" ตายแล้ว อ้วนขึ้นได้ยังไงเนี่ย " ∑(O_O;)

เธอกรีดร้องหน้าตาชั่งหยอดเหรียญ ตัวเลขสีแดงที่ปรากฎอยู่บนนั้นทำให้มือที่ถือชานมไข่มุกกับช็อกโกแลตของโปรดสั่นระริก ดวงตาที่อ่อนล้ากลับเป็นประกายมุ่งมั่น ทิ้งขนมทั้งถุงลงถังขยะแล้วบึ่งไปซื้อสลัดผักมากินงดแป้ง งดน้ำตาลรัวๆ สิ่งเดียวที่จะเข้าปากเธอได้คือน้ำเปล่า ผัก และเนื้อไก่จืดๆ ไม่ติดมันเท่านั้น คลีนไปอีก!

และที่ขาดไม่ได้ ตั้งรูปโปรไฟล์เฟสบุ๊คใหม่เป็นคำว่า

' ไม่มีรูปจนกว่าจะผอม '

( เรารู้ว่าเธอหรือเพื่อนต้องเคยทำ ) แต่ละมื้อกินน้อยนิด คิดว่าอีกไม่นานต้องหุ่นดีอย่างใจแน่นอน

แต่อนิจจา... สุดท้ายความตั้งใจก็ล้มเหลว ผ่านไปไม่กี่วันก็ตบะแตก ตะลุยกินเค้กอย่างไม่บันยะบันยัง รูปแสดงความตั้งใจนั้นถูกลบออกไปอย่างเงียบๆ แล้วใช้รูปสมัยอดีตที่ยังผอมแทน สรุปอ้วนกว่าเดิม( เผลอๆ ได้โรคกระเพาะแถมมาอีก! -_- )

เชื่อเถอะว่า การ 'กินน้อยๆ' ( เรียกว่าอดอาหารเลยดีกว่า = = ) ไม่ได้ช่วยให้ไดเอทสำเร็จแน่นอน


เพราะอะไรน่ะเหรอ... อ่านบทความนี้ เธอจะพบคำตอบค่ะ เริ่มเลย!


การ 'กินน้อย' = อดอาหาร ยิ่งอ้วนกว่าเดิม

รูปภาพ:http://salemucc.com/wp-content/uploads/2015/08/emagrecer-sem-passar-fome.jpeg

เมื่อคนส่วนใหญ่คิดว่าจะต้อง 'ไดเอท' สิ่งที่พวกเขานึกถึงคือ ความทรมาน, ความหิวและ 'การควบคุมอาหารอย่างเข้มงวด'  จนเรียกว่าอดอาหารเลยก็ได้ -_-สาวๆ เหล่านี้จะลดปริมาณอาหารในแต่ละวันลง จากที่เคยกินจานสองจาน เหลือแค่ครึ่งจานหรือ 3-4 คำ ระบบร่างกายจะงง อัตราเผาผลาญยังคงทำงานปกติ ดังนั้นเมื่อสัปดาห์แรกผ่านไปน้ำหนักของเธอจะลดลงฮวบฮาบ อาจแตะสูงสุดถึง 5 กิโลกรัมเลยล่ะค่ะพวกเขาจะดีใจมากที่น้ำหนักลดลง แล้วตั้งมั่นไว้ในใจว่า" เย้! ถ้ากินอย่างนี้แล้วน้ำหนักลด 5 กิโลกรัม อยากลดอีกก็ต้องกินน้อยลงอีก ต่อไปกินมื้อเดียวดีกว่า "แต่น่าเสียดายที่ไม่เป็นอย่างนั้น... 2-3 สัปดาห์ผ่านไป สาวๆ เหล่านี้ก็พบว่าน้ำหนักไม่ได้ลดลงเยอะตามที่ควรจะเป็น ( แน่ล่ะ! ร่างกายไม่ใช่สูตรคณิตศาสตร์ที่จะบวกลบได้เป๊ะๆ ขนาดนั้น! ) ทั้งที่กินน้อยลง แต่เธอกลับลดได้แค่สัปดาห์ละ 2-3 กิโลกรัม สัปดาห์ต่อมาลดลงเหลือแค่ 1 กิโลกรัม จนในที่สุดก็ไม่ลงอีกเลยอารมณ์หงุดหงิดก็มาน่ะสิ จนในที่สุดเธอก็คิดด้วยความโมโหว่า" ยังไม่ลดอีกใช่ไหม! งั้นฉันจะไม่กินอะไรอีกแล้ว คอยดูซิว่าจะเป็นยังไง "//จะเป็นยังไง ก็ตายน่ะสิ =_=ก่อนอื่นอย่าเพิ่งคิดสั้นอย่างนั้น.... มารู้กันก่อนว่า ช่วงที่อดอาหาร เกิดอะไรขึ้นในระบบร่างกายของเธอกันนะ...


ทำไมการ 'กินน้อยๆ' ถึงไม่ได้ผล!

รูปภาพ:http://i.dailymail.co.uk/i/pix/2013/08/06/article-2385179-1B28EBF9000005DC-581_634x323.jpg

มาเรียนรู้ระบบร่างกายกันดีกว่า... \(★ω★)/

เมื่อเธออดอาหารในสัปดาห์แรก

ระบบเผาผลาญ ( เมตาบอลิซึ่ม ) จะเกิดภาวะ

'ช็อค'

ที่ปริมาณอาหารเข้าสู่ร่างกายน้อยลง อย่างไรก็ตาม น้ำหนักส่วนใหญ่ที่หายไปคือ

'น้ำ'

อาจมีไขมันอยู่แค่ 1-2 กิโลกรัมเท่านั้น

เมื่อเธออดอาหารในสัปดาห์ที่สอง


ระบบเมตาบอลิซึ่มยังคง

'ช็อค'

อยู่ ร่างกายจึงยังเผาผลาญปกติ ทำให้น้ำหนักลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ฮวบฮาบเท่าสัปดาห์แรกก็ตาม

เมื่อเธออดอาหารในสัปดาห์ที่สาม

ร่างกายจะเริ่มคุ้นชินและเตรียมรับมือกับแคลอรี่ที่น้อยลง เพื่อให้ระบบภายในทำงานเป็นปกติ

ดังนั้นน้ำหนักจะหยุดนิ่ง และไม่ลงอีกต่อไปแล้วค่ะ


รูปภาพ:https://legionsupplements-legionathletics.netdna-ssl.com/wp-content/uploads/2015/09/intermittent-fasting-starving.jpg

ลองคิดถึงสถานการณ์ของตัวเองสิ...

" ถ้าเธอมีรายได้น้อยลง แต่ค่าใช้จ่ายเท่าเดิม "

เธอจะทำอย่างไร เธอต้อง

' ตัดค่าใช้จ่ายลง '

เพื่อให้พอดีกับจำนวนเงินที่เหลืออยู่ใช่ไหม ร่างกายก็เช่นกัน!

ถ้าร่างกายเห็นว่า

' ค่าใช้จ่าย ( อัตราเผาผลาญพลังงานและไขมัน ) '

สูงเกินไป มันจะเริ่มประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยการลดอัตราเผาผลาญลง เพื่อให้ร่างกายยังกักเก็บไขมันไว้ไม่ให้อดตาย หรือเรียกว่า

'ภาวะจำศีล'

นั่นเองค่ะ


รูปภาพ:http://i.dailymail.co.uk/i/pix/2012/08/04/article-2183677-14619E6D000005DC-429_634x409.jpg

ถ้าเธอยังดึงดัน อดอาหารต่อไปเรื่อยๆ ให้น้ำหนักลดลง ( แม้จะลดแบบช้าๆ ก็ตามที ) ร่างกายจะใช้วิธี'สลายกล้ามเนื้อ'เพื่อให้ระบบภายในยังคงอยู่ต่อไปได้

กล้ามเนื้อเป็นอวัยวะที่ใช้พลังงานเยอะ ( ค่าใช้จ่ายเยอะนั่นเอง ) ร่างกายจึงกำจัดออกเป็นด่านแรก และดีใจด้วย...ไขมันเป็นสิ่งสุดท้ายที่ร่างกายจะกำจัดออกค่ะ

คนส่วนใหญ่จะเริ่มตบะแตกเมื่อทนอดอาหารประมาณ 3 สัปดาห์และพบว่าน้ำหนักคงที่ ในที่สุดพวกเขาจะลืมทุกสิ่งแล้วกินอย่างบ้าคลั่งระบบเผาผลาญจะเกิดภาวะ 'ช็อค' อีกรอบเพราะเผาผลาญพลังงานไม่ทัน ไขมันสะสมก็มา จะอ้วนขึ้นรัวๆ ก็ตอนนี้แหละ


รูปภาพ:http://i1.mirror.co.uk/incoming/article135075.ece/ALTERNATES/s615/image-1-for-coleen-16th-june-2011-gallery-440492834.jpg

น้ำหนักที่หายไปในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา จะเด้งคืนกลับทั้งหมด( เผลอๆ จะหนักขึ้นกว่าเดิมด้วย เพราะเธอใช้วิธีไดเอทผิดๆ จนระบบเผาผลาญต่ำไปเรียบร้อยแล้ว )

แต่ทั้งนี้...ก็ยังมีสาวๆ บางคนที่ยังคงยึดมั่นกับการอดอาหาร วนเวียนอยู่ในลูปเดิมๆ จนกลายเป็นโรค 'อะนอเร็กเซีย' หรือโรคกลัวอ้วนในที่สุด ร่างกายจะเริ่มซูบ ผอมโซจนไม่ต่างกับโครงกระดูกเดินได้ ไม่มีแรงเดินเหิน จนในที่สุดก็ต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล -_-

เดี๋ยวก่อน.. ถ้าอย่างนั้น วิธีลดน้ำหนักที่ถูกต้องคืออะไรล่ะ

ข้อแรกเลย เธอต้องเปลี่ยนความคิดที่ว่าจะ'ลดน้ำหนัก'เปลี่ยนเป็นว่าจะ'ลดไขมัน'หรือ'คงสภาพ / สร้างกล้ามเนื้อ'จะตรงจุดกว่าค่ะ



วิธีแก้ไขเพื่อหลุดพ้นจากสภาวะ 'จำศีล'

รูปภาพ:http://media1.popsugar-assets.com/files/2014/11/07/899/n/1922729/694f1f24375be9b5_thumb_temp_cover_file145631661415385751.xxxlarge/i/Healthy-Gifts-Trendy-Fitness-Girl.jpgรูปภาพ:http://s3.amazonaws.com/etntmedia/media/images/ext/124551234/woman-drinking-water-6-ways-boost-your-metabolism.jpgรูปภาพ:http://katefreemannutrition.com.au/wp-content/uploads/2010/07/choosing-healthy-food.jpg

1. เลิกกินอาหารขยะ ( จังค์ฟู้ด ) และอาหารสำเร็จรูปทั้งหมด แล้วหันมากิน 'อาหารคลีน' หรืออาหารที่มาจากธรรมชาติ ไม่ผ่านกระบวนการทางโรงงานใดๆ เช่น ข้าวกล้องไม่ขัดสี ผักผลไม้สด เป็นต้น

2. ลด ละ เลิกอาหารที่มีไขมัน ( ไขมันชนิดเลว ), อาหารและขนมที่ใส่น้ำตาลขาว  / ขัดสี  หรือน้ำตาลเชิงเดี่ยว

3. ดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้มากขึ้น อย่างน้อย 8 แก้ว ( ประมาณ 2 ลิตร / วัน )

4. แบ่งซอยมื้ออาหารย่อยๆ เป็น 5-6 มื้อ / วัน โดยแบ่งเปอร์เซนต์ดังนี้ [ คาร์โบไฮเดรต 40-45%, โปรตีน 35-40%, ไขมัน 20% ]

5. เริ่มออกกำลังกายแบบ 'เวทเทรนนิ่ง' เบาๆ  ( 3-4 ครั้ง / สัปดาห์ ถ้าอยากลดน้ำหนักและกระชับสัดส่วน )

6. เพิ่มกิจกรรมเต้นแอโรบิก 20-30 นาที 3-4 ครั้ง / สัปดาห์ ในโปรแกรมการออกกำลังกาย

7. อดทนไว้! การกำจัดไขมันอย่างยั่งยืนต้องใช้เวลา ถ้าไม่อยากให้กล้ามเนื้อสลายไป เธออาจกำจัดไขมันได้สูงสุดแค่ 1 กิโลกรัม / สัปดาห์เท่านั้น แต่แม้จะน้อยก็ยั่งยืนนะเออ!

แค่ทำตาม 7 ข้อนี้ เธอก็ได้หุ่นสวยสุขภาพดีสมใจ ไม่กลับมาโยโย่เอฟเฟกต์แล้วล่ะค่ะ ^0^


=========================

ยังคงย้ำคำเดิมว่า การอดอาหารไม่ได้ช่วยให้ผอมแต่อย่างใด กลับกันจะยิ่งทำให้ตบะแตก กินแหลกจนอ้วนกว่าเดิม - - ถ้าเธอกำลังจะลดน้ำหนัก อย่าทำตามความเชื่อผิดๆ ที่ว่า 'ยิ่งกินน้อยลงเท่าไหร่ ก็ยิ่งผอมมากขึ้นเท่านั้น'

แทนที่จะโฟกัสน้ำหนัก เธอควรสนใจในเรื่องการกำจัดไขมัน สร้างกล้ามเนื้อด้วยวิธีควบคุมอาหารดีๆ เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสม ออกกำลังกายเป็นประจำไม่ต้องหักโหมเกินไป นี่แหละคือหนทางสู่ความผอมที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง

หุ่นสวย ผอมเพรียวอย่างฝันไม่มีขาย อยากได้ต้องสร้างเอง แค่มีวินัย ความสม่ำเสมอควบคู่กับความอดทน เธอก็บรรลุเป้าหมายได้ไม่ยากค่ะ เป็นกำลังใจให้ สู้ๆ นะคะ ^_^

=========================


บทความที่เกี่ยวข้อง