- ฮัลโหลค่าา สาวๆSistaCafeที่อยากผิวสวย ผิวปังปุริเย่ทุกคน! (*♡∀♡) -เป็นกันบ้างไหมคะ มี Skincare Routine ยาวเหยียดเป็นสิบขั้นตอน ทั้งโทนเนอร์ มอยส์เจอไรเซอร์ เซรั่ม อายครีม มาส์กหน้าจนกินเวลาเป็นชั่วโมง แต่จับๆ หน้าดูก็ยังรู้สึกหยาบกร้าน ผิวยังไม่ดีสมกับสกินแคร์ราคาเป็นหมื่นที่ประโคมลงหน้าทุกวันเลยโลชั่นทาตัวก็พอกตลอด แต่ผิวตัวก็ยังสากๆ แห้งๆ อยู่ดี มันเป็นเพราะอะไรกันแน่นะ? //โมโห ครุ่นคริสหากสาวๆ กำลังประสบปัญหานี้ อาจจะเกี่ยวข้องกับขั้นตอนแรกของการทำความสะอาดผิวที่เราทำอยู่ทุกวันอย่าง' การอาบน้ำ 'ก็เป็นได้!การดูแลผิวมีดีเทลที่ละเอียดอ่อนสอดแทรกอยู่มากมาย การทาสกินแคร์ 5-6 ตัวอาจเป็นแค่การเยียวยาที่ปลายเหตุ หากเธออาบน้ำ ' ทำร้ายชั้นผิว ' โดยไม่รู้ตัวแทนที่จะกำจัดน้ำมัน สิ่งสกปรกและเชื้อโรคตามปกติ หากอาบน้ำผิดวิธี ผิวอาจแห้ง คันคะเยอหรือขึ้นผื่นแดงได้ง่ายๆ T^T หากเธอเริ่มไม่แน่ใจว่าทุกวันนี้อาบน้ำแบบที่ดีกับผิวอยู่หรือไม่ ก็ลองมาเช็ค' 7 ข้อผิดพลาดในการอาบน้ำ ทำร้ายผิว เสี่ยงสิวเห่อ ผิวระคายเคือง 'ในบทความนี้กันได้เลยค่า ヽ(♡‿♡)ノ

1. อุณหภูมิน้ำที่ใช้อาบ 'ไม่เป็นมิตรกับผิว'

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/a5dbdc5be2a76eedee7a377372cbd466.jpg

เรื่องพื้นฐานที่สุดในการอาบน้ำคือ ' อุณหภูมิของน้ำ ' นี่แหละ ไม่ใช่แค่น้ำร้อนจัด แต่การอาบ ' น้ำเย็นจัด ' ก็ส่งผลเสียกับผิวด้วยกันทั้งคู่


คนไทยอาจจะชอบการอาบน้ำเย็นๆ บางคนถึงกับผสมน้ำแข็งก้อนลงไปด้วยเพื่อความสะใจ อาบตอนเช้าแล้วตื่นเต็มตาดี ซึ่งเราก็คงไม่ปฏิเสธข้อนั้น แต่การทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิหนาวฉับพลัน อาจส่งผลให้สาวๆ เกิดอาการช็อกได้ และความเย็นที่มากไป อาจกัดผิว ทำให้ผิวเป็นแผลได้ค่ะ นึกสภาพสาดน้ำผสมน้ำแข็งใส่หน้าตัวเองสิ ดูไม่จืดแน่นอน

ในทางกลับกัน การอาบน้ำร้อนจัดจะทำให้ผิวหนังเสียน้ำมันตามธรรมชาติไปจนหมด ทำให้ผิวหนังสาก แห้ง หยาบกร้านและคันคะเยอสุดๆ แม้จะพอกโลชั่นหรือบอดี้ครีมตามทุกครั้ง ชั้นผิวลึกๆ ก็ยังแห้งอยู่ดี


อุณหภูมิผิวที่ดีที่สุดคือ ' น้ำอุ่น ' หรือ lukewarm water ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป เพื่อรักษาสภาพผิวให้ไม่แห้ง ไม่มีผื่นแดงน่ากังวลใจค่ะ

♡( ◡‿◡ )


2. ใช้เวลา 'นานเกินไป' ในการอาบน้ำ

รูปภาพ:https://cache.gmo2.sistacafe.com/images/uploads/content_image/image/1011386/1603458799-ea363bb7eeb9c26559516176f08cac6f.jpg

สาวๆ หลายคนใช้การ ' อาบน้ำอุ่น ' เป็นวิธีผ่อนคลายตัวเองหลังทำงานเหนื่อยๆ มาทั้งวัน ซึ่งน้ำอุ่นก็ช่วยคลายเครียดได้จริงๆ แหละ แต่หากอาบนานเป็นครึ่งชั่วโมง หนึ่งชั่วโมงเนี่ย จะเริ่มส่งผลเสียกับผิวละ


เพราะน้ำอุ่นจะชะล้างน้ำมัน หรือความชุ่มชื้นตามธรรมชาติบนผิวออกไปเรื่อยๆ ยิ่งอาบนานผิวก็ยิ่งแห้ง ถ้าทำแบบนี้ทุกวัน เซรั่มหรือครีมราคาแพงก็ช่วยฟื้นฟูไม่ไหวแล้วค่ะ โปะทุกวัน ก็ไปล้างออกให้แห้งทุกวัน แล้วเมื่อไหร่ผิวจะสวยล่ะ  (⇀‸↼‶)

ใครที่อาบน้ำอุ่นเป็นชั่วโมง แล้วเริ่มรู้สึกว่าผิวแห้งผิดปกติ ลองลดเวลาอาบน้ำลงหน่อย เหลือแค่ 5-10 นาทีจะดีกับผิวมากที่สุด

ทริคคือราดน้ำเร็วๆ บนตัวรอบนึงก่อน ฟอกตัว ฟอกหน้าทุกอย่างให้เรียบร้อย แล้วค่อยล้างออกรวดเดียว จะได้ไม่ใช้น้ำอุ่นนานเกินไปโดยไม่จำเป็น หรือจะปรับระดับน้ำอุ่นให้เย็นขึ้น เป็นน้ำเย็นที่มีสัมผัสความอุ่นหน่อยๆ ก็จะช่วยถนอมผิวมากขึ้นค่ะ

3. อาบน้ำโดยใช้ 'ใยบวบขัดผิว' หรือ 'ผ้าขนหนูสัมผัสหยาบ'

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/f938c06b85d35e1739b84968b3f3a81c.jpg

บางคนเวลาอาบน้ำจะติดใช้ ' ใยบวบขัดผิว ' เพราะตีขึ้นฟองง่าย ขัดผิวแล้วรู้สึกสะอาด ประหยัดครีมอาบน้ำ และใช้เวลาทำความสะอาดเร็วกว่าใช้มือถู แต่ข้อเสียคือ ถ้าใช้เสร็จแล้ววางทิ้งไว้เฉยๆ ไม่ซักแล้ววางผึ่งให้แห้งสนิทเนี่ย ก็แหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรียดีๆ นี่เอง


ยิ่งฟอกซ้ำก็เหมือนเอาเชื้อโรคเดิมกลับเข้าไปบนผิว ( เผลอๆ มีเชื้อราใหม่จากการอับชื้นด้วย ) นานเข้าก็ทำให้ผิวระคายเคือง หรืออาจติดเชื้อได้ คนผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่ายเป็นทุนเดิมควรหลีกเลี่ยงแบบด่วนๆ!

บางคนไม่ใช้ใยบวบ แต่ชอบใช้ผ้าขนหนูสัมผัสหยาบๆ เทเจลอาบน้ำแล้วเอามาขัดเพื่อสครับผิวไปในตัว แต่หารู้ไม่ว่าการใช้ผ้าเสียดสีผิวแรงๆ เป็นเวลานาน ผิวอาจเกิดอาการแห้งคัน หรือเป็นแผลเล็กๆ ได้เช่นกัน


ดังนั้นแนะนำให้ทำความสะอาดผิวด้วย ' มือ ' จะดีกับผิวมากที่สุดนะคะ

4. ใช้สบู่ หรือเจลอาบน้ำ 'สูตรที่แรงกับผิวเกินไป'

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/88b75f93b91d1f522c70da0a49d2c316.jpg

สาวๆ หลายคนชอบสบู่หรือเจลอาบน้ำสูตร ' Antibacterial ' หรือฆ่าเชื้อแบคทีเรียสูงสุด รู้สึกว่าเนื้อตัวสะอาดดี บางคนใช้ครีมอาบน้ำถนอมผิวแล้วรู้สึกลื่นๆ กลัวไม่สะอาด ซึ่งก็เป็นข้อดีในช่วงโควิด ที่ทุกอย่างควรฆ่าเชื้อโรคไว้ก่อน


แต่สูตรแรงแบบนี้จะส่งผลเสียกับผิวแน่นอน เพราะสบู่หรือเจลอาบน้ำเหล่านี้จะมึค่าความเป็นด่างสูง สาร SLS สูง ทำให้ผิวเกิดอาการแห้งสากได้ค่ะ

เราแนะนำให้ใช้สบู่ หรือครีมอาบน้ำสูตรอ่อนโยน ค่า pH เป็นกลาง ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติจะดีกับสุขภาพผิวมากกว่า หากสาวๆ กลัวไม่สะอาด ก็อาจใช้ผสมกับสูตรฆ่าเชื้อโรค หรือใช้สูตรที่ส่วนผสมแรงๆ กับอวัยวะที่ไม่บอบบางมากเช่น แขน ขา หัวเข่า ข้อศอก ส่วนใบหน้า ใต้วงแขน จุดซ่อนเร้น ก็ใช้สูตรอ่อนโยนทำความสะอาด อาจจะดูยุ่งยากไปนิด แต่ดีกับผิวในระยะยาวชัวร์ (*¯ ³¯*)♡


5. ใช้สบู่อาบผิวก่อน แล้วค่อยสระผมด้วยแชมพู

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/c2d7abd9a0e1f2ffaf1fbc603fbe193f.jpg

อีกข้อผิดพลาดระหว่างอาบน้ำ ที่สาวๆ อาจเผลอทำโดยไม่รู้ตัวก็คือ " อาบน้ำก่อนสระผม " เพราะเวลาเราอาบน้ำ ล้างตัวเรียบร้อยก่อนสระผม ช่วงที่ล้างแชมพูออกจากเส้นผมเนี่ย คราบแชมพูและครีมนวดผมอาจจะยังหลงเหลือตามร่างกายของเราได้


แม้จะใช้น้ำเปล่าล้างตัวอีกทีก็ตาม ทำให้อาจเกิดสิวที่หลัง หรือผิวส่วนที่บอบบางอาจเกิดการระคายเคืองได้ค่ะ

วิธีที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำคือ ใช้แชมพูสระผม ล้างออกให้เรียบร้อย หลังจากนั้นใช้ครีมนวดผม ใช้สบู่ฟอกตัวให้สะอาด แล้วค่อยล้างครีมนวดผมกับสบู่อาบน้ำออกพร้อมๆ กัน เพื่อไม่ให้มีสารตกค้างติดอยู่บนผิวหนัง


หากสาวๆ คนไหนจะโกนขนแขนขนขาระหว่างอาบน้ำ ก็ทำเป็นขั้นตอนสุดท้าย เพราะขนจะอ่อนนุ่มลงหลังจากโดนความร้อนในน้ำอุ่นนั่นเองค่ะ

6. อาบน้ำแค่เฉพาะ 'ช่วงเช้า' เท่านั้น ( ไม่อาบช่วงเย็น )

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/b7c800119d4a7b60cca90c3130f7e9f9.jpg

เรารู้นะ ว่ามีสาวๆ หลายคนที่ขี้เกียจอาบน้ำตอนเย็น อาจจะทำงานดึกจนเหนื่อย จึงหลับไปทั้งชุดออกไปข้างนอก หน้าก็ยังมีเครื่องสำอางติดอยู่ แล้วไปอาบตอนเช้าทีเดียว ให้ร่างกายสดชื่นพร้อมออกไปทำงานต่อ


แต่หากทำแบบนี้ต่อเนื่องนานๆ สิวเห่อแน่นอน ยังไม่นับปัญหาผิวต่างๆ ที่เกิดจากการหมักหมมของสิ่งสกปรกทั้งวันอีกนะ //แค่คิดก็สยองแล้ว!

ใครที่ประสบปัญหาหลับยาก แค่อาบน้ำอุ่น 10 นาทีก่อนเข้านอน 1-2 ชั่วโมง ก็ช่วยให้นอนหลับได้เร็วขึ้น และคนที่เป็นภูมิแพ้ การอาบน้ำอุ่นจะช่วยล้างสิ่งสกปรกที่อาจกระตุ้นภูมิแพ้ไม่รู้ตัวออกไปให้สะอาดหมดจดอีกด้วย

อีกทั้งช่วงนี้เป็นช่วง COVID-19 ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ จึงควรอาบน้ำ ' ทันที ' หลังกลับถึงบ้านจะดีที่สุดค่ะ

7. อาบน้ำ 'บ่อย' เกินไป

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/1421a88a1aea1bebdf300122d0d7cc98.jpg

คนไทยหลายคนติดอาบน้ำบ่อย แม้ในฤดูหนาว วันที่อากาศเย็นสุดๆ แทบจะเป็นน้ำแข็งก็ต้องอาบน้ำเช้า-เย็น ไม่งั้นจะรู้สึกสกปรก นอนไม่หลับ แต่ที่จริงแล้วการอาบน้ำบ่อยเกินไป โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวที่ไม่ค่อยมีเหงื่อ อาจเป็นการทำร้ายผิวแทน

เพราะน้ำอุ่นจะทำให้ผิวแห้งลง และเกิดอาการคันยุบยิบได้! ( ลองนึกภาพออกมาจากห้องน้ำปุ๊บ ก็เริ่มคันผิวปั๊บ สาเหตุมาจากการอาบน้ำแน่นอน )

จะให้อาบแค่ 2-3 วันต่อครั้งก็คงจะฮาร์ดคอร์เกินไป เราไม่ใช่เมืองหนาวอย่างขั้วโลกเหนือ หรือแคนาดาที่อากาศติดลบเนอะ อย่าหาทำ คนจะผงะหนีกับกลิ่นตัวเสียก่อน!


วันที่หนาวมากจริงๆ วันละครั้งช่วงเย็นก็พอ ส่วนตอนเช้าก็ล้างแค่ใบหน้า เช็ดตัวช่วงใต้วงแขนหรือจุดซ่อนเร้นที่มีกลิ่นได้ง่าย แล้วค่อยออกจากบ้าน เท่านี้ก็ช่วยถนอมผิวได้แล้ว ( หากใครไม่มั่นใจเรื่องกลิ่นตัว ก็ใช้ตัวช่วยเป็นโรลออนหรือน้ำหอมได้ค่ะ แต่อย่าใส่เยอะ จากหอมจะกลายเป็นฉุนกึ๊กแทนเด้อ )

----------------------------------------

สาวๆ คนไหนที่เผลออาบน้ำแบบในบทความนี้ ก็ได้รู้กันสักทีว่าสาเหตุหลักทำผิวพังที่แท้จริงคืออะไร! ใช้สกินแคร์หลักพันหลักหมื่นก็ช่วยไม่ได้ ถ้าเธอยังทำร้ายผิวแบบนี้ รีบเปลี่ยนวิธีอาบน้ำซะ ก่อนปัญหาผิวจะเริ่มลุกลามรุนแรงทั้งการอาบน้ำร้อนจัด ใช้ใยบวบขัดผิวแรงๆ ใช้สบู่ที่มีค่าความเป็นด่างสูง ใช้สบู่ก่อนแชมพู อาบน้ำแค่ช่วงเช้า อาบนานหรืออาบบ่อยเกินไป ล้วนก่อเกิดปัญหาผิวแห้งกร้าน ระคายเคือง หรือโชคร้ายหน่อยก็อาจเป็นแผล ติดเชื้อได้ลองปรับตามวิธีที่แนะนำ แล้วเธอจะเซอร์ไพรส์กับผลลัพธ์ของผิวหน้าและผิวตัวที่ดีขึ้นจนน่าตกใจอย่างแน่นอน ^ ^เราเองก็เริ่มเหนียวตัวละ ขอตัวไปอาบน้ำก่อนน้า พบกันใหม่บทความหน้า บ๊ายบายย