1. SistaCafe
  2. 8 ฮาวทู DIY สุดง่าย คลีน 'รองเท้าผ้าใบ' คู่เก่งให้ขาวสะอาด ใสกิ๊ง เหมือน #ของใหม่แกะกล่อง! ☆

สวัสดีค่าา สาวๆSistaCafeสายสนีกเกอร์ทุกคน o(≧▽≦)oเป็นวัยรุ่น ไอเทมแฟชั่นที่ทุกคนต้องมี ยังไง Top List ก็คือ' รองเท้าผ้าใบ 'โดยเฉพาะรองเท้าผ้าใบสีขาว ที่สามัญประจำบ้านสุดๆ เพราะเป็นสีเบสิกที่แมทช์ได้กับทุกชุด ทุกสไตล์ ทุกสีผิว แค่ใส่ก็ดูชิค แต่ข้อเสียคือ ' เปื้อน-ง่าย-มาก ' !!! โดนอะไรกระเด็นใส่นิดเดียว ก็ขึ้นเป็นรอยเปื้อนตราบาปสุด บางทีขัดก็ไม่ออก ;____;ยิ่งใครซุ่มซ่าม ซื้อมาสามวัน เหยียบโดนน้ำขังบนถนนวันเดียว พังหมด! เก่าเหมือนใช้มาแล้วสามปี นี่มันคอลเลคชั่น Limited Edition ที่อุตส่าห์ไปตามล่ามานะ! แงงง ช่วยด้วยย T T



ไม่ต้องกังวลไปค่ะซิสสส ปัญหาโลกแตกแบบนี้ แก้ไขได้ง่ายๆ ด้วย

10 ฮาวทู DIY ทำความสะอาดสนีกเกอร์ ที่ทำให้รองเท้ากลับมาใหม่ ใสปิ๊ง! เหมือนเพิ่งแกะกล่องเลยล่ะ

ไม่เชื่อต้องลอง =w=b



พร้อมแล้วไปอ่านกันเลย ヽ(o^ ^o)ノ


1. คลีนด้วย 'ปากกาเมจิกลบรอยเปื้อน'

ถ้ามีรอยเปื้อนไม่เยอะ แค่จุดเล็กๆ วิธีนี้ง่ายสุด เร็วสุดค่ะซิส! แค่ใช้ ' ปากกาเมจิกลบรอยเปื้อน ' ที่มีคุณสมบัติลบคราบต่างๆ ไม่ว่าจะรอยเพียงใช้ปากกาป้ายบริเวณที่เป็นรอย คราบก็จะหายไป กลับมาวิ้งวับเหมือนใหม่เลยล่ะค่าตอนนี้ปากกาแบบนี้อาจจะยังไม่แพร่หลายในไทย แต่สาวๆ สามารถหาพรีออเดอร์ได้จากในอินเตอร์เน็ตค่ะ ซื้อมาก็ใช้ได้หลายอย่างอยู่ ทั้งรอยรองเท้า คราบอาหาร คราบกาแฟบนเสื้อผ้า 10in1 สุดๆ ^^

2. คลีนด้วย 'Magic Eraser' (ฟองน้ำยางลบ)

สาวๆ หลายคนอาจไม่รู้จักไอเทมนี้ แต่ถ้าใครเป็นสาวกร้าน Daiso 60 บาท น่าจะเคยเห็นกันบ้าง! ' Magic Eraser ' คือฟองน้ำเมลานินสีขาว มีคุณสมบัติช่วยขจัดคราบสิ่งสกปรกต่างๆ มีหลายขนาดให้เลือก ใช้ได้ทั้งกระเป๋าและรองเท้า *ใครทำกระเป๋าเปื้อน ก็ใช้สิ่งนี้ได้ โดยเฉพาะสายแบรนด์เนม ที่ต้องประคบประหงมกระเป๋านิดนึง*วิธีทำความสะอาดก็ง่ายๆ นำ Magic Eraser จุ่มน้ำเปล่าให้หมาดๆ แล้วถูบริเวณรอยเปื้อน โดยเช็ดไปในทางเดียวกัน ไม่ถูไปถูมา ( เดี๋ยวรอยจะยิ่งแผ่วงกว้าง ) แล้วใช้ไดร์โหมดลมเย็น เป่าให้แห้ง เท่านี้รองเท้าคู่ใจของสาวๆ ก็กลับมาเนี้ยบแล้วล่ะค่า

3. คลีนด้วย 'เบกกิ้งโซดา + ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์'

ถ้าตอนนี้รองเท้าของสาวๆ สกปรกมากเวอร์ ไม่ไหวแล้ว ;_; แต่อยากให้กลับมาใหม่เอี่ยม เหมือนเพิ่งหิ้วออกมาจากช็อปล่ะก็ อีกวิธีนึงที่คนนิยมใช้คือ ผสม ' เบกกิ้งโซดา ' 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำเปล่า 1/2 ช้อนโต๊ะ และ ' ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ' 1/2 ช้อนโต๊ะให้เข้ากันในชาม แล้วใช้แปรงสีฟันถูบริเวณที่เป็นรอยค่ะเมื่อเธอขัดจนสะอาดแล้ว ก็นำไปวางผึ่งแสงแดดให้แห้ง สนีกเกอร์คู่เก่งจะกลับมาใสกิ๊งอย่างแน่นอน เชื่อเรา! (☆▽☆)


4. คลีนด้วย 'น้ำยาล้างเล็บ'

วิธีนี้สาวๆ อาจร้องเอ๊ะ แต่ ' น้ำยาล้างเล็บ ' ที่เราใช้ล้างสีทาเล็บนี่แหละค่ะ ช่วยทำความสะอาดรอยรองเท้าได้ด้วย! ถ้าสาวๆ มีรอยเปื้อนเป็นดวง เป็นด่างๆ บนรองเท้า แค่ใช้น้ำยาล้างเล็บชุบสำลีเช็ดให้สะอาด สนีกเกอร์ของเธอก็จะกลับมาสดใสเหมือนเดิมเลย ヽ(o^ ^o)ノแต่แอบเตือนนิดนึงว่า ถ้ารองเท้าผ้าใบของเธอทำจากหนัง หรือเป็นวัสดุที่บอบบาง เปลี่ยนสีง่าย ให้ใช้วาสลีนหรือแป้งเด็ก โรยลงไปที่รอยเปื้อนก่อนชุบสำลีเช็ด เพื่อไม่ให้รองเท้าเกิดรอยด่างค่ะ

5. คลีนด้วย 'เครื่องซักผ้า'

ห้ะ อะไรนะ โยนรองเท้าผ้าใบเข้าเครื่องซักผ้างั้นเรอะ บ้าไปแล้ววว แม่ตีตายแน่ๆ ;_; สาวๆ คงคิดแบบนี้อยู่ใช่ไหมล่ะคะ เราก็ไม่ได้บอกให้โยนเข้าไปเฉยๆ แต่ต้องมี ' ตาข่าย ' จะเป็นถุงใส่รองเท้าแล้วซัก หรือติดตาข่ายไว้ข้างหลังฝาเครื่อง แล้วซักก็ได้



วิธีซักมีดังนี้


1. นำแผ่นรอง insoles ทั้งหลายออกมาก่อน คลายเชือกผูกและดึงออกมาให้หมด เหลือแค่ตัวรองเท้าเปล่าๆ ถ้าพื้นรองเท้าดึงได้ ก็ดึงออกมาด้วย


2. ใส่ถุงตาข่าย กดซัก เลือกโหมดซักเบาๆ รอบปั่นไม่เยอะ ไม่ต้องปั่นแห้งให้ร้อน เพราะรองเท้าอาจเสียทรงได้


3. เมื่อรองเท้าหมาดๆ แล้ว ก็เอามาผึ่งแดดให้แห้งค่ะ



*ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าอยู่กับพ่อแม่ เครื่องซักผ้าใช้รวมกันทั้งบ้าน และเขาถือเรื่องนี้ ก็เลี่ยงใช้วิธีอื่นดีกว่านะคะ ไม่อยากให้สาวๆ โดนที่บ้านดุเนอะ ><*




6. คลีนด้วย 'ผงซักฟอก/ผงขจัดคราบ'

โอยย วิธีเบสิกของชาวเราสุดๆ ใครมีรองเท้าผ้าใบผ้าแคนวาส ต้องเคยทำทริคนี้แน่ๆ กับแปรงสีฟัน + ผงซักฟอก ผสมน้ำอุ่น ขัดรอยเปื้อนที่รองเท้า ซึ่งก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง แต่เราไม่ค่อยแนะนำให้ใช้กับวัสดุที่ค่อนข้างบอบบาง เช่น หนังราคาแพง เพราะหนังอาจเป็นด่างๆ ดวงๆ ได้



นอกจากผงซักฟอกแล้ว เดี๋ยวนี้เขาก็มี ' ผงขจัดคราบ ' ในซุปเปอร์มาร์เก็ตมากมายให้เลือกใช้ ซึ่งประสิทธิภาพจะดีกว่า เพราะเป็นสูตรกำจัดรอยโดยเฉพาะ ยังไงสาวๆ ก็ลองไปหาซื้อมาใช้กันได้นะคะ ^ ^



7. ลบรอยขูดบนรองเท้า ด้วย 'ยาสีฟัน / Essential Oil / วาสลีน etc.'

เปลี่ยนบรรยากาศ จากรอยเปื้อน มาเป็น ' รอยขูด ' กันบ้าง มันต้องมีแหละ ที่สาวๆ เผลอเอารองเท้าไปเขี่ยนู่น เตะนี่โดยไม่ตั้งใจ ทำให้สนีกเกอร์คู่เก่งมีรอยขูดซะงั้น! T ^ T แต่เรามีฮาวทู DIY กำจัดรอยเหล่านี้ได้ง่ายๆ หลากหลายวิธี ดังนี้



1. บีบยาสีฟันใส่แปรง แล้วถูเบาๆ บริเวณรอยขูด


2. ใช้ 'ฟองน้ำยางลบ ( Magic Eraser)' ถูเบาๆ


3. เท 'น้ำยาล้างเล็บ' ใส่สำลีก้านเล็ก ถูที่รอยขูดเบาๆ


4. ทา 'วาสลีน' บนกระดาษทิชชู่แผ่นใหญ่ แล้วขัดเบาๆ ที่รอยขูด


5. สเปรย์น้ำยาลบรอยเปื้อน แล้วใช้ก้านสำลีเช็ดออก


6. ใช้ 'เจลล้างมือ' ถูที่รอยขูด *ใช้ดีสุดถ้าเป็นรอยสีขาว บนรองเท้าสีดำ*


7. ใช้ 'Essential Oil' ทาที่รอยขูด *แนะนำเป็นกลิ่นลาเวนเดอร์*



วิธีไหนเหมาะกับสาวซิสที่สุด ก็ลองไปใช้กันดูนะคะ ^ ^



8. กำจัดกลิ่นรองเท้าด้วย 'เบกกิ้งโซดา + Tea Tree Oil'

วิธีสุดท้าย สาวกชาเขียวต้องเฮ! เพราะ ' Tea Tree Oil ' หรือน้ำมันชาเขียว ที่เป็นส่วนผสมของคลีนซิ่งต่างๆ นั้น ช่วยขจัดกลิ่นเหม็นๆ ของรองเท้าได้ชะงัดนัก!



วิธีทำความสะอาดก็ง่ายๆ เพียงผสม เบกกิ้งโซดา 2 ช้อนชา กับ Tea Tree Oil 2 หยดให้เข้ากัน หยดลงบนรองเท้า ปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืน เช้าวันรุ่งขึ้นก็โรยด้วยแป้งเด็กอีกที รองเท้าก็จะหอมขึ้นในพริบตา

เพราะชาเขียวจะดับกลิ่น ส่วนแป้งเด็กจะดูดซับความมันๆ เหนียวๆ จากรองเท้า ง่ายแบบนี้ต้องไปลองทำตามกันแล้วล่ะ *-*





------------------------------


สะอาดแล้ววว เหมือนได้รองเท้าคู่ใหม่ไปอี๊ก > < แค่ใช้ของใกล้ตัวง่ายๆ ที่หลายคนมีในครัว หรือห้องเก็บของที่บ้านอยู่แล้ว อย่างยาสีฟัน ผงซักฟอก เบกกิ้งโซดา น้ำยาล้างเล็บ etc. ก็ได้รองเท้าผ้าใบใสกิ๊ง เหมือนเพิ่งพรีออเดอร์มาส่งถึงบ้านเมื่อกี้ ใส่กันไปอีกยาวๆ ไม่ต้องกลัวรองเท้าเน่าแล้วอายเพื่อนๆ อีกต่อไป =w=



แต่ขอเตือนนิดนึงว่า รองเท้าผ้าใบมีอายุของมันค่ะซิส โดยเฉพาะกาวติดตรงพื้นรองเท้า ถ้าใส่นานจนเริ่มเพยิบพะยาบ ติดไม่ลง ใส่แล้วเจ็บเท้า หรือเริ่มมีรอยขาด มีรู อันนี้ทริคทำความสะอาดช่วยไม่ได้เน้อ ต้องทิ้งอย่างเดียว เพื่อสุขภาพเท้าที่ดีของสาวๆ ด้วยค่ะ ^ ^ สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อน จะเอากรุรองเท้าเก่าๆ ตัวเองไปซักบ้างละ แล้วพบกันครั้งหน้าน้าา


------------------------------


เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้