เซย์ไฮสาวๆSistaCafeคนผมมันทั้งหลาย~

เป็นเรื่องคลาสสิกระดับโลกเวอร์ๆ ผู้หญิงจะผมยาวผมสั้น ต้องเคยเจอปัญหาเดียวกันอย่าง ' ผมมันเยิ้ม ' บางคนเยิ้มพอกรุบกริบ บางคนก็เยิ้มทั้งหัวจนเหมือนเอาผมไปหมักน้ำมันมา T[]T

บางทีลืมเช็คก่อนออกจากบ้าน ต้องไปพบปะผู้คนหรือถ่ายรูป พอมีคนตาดีมาเห็นผมมันๆ ลีบลู่ของเรา ก็อายม้วน ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน น่าหงุดหงิดชะมัด จนบางทีต้องมัดผมบันเก็บไว้ใต้หมวกทั้งวันก็มี -___-

ใครที่กำลังเจอปัญหานี้ ขอจับมือก่อนเลย เพราะเธอมีเพื่อนร่วมเซ็งด้วยกันทั้งโลกค่ะ! แม้อากาศร้อนๆ ทั้งปีอย่างเมืองไทยจะเอื้อให้ผมมันได้ง่าย


แต่เชื่อไหมว่าต่างชาติ ตะวันตกประเทศหนาวๆ ทั้งปี บางคนแทบไม่มีเหงื่อ เขาก็ผมมันได้เหมือนกัน เผลอๆ รุนแรงกว่าด้วย


จะเป็นเพราะอะไรนั้น เราลองไปดูสาเหตุด้านล่างกันค่ะซิส( ̄︿ ̄)

☆ ปัญหา ' ผมมันเยิ้ม ' เกิดจากอะไร ☆

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/5d75b664b1081a6ed7c673767ee0ebc9.jpg

ก่อนที่เราจะขจัดความมัน ป้องกันผมมัน เราต้องรู้ก่อนนะคะว่า ' ผมมัน ' มาจากไหน โดยปกติแล้วเส้นผมมันเยิ้มๆ เหมือนทอดไข่ดาวเนี่ย มักมาจากการสะสมของซีบัม น้ำมันส่วนเกินบนหนังศีรษะ ซึ่งมาจากต่อมไขมันตามธรรมชาติของเราซึ่งร่างกายของคนปกติ ต่อมไขมันก็จะผลิตน้ำมันออกมาหล่อเลี้ยงผิวหนังในร่างกาย รวมถึงหนังศีรษะ ( เพราะหนังศีรษะก็เป็นผิวหนัง ) ในปริมาณที่ ' พอดี ' เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ไม่ขาดน้ำ สุขภาพดีค่ะแต่บางครั้งเราก็อาจจะเผลอไป ' กระตุ้น ' ต่อมน้ำมันให้ทำงานโอเวอร์โหลดไปหน่อย... ( จะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ) ทำให้น้ำมันออกมาเยอะมากๆ จนทำให้ทุกบริเวณที่เป็นผิวหนังมันเยิ้มนั่นเองโดยอาจจะเป็นได้ทั้งปัจจัยภายใน อย่างฮอร์โมนไม่สมดุล แต่ส่วนใหญ่มักจะมาจากขั้นตอนเสริมสวยของเราเองนี่แหละ! เช่น ปกติสระผมบ่อยไหม ใช้ผลิตภัณฑ์แต่งผมแบบไหน แค่เรื่องง่ายๆ อย่างวันนี้เราทำผมทรงไหน ก็บ่งบอกได้เลยว่าผมเราจะมันง่ายหรือไม่ =[]=ดังนั้นสาวผมมันทั้งหลาย จงมาอ่าน 7 กฎเหล็กในบทความนี้ จด จำ และนำไปใช้กันโดยด่วน จะได้เลิกติดแฮชแท็ก #ฉันเกลียดผมมัน กันซะที 3-2-1 Go!

1. ใช้ 'ครีมนวดผม' ผิดวิธีหรือเปล่า หัวถึงได้มันย่อง!

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/387d62208d7398f788777d32c86a1b49.jpg

ความเชื่อของคนผมมันอย่างเราๆ ก็มักคิดฟันธงไปก่อนเลยว่า' อะไรที่เป็นครีมๆ มันๆ ' คือทำให้ผมมัน ห้ามใช้!โดยเฉพาะครีมนวดผม ที่ถ้าไปสำรวจห้องน้ำผู้หญิงสัก 10 คน อาจจะมีติดไว้สักครึ่งนึง แต่ใช้จริงทุกครั้งไม่ถึง 2 คน เพราะกลัวผมจะมันเงา ล้างไม่ออก หัวเหนียวหัวหนึบต่างๆ ใดๆ


ทั้งที่จริงแล้วครีมนวดผมนี่แหละ สำคัญกับสาวผมมันมากๆ เพราะมีส่วนผสมของสารบำรุงธรรมชาติ ให้ผมชุ่มชื้นมากกว่าใช้แค่แชมพูเพียงอย่างเดียว

จะสังเกตได้ว่า สาวๆ ที่ใช้แค่แชมพู ผมอาจจะไม่เยิ้ม แต่จะดูแห้งๆ กรอบๆ ชอบกล คือดูไม่ใช่ผมเฮลตี้อะ นึกออกชะ

เพราะฉะนั้นครีมนวดผมน่ะ ควรใช้ไปนั่นแหละ แต่เลือกสูตรที่เหมาะกับสภาพเส้นผมสักหน่อย ( บางสูตรก็ทำมาเพื่อคนผมมันนะ รู้ยัง? )

โดยย้ำ เน้นว่าย้ำให้ลงหนักๆ แค่ช่วงปลาย เหมือนรูปด้านบน อย่าไปยุ่งกับส่วนหนังศีรษะ เดี๋ยวจะยิ่งดูผมลีบมัน สุดท้ายก็อย่าลืมสระด้วยแชมพูอีกรอบให้สะอาดหมดจดค่ะ


**บางทีผมที่ดูมันๆ อาจจะเป็นแชมพูหรือครีมนวดที่เธอล้างไม่หมดเองก็ได้เด้อ**

2. สระผมให้น้อยลงหน่อยก็ได้ ยิ่งสระบ่อย หัวยิ่งมันนะจ๊ะ!

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/546d7f6f0ffcc769c4abc6ecffcbae91.jpg

ได้ยินไม่ผิดหรอก เราบอกเธอว่าไม่ต้องสระผมบ่อย! หลายคนคงแย้งทันทีว่า" ไม่ได้ปะ ขนาดสระบ่อยยังมันขนาดนี้ ไม่ค่อยสระผม ได้พันกันเป็นรังนกพอดี "แต่ที่จริงสระบ่อยเกินไปนี่แหละ ทำให้หนังศีรษะผิดปกติ!

สมมุติเธอตื่นเช้ามาพร้อมกับหนังศีรษะมันๆ แล้วไปสระผม

เธอต้องใช้แชมพูชะล้าง ถูๆ กระตุ้นหนังศีรษะให้เอาน้ำมันออกมา แต่นั่นก็คือการ ' กระตุ้นเร่งให้น้ำมันออกมา ' ในเวลาเดียวกัน! เพราะเมื่อหนังศีรษะแห้งเกินไป ร่างกายจะตอบสนองด้วยการผลิตน้ำมันให้มากขึ้นกว่าเดิม สุดท้ายก็ ' เยอะเกินไป '

พอเยอะไปจนผมมันเธอก็สระอีก วนลูปไปเรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้น

ดังนั้นถ้าไม่อยากเสียเวลามาสระผมทุกวัน ก็ไม่ต้องสระค่ะ! เอาแค่วันเว้นวัน หรือ 2 วันสระทีก็ยังไหว ถ้ากลัวไม่เซลฟ์เวลาออกไปข้างนอก ก็ใช้แป้งเด็กโรยเบาๆ หรือใช้สเปรย์ผมหอมก็ได้

มีขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป แ

ต่เตือนนิดนึงว่า มันต้องใช้เวลาให้หนังศีรษะปรับสภาพนิดนึงนะคะ ไม่ใช่ว่าไม่สระคืนนี้ วันรุ่งขึ้นผมหายมันเลย ก็จะขายฝันกันเกินไปหน่อย! เผื่อไว้เลย 2-3 สัปดาห์

รับรองว่าผมมันน้อยลงอย่างแน่นอน

3. เลือกประเภท 'แปรงหวีผม' ให้เป็น ผมจะมันน้อยลง #อะเมซซิ่ง!

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/7473e34a58a4a8ec771ad77e146e697b.jpg

อะ มาถึงอุปกรณ์เกี่ยวกับผมบ้างละ! ซึ่งไอเทมใกล้ตัวที่สุดเกี่ยวกับผม จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก ' แปรงหวีผม ' ซึ่งต้องใช้ทุกวัน

แต่บางคนก็ไม่กล้าหวีบ่อยย เพราะมีความเชื่อผิดๆ ว่า ยิ่งหวีจะยิ่งไปกระตุ้นต่อมน้ำมัน ทำให้ผมยิ่งมันเยิ้มกว่าเดิม แต่จริงๆ จ้อจี้เวอร์ ไม่เกี่ยว! มันอยู่ที่ว่าเธอใช้แปรงประเภทไหนมากกว่า

ถ้าเลือกแปรงเป็น เธอจะยิ่งกำจัดน้ำมันส่วนเกินจากหนังศีรษะได้มากขึ้น ผมมันน้อยลงด้วยซ้ำ

ซึ่งแปรงที่เราภูมิใจนำเสนอคือ ' Bristle Brush ' หรือแปรงที่ใช้ขนแปรงจากขนหมูป่า ( หรือจะเป็นขนสังเคราะห์ที่ลักษณะคล้ายหมูป่าก็ได้ ไม่มายด์ ) ขนประมาณนี้จะช่วยสางความมันจากหัวได้ดีนักแหละ


แต่อย่าแปรงเยอะเกินไป แปรงแค่วันละครั้งพอสางๆ ผมก็พอ อย่าแปรงเอามันส์เกิน มันจะยิ่งกระตุ้นต่อมน้ำมัน สรุปคือยังไงก็ต้องหวี แต่หวีแค่พอประมาณ ทุกอย่างต้องมีจุดสมดุล!

4. ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผมทุกชนิด 'ห้ามมีส่วนผสมของน้ำมัน'

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/13ce3b76943e019f7c681ee2f1f65313.jpg

สาวๆ คนไหนที่ค่อนข้างวอแวกับเรื่องผมเยอะหน่อย ต้องแต่งผม ม้วนผมลอน เติมแว็กซ์ ใส่เจล ฉีดสเปรย์ตลอดเวลาออกไปข้างนอก อย่าได้มองข้ามส่วนผสมของ ' ผลิตภัณฑ์แต่งผม ' เหล่านี้เชียว เพราะหากมีส่วนผสมของน้ำมัน มันจะยิ่งไปกระตุ้นให้ผมมันเยิ้มได้ง่ายมากๆ

( เสียใจที่ต้องบอกว่า รวมถึงดรายแชมพูด้วย! )

เลี่ยงได้เลี่ยงนะ สูตรที่บอกว่า" ทำให้ผมมันเงา "หรือ" ยืดผมตรง เพื่อสาวผมหยิก "เพราะพวกนี้จะมีน้ำมันผสมอย่างแน่นอน ตกเย็นผมลู่ผมลีบแน่ ไม่ต้องกลัว!

เราแนะนำให้หาผลิตภัณฑ์แต่งผมที่เน้น ' วอลลุ่ม ' ของเส้นผมแทนจะดีกว่า เพราะสูตรเหล่านั้นจะช่วยยกเส้นผมขึ้น จึงทำให้ผมไม่สัมผัสกับหนังศีรษะมันๆ ของเธอโดยตรง

ทำให้ผมมันน้อยลง ( หรืออย่างน้อยก็ยืดเวลาให้ผมไม่มันเร็วเกินไป ) ได้ชัวร์ ฟันธง!

5. หลีกเลี่ยงการใช้ 'ที่หนีบผมตรง'

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/21a2b16d46a4518d90d2a41a2b331fa8.jpg

สาวๆ หลายคนมีผมหยักศก ( หรือเรียกง่ายๆ ว่าผมหยิก ) โดยธรรมชาติ หากไม่ใช้ ' เครื่องหนีบผม ' ก็ทำใจออกจากบ้านไม่ได้ เพราะผมจะฟูเป็นรังนกมากๆ แต่ข่าวร้ายสำหรับคนชอบหนีบผมก็คือ การใช้ความร้อนหนีบผมบ่อยๆ มีแนวโน้มทำให้เส้นผมของเธอดูมันเยิ้มกว่าเดิมได้!

นั่นเพราะผมตรงยาว จะยิ่งเปิดทางให้น้ำมันและความมันต่างๆ เข้าสู้เส้นผมได้โดยตรง ยิ่งทำให้เห็นว่า ' ผมมัน ' ได้เด่นชัดยิ่งขึ้นไปอีกน่ะสิ!

เมื่อเธอผมตรง เส้นผมก็จะอยู่ใกล้หนังศีรษะมากที่สุด ซึ่งทำให้สัมผัสกับน้ำมันที่หนังศีรษะ ( และผิวหน้า ) ได้ง่ายขึ้น


ดังนั้นถ้าไม่อยากดูผมมัน เราแนะนำให้ทำผมลอน หรือผมหยักศกตามธรรมชาติดีกว่า เน้นผมทรงที่ดูมีวอลลุ่ม เท่านี้ผมก็ไม่ดูมันย่องเร็วจนเกินไปแล้วล่ะค่ะ

6. อย่าใช้ 'ดรายแชมพู/ แป้งเด็ก' โรยหัวมากไป ผมยิ่งแห้ง ยิ่งแห้งก็ยิ่งมัน!

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/1960d329c91f67db0feb236e7cdec5c8.jpg

จากข้อบนๆ เราบอกไม่ให้เธอสระผมมากเกินไป ใช้ดรายแชมพู หรือแป้งเด็กกลบได้บ้าง แต่ก็อย่าใช้จนติดเป็นนิสัยเชียว เพราะถ้าใช้เยอะเกินไป หนังศีรษะก็มันได้ง่ายเช่นกัน ( เอาใจยากจริงๆ แฮะ -.- )


นั่นเพราะผลิตภัณฑ์อะไรก็ตามที่เวลาเราฉีด อัด หรือโรยเข้าไปบนผม มันก็จะกองอยู่อย่างนั้น ยิ่งใช้เยอะ มันก็ยิ่งกองรวมกันเป็นก้อนๆ จนมีสภาพคล้ายขี้ผง หรือที่เรียกกันว่าขี้รังแค ซึ่งทำให้หนังศีรษะแห้งกว่าเดิม เมื่อผิวส่วนนั้นแห้ง ก็กระตุ้นให้ผลิตน้ำมันกว่าเดิม วนลูป!

หากต้องการหลุดพ้นจากวงจรนี้ พยายามใช้ดรายแชมพูให้น้อยที่สุด และสระผมในช่วงวันเว้นวัน หรือ 2 วันครั้งอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผมมีสภาพตามธรรมชาติมากที่สุด

วิธีนี้จะช่วยให้เส้นผมของเธอไม่ต้องผลิตน้ำมันมากเกินจำเป็นเพราะไม่มีตัวกระตุ้น และไม่มีสารใดๆ ที่เป็นสารเคมี ( ที่อาจเป็นอันตรายได้ ) มากองสะสมอยู่บนหนังศีรษะนานเกินไปด้วยค่ะ ( ´ ∀ `)ノ~ ♡

7. ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ 'สครับ' หนังศีรษะ ขจัดความมันได้

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/f85715cadf9ad280176056a6f7bb6ba2.jpg

เราเชื่อแน่ว่า สาวๆ หลายคนเคยสครับผิวหน้า ผิวตัวกันมาบ้างแล้วล่ะ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า ' หนังศีรษะ ' ก็สามารถสครับให้สะอาดได้! อย่าลืมว่าหนังศีรษะก็เป็นผิวหนังบริเวณหนึ่งเหมือนกัน


หากใช้สครับทำความสะอาด ก็จะช่วยลดสิ่งสกปรก ขี้ไคล ขี้รังแคที่สะสมอยู่ได้ โดยทำเพียง 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ก็พอ อย่าสครับบ่อยเกิน เดี๋ยวหนังศีรษะเป็นแผลอักเสบ จะรักษากันยาก!

ส่วนผสมใช้เหมือนๆ กับขัดหน้า ขัดตัวเลย แต่เลือกสครับที่เกล็ดละเอียดหน่อย จะได้ไม่บาดหัว เตือนว่าต้องใช้สครับกับหนังศีรษะที่เปียก และใช้น้ำผสมสครับก่อนใช้ เพราะน้องหนังศีรษะเขาบอบบางมาก! แนะนำให้ขัดวนเบาๆ เป็นวงกลมช้าๆ ด้วยปลายนิ้ว ( ปลายนิ้วนะ ไม่ใช่เล็บ ) อย่างอ่อนโยน แล้วค่อยๆ ล้างออกด้วยน้ำอุ่นสะอาดค่ะ

สูตรที่วันนี้มาบอกต่อสาวซิส คือใช้เกลือทะเล 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำมันมะกอกอีก 2 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากันเป็นสครับแล้วขัดได้เลย

เกลือมีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว สิ่งสกปรกที่สะสมบนหนังศีรษะ มะนาวเพิ่มความสะอาดสดชื่น และน้ำมันมะกอกเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนังศีรษะ สครับเป็นประจำ รับรองว่าผมมันน้อยลงจนคนรอบข้างสังเกตได้ชัวร์ๆ (*˘︶˘*).。.:*♡

รูปภาพ:https://38.media.tumblr.com/tumblr_m745j8XAXc1ragq9ko1_500.gif

-------------------------------------------------------

7 กฎเหล็กในการดูแลผม ก็เดินทางมาถึงตอนจบแล้วค่ะ! แค่นี้แหละ ไม่ได้เยอะอะไรมากมาย แค่ต้องระวังในการดูแลเส้นผมมากขึ้น หาเวลาว่างใส่ใจบำรุงหนังศีรษะบ้างก็พอ หากเป็นคนซื้อของแบบไม่ค่อยคิด คราวนี้ก็ควรคิดมากขึ้น สังเกตส่วนผสมบนฉลากให้ดีๆ ถ้าไม่อยากผมมันภายหลัง เราคงไม่การันตีว่าทำทั้ง 7 ข้อนี้ ความมันบนหัวจะหายไปเลยแบบ 100% แต่ถ้าทำตามอย่างเคร่งครัด แม้แต่ในเวลาเร่งด่วนที่ไม่มีเวลาเตรียมผม สภาพผมก็จะยังดูดี ไม่มันเงาวับจนเสียเซลฟ์ชัวร์ๆ~~ สำหรับวันนี้เราก็ต้องขอตัวลาไปก่อนน้า มากำจัดเจ้าความมันไปด้วยกัน สู้!

<( ̄ ﹌  ̄)>