ใครเป็นบ้าง เวลาเห็นบิลค่าใช้จ่ายขาแทบอ่อน ได้แต่สงสัยค่าใช้จ่ายเยอะแยะพวกนี้มันมาจากไหนกัน!


ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่า "เวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน" สังคมก็ย่อมเปลี่ยนตาม ค่าครองชีพสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายก็ต้องเพิ่มขึ้น จากสมัยคุณตาคุณยาย ก๋วยเตี๋ยวถ้วยละ 5 บาท สมัยนี้ล่ะ 45-60 บาท พูดแค่นี้ก็คงจะเห็นภาพแล้ว

สังคมมันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ไม่ใช่แค่สังคมที่เปลี่ยนไป ตัวเราก็เปลี่ยน ถึงแม้จะรู้ว่าของแพงหรือไม่จำเป็น แต่เรานั้นก็ต้องการที่จะครอบครอง อยากได้ของเหล่านั้นมาเพื่อเสริมสร้างบุคลิกของเรา หลายครั้งเราก็รู้สึกว่าประหยัดแล้วนะ ถึงแม้ค่าใช้จ่ายจะน้อยลง แต่ก็ยังรู้สึกค่าใช้จ่ายยังเยอะเหมือนเดิม จริงมั๊ย?

เหนื่อย!!! ทำงานหาเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอกับค่าใช้จ่าย

มนุษย์เงินเดือน คือได้เงิน ได้เงินคืออิสระ อิสระคือใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เอ้ยย!! จะทำแบบนี้ไม่ได้นะ

ใครเคยคิดบ้าง ว่าทำงานแล้วมีเงินชีวิตจะดีขึ้น... มันก็ถูกนะ แต่ไม่ใช่คำตอบที่ถูกที่สุด... เพราะถ้าคุณทำงานได้เงินน้อย แต่ค่าใช้จ่ายคุณเยอะ การทำคุณทำงานไปก็เหมือนทำเพื่อจ่ายหนี้ เพื่ออยู่รอดไปเดือนๆ เงินใกล้หมดเมื่อไหร่ สิ้นเดือนทีไรก็มาม่ายาวไป

ชีวิตแบบนี้ น่าเบื่อสิ้นดี ถ้าเกิดวันไหนคุณเกิดเป็นอะไรขึ้นมา ต้องเข้าโรงพยาบาลด่วน คุณจะเอาเงินที่ไหนมาดูแลตัวเอง พ่อแม่คุณเกิดประสบอุบัติเหตุขึ้นมา จะเอาเงินที่ไหนรักษาท่าน พอพูดแบบนี้ เครียดเลยใช่ไหมล่ะ

แล้วเราจะทำยังไงดี? ประหยัดให้มากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายลง ซื้อแต่ของที่จำเป็น...ฟังดูเป็นความคิดที่ดีนะ แต่ถ้าทำไม่ได้ล่ะ ชีวิตเราก็จะวนลูปอยู่อย่างนั้น ได้เงินมาก็ใช้ ใช้ ใช้ ใช้ สิ้นเดือนมาก็ มาม่า (ช่างเป็นชีวิตที่สมบูรณ์แบบจริงๆ)5555555

มนุษย์เงินเดือน คือได้เงิน ได้เงินคืออิสระ อิสระคือใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เอ้ยย!! จะทำแบบนี้ไม่ได้นะ

ใครเคยคิดบ้าง ว่าทำงานแล้วมีเงินชีวิตจะดีขึ้น... มันก็ถูกนะ แต่ไม่ใช่คำตอบที่ถูกที่สุด... เพราะถ้าคุณทำงานได้เงินน้อย แต่ค่าใช้จ่ายคุณเยอะ การทำคุณทำงานไปก็เหมือนทำเพื่อจ่ายหนี้ เพื่ออยู่รอดไปเดือนๆ เงินใกล้หมดเมื่อไหร่ สิ้นเดือนทีไรก็มาม่ายาวไป

ชีวิตแบบนี้ น่าเบื่อสิ้นดี ถ้าเกิดวันไหนคุณเกิดเป็นอะไรขึ้นมา ต้องเข้าโรงพยาบาลด่วน คุณจะเอาเงินที่ไหนมาดูแลตัวเอง พ่อแม่คุณเกิดประสบอุบัติเหตุขึ้นมา จะเอาเงินที่ไหนรักษาท่าน พอพูดแบบนี้ เครียดเลยใช่ไหมล่ะ

แล้วเราจะทำยังไงดี? ประหยัดให้มากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายลง ซื้อแต่ของที่จำเป็น...ฟังดูเป็นความคิดที่ดีนะ แต่ถ้าทำไม่ได้ล่ะ ชีวิตเราก็จะวนลูปอยู่อย่างนั้น ได้เงินมาก็ใช้ ใช้ ใช้ ใช้ สิ้นเดือนมาก็ มาม่า (ช่างเป็นชีวิตที่สมบูรณ์แบบจริงๆ)55555555

มนุษย์เงินเดือน คือได้เงิน ได้เงินคืออิสระ อิสระคือใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เอ้ยย!! จะทำแบบนี้ไม่ได้นะ

ใครเคยคิดบ้าง ว่าทำงานแล้วมีเงินชีวิตจะดีขึ้น... มันก็ถูกนะ แต่ไม่ใช่คำตอบที่ถูกที่สุด... เพราะถ้าคุณทำงานได้เงินน้อย แต่ค่าใช้จ่ายคุณเยอะ การทำคุณทำงานไปก็เหมือนทำเพื่อจ่ายหนี้ เพื่ออยู่รอดไปเดือนๆ เงินใกล้หมดเมื่อไหร่ สิ้นเดือนทีไรก็มาม่ายาวไป

ชีวิตแบบนี้ น่าเบื่อสิ้นดี ถ้าเกิดวันไหนคุณเกิดเป็นอะไรขึ้นมา ต้องเข้าโรงพยาบาลด่วน คุณจะเอาเงินที่ไหนมาดูแลตัวเอง พ่อแม่คุณเกิดประสบอุบัติเหตุขึ้นมา จะเอาเงินที่ไหนรักษาท่าน พอพูดแบบนี้ เครียดเลยใช่ไหมล่ะ

แล้วเราจะทำยังไงดี? ประหยัดให้มากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายลง ซื้อแต่ของที่จำเป็น...ฟังดูเป็นความคิดที่ดีนะ แต่ถ้าทำไม่ได้ล่ะ ชีวิตเราก็จะวนลูปอยู่อย่างนั้น ได้เงินมาก็ใช้ ใช้ ใช้ ใช้ สิ้นเดือนมาก็ มาม่า (ช่างเป็นชีวิตที่สมบูรณ์แบบจริงๆ) 55555555

ขนาดว่ามีเงินเดือน ชีวิตยังขนาดนี้ ถ้าไม่มีเงินเดือน จะชิพหายขนาดไหน

ยอมรับว่าค่าใช้จ่ายเดี๋ยวนี้มันเยอะจริงๆ ตั้งแต่เกิดมาก็เสียตังค่าทำคลอดแล้ว คิดดู!! ยิ่งโตยิ่งค่าใช้จ่ายเยอะ แล้วบ้านที่มีลูก 2+ คนจะไม่ล้มละลายไปก่อนหรอ555555

พ่อแม่เดี๋ยวนี้ต้องมีความอดทนและความสามารถในการหาเงินให้มากขึ้น เท่ากับว่า เหนื่อยมากขึ้น!! เพื่อให้ลูกๆ สบาย ยิ่งค่าใช้จ่ายเยอะเท่าไหร่ ยิ่งต้องทำงานหนักมากเท่านั้น (เหนื่อยน่าดู)

เอาล่ะ เข้าเรื่องกันหลังจากที่เกริ่นมากซะเยอะ555


ถ้าต้องทำงานหนักเพื่อแลกกับรายได้ที่เยอะกว่าเดิมไม่เท่าไหร่ คิดว่ามันคุ้มมั๊ยถ้าคำตอบของคุณคือ ไม่ เราคิดเหมือนกัน

หาให้มากกว่าที่จ่าย

ถ้าคุณมีค่าใช้จ่ายเยอะ คุณมองหาโอกาสที่จะช่วยให้คุณสร้างรายได้ให้มันเยอะขึ้นสิ แบบนั้นมันจะดีกว่ามั้ย

ถ้าคุณสามารถหาได้มากกว่าที่คุณใช้มันจะช่วยให้คุณมีอิสระทางการเงินมากขึ้น แล้วเราจะเริ่มจากตรงไหน...

"ลงทุน"

ลองปรับความคิดของตัวเอง ออกมาจากวูปเดิมๆ อาจจะเสี่ยง แต่มันดีกว่าไม่ได้ลอง "ลงทุน" คือคำตอบของหลายๆคนที่อยากรวย แต่ไม่ใช่การเอาชีวิตไปแขวนบนเส้นด้าย แบบที่ว่าได้คือได้ เสียคือเสีย แบบนี้ดูไม่มีทักษะซะเลย

หลายคนที่อยากลงทุน เราแนะนำให้ลงทุน "ความรู้" ก่อน แล้วคุณจะไม่เสียใจ ถึงแม้ว่าคุณจะได้ลงทุนจริงๆหลังจากมีความรู้

"ลงทุน" ในที่นี้ เราไม่ได้หมายถึงให้คุณขายของอย่างเดียว การที่คุณลงทุนในความรู้ รู้ให้แท้ เก่งให้สุด นั่นคือการลงทุนที่ลดความเสี่ยงได้อย่างมากในการจะเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง

เมื่อคุณเริ่มลงทุนอะไรสักอย่าง ให้คุณตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน อยากมีเงิน 10ล้าน 100ล้าน ไม่ใช่ อยากมีเงินเยอะ (เพราะคำว่าเยอะของแต่ละคนไม่เท่ากัน เก็ทมั๊ย555)

จะลงทุนอะไรไป มองให้เห็นการเติบโตของมัน แล้วเส้นทางที่เราวางไว้จะประสบความสำเร็จเร็วขึ้น


ยิ่งมองเห็นเส้นทางการเติบโตในระยะยาว คุณจะสามารถสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ

สร้างรายได้ด้วยตนเอง

ฝากติดตามกันด้วยน้าาา ต่อไปเราจะมาพูดถึงเรื่องการลงทุน จะน่าสนใจขนาดไหน ต้องรอติดตามกันนะ^^