สวัสดีค่าสาวๆ

หลังจากที่นั่งรถบัสเพื่อขึ้นดอยกันไปเกือบ 2 ชั่วโมง ในตอนที่ 2

( ใครยังไม่ได้อ่าน กลับไปอ่านกันก๊อน เดี๋ยวจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง ) และตอนนี้เองเราก็ถึงหน้าวัดพระธาตุจอมทองด้วยอาการปวดเมื่อยออดแอดตามประสาคนเริ่มแก่ จ้ะๆ

ถึงหน้าวัดก็จะมีรถเหลืองเยอะแยะเลยค่ะ จริงๆ ถ้ามากันเป็นแก๊งก็จะสามารถเหมารถขึ้นไปได้เลย แต่สำหรับสองสาวแบกเป้อย่างเรา ก็ต้องรอเหมารวมไปกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ น้า

แค่บอกคนขับให้เค้ารวมคนให้เรา คนแถวนั้นใจดีค่ะ ลองต่อราคากันดู ส่วนใหญ่ก็ขึ้นไปราคาเหมา 1,500 บาท

ตอนนั้นเราเหมาไปกัน 4 คน แต่ละคนก็ไปคนละที่

ปลายทางเราคือ ' ดอยชัวร์ญ่า ' เป็นที่พักที่คนไปกันเยอะนะ อ่านตามกระทู้กันมาอีกที เราจ่ายค่ารถกับพี่สาวคนละ 100 บาท เพราะระยะทางของเราใกล้กว่าผู้โดยสารคนอื่น

/ นอกจากค่ารถเหลืองแล้ว ก็จะมีค่าเข้าอุทยานด้วย คนละ 80 บาท

รูปภาพ:รูปภาพ:

*ต้องออกตัวหน่อยว่าเราลืมถ่ายรูปที่พักมาให้ดู ฮือ เพราะมัวแต่วุ่นๆ อยู่กับ

การหารถวันที่จะไปกิ่วแม่ปานอยู่ เพราะถ้าไม่มีรถขึ้นไปจะลำบากมาก เพราะต้องโบกรถขึ้นไป และมีโอกาสน้อยมากๆ เราก็เลยใช้ความหน้าหนาของตัวเอง

ไปถามคนที่เค้ามีรถยนต์ส่วนตัวมา แอบสอดส่อง มองแล้วมองอีก ว่าพี่สาวคนนั้นเค้ามายังไง พอเห็นก็ตรงดิ่งเข้าไปถามเลยจ้า สรุปคือนกจ้ะ คือตอนนั้นก็แบบให้กำลังใจตัวเองกับพี่สาวว่ามันต้องมีแหละคนที่พักที่นี่แล้วขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นอะ

ไม่เป็นไร อย่าเครียดนะคะทุกคน

ใครที่คิดจะไปแบบเรา ทุกอย่างมันมีทางออกเสมอแหละ :)

ว่าแล้วท้องก็ร้อง เดินลงไปจากที่พักหลายกิโลอยู่นะ แต่เดินลงมันไม่เท่าไหร่ไง สบาย ยิ่งอากาศเย็นด้วย เดินเล่นชิลล์ๆ ไปจ้า ถ่ายรูปสวยๆ กันไป

เจอร้านอาหารตามสั่ง ที่บอกเลยว่าถูกจริตฉันมากแกร้ คือ รสชาติดีงาม อร่อยเลยแหละ แถมราคาไม่แพงก็คือคิดกันไว้แล้วว่า ตอนเย็นๆ ค่ำๆ ร้านนี้จะเป็นมื้อต่อไปของเราแน่นอนร้านชื่อ ' หอมจันทร์  ' นะคะ ถ้าใครไปโซนดอยชัวร์ญ่า หาไม่ยากเลย

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

เอาล่ะค่ะ วันนี้ขอพักนอนเอาแรงไปเรียกรถวันพรุ่งนี้ก่อนนะ

เริ่มต้นวันที่ 4 ด้วยการตื่นตี 4 เพื่อเตรียมตัวล้างหน้าแปรงฟัน

และมองหาเหยื่อรายต่อไปที่จะขอติดรถไปด้วย ใช่ค่ะ เราเห็นเป้าหมายแล้ว เล็งเค้าไว้ตั้งแต่กลางคืน และแล้วเค้าก็รับเราไปด้วย เพราะเราตื้อขั้นสุด เอาจริงๆ เราแค่ขอติดรถไปด้วย เพราะพี่เค้าจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นอยู่แล้ว เราเลยขอนั่งกระบะหลังไปด้วย

ซึ่งบอกเลยจ้าว่า อากาศเย็นมาก เย็นแบบโอ๊ยย มือแข็ง หน้าชา อยากร้องมาก TT แต่ก็นะ จะถอดใจไม่ได้

( ต้องขอบคุณพี่ชาวใต้ที่รับเรามาด้วยนะคะ )

4.30 โดยประมาณ เราถึงจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นดอยอินทนนท์ แวะเข้าร้านข้าวต้ม

เลยค่ะ หาความอุ่นให้ตัวเองก่อน ด้วยขนมปังและข้าวต้ม ฮีลได้เยอะเลย ตอนนั้นเรากับพี่สาวแบกเป้ไปด้วยตลอดนะ

ก่อนจะไปเดินกิ่วก็ขอฝากกระเป๋าไว้กับคุณป้าร้านขายข้าวต้มเลย ใจดีมากๆ น่ารักและเป็นกันเองสุดๆ เลิฟคุณป้า


รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

หลังจากเดินกิ่วแม่ปานเสร็จ ขอมาต่อแบบรัวๆ เลยนะ เพราะเดี๋ยวจะไม่จบง่าย คือพี่สาวที่มากับเราเค้าเป็นคนเชียงใหม่ ได้มีโอกาสรู้จักกันช่วงที่ไปเดินด้วยกัน ( พี่มุกกับพี่เฟิร์น ) ก็เลยขอพี่เค้าติดรถเพื่อกลับไปตรงจุดที่เราพัก

เป็นทางขึ้นไปบ้านขุนกลาง-ขุนวาง เพราะเราจองที่พักโปโปปิงปิงไว้นั่นเอง


แต่ก่อนจะกลับด้วยความใจดีของพี่ พี่เลยถามว่าอยากแวะเที่ยวที่ไหนมั้ย ( ใจดีมากๆ ) ไม่รอช้าจ้า หนูอยากแวะ 'ตลาดม้ง 'ค่า

ถ้าเป็นทางผ่านขอแวะซื้อของกินติดไม้ติดมือหน่อย

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

หลังจากแวะช้อปที่ตลาดม้ง พี่เค้ามาส่งเราที่ปากทางขึ้นไปบ้านขุนวาง

เพื่อที่เราจะโบกรถชาวบ้านต่อไปที่พัก ซึ่งเราก็เจอคุณลุงน่ารักที่จะไปส่งน้ำแข็งที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง

ซึ่งก็ไกลอยู่จากปากทางที่เราขึ้น แต่ประเด็นคือลุงไปจอดได้แค่รีสอร์ท

ลุงบอกเราว่าต้องหารถต่อไปเองนะ เราก็แบบ ได้หมดเลยค่ะ หนูไปลงไกลสุดเท่าที่ลุงจะส่ง ที่เหลือค่อยหาทางไปต่อเอง

พอไปถึงรีสอร์ทเราก็โบกมือลาคุณลุงด้วยความขอบคุณมากๆ

คือเจอแต่คนน่ารักจนรู้สึกชอบที่นี่ขึ้นมาเลยแหละ เอาล่ะเห็นรถกระบะคันต่อไปมาแล้ว

หลังจากที่โบกอยู่ 2 คัน / ลุงกระบะคันนี้ก็ให้เราติดรถมาด้วย และอาสาไปส่งเราถึงที่พักอีกด้วย ปลื้มปริ่มน้ำตาไหลมากแม่!

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

สำหรับประสบการณ์การโบกรถของเราถือว่าคอมพลีทเลยนะ เพราะโบกแล้วก็จะมีคนรับตลอด แต่อาจจะมีโดยปฏิเสธบ้างอะไรบ้าง ถือว่าไม่แย่ค่ะ ถ้าอยากได้ประสบการณ์แบบนี้ต้องลองดูสักครั้ง

ส่วนคืนที่ 5 ของเราเปลี่ยนแผนนิดหน่อย เพราะที่ที่จะนอนค่อนข้างเปลี่ยว เลยหารถกลับเข้าไปเที่ยวในเมืองสวยๆ จ้า แวะคาเฟ่นิดหน่อย หาอะไรกินตามสไตล์เรานี่แหละ

สำหรับทริปนี้ก็ถือเป็นการเริ่มต้นการเที่ยวฉบับผู้หญิงของจริง ทั้งแบกเป้ ฝึกความอดทน เพราะกระเป๋าใบนึงแอบหนักอยู่นะ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องลำบากสำหรับเรา


รู้สึกกลับมาก็เป็นอะไรที่ภูมิใจตัวเองสุดๆ ใครที่อยากมีประสบการณ์แบบนี้หรืออยากถามอะไรเราสามารถทักมาถามกันได้เลยน้า ไม่หวงเลยจ้า อินบ็อกทางไอจีได้เลยเด้อ สำหรับวันนี้ขอปิดทริปเชียงใหม่นี้ไปก่อนเด้อ บ๊ายบายค่า