เวลาเราพูดกันถึง"น้องสาว"หรือ"น้องจุ๊มิ"หรือ"น้องจิ๊มิ"หรือ"ของลับ"(หลากหลายชื่อเหลือเกิน) พวกเราหลายๆ คนก็คงไม่รู้จักมันดีเท่าทีควร ว่ากันตรงๆ ว่าเวลาเกิดอะไรขึ้นกับน้องจุ๊มิ มันก็ไม่ได้ง่ายเหมือนปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ ที่กินพาราแล้วก็หาย หากเกิดอาการคัน เจ็บ แสบ หลายคนก็มักแก้ปัญหาโดยการล้างน้ำซะจะได้จบใช่มั้ยล่ะ หรือถ้าเคสหนักหน่อยก็คงไปหาหมอให้หมอดูให้ไปเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องหนูของเรากันแน่
แต่ไม่ต้องเสียเวลานัดคุณหมออีกแล้ว เพราะวันนี้เรามีสิ่งที่จุ๊มิของเราต้องการจะบอกสาวๆ ทุกคน เพื่อที่จะได้ป้องกันไม่ให้เกิดอาการให้ต้องหนักอกหนักใจกันอีกต่อไป ลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
" เธอทำความสะอาดชั้นดีเกินไป!! "
การดูแลและทำความสะอาดน้องหนูของเราก็เป็นเรื่องดีที่ต้องทำค่ะ แต่ถ้าทำความสะอาดมันมากจนเกินไปอันนี้เห็นทีจะกลายเป็นผลเสีย เพราะบริเวณจุ๊มิของเราจะมีการผลิตน้ำมันพิเศษที่จะมีลักษณะค่อนข้างข้นและหนาออกมาตามธรรมชาติอยู่แล้ว ซึ่งการที่เธอไปเอาคลีนเซอร์ที่มีสารเคมีแรงๆ ทำความสะอาดเจ้าน้ำมันพวกนี้ออกไปซะหมด ก็จะยิ่งทำให้จุ๊มิของเราระคายเคืองได้ง่ายๆ เพราะไม่มีน้ำมันที่คอยปกป้องอยู่
ส่วนที่แย่ไปกว่านั้น ภายในน้ำมันจะมีแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์อยู่ด้วย เจ้าแบคทีเรียพวกนี้ช่วยคงความสมดุลค่า pH ในร่างกาย ทำให้กรดด่างบริเวณด้านล่างนั้นสมบูรณ์ หากไม่มีน้ำมันพวกนี้รับรองว่าอาการคันถามหาแน่ๆ วิธีแก้ก็แค่ใช้มือล้างพอให้สะอาดเป็นพิธีด้วยน้ำอุ่นแล้วก็ปล่อยนางตามธรรมชาติ แค่นี้ก็โอเคแล้ว
" เธอใช้น้ำยาทำความสะอาดจุ๊มิ "
จากปากของผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังหลายๆ ท่าน บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าน้ำยาล้างจุ๊มิควรจะถูกทิ้งไว้กลางทางค่ะ เอามันไว้บนชั้นขายของนั่นแหละอย่าไปหยิบมันมา เพราะที่สินค้าเหล่านั้นต่างเคลมว่ามีคุณสมบัติในการทำความสะอาด มีกลิ่นหอม ช่วยทำให้น้องหนูของเราแข็งแรงนั้น ล้วนเป็นสิ่งที่เสี่ยงต่ออาการแพ้และระคายเคือง อีกอย่างผิวหนังบริเวณนั้นมีความไวต่อสิ่งกระตุ้นมากเนื่องจากมีความบอบบางมากกว่าผิวหนังบริเวณอื่นๆ ของร่างกาย
ส่วนสิ่งที่เธอต้องใช้น่ะหรอ? ลองทายดูสิ... น้ำเปล่าไงล่ะ
" รู้มั้ยว่าบนโลกนี้เรามีสิ่งที่เรียกว่า 'วาสลีน' ด้วยนะ "
น้องหนูของเธอเกิดการระคายเคืองหรอ? ให้ความชุ่มชื่นกับเค้าหน่อยสิ ก็เหมือนกับส่วนอื่นๆ ในร่างกายเธอนั่นแหละ น้องหนูของเธอก็เกิดอาการแห้งได้แม้ว่าเธอจะยังไม่ถึงวัยหมดประจำเดือนก็ตาม (อุ่ยย...) แต่สิ่งต้องห้ามคือห้ามใช้บอดี้โลชั่นในการทาเด็ดขาด!! เพราะว่าโลชั่นพวกนั้นมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์แห้งและน้ำหอมที่อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองอยู่
ลองใช้วาสลีนเจลแบบธรรมดาๆ นี่แหละทาดู ใช้แค่เล็กน้อยเท่านั้น ก็ช่วยได้เหมือนกัน เพราะวาสลีนเจลพวกนี้ไม่มีน้ำหอม แอลกอฮอล์ และสารกันบูดใดๆ ทำให้ปลอดภัยกับน้องของเราสุดๆ
" เธอใช้สารหล่อลื่นสุดแฟนซีอยู่ "
น้ำยาหล่อลื่นก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับสาวๆ ที่เคยเจออาหารแห้งบริเวณจุ๊มิ ไม่ว่าจะเป็นเลือกแบบที่มีส่วนผสมของน้ำ ซิลิโคน หรือสูตรน้ำมัน บลาๆ (แนะนำสาวๆ ที่เลือกอยู่ว่าจะเอาแบบไหนดี แบบน้ำมันและซิลิโคนจะชุ่มชื้นดีค่ะ หล่อลื่นได้ทั้งวัน แต่ข้อเสียคือมันอาจจะเป็นขุยและติดกุงเกงใน ส่วนแบบน้ำจะล้างออกง่าย แต่จะแห้งเร็วแล้วก็เหนียวด้วย)
แต่ไม่ว่าเธอจะชอบแบบไหนก็ตาม ขอให้หลีกเลี่ยงน้ำยาหล่อลื่นที่มีสี มีน้ำหอม มีรสชาติ หรือส่วนผสมใดๆ ก็ตามที่มีสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง ดีที่สุดก็พวกสารหล่อลื่นจากธรรมชาติค่ะ เช่น ขี้ผึ้ง เจลว่านหางจรเข้ โกโก้บัตเตอร์ หรือ น้ำมันอัลมอนด์ เป็นต้น
" กางเกงในที่เธอใส่อยู่น่ารัก มุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้งสุดๆ "
เวลากางเกงในพวกนี้มันสีกับผิวหนังบริเวณน้องสาวของเธอนี่แหละที่เป็นตัวก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ทั้งหลายทั้งปวง โดยทั่วไปแล้วถ้าจะให้ปลอดภัยหายห่วงก็ควรจะเป็นชุดชั้นในที่ใช้ผ้าฝ้าย 100% จะดีที่สุดค่ะ สำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย การใช้ชุดชั้นในน่ารักๆ พวกนี้ก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ในส่วนของผ้าและยางได้ค่ะ
แต่เธอไม่จำเป็นต้องหยุดใส่ชุดชั้นในน่ารักๆ พวกนั้นหรอกนะ ลองหาแบบน่ารักๆ แต่เป็นแบบที่ใช้ผ้าฝ้าย 100% ดูก็จะดีกว่าจ้ะ
" เธอโกน หรือ แว๊กซ์ หรือทำการกำจัดขนบนร่าง มาใช่มั้ย"
สาวๆ หลายคนมักเก็บมีดโกนไว้ในห้องน้ำซึ่งเป็นสถานที่ที่มักมีความชื้นและอุ่นอยู่ตลอดเวลาใช่มั้ยล่ะ หารู้ไม่ว่านี่แหละคือสถานที่ที่แบคทีเรียมันชอบและเติบโตง่ายที่สุด ที่เราบอกแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าเธอจะต้องโยนมีดโกนทิ้งหรอกนะ เพราะในการโกนเธอสามารถใช้ shaving lotion แบบที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติก็จะไม่มีสารเคมีและน้ำหอม อีกอย่างในการโกนแต่ละครั้งก็ควรใช้ใบมีดโกนใหม่ก็จะดี เป็นการหลีกเลี่ยงแบคทีเรียบริเวณน้องสาวด้วย (แนะนำให้ใช้แบบเปลี่ยนใบมีดเอา)
อีกทางหนึ่งคือการกำจัดขน อันนี้ก็ทำให้เกิดปัญหาได้เหมือนกันเพราะในการกำจัดขนจะมีการใช้สารเคมีอย่างหนักหน่วง ทำให้ผิวแห้งและบอบบางไปอีก การแวกซ์ถ้าทำผิดวิธีก็เสี่ยงเหมือนกันเพราะอาจทำให้เกิดการไหม้บริเวณผิวหนังได้ วิธีกำจัดขนที่ปลอดภัยที่สุดก็คือการกำจัดขนด้วยเลเซอร์หรือจะค่อยๆ เล็มตัดออกก็ได้ค่ะ
" เสื้อผ้าของเธอช่างมีกลิ่นหอมมมมม~ ซะเหลือเกิน! "
เวลาเสื้อผ้าเราหอมๆ เราก็มักจะปลาบปลื้มกับกลิ่นนั้นใช่มั้ยล่ะเพราะมันแสนจะสดชื่นเหลือเกิน หารู้ไม่ว่าเพราะน้ำยาซักผ้าสุดหอมนั่นแหละทำให้เกิดอาการระคายเคืองทั้งหลาย วิธีแก้ควรจะเลือกซักผ้าที่ไม่มีน้ำหอมหนักหน่วงนัก ส่วนน้ำยาซักแห้งหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มยิ่งลืมไปได้เลย เพราะเจ้าพวกนี้แหละคือตัวการที่รวบรวมสารเคมีเยอะแยะไปหมด
ทางที่ดีถ้าจะใช้ก็ได้นะ แต่ก็ต้องใช้ในปริมาณที่พอดีๆ ไม่ใช่สาดลงเครื่องไปให้กลิ่นหอมฟุ้งแต่สุดท้ายต้องมานั่งคันคะเยอ อันนี้ก็ไม่ไหวจะเคลียร์นะเธอ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++หวังว่าพอสาวๆ อ่านมาถึงตรงนี้แล้วจะมีวิธีกลับไปดูแลน้องจุ๊มิกันนะจ๊ะ จำไว้ว่าถึงแม้ว่าจุ๊มิเราจะไม่ได้ออกมาเฉิดฉายเหมือนใบหน้า แต่ก็ต้องดูแลอย่าให้ขาด เพราะเค้าก็คือหนึ่งในอวัยวะที่มีความสำคัญมากๆ สำหรับสาวๆ เลยนะขอให้จุ๊มิทุกคนแข็งแรงจ้ะ :)
Cr. 9 Things Your Vagina Is Trying To Tell You
http://www.prevention.com/health/how-to-take-care-of-your-vulva-and-vagina/your-laundry-smells-amazing
บทความที่เกี่ยวข้อง
[การดูแลสุขภาพ] สมุนไพรเเก้เจ็บคอ ของดีหาง่ายเพียงเข้าครัว
https://sistacafe.com/summaries/8022
6 วิธี กำจัดเซลลูไลท์ กระชับต้นขาและสะโพก!
https://sistacafe.com/summaries/7547
9 ของว่างสนองนี้ดก่อนนอน กินได้ไม่อ้วน!!
https://sistacafe.com/summaries/7705