สวัสดีค่ะทุกคน แอเรียลเองค่า \^O^/ เนื่องจากเราได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวรัสเซียที่กรุง Moscow 'ด้วยตัวเอง' ใช่ค่ะ คำว่าด้วยตัวเองก็คือ 'เราไปคนเดียว' เดี่ยวๆ สวยๆ เชิดๆ แต่ถึงแม้ว่าเราจะไปคนเดียวใครว่าจะมีรูปถ่ายคู่กับวิวสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ไม่ได้ล่ะ ถ้าไม่เชื่อ ต้องมาดูกันแล้วล่ะ
พูดถึง
'
Moscow'
หลายๆ คนคงคิดถึงโบสถ์ลูกกวาด หรือว่าวิหาร
St.basil ตุ๊กตาแม่ลูกดก
Matryoshka doll ที่เป็นสัญลักษณ์ของรัสเซีย อากาศอันหนาวเหน็บเนื่องจากว่าติดกับขั้วโลกเหนือ และบรรยากาศความเป็นยุโรปใช่มั้ยคะ...ถูกต้องแล้วค่า!!!
กรุง
Moscow
เป็นเมืองหลวงของประเทศ Russia มีสถานที่ท่องเที่ยวและประวัติศาสตร์มากมาย อยู่ในทวีปยุโรป ใช้เวลาเดินทางโดยเครื่องบิน 8-10 ชั่วโมง การเดินทางภายในประเทศนั้นก็แสนสะดวกมีรถไฟใต้ดิน Metro เข้าถึงเกือบทุกพื้นที่ในเมืองหลวงและต่างจังหวัด แถม Passport คนไทย
ฟรี visa 30 วัน
ไม่ต้องทำ visa เหมือนประเทศในกลุ่ม Shengen ด้วย (แต่ถ้าอยู่เกิน 7 วันจะต้องทำ visa register ) แล้วแบบนี้จะพลาดได้ยังไงล่ะ ซึ่งทริปนี้เราจะใช้เวลาทั้งหมด 3 คืน 4 วันในการเที่ยวมอสโค
วันนี้แอเรียลจะมาพาทุกคนไปเที่ยวถ่ายรูปสวยๆ กรุบๆ ใน
Moscow
กัน พร้อมแล้วก็... Let's go!!!
Day 1 Moscow City Tour
เมื่อเดินทางเข้าเมืองแล้วเราก็เข้าไปเช็คอินที่โรแรมที่เราพักอยู่เป็นอันดับแรกเพราะว่าต้องทำการฝากกระเป๋า เนื่องจากว่ากระเป๋าที่เราพกมาด้วยมันค่อนข้างใหญ่ และไม่สะดวกต่อการลากไปไหนมาไหนเลยค่ะ เราเลยนำไปฝากไว้ที่โรงแรมแล้วจากนั้นก็พกของมีค่า เงินที่แลกมา (เงินรูเบิ้ลRUB) โทรศัพท์ กล้องถ่ายรูป และที่สำคัญ Passportค่ะ ไม่ว่าจะไปไหนต้องพกไปด้วยตลอดเวลาเลยนะคะ
หลังจากทำการฝากสัมภาระเสร็จแล้วเราก็นั่งรถไฟใต้ดิน หรือที่บ้านเขาเรียกกันว่า
Metro
ค่ะ โดยค่าโดยสารแต่ละเที่ยวราคาจะอยู่ที่
55 RUB
ทุกเที่ยวไม่ว่าเราจะไปใกล้หรือไกลแค่ไหน ราคานี้ราคาเดียวราคาเดิม ซึ่งเรามีตัวเลือกนะคะว่าจะซื้อแบบเหมาเที่ยว
Unlimited pass
แบบ 2 วัน 3 วัน หรือเลือกตามวันที่เราสะดวกได้เลยค่ะ จะได้ไม่ต้องซื้อจุกจิกทีละใบ เพราะบางทีก็หาเหรียญไม่เจอบ้าง แต่ต้องเก็บดีๆ นะคะ วิธีการใช้ก็แค่นำบัตรไปแสกนตรงบริเวณทางเข้าประตูได้เลยค่ะ
Red Square
สถานที่แรกที่เราจะพาทุกคนไปเที่ยวในกรุงมอสโคก็คือ
Red Square
หรือว่า
จตุรัสแดง
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศเลยก็ว่าได้ ทั้งยังเป็นศูนย์กลางของกรุงมอสโควอีกด้วย ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญจะอยู่รวมกันอยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น วิหาร St.basil หรือว่าโบสถ์ลูกกวาดที่เรารู้จักกัน ห้างสรรพสินค้า GUM พระราชวัง Kremlin และ Kilometer zero เรียกได้ว่าถ้ามาเที่ยวจตุรัสแดงทีเดียวเหมือนได้เที่ยวหลายที่ในมอสโคเลยก็ว่าได้
การเดินทางมาจตุรัสแดงนั้นไม่ยากเลยค่ะ เราเดินทางด้วยรถไฟสายสีน้ำเงิน มาลงที่สถานี
Ploschad' Revolyutsii (Площадь Революции)
ทางออก 7 นอกจากรถไฟเดินเข้ามาอีกนิดก็ถึงจตุรัสแดงแล้ว
Kilometer Zero
อยู่ด้านหน้าทางเข้าจตุรัสแดงเลยค่ะ ว่ากันว่าถ้าเราไปยืนอยู่ตรงกลางแล้วโยนเหรียญไปทางด้านหลังแล้วเหรียญยังอยู่ในวงกลมเราจะได้มาที่นี่อีกครั้ง ซึ่งทางเราก็โยนค่ะ แต่เหรียญหายไปแล้วนะคะ T^T
St.Basil’s Cathedral
St.Basil’s Cathedral
โบสถ์เซ็นต์เบซิล หรือที่รู้จักกันว่าโบสถ์ลูกกวาด เนื่องจากสีสันภายนอกตัวอาคารมีสีสันสดใส เป็นหนึ่งสถานที่สำคัญที่ไม่ควรพลาดเมื่อมามอสโค เพราะโบสถ์แห่งนี้ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของรัสเซียเลยก็ว่าได้ โดยค่าเข้าชมจะอยู่ที่ 700 RUB ค่ะ ข้างในจะมีข้อมูลและประวัติของนักบุญที่ก่อตั้งวิหารแห่งนี้ ส่วนด้านหน้าจะมีอนุสาวรีย์นักรบผู้กล้า คอสมา มินิน และเจ้าชายดมิทริ โปซาร์สกี้ ผู้นำกองทัพรัสเซีย
GUM Department Store
GUM Department Store
ห้างสรรพสินค้า GUM ห้างหรูที่มีสินค้าแบรนด์เนมมากมายรวมอยู่ที่นี่ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารท้องถิ่น ร้านอาหารทั่วไป และคาเฟ่สำหรับนั่งชิลค่ะ ทางเราเองก็ได้เข้ามาลี้ภัยอากาศหนาวจนมือแข็งจากด้านนอกเข้ามาอยู่ในนี้เพื่อทำการพักทานอาหารกลางวัน ซึ่งอากาศในนี้อุ่นมากค่ะ
Kremlin Palace
เราไม่ได้เข้าไปในพระราชวังค่ะ ถือว่าพลาดมากๆ สารภาพตามตรงเลยคือหาทางเข้าไม่เจอ และทีสำคัญคนไปต่อคิวเข้าแถวกันตั้งแต่เช้าเลย ทางเราเลยไม่ได้เข้าไปนะคะ แต่ดูภายนอกแล้วยิ่งใหญ่มาก แถมทหารที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าก็หล่อมากด้วย นึกว่านายแบบ (อิอิ นอกเรื่องแล้ว)
State Historical Museumเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของรัสเซียไว้ด้านใน ทางเราไม่ได้เข้าไปนะคะ (อีกแล้ว T^T) เนื่องจากวันนั้นที่เราไปมันปิดค่ะ อดเลย แต่ดูข้างนอกแล้วถือว่าสวยมากๆ
การเดินทางสำหรับวันแรกก็จบแล้วนะคะ เนื่องจากเราเจ็ทแลกด้วย ไม่ชินกับเวลา แถมมืดเร็วมาก เลยกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมก่อน สำหรับ Red Square สามารถเที่ยวที่นี่ได้ทั้งวันจริงๆ ค่ะ แต่ควรมาแต่เช้านะคะ เพราะว่าตอนสายๆ หรือกลางวันนักท่องเที่ยวจะเยอะ ทำให้ได้รูปที่ไม่ค่อยสวย และที่สำคัญอาจจะต้องรอคิวยาวมากถ้าเกิดว่าอยากเข้าชมพระราชวัง Kremlin
Day 2 Tsaritsyno-Metro tour
ต้อนรับวันใหม่ด้วยวิวริมแม่ Moskwa พร้อมกับมือเช้าที่โรงแรมค่ะ อาหารในจานนี้เป็นอาหารเช้าที่ทางโรงแรมจัดเป็นบุฟเฟ่ต์ให้นะคะ เราไม่แน่ใจว่ามีอะไรบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นขนมปัง และ Cold cut อากาศตอนเช้าที่นี่ค่อนข้างหนาว แนะนำให้ดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ ก่อนออกไปผจญภัยค่ะ
พระราชวัง Tsaritsyno
Tsaritsyno Palace
สถานที่เที่ยวที่จะพาไปวันนี้ คือพระราชวัง Tsaritsyno พระราชวังของพระนางแคทรีน สำหรับการเดินทางมาสามารถเดินทางมาโดยรถไฟ Metro เช่นเดิมค่ะ โดยจะนั่งรถไฟสายสีเขียวลงสถานี Tsaritsyno (Царицыно) ทางออก 2 หรือ 3 เลี้ยวขวา สังเกตรถไฟท้องถิ่น แล้วเดินผ่านอุโมงค์ใต้สะพาน 2 สะพาน และข้ามถนนมาก็จะเจอทันทีค่ะ ค่าเข้าชมภายในราคา 350 RUB แต่ว่าเราไม่ได้เข้าไปชมข้างในค่ะ จะชมบรรยากาศอยู่แค่ภายนอก
Metro Tour
สำหรับการถ่ายรูปสถานีรถไฟใต้ดินของมอสโคเราจะนั่งรถไฟสายสีน้ำตาลนะคะ เนื่องจากว่าสายสีน้ำตาลจะมีการตกแต่งสถานีรถไฟสวยงามตามเรื่องราวต่างๆ ที่ผู้สร้างต้องการจะสื่อ ส่วนสายอื่นๆ จะเป็นสถานีธรรมดาค่ะ โดยรถไฟสายสีน้ำตาลจะวิ่งเป็นวงกลมรอบเมืองนะคะ
เอาล่ะค่ะมาดูกันดีกว่าว่าแต่ละสถานีจะเป็นยังไงบ้าง...
หมดแล้วค่ะสำหรับวันที่ 2 หวังว่าเพื่อนๆ จะประทับใจและสนใจในสถาปัตยกรรมของสถานีรถไฟใต้ดิน และพระราชวังกันนะคะ
Day 3 Izmailovsky market - Moskwa Cruise
วันนี้ตื่นแต่เช้ามาแต่งหน้าแต่งตัวสวยเป็นพิเศษเลยค่ะ เนื่องจากว่าวันนี้เราจะล่องเรือสุดหรูชมวิวมอสโคกันค่ะ แต่ว่าการล่องเรือนั้นเราจะไปล่องเรือในช่วงเย็นที่พระอาทิตย์ตกนะคะ เช้านี้เราเลยเดินทางไปซื้อของฝากที่ ตลาด Izmailovsky market กันก่อนค่ะ
Izmailovsky market
Izmailovsky market
ตลาด Izmailovsky เป็นตลาดขายของฝากที่ใหญ่ที่สุดในมอสโคเลยก็ว่าได้ ของฝากที่ขึ้นชื่อเมื่อมารัสเซียแล้วไม่ซื้ไม่ได้ก็คือ ตุ๊กตาแม่ลูกดก (Matryoshka doll) มีตั้งแต่ราคาถูก ไปจนถึงราคาแพงเลยค่ะ ซึ่งถ้าใครที่ชอบสะสมผลงานศิลปะ และอยากได้ตุ๊กตาแม่ลูกดกที่มีความยูนีคและเป็นผลงานทางศิลปะ แนะนำให้หยิบขึ้นมาดูข้างใต้นะคะ จะมีลายเซ็นต์ขอศิลปินที่วาดลายตุ๊กอยู่ค่ะ แต่ราคาก็จะค่อนข้างสูงขึ้นมาจากตุ๊กตาแม่ลูกดกธรรมดา นอกจากนี้ยังมีหนังสัตว์ หมวกขนสัตว์ สินค้าทำมือต่างๆ และของสะสมสวยงามที่ตลาดแห่งนี้
Radisson River Cruise
Radisson River Cruise
การนั่งเรือชมวิวแม่น้ำเราจะใช้บริการกับทาง Radisson นะคะ สามารถซื้อตั๋วขึ้นเรือได้ที่ Radisson Collection Hotel ท่าขึ้นเรือของเขาจะอยู่หน้าโรงแรมเลยค่ะ แต่ว่าเราซื้อตั๋วที่ห้าง Evropeyskiy mall ค่ะ เพราะว่าตอนแรกหาโรงแรมไม่เจอ T_T หลงบ่อยมาก เกือบตกรอบเรือเลยด้วยซ้ำ
สำหรับการซื้อตั๋วจะมีหลายชั้นให้เลือกนะคะ เราเลือกซื้อตั๋วชั้น First Class โดยเรือของเราจะชื่อ Mercedes-Benz ราคา 1200 RUB ถือว่าไม่แพงมากนะคะ ถ้าเทียบกับวิว และประสบการณ์สักครั้งในชีวิต เราประทับใจการนั่งเรือของ Radisson River Cruise มากที่สุดในทริปนี้เลยค่ะ บริกรบริการเราดีมากๆ พูดภาษาอังกฤษเก่ง แนะนำเราตลอดเลยเพราะเห็นเราเป็นเด็กผู้หญิงมาคนเดียวด้วย แกชวนคุยเยอะมาก เหมือนเป็นเพื่อนเลย
เมื่อเราขึ้นไปบนเรือแล้วพนักงานจะเอาโค้ที่เราใส่มาไปเก็บให้นะคะ แล้วก็จะพาเราไปเลือกโต๊ะนั่งด้านใน จากนั้นก็จะเอาเมนูอาหารมาให้เราเลือกว่าจะทานอะไร พร้อมกับกระดาษที่เป็นแผนที่เส้นทางการเดินเรือค่ะ
จบแล้วค่ะสำหรับวันที่ 3 เป็นไงบ้างคะ อยากไปเที่ยวรัสเซียกันแล้วใช่มั้ยล่ะ บอกเลยว่ามาคนเดียวก็สนุกได้ แต่ความสนุกยังไม่หมดแค่วันนี้นะคะ ยังมีพรุ่งนี้อีกวัน วันนี้ขอตัวกลับไปนอนหลับพักผ่อนก่อนนะคะ <3
Day 4 Astronaut Dream
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เป็นวันที่ 4 แล้ว และเป็นวันสุดท้ายก่อนจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันชิลๆ ที่ไม่รีบตื่นเลยค่ะ แพลนวันนี้ก็สบายๆ เที่ยวน้อย จะได้ไม่ต้องเร่งรีบตัวเองด้วย วันนี้แอเรียลจะพาทุกคนไปเป็นนักบินอวกาศกันค่ะ พร้อมแล้วรัดเข็มขัดเลยค่ะ จรวดจะออกภายใน
3...2...1...!!!
Museum of cosmonautics
Museum of cosmonautics
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางไปอวกาศของประเทศรัสเซีย ข้างในจะมีดาวเทียม จรวด หรือยาวอวกาศที่รัสเซียส่งออกไปนอกโลก พร้อมกับข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษให้ทุกคนได้อ่านกันด้วย ราคาค่าเข้าอยู่ที่ (250rub) มีเทปบรรยายด้วย แต่ว่าทางเราขออ่านข้อมูลแทนแล้วกันค่ะ
การเดินทางมาให้ขึ้นรถไฟสายสีส้มมาลงสถานี VDNKh (ВДНХ) ทางออก 1 หรือ 5 เดินออกมาก็จะเจอหอคอยที่สูงเสียดฟ้า มีจรวดอยู่ด้านบนสุดของหอคอยทันที
เมื่อซื้อตั๋วแล้วให้นำไปให้เจ้าหน้าที่ได้เลยนะคะ แต่ว่าอย่าลืมฝากกระเป๋ากับเสื้อโค้ทก่อนล่ะ
*ข้อสำคัญ*
ทางพิพิธภัณฑ์ไม่ให้นำ
กล้องถ่ายรูป
เข้าไปนะคะ แต่ว่าสามารถนำ
โทรศัพท์
มือถือ
เข้าไปถ่ายรูปได้
เอาล่ะค่ะหลังจากเดินชมพิพิธภัณฑ์เสร็จแล้วเราก็จะไปเที่ยวอีกที่กันต่อก่อนจะกลับไปพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวกลับประเทศไทยนะคะ
ก่อนไปแวะไปเดินเล่นที่
Exhibition of Achievements of National Economy
และถ่ายรูปสักหน่อยดีกว่า
Cathedral of Christ the Saviour
Cathedral of Christ the Saviour
อีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาด เพราะเป็นโบสถ์ของศาสนาคริสที่สวยมากๆ อีกที่นึงเลยค่ะ หากใครมีโอกาส เราแนะนำที่โบสถ์แห่งนี้นะคะ ข้างในสวยและอลังการมากๆ (แอบอลังการกว่าSt.basil ด้วย) ค่าเข้าชมฟรีค่ะ แต่ว่าไม่ให้ถ่ายรูปนะคะ เราเลยมีแค่รูปบรรยากาศข้างนอกเท่านั้นค่ะ อยากให้ทุกคนได้มาเห็นกับตาตัวเองว่าสวยมากแค่ไหน
การเดินทางมา ให้ขึ้นรถไฟสายสีแดงมาลงที่สถานี
Kropotkinskaya
(Кропоткинская) ทางออก 2 ค่ะ เดินขึ้นบันไดมาเราจะเห็นโบสถ์เลย
Arbat Street
Arbat Street
สถานที่สุดท้ายของทริปนี้...ถนนช้อปปิ้งสายยาวในมอสโค ที่นี่มีสินค้าที่ระลึกขายมากมายเลยค่ะ ใครที่ไม่ได้ไปตลาด Izmailovsky Market สามารถมาซื้อของที่ระลึกที่นี่ได้นะคะ และนอกจากนี้ที่นี่มีผลงานศิลปะขายด้วยค่ะ หรือว่าเราจะจ้างให้เขาวาดรูปเราก็ได้นะคะ
สำหรับการเดินทางมา ให้ขึ้นรถไฟสายสีแดงลงสถานี
Biblioteka Station
ทางออก 8 หรือ 2 ค่ะ
และแล้วเราก็เดินทางครบตามแพลนที่เราเขียนไว้เรียบร้อย เป็นยังไงกันบ้างคะอยากมาเที่ยวรัสเซียกันบ้างหรือเปล่าเอ่ย เรารับประกันได้เลยว่ารัสเซียสวยไม่แพ้ประเทศอื่นๆ ในยุโรปเลยค่ะ ที่สำคัญการเดินทางก็สะดวกและง่ายมากๆ เพียงแต่เราต้องมีสติในการอ่านป้ายสถานีเท่านั้นค่ะ 555 (หลงบ่อยเพราะนั่งเลยป้าย) ที่สำคัญถึงแม้เราจะเป็นผู้หญิงที่สวยและน่ารักมากๆ แค่ไหน (หรอ?) การมาเที่ยวที่รัสเซียคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวเลยค่ะ แถมคนรัสเซียยังช่วยเหลือเราอีกด้วย ถึงแม้บางคนจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ หน้าไม่ค่อยยิ้ม แต่เขาช่วยเหลือเราเต็มที่เลยนะคะ ถ้ามีโอกาสจะกลับมาเที่ยวที่นี่อีกค่ะ
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ หวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คนอยากออกเดินทางไปเที่ยวที่ไหนสักแห่งโดยไม่กลัวว่าจะต้องไปคนเดียวนะคะ การเที่ยวคนเดียวไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ที่สำคัญมันทำให้เราได้เพื่อนชาวต่างชาติ ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น และได้เรียนรู้โลกกว้างมากขึ้นด้วยค่ะ
Love ❤
#ARTWinRussia
#ARTWinMoscow
