รายละเอียดข้อมูลสินค้าด้านหลังเพิ่มเติมจ้า
ลองทาคอนซีลเลอร์, อายแชโดว์, ลิปจุ่ม และอายไลเนอร์สูตรกันน้ำ
แปะสำลีทิ้งไว้สัก 15 วิ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเช็ด
เช็ด 1 รอบด้วยสำลี
สำหรับการเช็ดเครื่องสำอางที่แขน เราใช้สำลีทั้งหมด 3 แผ่นถ้วนก็สะอาดหมดจดจ้าา
ลองเช็ดกับใบหน้าดูบ้าง โดยที่เราจะใช้คลีนซิ่งของ JUV เช็ดทั้งใบหน้าเลยค่ะ รวมถึงดวงตาและริมฝีปากด้วย
ซึ่งเราชอบมากๆ ที่เช็ดตาแล้วไม่แสบ เช็ดปากแล้วไม่ขม กลายเป็นคลีนซิ่งตัวโปรดของเราไปเลย ปกติเราจะเป็นคนแต่งหน้าไม่หนักมาก คลีนซิ่งตัวนี้ตัวเดียวจึงเอาอยู่ค่ะ แต่สำหรับใครที่แต่งหน้าหนักๆ เบ้าตาแน่นๆ ก็แนะนำให้หา Eye & Lip Remover มาใช้เพิ่มเติมค่า
เช็ดทั้งหน้าแล้วมันก็จะเขินๆ หน่อย 555
สำหรับการเช็ดเครื่องสำอางบนใบหน้า เราชอบที่คลีนซิ่งสามารถเช็ดได้สะอาดมากๆ รู้สึกสบายผิว มีความชุ่มชื่น โดนสิวแล้วไม่แสบ ไม่รู้สึกแห้งตึง หรือผิวแสบแดง แถมสิวอักเสบก็ไม่บวมแดงขึ้นด้วย
.
เราเช็ดคลีนซิ่งโดยที่ไม่ได้ล้างน้ำหรือล้างหน้าต่อก็ไม่แสบหรือคันยิบๆ เลยค่ะ (แต่สำหรับใครที่อยากล้างหน้าเพิ่มเติมก็สามารถล้างได้ค่า) บางทีถึงห้องเราก็อยากรีบเช็ดเครื่องสำอางออกแล้วนอนเล่นมือถือชิวๆ ฟิลคนลีลาขี้เกียจก่อนอาบน้ำ การที่เช็ดคลีนซิ่งได้โดยที่ไม่ต้องล้างน้ำตามทำให้สะดวกเรามากๆ เลยค่ะ 555
Tips: และอีกหนึ่งทริคสำคัญก็คือแม้เราจะไม่ได้แต่งหน้า หรือทาเพียงแค่ครีมกันแดด หากเราออกไปข้างนอก กลับมาก็ควรเช็ดใบหน้าด้วยคลีนซิ่งก่อนนะคะ เพราะสภาพอากาศข้างนอกก็เต็มไปด้วยมลภาวะ ฝุ่นต่างๆ ไหนจะ PM 2.5 และครีมกันแดดหลายตัวก็อาจจะทำให้เกิดสิวอุดตันได้หากเราล้างหน้าไม่สะอาดดีพอค่ะ (เราคือหนึ่งในคนที่ทาครีมกันแดดแล้วไม่ล้างออกมาก่อน สิวอุดตันขึ้นไปจ้าา 555 เข็ดแล้วว) เพราะฉะนั้นเราควรเช็ดใบหน้าให้สะอาด เพื่อความชัวร์ดีกว่าจ้า
.
จบไปแล้วสำหรับรีวิว JUV Micellar Water Anti-Acne Cleanser หวังว่ารีวิวจะเป็นประโยชน์ และมีส่วนช่วยในการเลือกใช้คลีนซิ่งจ้าา สำหรับใครที่สนใจก็สามารถไปซื้อกันได้ที่ร้าน ALL ABOUT YOU ทุกสาขา หรือจะสั่งออนไลน์ได้ที่ https://allaboutyou.co.th มีอีกหลายไอเทมที่น่าใช้อีกเยอะมากๆ ♥ ไว้ถ้าเราได้ใช้ตัวไหนอีก จะแวะมาทำรีวิวอีกนะคะ วันนี้ต้องขอลาไปก่อน ไว้พบกันใหม่รีวิวหน้าค่า บ๊ายบายยย //
Comments