เราไปช่วงปลายพฤศจิกายน - ต้นธันวาคม ของปีที่แล้วค่ะ (ปี 2018) เป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของประเทศญี่ปุ่น แถบภูมิภาคคันไซ เมืองที่ไปจะมีเมืองเกียวโต เมืองนาโกยา เมืองทาคายาม่า เมืองโอซากาและเมืองนารา

บรรยากาศดีงามมากๆเลยล่ะ เลยอยากจะมาแชร์ภาพความประทับใจ ความฟินของแถบคันไซนี้ ให้ได้อ่านกันค่ะ

ถ้าพร้อมแล้วตามมาเลยค่ะ.....

Day 1

Kansai International Airport

-

Kiyomisu Dera - Grand Prince Hotel ( Kyoto )

เราไปกับครอบครัวค่ะ มีทั้งหมด 5 คน หลังจากถึงแผ่นดินญี่ปุ่น เราก็ไปรับรถกันที่สนามบินคันไซ ไปกับสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ เครื่อง landing ประมาณ  7 โมงเช้า เวลาของประเทศญี่ปุ่นค่ะ เราเช่ารถและรับที่สนามบินคันไซค่า

หลังจากรับรถเสร็จเรา เพื่อไม่เสียเวลาเที่ยว เราก็มุ่งหน้าตรงไปที่

วัดคิโยมิสึ

หรือ

วัดน้ำใสที่คนไทยคุ้นๆกันเป็นวัดเก่าแก่โบราณของเมืองเกียวโต

ในแถบคันไซนี้  จากที่อ่านคู่มือท่องเที่ยวมาน่ะค่ะ

วัดน้ำใส เป็นวัดที่ทางยูเนสโกบันทึกไว้ให้เป็นมรดกโลกที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ จุดที่นิยมมากสุดๆๆคือศาลาไม้ขนาดใหญ่

ที่คนมักจะมาถ่ายรูปกัน แต่เสียดายมากค่ะ เพราะตอนที่ไปทางวัดเค้าปิดปรับปรุงอยู่

^_^

ระหว่างทางจะมีร้านเช่าชุดกิโมโน น่ารักๆ ไว้เปลี่ยนสำหรับถ่ายรูป มีร้านค้าที่ขายของที่ ระลึกมากมาย อย่างเช่น ตัว magnet ติดตู้เย็น ขนมไดฟุกุ ไอศกรีมโคน และอื่นๆ ให้ได้เลือกซื้อ เลือกชมกันค่ะ

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

หลังจากเที่ยวชมรอบวัดเสร็จ เราก็มุ่งหน้าไปโรงแรมค่ะ โรงแรมที่เราจะไปชื่อว่า โรงแรม แกรนด์ ปริ้น เมืองเกียวโต ขอพักร่างก่อนลุยต่อค่ะ เพราะ หลังจากออกมาจากวัดน้ำใส นี่ก็เวลาบ่ายสาม แล้วล่ะ

Check-in


เข้าโรงแรมเรียบร้อย เราก็ใช้เวลาพักที่โรงแรม สักพัก แล้วเราก็ออกมากินข้าวเย็นกันค่ะ มื้อเย็นนี้กินง่ายๆแต่อร่อยมาก ขอบอกว่าร้านอาหารที่ญี่ปุ่น การันตีได้เลยว่าอาหารของเค้าอร่อยทุกอย่าง สไตล์รสชาติดั้งเดิม และมีเอกลักษณ์สุดๆ วันนี้เรากินชุดทงคัตสึหมูค่ะ อร่อยมาก

น้ำแข็งเปล่าและน้ำดื่มที่ร้านอาหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมีเตรียมไว้ที่โต๊ะของลูกค้าที่นั่งอยู่แล้ว เราสามารถรินน้ำบริการตัวเองได้เลยค่ะ สบายสุดๆ :-)

หลังจากกินอิ่ม Happy แล้ว เราก็เดินทางกลับโรงแรมพักผ่อนค่ะ เพื่อจะได้มีแรงไว้เที่ยววันต่อไป

เย้......

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

Day 2Grand Price Hotel ( Kyoto ) - Kinkakuji Temple -  Arashiyamaประมาณ 8 โมงเช้าหลังจากกินข้าวเช้าเรียบร้อย เราก็ออกจากโรงแรมไปที่วัดคินคะคุจิหรือวัดทองค่ะ เช้านี้คนยังไม่หนาแน่นเท่าไร เช้านี้อากาศจะเย็นสบายๆ สดชื่น ราวๆ 8 องศาค่ะเราต้องซื้อบัตรเพื่อเข้าไปชมวัดค่ะ ค่าธรรมเนียมเข้าชม 400 เยนค่ะจากที่ศึกษามาน่ะค่ะ วัดคินคะคุจิหรือวัดทองแต่เดิมวัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่พำนักของท่านโชกุน ชื่อว่าโชกุนอาชิคาง่า โยชิมิซึ หรือเรารู้จักโชกุนท่านนี้กันนี้ในการ์ตูนเรื่องอิคคิว ซังนั่นเอง ภายหลังท่านเสียชีวิตลง เลยยกวัดนี้ให้นิกายเซนสืบทอด จนถึงปัจจุบันก็กลายมาเป็นวัดคินคะคุจิหรือวัดทองค่ะจุดไฮไลท์คือวัดสีทองที่สวยงามมีบ่อน้ำล้อมรอบ แต่ละฤดูก็จะได้ความรู้สึกของวัดนี้แตกต่างกันออกไปค่ะ แต่ละฤดูก็จะมีเอกลักษณ์ที่ดีแตกต่างกัน^_^

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

หลังจากเดินดูรอบๆวัดเสร็จเราก็ไป ที่ต่อกันที่ย่านอาราชิยาม่ากันค่ะ จะมีไฮไลท์ที่เราไปคือสะพานโทเก็ตซึเคียวเป็นสะพานและสัญลักษณ์ของที่นี่ค่ะ ใครมาอาราชิยาม่า ต้องมาสัมผัส เยี่ยมเยือนที่นี่ให้ได้นะค่ะเป็นสัญลักษณ์เด่นติดอันดับของที่นี่เลยค่ะเราจะเห็นภูเขาสลับกับบรรยากาศแม่น้ำ เป็นจุดชมวิวที่ดีมาก

นอกจากนี้เรายังได้ไปที่

ป่าไผ่ ณ อาราชิยาม่า

ที่โด่งดังและขึ้นชื่อค่ะ จะเป็นทางเดินยาวๆ ล้อมรอบด้วยต้นไผ่สูงใหญ่มากมายเลย ใครชอบบรรยากาศธรรมชาติ ที่นี่ก็เป็นจุดไฮไลท์ที่แนะนำอีกเช่นกันน้า

รอบๆระแวกนั้นจะมีร้านขายอาหาร ร้านขายขนม ของฝากต่างๆ ร้านกาแฟ สำหรับนักท่องเที่ยวด้วยค่ะ มีร้านกาแฟชื่อดัง อย่างร้าน% Arabica Kyoto Arashiyamaด้วยนะ :-)พิกัดร้าน3-47 Sagatenryuji Susukinobabacho, Ukyo Ward, Kyoto, 616-8385, Japanเปิดเวลา 8 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

หลังจากเที่ยวชม บรรยากาศรอบๆและ ไฮไลท์สุดเด็ด ของย่านอราชิยาม่าเสร็จ เราแวะกินข้าวแถวๆนั้นค่ะ

จะมีร้านอาหารญี่ปุ่นให้เลือก เพี๊ยบเลยย เราเลยเลือกเข้าร้านราเมง ราเมงแต่ละร้านก็มีให้เลือกมากมายค่ะ มีเส้นจากแป้งที่ทำเอง เส้นหมึกดำ หรือเส้นอูด้ง จะกินแบบซุปกระดูกหมู หรือแบบซุปแกงกะหรี่ แล้วแต่ที่เราชอบเลย

หลังจากกินเสร็จเราก้อไปต่อย่านกิออนค่ะ ย่านโบราณเมืองเก่าและเป็นย่านเกอิชาชื่อดังของเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่นนี้

แต่...

ถ้าอยากรู้ว่าสถานที่จะเป็นยังไง มีอะไรแปลกๆใหม่ๆไหม...

ฝากติดตาม

EP.2

ด้วยนะจ๊ะ

^_^

วันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อนแล้ว... ค่า

Sayonara

ถ้าชอบบทความนี้ รบกวนกดFollowกดเพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้เขียนอย่างเราด้วยน้า...

#เลิฟๆเลย