วาซาบิคืออะไร? มัสตาร์ด? ฮอสราดิช? วาซาบิแท้คืออะไร?

จากเมนูชื่อดังของญี่ปุ่นอย่างซูชิ ทำให้วาซาบิเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก แต่ก้อนสีเขียวที่อยู่ในซูชิ หรือวางคู่กับปลาดิบนั้น ไม่ใช่วาซาบิ! ต้นวาซาบินั้นมีลักษณะคล้ายกับฮอสราดิชของฝรั่งและมัสตาร์ด แต่การปลูกนั้นยากกว่ามาก วาซาบิที่เห็นอยู่ตามท้องตลาดกว่า 99% นั้นจึงเป็นฮอสราดิชซะส่วนใหญ่

วาซาบินั้นมีลักษณะตะปุ่มตะป่ำ คล้ายแครอทที่มีสีเขียว และส่วนที่นำมารับประทานก็คือลำต้นใต้ดิน วาซาบิแท้นั้นมีกลิ่นหอมและชัดเจนมากกว่าวาซาบิเทียม ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์นี้ ทำให้วาซาบิแท้นั้นถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มรสชาติให้กับอาหารหลากหลายชนิด ตั้งแต่อาหารแบบดั้งเดิมไปจนถึงอาหารสูตรใหม่ๆ

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020100711394218427900.jpg

ย้อนกลับไปในอดีต ญี่ปุ่นใช้วาซาบิในการรักษาโรค รวมถึงมีการนำวาซาบิบรรจุเข้าไปในพจนานุกรมยา (Honzo Wamyo, 本草和名) ชาวญี่ปุ่นเรียนรู้วิธีการใช้วาซาบิจากประสบการณ์ นำมาใช้ในการดับกลิ่นคาวของปลา ลดโอกาสการเกิดอาหารเป็นพิษ ก่อนที่จะมีตู้เย็น จนกระทั่งในยุคเอโดะ (ปี ค.ศ. 1603-1868) มีเมนูนิกิริซูชิ (ซูชิที่รู้จักกันทั่วไปในปัจจุบัน) เกิดขึ้นและโด่งดังไปทั่วโลก

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักวิจัยได้มีการกลับมาศึกษาวาซาบิ และค้นพบว่าวาซาบินั้นยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจอื่นๆซ่อนอยู่มากมาย ซึ่งนอกจากจะมีสารอาหารและมีคุณสมบัติต้านการอักเสบแล้ว ยังมีหลักฐานบางอย่างที่บอกว่ามีคุณสมบัติที่ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของมะเร็ง รวมถึงอุตสาหกรรมความงามก็ยังคงมองหาการใช้ประโยชน์ที่มีมากมายจากวาซาบิอีกด้วย ถือได้ว่าวาซาบิเป็นอาหารสุขภาพที่โดดเด่นที่สุดอย่างหนึ่งของญี่ปุ่นเลยทีเดียว

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020100711404535798600.jpg

เมืองอะซุมิโนะ จังหวัดนากาโนะ วาซาบิรสชาติดีนั้นต้องอาศัยน้ำจากภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ

เมื่อพูดถึงเรื่องวาซาบิในญี่ปุ่น ก็ต้องมีการพูดถึงเมืองอะซุมิโนะ จังหวัดนากาโนะแน่นอน เมืองอะซุมิโนะนั้นอยู่ทางตอนเหนือของเจแปนแอลป์ ที่ซึ่งมีน้ำสะอาดที่เกิดจากการละลายของหิมะ ไหลลงมาตามพื้นดิน กลายเป็นแม่น้ำและลำธารใต้ดินที่ไหลผ่านแอ่งมัตสึโมโตะตอนกลางของนากาโนะ เหตุผลใหญ่เลยที่ทำให้วาซาบินั้นหายาก นั่นคือวาซาบิชอบน้ำสะอาดและเย็น ซึ่งอะซุมิโนะนั้นมีชื่อเสียงในเรื่องของน้ำแร่ ที่เหมาะแก่การปลูกวาซาบิ จึงเกิดฟาร์มวาซาบิทั้งเล็กและใหญ่ขึ้นมากมายในบริเวณนี้ โดยฟาร์มวาซาบิที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นนั้นก็ตั้งอยู่ในอาซุมิโนะ “Daio Wasabi Farm” นอกจากจะเป็นฟาร์มาวาซาบิแล้วก็ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกด้วย

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020100711422657069000.jpg

อะซุมิโนะ เมืองที่เต็มไปด้วยน้ำแร่จากภูเขา ที่มีอุณหภูมิคงที่ระหว่าง 12°C - 14.5°C จึงสามารถปลูกวาซาบิได้ตลอดทั้งปี สำหรับช่วงเวลาการปลูกไปจนถึงการเก็บเกี่ยวนั้นใช้เวลาประมาณ 1 ปี - 1 ปีครึ่ง เกษตรกรจึงสามารถปลูกได้ตลอดปี

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020100711431268442300.jpg

ให้วาซาบิญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักมากขึ้น

วาซาบิที่ปลูกในเมืองอะซุมิโนะนั้นเป็นวาซาบิญี่ปุ่นที่ไม่ได้ขายเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่มีการส่งออกไปยังต่างประเทศ ด้วยการบรรจุและการเก็บรักษาอย่างดีทำให้วาซาบิที่ส่งไปยังต่างประเทศนั้นยังคงรักษาความสดไว้ได้ Fujiya Wasabi Farm ได้ใช้วิธีการแพคแบบสุญญากาศและ เทคโนโลยี flash-freezing ที่รักษาความสดและรสชาติของวาซาบิได้นานถึง 1 ปี

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020100711442043729300.jpg

ที่อะซุมิโนะไม่ได้มีเพียงแค่วาซาบิสดส่งตรงจากฟาร์มเท่านั้น เพราะวาซาบินั้นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอาหารของญี่ปุ่นไปแล้ว และที่อะซุมิโนะเองก็มักจะเสิร์ฟคู่กับซูชิ ซาชิมิ และโซบะ เช่นเดียวกับที่อื่นๆ ในญี่ปุ่น แต่ก็มีการผลิตสินค้าที่ทำมาจากวาซาบิมากมาย ทั้งเครื่องปรุงรส ขนม อาหารว่าง วาซาบิสับ วาซาบิดอง ครีมชีสวาซาบิ ขนมรสวาซาบิ เกลือวาซาบิ ฯลฯ สามารถหาซื้อได้ที่อะซุมิโนะ และมีการส่งไปยังต่างประเทศอีกด้วย

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020100711452296288700.jpg

วาซาบิสด บรรจุในถุงสุญญากาศและเทคโนโลยี flash-frozen

อย่างทีเราได้บอกไปด้านบน พนักงานของ Fujiya Wasabi Farm นั้นมีความเชี่ยวชาญในการเก็บรักษาวาซาบิให้สดใหม่ โดยการบรรจุในถุงสุญญากาศและเทคโนโลยี flash-freezingตอนที่ทีม Japankuru ได้ไปที่ฟาร์ม คุณ Keiichi Mochizuki เจ้าของ Fujiya Wasabi Farm ได้อธิบายให้เราฟังว่า นอกจากจะรับประทานวาซาบิกับซูชิและปลาดิบแล้ว นำวาซาบิมารับประทานกับสเต็กก็อร่อยมากเช่นกัน เพราะวาซาบิจะช่วยดึงรสชาติของเนื้อออกมา วาซาบิจึงไม่ได้นำมารับประทานกับอาหารญี่ปุ่นเท่านั้น แต่สามารถนำไปใส่กับอะไรก็ได้

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020100711481128090800.jpg

วาซาบิที่ผ่านการแช่แข็งแบบ flash-frozen นั้นไม่จำเป็นต้องละลายก่อน สามารถนำมาขูดได้เลยทันทีที่ออกจากตู้แช่ รสชาติที่ได้จะเป็นรสชาติเดียวกับวาซาบิที่เก็บสดๆ แต่หลังจากฝนไปแล้วประมาณ 1 นาที จะมีรสขมออกมานิดๆ มากกว่ารสที่ทำให้รู้สึกฉุนหรือแสบจมูก หลังจากนั้นจะเปลี่ยนเป็นรสเผ็ดที่เป็นเอกลักษณ์ของวาซาบิ สำหรับคนที่ไม่กินเผ็ด เขาแนะนำให้รับประทานวาซาบิตอนที่ยังเย็นๆ อยู่

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020100711483989190300.jpg

วาซาบิดอง (Wasabizuke) - ดองทั้งรากและใบ

วาซาบิที่เรารับประทานกับซูชิและซาชิมินั้นใช้บริเวณรากของวาซาบิ นำมาขูดรับประทาน แต่จริงๆแล้วส่วนใบและก้านของวาซาบิก็สามารถรับประทานได้ มีคุณค่าทางอาหารสูง และเป็นส่วนหนึ่งของอาหารประจำวันในอะซุมิโนะ สำหรับใครที่ได้แวะไปที่ Daio Wasabi Farm มีเมนูที่ทำจากใบวาซาบิด้วย นั่นก็คือแกงกะหรี่วาซาบิและซอฟครีมวาซาบิ ด้วยความที่ส่วนใบนั้นมีความแข็งแรงมากกว่ารากจึงมีการส่งออกใบวาซาบิขายด้วย หากอยากซื้อใบวาซาบิกลับเป็นของฝาก เราแนะนำเป็นวาซาบิดอง (wasabizuke, わさび漬け) !

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020100713023447088100.jpg

ที่อะซุมิโนะมีการดองวาซาบิหลายรูปแบบ ทั้งวาซาบิดองโชยุ ที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหาร หรือวาซาบิดองกับกากสาเก ที่จะให้รสชาติที่ต่างออกไป ความร้อนของวาซาบิ บวกกับกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของสาเก ได้รสชาติที่ไม่เหมือนใคร

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020100713025849762700.jpg

ครีมชีสวาซาบิ - รสชาติกลมกล่อม

แค่ฟังชื่อก็ดูน่ากินแล้ว การผสมผสานระหว่างครีมชีสเข้มข้นและวาซาบิสดจากอะซุมิโนะ ออกมาเป็นครีมชีสสีเขียวที่มีความเข้มข้น มีรสเผ็ดนิดๆ ที่ผสมกันอย่างลงตัว เหมาะกับคนที่อยากลองรับประทานวาซาบิแท้ๆแต่ไม่สามารถกินเผ็ดได้ หรือไม่ชอบกลิ่นฉุนของวาซาบิ

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020100713041233045300.jpg

คุณ Yuho Matsumoto ผู้สร้าง Wasabiya Yuu และครีมชีสวาซาบิ เริ่มต้นทำขึ้นเพราะอยากให้ภรรยาของเขาที่ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งได้รับประทาน เพราะมีบางหลักฐานได้กล่าวไว้ว่าวาซาบินั้นมีฤทธิ์ในการต้านมะเร็ง และลดการกระจายของเชื้อมะเร็ง ซึ่งในปัจจุบันภรรยาของคุณ Matsumoto นั้น ก็สามารถเอาชนะโรคมะเร็งได้ และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข พวกเขาจึงอยากทำครีมชีสวาซาบิให้คนญี่ปุ่นและชาติอื่นๆ สามารถรับประทานวาซาบิได้ง่ายขึ้น

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020100713043429165300.jpg

นำวาซาบิมาทำอาหาร

ลองนำวาซาบิสด วาซาบิดอง ครีมชีสวาซาบิ หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆมาใช้เป็นเครื่องปรุงในการทำอาหาร ได้ลองรสชาติใหม่ๆ และสนุกกับการกินมากขึ้นAppetizer: Wasabi & Prosciutto

ส่วนประกอบ - prosciutto (หรือแฮมชนิดอื่นๆ), วาซาบิดอง, ถั่วและลูกเกด

รสชาติที่เข้มข้นของ prosciutto บวกกับความหวานนิดๆของลูกเกด ความเผ็ดและฉุนนิดๆของวาซาบิ ได้รสชาติที่หลากหลายมิติในคำเดียว เหมาะกับการเป็นกับแกล้ม กินคู่กับไวน์หรือเครื่องดื่มอื่นๆ

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020100713080272213600.jpg

Main Dish: Steak & Wasabi

ส่วนประกอบ -เนื้อหมูหรือเนื้อวัวสำหรับทำเสต็ก, วาซาบิสดบด (หรือเกลือวาซาบิ)วาซาบินอกจะเข้ากันได้ดีกับซูชิและซาชิมิแล้ว คนที่อะซุมิโนะยังนำวาซาบิมาใส่ในเมนูเนื้อ โดยเฉพาะเมนูเสต็ก เพราะเมนูเสต็กบางอย่างก็มีการนำฮอสราดิชใส่เข้าไป การใส่วาซาบิเข้าไปจึงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่กลับเข้ากันได้เป็นอย่างดี! เพียงแค่ใส่วาซาบิที่ได้มาจาก Fujiya Wasabi Farm ฝนใส่ลงไปในเสต็กด้วย วาซาบิจะช่วยดึงรสอุมามิของเนื้ออกมา แต่ถ้าหากไม่มีวาซาบิสดติดตู้เย็น ก็แนะนำให้ใช้เกลือวาซาบิแทน เพิ่มรสชาติให้กับเมนูเนื้อได้เป็นอย่างดี!

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020100713174603626700.jpg

Main Dish: Wasabi Greens Pasta

ส่วนประกอบ -เส้นพาสต้า, วาซาบิสด, วาซาบิดองโชยุ, เกลือวาซาบิ (ผักกาดแก้ว, พริกหยวก, มะเขือเทศ, ชีส)ตั้งกระทะใส่น้ำมันมะกอกเล็กน้อย ใส่เส้นพาสต้าที่ต้มสุกแล้ว วาซาบิดองโชยุ และวาซาบิสดขูด เพียงแค่นี้ก็จะได้พาสต้าสไตล์ญี่ปุ่นที่มีความเผ็ดและฉุนนิดๆ เสิร์ฟพร้อมกับผักสลัด ผักกาดแก้ว พริกหยวก และมะเขือเทศ โรยชีส ก็จะได้พาสต้าอร่อยๆ สไตล์ญี่ปุ่น

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020100713182869712700.jpg

กินคู่กับไวน์ ชีส และแครกเกอร์

ส่วนประกอบ -ครีมชีสวาซาบิ, แครกเกอร์ สามารถเพิ่มเชอร์รี่ มอสซาเรลล่าชีส ส้ม ถั่ว ลูกเกด ฯลฯ ได้ตามชอบคานาเป้แบบง่ายๆ แค่เพียงทาครีมชีสลงบนแครกเกอร์ หรือจะเพิ่มท๊อปปิ้งที่ชอบ (คุณ Yuho Matsumoto ผู้ที่ทำครีมชีสวาซาบิบอกว่า เป็นวิธีกินที่เขาคิดว่าอร่อยที่สุด) สำหรับทีม Japankuru นั้นชอบที่จะเพิ่มลูกเกด (ได้ความหวานนิดๆ) และอัลมอนด์ (ได้ความมันจากถั่ว) หรือจะใส่ผลไม้เข้าไปเพิ่มเท็กซ์เจอร์และรสชาติ!

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020100713190384528500.jpg

โบนัส - วิธีการเตรียมวาซาบิ

ในปัจจุบันร้านอาหารหลายแห่งเสิร์ฟวาซาบิสดมากับที่ขูดสแตนเลส แต่วิธีการดั้งเดิมนั้นจะขูดวาซาบิกับกระดานที่ทำมาจากหนังปลาฉลาม ซึ่งวิธีการนี้ยังสามารถพบเห็นได้ตามร้านอาหารหรู ที่ขูดที่ทำมาจากหนังปลาฉลามนั้น มีลักษณะเป็นกระดานขรุขระ ช่วยบดวาซาบิให้ละเอียด และให้กลิ่นฉุนที่เป็นเฉพาะของวาซาบิ

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020100713202028328200.jpg

แม้ว่าที่ขูดวาซาบิที่ทำมาจากหนังปลาฉลามจะทำให้วาซาบิมีรสชาติที่อร่อย แต่ก็ไม่ทนทานเท่ากับที่ขูดที่ทำจากสแตนเลส เพราะหนังปลาฉลามนั้นมีอายุการใช้งานเพียงแค่ 3 เดือน และมีราคาที่ค่อนข้างแพง ทำให้คุณ Keiichi Mochizuki จาก Fujiya Wasabi Farm กับชาวบ้านในจังหวัดนากาโนะ ได้ผลิต ที่ขูดวาซาบิที่ทำมาจากสแตนเลสขึ้น โดยมีต้นแบบเป็นหนังปลาฉลาม โดยที่ขูดวาซาบิตัวนี้มีชื่อวา “โอนิ นามิดะ” (鬼泪 แปลว่า น้ำตาอสูร) มีการใช้งานได้ดีเทียบเท่ากับหนังปลาฉลาม แต่ใช้ได้นานกว่า

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020100713210006613700.jpg

ชิมเมนูวาซาบิที่อะซุมิโนะ

หากมีโอกาสแวะไปที่อะซุมิโนะ อย่าลืมลองชิมเมนูต่างๆที่ทำจากวาซาบิ ทั้งวาซาบิด้ง (ข้าวหน้าวาซาบิ), ข้าวแกงกะหรี่วาซาบิ, เบียร์วาซาบิ, น้ำมานาววาซาบิ, ไอศครีมวาซาบิ และอีกหลายเมนู หลังจากที่ทีม Japankuru ได้ใช้เวลาอยู่ที่นี่มาทั้งวัน เราก็ได้ลงความเห็นกันว่าเมนูที่อร่อยที่สุดก็คือ แกงกะหรี่วาซาบิ! ส่วนไอศครีมวาซาบินั้นก็มีหลายเสียงที่แตกต่างกันออกไป บางคนก็ชอบรสชาติของมัน แต่บางคนก็ไม่ค่อยชอบ แนะนำว่าให้คุณไปลองด้วยตัวเองว่าจะถูกปากหรือไม่

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020100713215978911500.jpg

วิวที่ Daio Wasabi Farm มีต้นวาซาบิปลูกเรียงกันเป็นแถวยาว สวยงาม อาหารก็อร่อย และยังมีของฝากที่ทำจากวาซาบิให้เลือกซื้อกลับบ้านกันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นถั่ววาซาบิ ของฝากสุดคลาสสิค เซมเบ้วาซาบิ เค้กวาซาบิ เครื่องเทศผสมวาซาบิ โชยุรสวาซาบิ รวมถึงแกงกะหรี่วาซาบิก็มีขายเป็นแพคสามารถซื้อกลับบ้านได้ด้วย

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020100713222921767000.jpg

นอกจาก Daio Wasabi Farm แล้วที่อะซุมิโนะ ก็มีร้านอาหารอร่อยๆ ทั้งร้านซูชิ โซบะ ที่มีวาซาบิเสิร์ฟด้วย ไม่แน่หลังจากทัวร์กินวาซาบิที่นี่แล้ว คุณอาจจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องวาซาบิจากอะซุมิโนะก็ได้!

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020100713224872022200.jpg

ค้นพบความเป็นไปได้ที่ไม่สิ้นสุดของวาซาบิจากอะซุมิโนะ

หลังจากได้เห็นภาพของวาซาบิจากอะซุมิโนะ ผลผลิตจากน้ำแร่ที่ใสสะอาด รวมถึงการรับประทานวาซาบิในรูปแบบต่างๆแล้ว อยากลองชิมวาซาบิสดๆดูบ้างรึเปล่า หากมีโอกาสได้ลองรับประทานวาซาบิจากอะซุมิโนะ เราอยากชวนคุณมาลองทำเมนูวาซาบิตามสูตรต่างๆของเรา หรือจะลองคิดเมนูอื่นๆที่มีการใส่วาซาบิเข้าไปด้วย เพราะวาซาบิไม่ได้เข้ากันกับปลาดิบหรืออาหารญี่ปุ่นเท่านั้น โดยเฉพาะเมนูแซ่บๆของไทยน่าจะเข้ากันได้ดีทีเดียว!

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020100713235248905200.jpg

สามารถไปชิมชิมวาซาบิจากอะซุมิโนะได้จากลิงก์ด้านล่างDaio Wasabi Farmเว็บไซต์:https://www.daiowasabi.co.jp/ร้านค้า:https://www.daiowasabi.co.jp/shopping/Fujiya Wasabi Farmเว็บไซต์:http://fujiyawasabi.com/ร้านค้า:https://fujiyawasabi.theshop.jp/※สินค้าที่อยู่ในบทความ・วาซาบิสด เล็ก ¥500 / กลาง ¥950 / ใหญ่ ¥1,500・วาซาบิดองโชยุ Soy Sauce Wasabizuke ¥432・วาซาบิดองสาเก Sake Lees Wasabizuke ¥1,080・ที่ขูดวาซาบิสแตนเลส โอนิ นามิดะ Special Oni Namida Stainless Steel Wasabi Grater ¥22,000Wasabiya Yuuเว็บไซต์:https://wasabiyayuu.com/ร้านค้า:https://wasabiyayuu.com/shop※สินค้าที่อยู่ในบทความ・วาซาบิ 2L-size ¥1,296 / 3L-size ¥1,620 / King-size ¥1,944・ครีมชีสวาซาบิ ¥1,200อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวาซาบิจากอะซุมิโนะ:・เมืองอะซุมิโนะ (วาซาบิ):https://www.city.azumino.nagano.jp/soshiki/29/64480.html・Grace of Azumino:http://grace-azumino.jp/category/wasabi/