บอกเลยว่าผมแบบธรรมชาตินี่แหละคือผมที่เหมาะที่สุดสำหรับการย้อมผมค่ะ แต่ถ้าสาวๆ กำลังคิดจะย้อมผมเป็นครั้งแรกล่ะก็ เรามีอะไรจะมาเตือนกันล่ะ! เพราะนอกจากจะเลือกว่าสีไหนควรย้อม สีไหนจะเข้ากับเราที่สุด ยังต้องรู้อีกด้วยว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับผมของเธอ!! ( คุณพระ!! )
ลองไปดูกันค่ะว่า 10 ข้อที่เราจะมาเตือนสาวๆ วันนี้มีอะไรกันบ้าง
1. ย้อมผมด้วยตัวเองสามารถทำได้
เธอสามารถย้อมสีผมด้วยตัวเองได้ถ้าเป็นสีที่เข้มและเป็นมิติเดียว แต่ถ้าเป็นสีที่ค่อนข้างอ่อนหรือสีสว่าง แบบนี้กรรมวิธีจะเยอะกว่า ไหนจะฟอก ไหนจะย้อม เราคิดว่าไปทำที่ร้านเองดีกว่า แต่ถ้าสีเข้ม ทำเองที่บ้างประหยัดกว่าเยอะค่ะ แถมน่าสนุกดีด้วยนะ
2. ถ้าจะย้อมเอง ควรซื้อมากกว่าหนึ่งกล่องค่ะ
คือถ้าเริ่มย้อมแล้วจะถอยทัพก็คงทำไม่ได้แล้วใช่มั้ยล่ะ แถมถ้าเธอย้อมๆ อยู่ เธอก็คงไม่อยากให้เหลือผมอีกครึ่งหัวค้างเติ่งไว้หรอกนะ ทางที่ดีและปลอดภัยต่อสภาพหัว เราแนะนำให้ซื้อมากกว่าหนึ่งกล่องค่ะ อย่าคิดว่าชั้นผมบาง กล่องเดียวก็พอ เพราะเธอไม่รู้หรอกว่าเส้นผมของสาวๆ น่ะหนากว่าที่ตาเห็นมากนัก!!
3. ใช้สูตรที่เป็นเจลหรือครีมจะดีกว่าถ้าเธอจะย้อมเอง
เพราะสูตรเจลและแบบครีมนี่แหละเป็นสูตรที่ช่วยปกปิดที่ดีที่สุด ส่วนแบบโฟมส่วนใหญ่จะไม่ค่อยซึมเข้าเส้นผมได้ล้ำลึกนัก อาจจะทำให้หลุดง่ายไปอีก ยังไงก่อนจะย้อมก็ดูสูตรของยาย้อมผมบนกล่องให้ดีนะคะ
4. ควรไปทำที่ร้านถ้าอยากได้ผมสีสว่าง
โครงสร้างของเส้นผมแต่ละคนมีความแตกต่างกัน จึงทำให้แต่ละคนก็มีสูตรในการผสมสีที่แตกต่างกันด้วย ด้วยเหตุนี้หากสาวๆ อยากได้สีอ่อนจึงควรไปให้ผู้เชี่ยวชาญที่ร้านดูเส้นผมเพื่อผสมน้ำยาย้อมผมให้เหมาะกับเส้นผมของเธอเอง นอกจากจะได้สีสวยๆ แล้วยังได้ผมที่สุขภาพดีด้วย
5. สำหรับสาวผมหยิก ค่อยๆ ย้อมสีทีละช่อและสม่ำเสมอ
ทำไมสำหรับสาวผมหยิกถึงต้องระวังในการย้อมผมเป็นพิเศษล่ะ? เพราะว่าสาวๆ ผมหยิกต้องระวังลอนผมของตัวเองด้วยจึงต้องทำช้าๆ และสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตามยิ่งถ้าสาวผมหยิกจะทำสีสว่างล่ะก็อันนี้ก็เสี่ยงลอนหายเหมือนกันนะคะ เพราะว่ายาย้อมผมจะไปทำให้ผมเสียยิ่งขึ้นซึ่งก็จะมีผลต่อลอนผมของเธอด้วย สิ่งที่จะเห็นได้ชัดเจนก็คือการสูญเสียความยืดหยุ่นของเส้นผมไปนั่นเอง
6. ลองเฉดสีผมแบบ Balayage ดูสิ!
ก่อนอื่นมารู้จักกันก่อนว่าสีแบบ Balayage คืออะไร? คำว่า Balayage นั้นเป็นภาษาฝรั่งเศสค่ะ ต้นฉบับนั้นแปลว่าการทาสีค่ะ แต่สำหรับวงการช่างผมแล้ว Balayage จะเป็นเทคนิคการย้อมผมแบบ free hand ก็คือไม่ได้กำหนดรูปแบบ เป็นการป้ายสีแบบฟรีสไตล์เลย ซึ่งผลก็คือผมจะดูมีมิติ ให้ลุคที่ดูมีชีวิตชีวา เซ็กซี่ขึ้นเยอะเลยล่ะ
7. สีบลอนด์ดูเจ๋งก็จริง แต่ต้องทำใจว่าความชุ่มชื่นและความแข็งแรงของผมจะหายไปนะ
ก่อนที่จะได้ผมสีบลอนด์สวยงามอร่ามนั้น เราไม่ได้ใช่แค่สีบลอนด์หนึ่งกล่องละเลงบนหัวแล้วเสร็จเลยนะคะ การทำผมสีบลอนด์มีกระบวนการในการทำเยอะมากที่เดียว ไหนจะต้องใช้ developer ที่มีค่าสูงมากๆ แถมยังใช้เวลานานมากด้วย และด้วยเวลานานนี่แหละทำให้น้ำยาสารเคมีทั้งหลายทำร้ายเส้นผมน่าดู สรุปคือได้ผมบลอนด์มา แต่ผมพัง อันนี้ก็ลองดูนะว่าคุ้มจะทำหรือเปล่า
8. อย่าสระผมก่อนจะไปย้อมผม
ถ้าเคยได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาแบบนี้ล่ะก็ ถูกแล้วล่ะจ้ะ อย่าสระผมก่อนไปย้อมผมเลย เพราะผมที่สกปรกๆ นี่แหละเหมาะนักที่จะทำการย้อม น้ำมันจากผมธรรมชาติเป็นตัวปกป้องระหว่างเส้นผมและสารเคมีที่ดีที่สุด ดังนั้นหยุดสระผมซักวันก่อนที่จะวางแผนไปย้อมผมนะจ๊ะ
9. ครีมนวดผมแบบล้ำลึกเป็นสิ่งจำเป็นสุดๆ
ผมที่ได้รับการลงสารเคมีหนักๆ ก็ยิ่งต้องการความรักความเอาใจใส่มากกว่าเดิมหลายเท่านัก ดังนั้นครีมบำรุงผมทั้งหลายจึงเป็นสิ่งที่สาวๆ ต้องมีติดห้องอาบน้ำไว้ อย่างน้อยก็ต้องหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ล่ะที่ต้องจัดการบำรุงแบบเต็มขั้น นอกจากนี้ก็ควรมีน้ำมันบำรุงผมแบบคุณภาพดีๆ ใช้ก็จะดีมากค่ะ
เวลาบำรุงหลังจากที่ลงเครื่องบำรุงทั้งหลายแล้วก็ให้เอาพลาสติกคลุมไว้ประมาณ 20 นาที แบบนี้ก็จะส่งผมให้ประสิทธิภาพในการบำรุงดีขึ้นค่ะ
10. ใช้แชมพูสำหรับผมทำสีโดยเฉพาะเพื่อรักษาสภาพผม
แชมพูสำหรับผมทำสีส่วนใหญ่จะไม่มีสารเคมีที่ทำให้ผมเปราะขาดง่าย เช่น ซัลเฟต เป็นต้น ส่วนเนื้อแชมพูก็จะมีชั้นในการปกป้องที่เบากว่าซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้สีผมของเธอหลุดได้ง่ายๆ นั่นเอง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++คราวนี้สาวๆ คนไหนที่จะไปย้อมผมแต่ยังกลัวๆ กล้าๆ ล่ะก็ไม่ต้องกังวลกันอีกแล้วนะคะ แน่นอนว่าในการย้อมผมนั้น เธอจะต้องเผชิญกับสารเคมีล้านแปด แต่เพื่อความสวยก็ต้องอดทนค่ะ ทั้งอดทนต่อการย้อมที่ต้องใช้เวลานานและอดทนกับการบำรุงต่อไป อาจจะยุ่งยากแต่เราเชื่อว่าเพื่อความสวยแล้วสาวๆSistaCafeเราทนได้อยู่แล้ว!!
