สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เปิดกรุผู้ช่วยชีวิตผิวของพิ้ง หลังจากผิวแห้งขาดน้ำ มีสิวแถมรอยสิวมาด้วยอีก ก็ได้ฤกษ์ทดลองสกินแคร์หลายๆ แบรนด์ที่จะมากู้ผิวกลับมาดีเหมือนเดิม แต่ที่คัดมาได้ที่ถูกใจแล้วเห็นผลจริงๆ คือ 5 โปรดักส์ตามด้านล่างเลยค่ะ เดี๋ยวพิ้งจะไล่ไปแต่ละขั้นตอนเลยนะคะว่าลงตัวไหนก่อน-หลัง

รูปภาพ:

1. Pixi Glow Tonic 5% Glycolic Acid

รูปภาพ:

เริ่มแรกจะลงเป็นโทนเนอร์ของ pixi เป็นแบรนด์ออร์แกนิค หลายคนน่าจะคุ้นตัวนี้มานานแล้วนะคะ เป็นโทนเนอร์ที่ทุ่มใจซื้อขวดใหญ่มาใช้เลย เพราะมันช่วยเรื่องผลัดเซลล์ที่ตายแล้วได้ดีมาก แล้วที่สำคัญขวดใหญ่คุ้มกว่ามากเลยนะคะ รอยสิวที่เป็นดำๆ นี้ คือจางไวมากค่ะ เพราะมี 5% Glycolic Acid ที่ขนาดโมเลกุลเล็กมากกว่าพวก AHA อีก (ตรงนี้ซื้อใจไปเต็มๆ)

รูปภาพ:

นอกจากนี้ยังช่วยยับยั้งเรื่องสิว สิวเสี้ยน สิวผดได้ดีเลยนะ (มี Witch Hazel) กลิ่นจะออกแนวซีตรัสอ่อนๆ ไม่แรงมากค่ะ หลังทาแล้วให้ความชุ่มชื้นกับผิวด้วย เท่าที่ใช้ทุกสูตรของนางมา สูตรนี้เลิฟที่สุดค่ะ แนะนำเลย

2. Za TRUE WHITE EX ESSENCE LOTION n

รูปภาพ:

ต่อด้วยการตบผิวอันนี้ของ Za พิ้งซื้อมาจากวัตสัน ตัวส่วนประกอบน่าสนใจมากค่ะ มีทั้ง Whitening 4MSK / Vitamin C / Olive Extract / SPA Ingredient ตัวเนื้อจะเป็นโลชั่น-เอสเซ้นส์-อิมัลชั่นนะคะ ปรากฏดีงามมมมาก ครบจบๆ ในตัวเดียวไปเลย

รูปภาพ:

พิ้งชอบตัวเนื้อเค้ามากๆ สีใส บางเบา ซึมง่ายแล้วก็ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวอีกด้วย ทาก่อนแต่งหน้าไม่ต้องกังวลไม่มีความมันทิ้งไว้เลยค่ะ หรือ ถ้าใครอยากบำรุงจัดเต็มตัวนี้ก็เอาไปหยดลงแผ่นมาส์กได้ พิ้งชอบทำตอนกลางคืนมาส์กไว้สัก 15-20 นาทีค่ะ  ตื่นมาแล้วผิวดูใส


รูปภาพ:

นอกจากจะช่วยเรื่องผิวดูกระจ่างใสขึ้น ที่เห็นได้ชัดๆเลยจะช่วยลดพวกรอยสิว กระ ฝ้าได้ด้วย ส่วนตัวคิดว่าดีกว่าใช้ Sleeping mask ตรงที่หน้าจะไม่ค่อยมันตอนตื่นนอน ไม่มีปัญหาต้องมาซักหมอนใหม่เพราะหน้ามัน 5555 แถมได้ผิวฟูใสๆ ด้วย ใครหาน้ำตบถูกและดีให้มงลงที่ Za เลยค่ะ

รูปภาพ:

ตัวนี้เป็นตัวใหม่ล่าสุดที่เข้ามาในกรุ เลยลองทดลอง 7 วัน ได้ Before After แบบในภาพเลยค่ะ ผิวดูอิ่มๆ ใสขึ้น พิ้งมีปัญหารอยสิวบริเวณรอบปากเยอะมาก เพื่อนๆจะเห็นมุมซ้ายบนปาก แล้วก็กลางคางเป็นจุดดำ (Before) ใช้การตบลงบนผิวหน้าเช้า-เย็น แล้วก็ภายใน 7 วัน มาส์กไป 2 ครั้งก็ได้เป็น After แบบที่เห็นเลยค่ะ ผิวดีใสขึ้นด้วย รอยดำจางลง หน้าดูสุขภาพดี ทาลิปมันสีแบบในรูปก็สวยจบปิ๊ง

รูปภาพ:

ขอซูมผิวให้ดูชัดๆๆ กันไปเลยทุกคนนน

3. Olay White Radiance Light Perfecting Essence

รูปภาพ:

สำหรับตัวนี้เป็นสาย Whitening เหมือนกันค่ะ ช่วยเรื่องผิวขาวอย่างเป็นธรรมชาติเป็นหลัก แล้วก็มี Vit B3 ผสมด้วย นอกจากนี้ก็ช่วยเรื่องจุดด่างดำ จะเป็นเนื้อเอสเซ้นส์บางเบา สีขาวมุก มีกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ แต่นี่ใช้แล้วไม่แพ้แต่อย่างใด เกลี่ยง่าย ซึมง่ายให้ความชุ่มชื้นดีเลย ใช้คู่กับ Za ก็ไม่ต้องลงตัวอื่นเพิ่มแล้วค่ะ

รูปภาพ:

บูสผิวให้ชุ่มชื้นตอนเช้าๆ ปังมาก ส่วนตัวเห็นผลเรื่องสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอชัดเจนเลยนะคะ แต่ต้องใช้เวลานิดนึงสำหรับตัวนี้ ตอนที่เห็นผลก็ปาไปครึ่งขวดแล้ว แต่คุณภาพกับราคาขนาดนี้ก็ให้อยู่ในกรุได้ต่ออ


สำหรับตอนเช้าก็จะใช้ 3 ตัวแรกด้านบนเลยนะคะแค่นี้ผิวก็ตื่นชุ่มชื้น+ช่วยเรื่องขาวกระจ่างใสได้ดีงามมาก วันไหนออกจากบ้านก็ทาครีมกันแดดเพิ่มไปแค่นั้นเองค่า แต่ส่วนตัวชอบใช้ Sleeping mask อยู่เหมือนกันเลยจะมาแนะนำสองตัวที่ใช้สลับกันให้เพื่อนๆ ลองไปตำตามกันดู

รูปภาพ:

4. Neutrogena Hydro Boost 3D Sleeping Mask

รูปภาพ:

อีกหนึ่งสาเหตุที่พิ้งเป็นสิวง่ายเพราะว่าผิวไม่ชุ่มชื้น อยากขอเตือนสาวที่เป็นสิวให้เติมน้ำให้ผิวเยอะๆนะคะ ส่วนใครผิวแห้งหนักมากๆ แนะนำเป็น Neutrogena Hydro Boost 3D Sleeping Mask เลยค่ะ


รูปภาพ:

สูตรนี้จะใช้ตอนกลางคืนน้า ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวที่แห้ง เป็นเนื้อเจลเคลือบผิวบางๆ ทานิดเดียวพอนะคะจะได้สบายผิว จะเห็นว่าพิ้งใช้ไปเยอะมากๆ 5555 พิ้งใช้แล้วชอบมากรู้สึกผิวฟู อิ่มน้ำ แต่นางก็ช่วยแค่เรื่องเติมน้ำจริงๆ เรื่องอื่นไม่เลย 55555 แต่อย่างน้อยก็ลดสาเหตุของการระคายเคืองผิวเพราะหน้าแห้ง ถือดีผ่านมากๆ ค่ะ

5. L'oreal white perfect sleeping mask

รูปภาพ:

เน้นเรื่องความชุ่มชื้น และความกระจ่างใสของผิวเป็นหลักมี Vit B3 ช่วยพวกเรื่องจุดด่างดำ รอยสิวด้วย แนะนำใช้ตอนกลางคืนนะคะ เค้าจะช่วยปรับผิวให้ดูสีสม่ำเสมอขึ้น มีเม็ดบีดส์ที่กักวิตามินอีอยู่ ช่วยเรื่อง Anti Oxidant ให้ผิวเราสัมผัสนุ่มขึ้น ส่วนตัวเห็นเรื่องความชุ่มชื้นชัดเจนและความใสของผิวอีกเล็กน้อยค่ะ

รูปภาพ:

แต่น้องคนนี้แอบมีน้ำหอมนะคะ แต่พิ้งใช้แล้วไม่แพ้อะไร เอาเป็นว่าตื่นเช้ามาก็ผิวไม่โทรมนะคะ ดูฟูใส ใครหา Sleeping mask ของสายขาวก็จัดตัวนี้ได้ค่ะ

รูปภาพ:

พิ้งลองทาทั้งสองตัวอย่างละครึ่งหน้าให้เห็นเลยว่าความชุ่มชื้นที่เคลือบผิวมองด้วยตาแทบไม่แตกต่างเลยค่ะ เงาฉ่ำมาก สำหรับความรู้สึกหลังใช้สายชุ่มชื้นอยากเห็นผลไวๆ ก็น้อง 3D Sleeping จะเวิร์คกว่าแต่ถ้าสายขาวกระจ่างใสไปทางลอริอัลเลย แต่ตัวลอริอัลจะค่อนข้างใช้เวลาซึมมากกว่านะคะ

รูปภาพ:

สำหรับกรุนี้รับรองว่าคัดมาแล้วว่าคุ้มค่าต่อการรับน้องมาอยู่ที่บ้านกับเรามากค่ะ ยังไงเพื่อนๆ คนไหนใช้อะไรกันอยู่อย่าลืมแชร์บอกต่อกันเยอะๆ น้า วันนี้พิ้งไปก่อนแล้ว ไว้เจอกันใหม่บทความหน้านะคะ