LHAMOUR ( ลา-มอร์ )แบรนด์ออร์แกนิคสกินแคร์จาก Mongolia เบนซ์ได้เห็นแบรนด์นี้ผ่านตามาบ้างทั้งใน Facebook และรีวิวต่างๆ หลายคนชอบ Facial oil และป้ายยากันสุด ตัวเองก็แอบเล็งมานานอยู่เหมือนกัน จนในที่สุดได้เห็นแบรนด์นี้โปรโมทเคาน์เตอร์แรกที่Siam Discovery โซน ECOTOPIA ชั้น 4วันนี้เบนซ์เลยจะพาทัวร์เคาน์เตอร์LHAMOURกัน

“ หลังจากขึ้นบันไดมาโซน ECOTOPIA เดินไปทางขวาแล้วเลี้ยวขวา เดินมาอีกนิดก็จะเห็นเคาน์เตอร์ละ ตกแต่งโทนสีขาวพร้อมทั้งมีขวดแก้วโหลใหญ่ๆ 5 ใบตั้งอยู่เด่นชัดมาก ”

รูปภาพ:รูปภาพ:

LHAMOURเป็นแบรนด์จากมองโกเลีย ซึ่งจุดเด่นของแบรนด์นี้คือส่วนผสมที่สำคัญอย่างSea Buckthornพืชที่เติบโตในภูมิอากาศเรียกได้ว่าโหดร้ายสุดๆ หนาวสุด แห้งสุด ผลของSea Buckthornจากมองโกเลียได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีสารอาหารที่เยอะมาก เพราะสภาพภูมิอากาศทำให้ต้นSea Buckthornต้องเก็บสารอาหารเอาไว้ให้มากที่สุดเพื่อการอยู่รอดในช่วงอากาศที่หนาวสุดๆ เพราะฉะนั้นจึงเป็นส่วนผสมที่สำคัญในผลิตภัณฑ์ของLHAMOURซึ่งมีทั้งออยล์ เซรั่ม สบู่ และบาล์มทาผิว

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

นอกจากส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติแล้วนั้น ทางแบรนด์ยังให้ความสำคัญต่อการผลิต คือทุกขั้นตอนการผลิต ไม่ว่าจะเก็บเกี่ยวไปจนถึงบรรจุภัณฑ์ ทุกอย่างคือทำด้วยมือ ไม่มีเครื่องจักรเลย ถือเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับผู้หญิงมองโกเลียด้วย สินค้าทุกตัว MADE In Mongolia จ้า

#ยืนหนึ่งเรื่องรักษ์โลก

ทาง LHAMOUR มีจุดบริการให้เติมรีฟิลออยล์ ตอนแรกเบนซ์คิดว่าคงต้องเฉพาะคนที่เคยซื้อสินค้าเค้าไปแล้ว ถึงมาเติมรีฟิลนี้ได้แน่เลย แต่เบนซ์ได้อินบ็อกซ์ไปถามในเฟสบุค เค้าตอบมาว่า“ สามารถนำขวดเปล่ายี่ห้อใดก็ได้ มาเติมรีฟิลออยล์ได้เลยค่ะ ยินดีรับทุกขวดและทุกแบรนด์ ”

เลิศไปอีกน้า In trend รักษ์โลกไปอีก Reuse ขวดเก่าๆได้อีก โลกต้องรักเราค่ะ และคิดราคาเป็นกรัม จะมีการชั่งขวดเปล่าก่อนว่าน้ำหนักเท่าไหร่ ไม่เอามารวมกับออยล์นะจ้า แฟร์ขั้นสุดราคาจะถูกกว่าประมาณ 20%

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

ผลิตภัณฑ์ของ LHAMOUR ที่ดังสุดๆคือ Facial Oil และ Body Oil

Facial Oil มี 2 อย่างคือAnti-Pollution Facial Oil( ช่วยฟื้นฟูผิวและป้องกันผิวจากมลภาวะ ) และRosehip Facial Oil( ช่วยเรื่องความกระจ่างใส )

รูปภาพ:

ส่วน Body Oil มี 3 อย่างคือ

Revitalizing

( ลดริ้วรอยผิวกาย และเพิ่มความกระจ่างใส ),

Sensitive

( เพิ่มความชุ่มชื้น และเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย มีส่วนผสมเข้มข้นจาก Sea Buckthorn ) และ

Cool Breeze

( เนื้อออยล์เย็นๆ เหมาะสำหรับนวดหลังออกกำลังกาย หรือนวดเวลาเมื่อยล้า )

รูปภาพ:

เบนซ์เอาขวดเก่าไปเติม 2 ขวดเบนซ์อยากลองตัว Anti-Pollution Facial Oil และ Body Oil Revitalizingเพราะสองตัวนี้คนป้ายยาเยอะสุด

รูปภาพ:

ขวดเล็กAnti-Pollution Facial Oilออยล์บำรุงผิวที่ช่วยฟื้นฟูผิวและแก้ปัญหาของผิว มีส่วนผสมเข้มข้นจาก Sea Buckthorn ที่มีสารอาหารสำคัญเช่น วิตามิน A C E และ Omega 3,6,7,9 ซึ่งนอกจากเพิ่มความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย แล้วยังช่วยฟื้นฟูผิวและแก้ปัญหาผิวต่างๆ เช่น ผดผื่นเห่อขึ้นหน้า หน้าแห้งลอก หน้าไหม้จากแสงแดด เอาเป็นว่าถ้าหน้าพังใช้ตัวนี้ จบ!!! เรียกได้ว่าตัวนี้คือยาสามัญประจำโต๊ะเครื่องแป้ง

ขวดใหญ่Body Oil Revitalizingมีส่วนผสมของ Avocado Oil, Olive Oil, Soybean Oil ช่วยบำรุงผิวกายให้ชุ่มชื้น ลดริ้วรอย ผิวกระจ่างใส และที่สำคัญที่เบนซ์ชอบมากๆ คือกลิ่น เป็นกลิ่น Lemongrass Oil ซึ่งหอมมากๆ ตอนแรกได้ยินว่าตะไคร้ เอาละสมองนึกถึงกลิ่นตะไคร้ไล่ยุง แต่พอลอง ต๊าย!!! กลิ่นตะไคร้หอมมาก ไม่ใช่กลิ่นแบบไล่ยุงนะเธอว์ มันมีคลาสกว่านั้นเยอะค่ะ ผ่อนคลายสุด

“ แอบเม้าท์ คืนแรกที่เบนซ์ซื้อมา เบนซ์ลองตัว Anti-Pollution Facial Oil ก่อนเลย เพราะผิวแห้ง แดงจากยาสิว วันรุ่งขึ้นอาการแดงๆ ลดลงเลยนะ ผิวดีขึ้น แต่ยังมีบางจุดที่ยังแห้งลอกอยู่ แต่โดยรวมมัน Work จริง ”

รูปภาพ:

แวะไปกันได้ที่เคาน์เตอร์LHAMOURที่Siam Discovery ชั้น 4 โซน ECOTOPIAนะค้า นำขวดเปล่าไปด้วยน้า แนะนำสำหรับ Facial Oil ให้หาขวดปั้มหรือขวดเซรั่มที่มีดรอปเปอร์ ส่วน Body Oil ขวดปั้มดีสุด สะดวกเวลาใช้งาน และที่สำคัญ!!!!! ล้างขวดมาก่อนและเช็ดข้างในให้แห้ง แนะนำจริงจัง อยากให้ทุกคนได้ลอง ราคาไม่แพงด้วย แล้วพบกันรีวิวหน้านะค้า บายยยยย