ฮัลโหลววว สาวๆSistaCafeo(≧▽≦)oก็ใกล้จะเปิดเทอมเข้ามาทุกทีแล้วเนอะ! ทั้งเด็กมัธยม เด็กมหาลัยก็ต้องเริ่มเตรียมตัวกับภาคเรียนใหม่แต่ระดับชั้นที่น่าจะต้องปรับตัวมากสุด น่าจะเป็น ' มัธยมปลาย ' หรือเพิ่งขึ้นม.4 วันแรก เพราะหลายอย่างใหม่หมด! ทั้งแผนการเรียนใหม่ที่เลือกเอง, เพื่อนใหม่, อาจารย์คนใหม่, เครื่องแบบใหม่ #ทุกอย่างใหม่หมดจ้า!ใครคิดไกลหน่อย ก็จะเริ่มกดดันละ เพราะในอีก 3 ปีข้างหน้า เธอจะต้องเลือกคณะเข้ามหาลัยฯ ซึ่งสำหรับบางคน มันคือการกำหนดอนาคตทั้งชีวิตเลยทีเดียวเพราะบางสายงาน ไม่เรียนตั้งแต่ช่วงป. ตรีก็หมดสิทธิ์ทำงานทันที เช่น แพทย์ วิศวะ เภสัชกร เป็นต้น เอาแล้วไง เริ่มเครียดแล้วล่ะสิ!วันนี้เราจะขอโฟกัสนักเรียนม.4 ใหม่เอี่ยมถอดด้าม ซึ่งเป็นช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อสุดๆถ้าเธอกำลังงงๆ เสียศูนย์ ไม่รู้จะจัดการชีวิตในรั้วมัธยมปลายยังไง ให้มีชีวิตรอดจบม.6 แถมยังได้เกรดสวยๆ ก็ลองอ่านบทความนี้ดูค่ะรับรองว่าช่วยได้แน่นอน พร้อมแล้วเลื่อนลงมาอ่านเล้ย!
1. มี ' คนนำทาง ' ไว้ อุ่นใจกว่า

แน่นอนว่าเป็นเด็กมอปลาย มันก็จะหลงๆ งงๆ หน่อย ซึ่งเธอก็ไม่จำเป็นต้องเข้มแข็ง สตรองกับชีวิต ต้องอยู่คนเดียวให้ได้ขนาดนั้นหรอกค่ะ หา ' คนนำทาง ' ไว้ดีกว่า
คนที่เราเคารพ ปรึกษาปัญหาต่างๆ ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องส่วนตัวได้ จะเป็นคุณครู ครูแนะแนว ที่ปรึกษา ติวเตอร์ที่สอนพิเศษให้ หรือแม้แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ได้
จำไว้ว่าเธอยังอายุน้อย ยังไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้เต็มที่ ยังไงสองหัวก็ดีกว่าหัวเดียวค่ะ นึกภาพเธอกำลังเคว้ง หันมาไม่เจอใคร มันเศร้านะ T^T
ถ้าเธอหาเจอแล้ว ก็รักษาความสัมพันธ์กับพวกท่านไว้ให้ดี เพราะผู้ใหญ่น่ะ ถ้าเขาเห็นเราเป็นลูกเป็นหลานแล้ว เขาก็จะคอยช่วยเหลือเราไปเรื่อยๆ ไปจนถึงวัยมหาลัย วัยทำงานนั่นแหละค่ะ
ลองรับฟังความเห็นท่านดู อย่าเพิ่งเบือนหน้าหนี เชื่อเถอะว่าเธอจะได้มุมมองดีๆ จากคนที่ผ่านโลกมานานกว่าได้ อย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
2. มี ' เพื่อนแท้ ' ช่วยกันเรียน ช่วยกันจบ

บางที แม้จะมีอาจารย์หรือที่บ้านคอยปรึกษาแล้ว แต่บางปัญหาเราก็ไม่กล้าบอกผู้ใหญ่หรอก ใช่ไหมล่ะ? เราก็อยากจะคุยกับคนอายุเท่ากันมากกว่า ดังนั้นสาวๆ ก็ควรจะหา ' เพื่อนสนิท ' ไว้อย่างน้อยสักคน
คนที่เคมีเข้ากับเรา ทัศนคติไปในทางเดียวกัน ( ไม่จำเป็นต้องเป็นเพื่อนร่วมชั้นก็ได้ แต่ถ้าได้ก็ดี ) ไว้คอยช่วยกันเรียน ทำกิจกรรมต่างๆ ปรึกษาเรื่องต่างๆ
ข้อดีคือพอมีเพื่อน เราจะมีแรงกระตุ้นในการเรียนมากขึ้น ขี้เกียจน้อยลง ( แต่ก็หาเพื่อนที่เป็นเด็กเรียนนิดนึงนะ ไม่ใช่คบเด็กเกเร แบบนั้นไม่โอเค! ) ด้วยวิธีนี้ ทั้งเธอและเพื่อนจะช่วยกันผลักดันไปจนถึงวันเรียนจบมัธยมได้สบาย
คล่องตัวกว่าคนที่ใช้ชีวิตในโรงเรียนเพียงคนเดียวแน่นอน รักษามิตรภาพนี้ไว้ ไม่แน่อาจได้ไปช่วยกันต่อในมหาลัยที่หมายตาไว้ก็ได้น้า ^^

Yes or No! 5 ข้อสังเกต 'เพื่อนแท้ กับ เพื่อนเทียม' แตกต่างกันยังไง
https://sistacafe.com/summaries/27700
3. เริ่มเรียน ' ภาษาที่ 3 ' ไว้ก็ดี

บอกเลยว่าการศึกษาในเมืองไทยสมัยนี้ การแข่งขันมันสูง! เมื่อก่อนแค่เก่งภาษาอังกฤษหน่อย ก็ได้เปรียบกว่าคนค่อนประเทศแล้ว
แต่สมัยนี้ เด็กๆ ได้รับการศึกษาที่ดีขึ้น พ่อแม่มีกำลังส่งมากขึ้น หลายคนได้เรียนภาษาที่ 3 ที่ 4 ตั้งแต่ชั้นประถม ยังไม่นับคนที่จบโรงเรียนสองภาษา หรือนานาชาติที่ได้ภาษาอังกฤษแน่นอนอยู่แล้ว
และคนเหล่านี้แหละ จะเป็นคู่แข่งของเธอในการสอบเข้ามหาลัยในอีก 3 ปีข้างหน้า
ดังนั้นถ้าเธอเป็นคนหนึ่งที่เรียนโรงเรียนหลักสูตรธรรมดา เราแนะนำให้เรียนภาษาที่ 3 ไว้จะดีกว่าค่ะ
เลือกภาษาที่ตัวเองสนใจ หรือถ้าจะให้ตอบโจทย์ตลาดงานโดยเฉพาะ ก็เป็นภาษาจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลี
ถึงเป็นเด็กศิลป์-ภาษา อยู่แล้ว ก็ใช่ว่าจะหยุดพัฒนาตัวเองได้ ลองไปเรียนคอร์สอะไรที่อยากทำ หรือวิชาที่โรงเรียนไม่สอน เช่น สอนเต้น สอนการแสดง
เท่านี้เวลายื่นพอร์ตเข้ามหาลัย เธอก็จะดูมีภาษีกว่าคนอื่นแน่ๆ

5 เคล็ดลับง่าย ๆ ที่เปลี่ยนสาว ๆ ให้เป็นคนความจำดี
https://sistacafe.com/summaries/67526
4. ทำตัวให้ ' กระตือรือร้น ' เข้าไว้

เพิ่งมอปลายเอง อย่าเพิ่งเหนื่อยน้า! อย่าทำตัวเอื่อยๆ เฉื่อยๆ ค่ะซิส ถ้าจิตใจห่อเหี่ยวตั้งแต่แรก มันจะส่งผลผ่านสุขภาพกายไปด้วย สมองก็จะช้าๆ ไม่สั่งการ ทำให้เรียนได้ไม่ดีเท่าที่ควร
คือไม่จำเป็นต้องได้ 4.00 ทุกวิชา แต่จะเรียนไปวันๆ เดินเหมือนคนหมดแรง ผ่านก็ดีตกก็ช่างมัน เราว่าไม่น่าจะดีกับอนาคตข้างหน้าเท่าไหร่
ไม่ต้องเป็นนักกีฬาโรงเรียน ไม่ต้องไปวิ่ง 10 กิโลทุกวัน แค่ไปออกกำลังกายบ้าง! อย่างน้อย 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์
จะเต้นตามคลิปอยู่ที่บ้าน พาหมาไปเดินเล่น หรือแค่เดินรอบสนามฟุตบอล เผาผลาญไขมันก็ได้ ไม่เสียเงิน แถมได้หุ่นและสุขภาพที่ดี เมื่อสมองปลอดโปร่ง เธอก็จะมีสมาธิกับการเรียนมากขึ้นค่ะ
5. เลือกกินอาหารที่ ' มีประโยชน์ ' เพื่อสุขภาพ

ถึงยังเด็ก ร่างกายยังเผาผลาญดี ก็ใช่ว่าจะกินอะไรก็ได้นะคะซิส เข้าใจว่าวัยรุ่นก็อยากกินบิงซู ไก่ทอด ไอติมอร่อยๆ เป็นกำลังใจในการเรียนแหละ แต่ก็อย่ากินเยอะเกินไป จะเป็นผลเสียมากกว่าดี โรคอ้วน เจ็บเข่า ไขมันพอกพูนจะมาเยือน!
พยายามเลือกอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ว่าจะซื้อจากโรงอาหาร หรือห่อมากินเอง
พยายามเลือกที่ไม่มัน ไม่ทอด ไม่มีรสจัดจนเกินไป กินผักผลไม้ และดื่มน้ำเปล่าสะอาดเยอะๆ วัยรุ่นเป็นวัยที่กำลังต้องการสารอาหาร กินไปเลยค่ะ ไม่ต้องห่วงปริมาณมาก แค่เลือกสิ่งที่ ' ดี ' กับเราก็พอ
นอกจากสมองจะโล่งขึ้น หุ่นดีขึ้น สุขภาพร่างกายและผิวของเธอก็จะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เชื่อเรา!

แชร์ค่ะจะได้ผอม! 7 เมนูอาหารคลีนใน 'งบราคาไม่เกิน 60 บาท' #ถูกและคลีนมีอยู่จริง
https://sistacafe.com/summaries/67136
6. เริ่มหาแผนการเรียนมหาลัย การทำงานในอนาคตได้แล้ว

ถึงจะเพิ่งเรียนม.4 แต่เราว่าก็ไม่เร็วเกินไป กับการมองหาคณะ-มหาลัย และอาชีพในฝันของเธอนะคะ
ในชีวิตมัธยมปลายเธอจะเจออะไรอีกมาก ทั้งการเรียนที่หนักอึ้ง, แอบชอบรุ่นพี่ รุ่นน้อง, มิตรภาพระหว่างแก๊งเพื่อน, กิจกรรมชมรมหลังเลิกเรียน นู่นนี่นั่น ไม่ค่อยมีเวลาหรอก ดังนั้นเธอควรเริ่มมองทางของตัวเองไว้เลย ว่า ' จะไปทางไหน '
อยากเข้าคณะอะไร เพื่อจะได้เตรียมตัวแต่เนิ่นๆ ไม่ต้องไปลนตอนอยู่ม.6 แล้ว ถ้าเพิ่งรู้ตัวว่าอยากเข้าคณะยอดฮิต คะแนนสอบเข้าสูงลิ่ว มันจะไม่ทันการเอา!
จำไว้ว่า การเลือกคณะและมหาลัย จะเป็นตัวกำหนดอนาคตส่วนหนึ่งของเธอไปทั้งชีวิต ( ก็มีเยอะที่ทำงานคนละสายกับที่เรียน แต่ประวัติการศึกษาก็ลบไม่ได้ไปทั้งชีวิตอยู่ดี )
ตัดสินใจให้ดี อย่าเลือกไปส่งๆ เธอจะมานั่งเสียใจทีหลัง ว่าทำไมไม่คิดให้ดีกว่านี้ เป็นไปได้ก็คิดต่อไปเลย ว่าจะทำงานอะไร เส้นทางชีวิตของเธอจะได้ชัดเจนขึ้น
เมื่อเธอมีเป้าหมาย เธอก็จะใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ

7 อาชีพน่าสนใจ สำหรับผู้หญิงเก่งภาษา ภาษาดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
https://sistacafe.com/summaries/23665
7. เข้าร่วมใน ' กิจกรรมพิเศษ ' นอกหลักสูตรไว้เถอะ ได้เปรียบ!

สำหรับสาวๆ ที่หมายตาคณะฮิตๆ อัตราการแข่งขันสูง คนสอบเยอะ ที่เน้นพอร์ตโฟลิโอ หรือการพรีเซนต์แนะนำตัวเองในตอนสัมภาษณ์ การทำกิจกรรมพิเศษนอกหลักสูตร จะทำให้เธอเหนือกว่าคู่แข่งคนอื่นๆ อย่างมาก!
เพราะนั่นหมายถึงว่า เธอไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาเรียนอย่างเดียว แต่ออกไปใช้ชีวิต ไปช่วยเหลือสังคมด้วย ทำให้เธอไม่ดูเป็นแค่ ' นักเรียน ' เท่านั้น แต่เป็น ' มนุษย์ ' ที่มีคุณค่าค่ะ
งานกิจกรรมเหล่านี้จะเป็นอะไรก็ได้ เช่น อาสาสมัคร ค่ายอาสา ออกไปสอนน้องตามชนบท ปลูกป่า รวมกลุ่มไปดูแลเด็กกำพร้าไร้ญาติ สัตว์เลี้ยงจรจัด ผู้สูงอายุในบ้านพักคนชรา เป็นต้น
หรือถ้าไม่สะดวกไปข้างนอกจริงๆ แค่สมัครชมรมกิจกรรมต่างๆ ก็ได้ เช่น ชมรมภาษา เชียร์ลีดเดอร์ ประกวดแสดงความสามารถในโรงเรียน หรือถ้ามีอีเวนต์วันสำคัญ เช่น วันพ่อ วันแม่ ก็อาสาไปเป็นพิธีกร ช่วยเตรียมงาน
นอกจากเขียนลงพอร์ตได้แล้ว เธอยังได้ประสบการณ์ดีๆ ตอบแทนอีกด้วย คอนเฟิร์ม!
------------------------------
จะ Survive ในชีวิตมอปลายแบบสวยๆ ไม่ยากอย่างที่คิดน้า แค่ทำตาม 7 ข้อด้านบน หลักๆ ก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากทำร่างกายและจิตใจให้แข็งแรง มีเพื่อนกับผู้ใหญ่ที่คอยอยู่เคียงข้าง กับเตรียมวางแผนไว้ให้อนาคต! วัยมัธยมก็เหมือนวัยอื่นๆ ที่มีทั้งเรื่องดีและร้าย แต่วัยรุ่นอย่างเรายังฮอร์โมนพลุ่งพล่าน ในบางสถานการณ์อาจไม่รู้จะรับมือยังไง ก็ขอให้ตั้งสติ ปรึกษาคนอื่นเยอะๆ อย่าใจร้อน ขยัน ตั้งใจเรียนอย่างสม่ำเสมอ เท่านี้ก็จบม.6 ไปได้แบบสวยๆ แน่นอน (☆▽☆)
สำหรับวันนี้ก็คงต้องขอลาไปก่อน หวังว่าสาวๆ จะมีความสุขกับชีวิตไฮสคูลน้า เพราะมอปลายมีครั้งเดียว ต้องใช้ให้คุ้มค่า ^__^ บ๊ายบายค่า
------------------------------
Cr. 7 Things You Should Actually Care About in High School [sweetyhigh.com]
https://www.sweetyhigh.com/read/things-worth-caring-about-high-school-062917