชั้นพับ- 4 ตรงขอบตาทับเส้นอายไลเนอร์ไปเลย เกลี่ยให้ฟุ้งนิดหน่อย- แต้ม 4 อ่อนๆ เป็นรูปตัว v แนวนอนจากหางตา เกลี่ยให้ฟุ้ง- ใช้ 4 แทนอายไลเนอร์ที่ใต้ตา

Get This Look

รูปภาพ:

- ใช้อายชาโดว์เบอร์ 3 ไล้จากใต้หัวคิ้วทั้ง 2 ข้างลงมาเป็นเส้นตรงจนถึงปลายจมูก

- ใช้ 3 ไล้ด้านข้างจมูกลงมาที่ปีกจมูก ระวังให้เบากว่าเส้นตรงเล็กน้อย

- ใช้ 1 ผสม 5 แต้มตรงปลายจมูกเบาๆ

- ใช้ 1 ไล้เป็นเส้นตรงไปตรงกลางตามสันจมูก

- หัวตาใช้ 5 แต้ม ( เบอร์ 5 เหมือนเป็นชิมเมอร์บางๆ ไม่ค่อยติดเท่าไร ให้ใช้เยอะๆ จะเห็นชัดขึ้นค่ะ )

- ถ้าสีหัวตาไม่ชัด ให้ใช้ 1 ช่วยไล้บางๆ ผสมค่ะ

- ปัดแก้มเป็นแนวเฉียงขึ้นตามโหนกบลัชออนของ canmake แล้วเลื่อนมาปัดวนเป็นวงกลมตรงแก้มให้ดูมีเลือดฝาด ระวังให้สีแก้มทั้งแนวโหนกและตรงเนื้อแก้มเท่าๆ กัน จะได้ดูเป็นธรรมชาติ


***หมายเหตุ สีเครื่องสำอางในภาพจะเห็นชัดและเข้มและชัดกว่าสีจริงเล็กน้อย เนื่องจากเป็นการถ่ายในสตูดิโอ จึงมีการจัดแสงช่วยค่ะ***

วันนี้ก็ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ก่อนนนน


รู้ความเด็ดของทั้งสองตัวนี้แล้วก็อย่ารอช้า รีบไปจัดหามาโดยพลันนนนน ราคาไม่แพงเท่าเคาน์เตอร์แบรนด์ด้วยนะเออ ถูกกว่ากันเยอะจริงๆ หาซื้อได้ง่ายๆ ที่วัตสัน ซูรูฮะ ฯลฯ


ไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใด แต่ว่ามันใช้ดีจริงค่ะ เวลาต้องเติมหน้านอกสถานที่ หยิบแค่ 2 ชิ้นนี้พร้อมแป้งไปก็พอแล้วจริงๆ ไม่หนักกระเป๋า


ไว้เจอกันกระทู้หน้าค่ะ

( อยากให้รีวิวหรือว่าฮาวทูแต่งหน้าก็บอกได้นะคะ แต่ว่าถ้าฮาวทูอาจจะช้าสักนิดค่ะ )


เมเม่