" เธอ...ทำไมนางเอกคนนี้ผิวดีจัง หน้าเนียนไม่มีรูขุมขนเลย " เพื่อนสาวในแก๊งมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ไป ( อันที่จริงกำลังดูซีรี่ย์เกาหลีอยู่ แต่จุดโฟกัสกลับอยู่ที่ผิวหน้าของนักแสดงซะงั้น -.- ) แต่ก็เป็นความจริงที่ผิวของสาวเกาหลีนั้นเนียนละเอียด ใสกิ๊ง และยังขาวเวอร์วังอลังการอีกต่างหาก เราก็ได้แต่อิจฉาอยู่ไกลๆ... อยากสวยเหมือนเขาบ้าง

ผิวหน้าจะดีหรือไม่ มันอยู่ที่การบำรุงค่ะสาวๆ! ถ้าเธอล้างหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ ไม่ใช้เครื่องสำอางที่ทำให้ผิวอุดตัน และที่สำคัญคือใช้ครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง! มีครีมบำรุงเกาหลีในตลาดมากมาย ตั้งแต่ราคามิตรภาพ ย่อมเยาไปจนถึงตลาดบนที่เห็นราคาต่อกระปุกแล้วต้องคิดแล้วคิดอีก ไม่กล้าซื้อมามั่วๆ แล้วเสียดายเงินฟรีน่ะสิ T^T


หมดกังวลได้แล้ว! เพราะวันนี้เรารวบรวมครีมบำรุงจากเกาหลี 4 แบรนด์ที่สาวๆ ห้องโต๊ะเครื่องแป้ง Pantip พูดถึงและแนะนำให้เพื่อนๆ ได้ลองใช้ เราจึงขอเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยให้สาวๆ ได้ใช้ครีมคุณภาพดี หน้าเนียนใสเด้งแข่งกับสาวเกาหลีไปอีก =w=

เชิญอ่านได้ตามอัธยาศัยค่ะ *ผายมือ*

1. Nature Republic Soothing & Moisture Aloe Vera Face Gel

รูปภาพ:http://2.bp.blogspot.com/-pjanOZVVlQM/UWx-PqCvAyI/AAAAAAAAAiI/je5QQ0eDiKA/s1600/AVGSplash.jpg

มาเริ่มที่แบรนด์แรก กับ

" Nature Republic "

ที่พรีเซนเตอร์ปัจจุบันคือบอยแบนด์ขวัญใจเด็กสาวมากมายอย่าง

" EXO "

นั่นเอง ( อยากขโมยสแตนด์หน้าร้านกลับบ้าน //ผิด ) โดยแบรนด์นี้มีสโลแกนว่า ' ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ ' มีสาขาในไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย กัมพูชา ฟิลิปปินส์และไทย! มีผลิตภัณฑ์ทั้งเครื่องสำอางและสกินแคร์ ราคามิตรภาพจึงค่อนข้างถูกใจสาวๆ นักเรียนนักศึกษาค่ะ

ผลิตภัณฑ์หนึ่งที่เป็น ' A must ' ของแบรนด์นี้คือ เจลว่านหางจระเข้ที่สามารถทาบำรุงได้ตั้งแต่ผิวหน้ายันผิวกาย

" Soothing & Moisture Aloe Vera "

นั่นเอง มีสองประเภทคือแบบ 90% และ 92% ทำให้ผิวที่แห้งกร้านชุ่มชื่น ลดความระคายเคืองเมื่อผิวเจอแดดเป็นเวลานานๆ ราคาหลักร้อยต้นๆ ต่อกระปุกเท่านั้น


รีวิวจาก Pantip และเว็บรีวิวเครื่องสำอาง Vanilla.in.th ให้ความเห็นว่ากระปุกใหญ่ใช้ได้นาน ประหยัด ผิวเรียบเนียน รูขุมขนกระชับขึ้น ทาได้ทั้งใบหน้า หัวเข่า ข้อศอก ชุ่มชื่นไม่เหนอะหนะ แพ็กเกจทำได้ดี ผิวมีความมันน้อยลง ผิวหน้าเย็นสบาย


แต่ข้อเสียคือไม่ได้เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% มีแอลกอฮอล์กับน้ำหอมผสมอยู่ จึงไม่เหมาะกับสาวๆ ที่มีผิวแพ้ง่ายค่ะ


2. Skinfood Watery Berry Set

รูปภาพ:http://cms.skinfoodthailand.com/medias/Product/Skincare/WateryBerry/Watery%20Berry%20Emulsion%201.jpg

แบรนด์ที่สอง ยังคงคอนเซปต์ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติและอาหารอย่าง ' Skinfood ' มีผลิตภัณฑ์หลายเซ็ตออกมาใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยแต่ละไลน์จะมีตัวชูโรงเป็นสารสกัดจากผลไม้หรือเครื่องดื่ม เช่น เบียร์ กาแฟ องุ่น น้ำผึ้ง แตงกวา โยเกิร์ต กล้วย ( พิมพ์ไปก็เริ่มหิวไป //เดี๋ยวๆ กินไม่ได้นะเฮ้ย! ) มีทั้งเครื่องสำอาง สกินแคร์ ผลิตภัณฑ์บำรุงผมและผิวกายค่ะ


ครั้งนี้ขอเสนอเซ็ต

" Watery Berry Set "

จากคุณค่าของผลเบอร์รี่ทั้ง 3 ชนิด โดยในเซ็ตจะมีโทนเนอร์, อิมัลชั่น, มาส์กพอกหน้า, ครีมบำรุงและเซรั่ม แต่ตัวที่สาวๆ โต๊ะเครื่องแป้งว้าวที่สุดคือเซรั่มและอิมัลชั่นค่ะ


ความเห็นจากสาวๆ Pantip และเว็บรีวิวเครื่องสำอาง Vanilla.in.th ลงความเห็นว่า เซรั่มเป็นน้ำใสๆ หนืดเล็กน้อย คล้ายเจล ทาแล้วรู้สึกสบายผิวหน้า แพกเกจน่ารักน่าซื้อ ซึมเร็วไม่เหนียวเหนอะหนะ ผิวกระชับและใสขึ้นเล็กน้อย ส่วนอิมัลชั่นก็ไม่ทำให้สิวขึ้น เหมาะสำหรับสาวผิวแพ้ง่าย ขวดหนึ่งใช้ได้นาน ให้ความชุ่มชื่นค่ะ



3. Sulwhasoo First Care Activating Serum

รูปภาพ:http://static.weloveshopping.com/shop/client/000065/bonitaushops/Sul-CareSerum60.jpg

แบรนด์ที่สาม ถือเป็นแบรนด์ระดับท็อปของเกาหลีที่ดาราและเซเลบมากมายนิยมใช้

" ซัลวาซู ( Sulwhasoo ) "

มีส่วนผสมหลักจากโสมจึงมีกลิ่นหอมน่าใช้ แต่เนื่องจากเป็นแบรนด์ระดับสูงราคาจึงค่อนข้างแพงพอสมควร โดยผลิตภัณฑ์จะเน้นหนักไปที่ครีมบำรุงผิว มีทั้งครีม เซรั่มและอิมัลชั่นค่ะ แต่เครื่องสำอางบางตัวก็เป็นที่นิยม เช่น บีบีคุชชั่น ( BB Cushion )

ครั้งนี้เราขอนำเสนอ

" Sulwhasoo First Care Activating Serum "

เซรั่มที่มีส่วนผสมจากสมุนไพรที่ทำให้ผ่อนคลายคล้ายเป็นกลิ่นอโรมา ทาผิวหลังล้างหน้าเช้าเย็น โดยกดเซรั่มลงบนฝ่ามือ 2-3 ครั้งแล้วลูบให้ทั่วใบหน้า

ความคิดเห็นของสาวๆ โต๊ะเครื่องแป้ง Pantip และเว็บรีวิวเครื่องสำอาง Vanilla.in.th ให้ความเห็นว่า ใช้แล้วผิวหน้าแน่นและเนียนขึ้น สัมผัสเย็นสบาย รูขุมขนละเอียดขึ้น รอยสิวจางลง เนื้อเซรั่มซึมเข้าผิวง่ายไม่เหนียวเหนอะหนะ และยังเป็น Pre-Serum ที่ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพของเซรั่มหรือสกินแคร์ที่ทาหลังจากนี้ให้ดีขึ้นด้วยค่ะ



4. Dr.Jart+ V7 Relief Vita Drop

รูปภาพ:http://static.weloveshopping.com/shop/client/000053/baviphatthailand/dr0011.jpg

แบรนด์สุดท้ายสาวไทยอาจไม่คุ้นชื่อนัก

" Dr.Jart+ "

แต่เมื่อบอกว่ามันคือ

' ครีมน้ำแตก '

สาวๆ ต้องร้องอ๋ออย่างแน่นอน! แบรนด์นี้จะเน้นเครื่องสำอางและสกินแคร์ที่บำรุงและฟื้นฟูผิวหนัง ( dermatological ) แพกเกจจิ้งเรียบง่ายแต่ดูหรูหราด้วยสีขาว ครีมและน้ำตาล ไฮโซไปอีก!

ผลิตภัณฑ์ที่ถือเป็น 'ตัวฮิต' ของแบรนด์นี้ มาแรงแซงทางโค้งในห้องโต๊ะเครื่องแป้งรัวๆ คงหนีไม่พ้น

" V7 Relief Vita Drop "

หรือครีมน้ำแตกที่เลื่องลือ เนื้อครีมจะเป็นสีขาวข้นๆ แต่เมื่อทาแล้วจะกลายเป็นเจลใสทั่วผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื่น ซึมไวไม่เหนียวเหนอะหนะจนต้องมีกระทู้ขอพิกัดสั่งซื้อกันมากมาย

ความเห็นจากห้องโต๊ะเครื่องแป้ง Pantip และเว็บรีวิวเครื่องสำอาง Vanilla.in.th ให้ความเห็นว่า ทำให้ผิวชุ่มชื่นขึ้นได้จริง มีกลิ่นหอมคล้ายมะนาวอ่อนๆ เพิ่มความกระจ่างใส บางเบา สิวไม่ขึ้นอุดตันผิวหน้า ทำให้ผิวเนียนขึ้น จุดด่างดำจางลงด้วย

แต่ข้อเสียคือ...อาจไม่ตอบโจทย์เรื่องผิวกระชับหรือขาวขึ้นเท่าไหร่ค่ะ

=======================

อ่านรีวิวและสรรพคุณของครีมบำรุงเกาหลี 4 แบรนด์นี้แล้ว สนใจยี่ห้อไหนบ้างหรือยัง =w= เราคัดสรรครีมบำรุงมาครอบคลุมทุกระดับ ตั้งแต่ราคามิตรภาพ ( Nature Republic ) ระดับกลาง ( Skinfood ) และระดับสูง ( Dr.Jart+, Sulwhasoo )

แต่ละแบรนด์ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป เช่น มีจุดเด่นที่ส่วนผสมจากธรรมชาติ, ส่วนผสมจากอาหาร, มีกลิ่นเฉพาะของโสมและสมุนไพร, ครีมที่แตกตัวเป็นน้ำเมื่อทาลงบนผิวหนัง แค่เห็นสรรพคุณก็พร้อมจะร้องว้าวทันที >< มีกำลังทรัพย์และความชอบแบรนด์ไหน สอยแบรนด์นั้นโลด

หากกำลังต้องการครีมบำรุงกระปุกใหม่ ลองเลือกมาใช้ดูสักแบรนด์สิคะ เธออาจเจอครีมที่เหมาะกับตัวเองจนกลายเป็นแบรนด์ประจำตัวก็เป็นได้ อยากรู้ต้องลอง! แล้วเจอกันบทความหน้าค่ะ

=======================