รูปภาพ:https://i.imgur.com/NyCHRV9.gif

สวัสดีค่า สาวๆSistaCafeที่อยากผอม ( แต่ไม่ผอมซะที... ) ทุกคนเผลอแป๊บๆ อีกเดือนกว่าก็จะเข้าสู่ช่วงปีใหม่ 2021 แล้วนะคะซิส~ แม้ในสถานการณ์ช่วงนี้จะจัดงานเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ได้ไม่เต็มที่ แต่เราก็ยังทำ ' New Year's Resolution ' หรือปณิธานที่ตั้งใจจะทำในปีหน้าได้อยู่เนอะ ><เนื่องจากปีนี้ค่อนข้างหยุดชะงักไปหลายอย่าง สาวๆ หลายคนคงมีสิ่งที่ตั้งใจจะทำในปีหน้า ( ที่ทุกอย่างน่าจะดีขึ้น ) มากมายหนึ่งในนั้นก็คือการไดเอท เพราะ work from home เป็นเหตุ น้ำหนักเลยขึ้นมาหลายโล ต้องไปเริ่มลดใหม่แง TTแต่ปัญหาที่มักตามติดเป็นเงาตามตัว คือคนส่วนใหญ่เท Resolution ทิ้งตั้งแต่เดือนแรกๆ เพราะ 1. ไม่มีเวลาทำ 2. สิ่งที่ตั้งไว้เป้าหมายกว้างเกินไป ไม่รู้จะเริ่มจากอะไร 3. ยากและซับซ้อนเกินจะทำต่อเนื่องได้นาน ใครที่ไม่อยากให้แพลนไดเอทของปีหน้าเสียเปล่า อย่าทำตาม" 7 New Year's Resolutions ปณิธานไดเอทที่เสี่ยง ' ล่มกลางทาง ' สูง "อยากผอมอย่าหาทำตาม เพราะเสี่ยงแผนพัง กลับไปอ้วนเหมือนเดิม (〒﹏〒)ถ้าอยากรู้ว่ามีข้อไหนบ้าง มาเช็คเพื่อหลีกเลี่ยงไปพร้อมๆ กันได้เลย

1. "ฉันจะลดความอ้วนแล้ว คราวนี้เอาจริงแน่ สาบาน!"

รูปภาพ:https://img.168upload.com/uploads/20201113/e50f4c8deb2e4f66e35b3b70be570dcd88e6bc0c.jpg

สาวๆ บางคนตื่นมาในวันที่ 1 มกราคม แล้วนับว่าวันนั้นเป็น ' วันแรก ' ของการไดเอท นั่นแหละล่มตั้งแต่ยังไม่เริ่ม! เวลาหิว ซึมเศร้าอยากกินนั่นนี่ แล้วเธอสกัดกั้นด้วยการใช้คำว่า " ไดเอท " หรือ " ลดความอ้วน

"

ในทางจิตวิทยา สมองจะสั่งการว่าคำพวกนี้คือคำด้านลบ คำที่ทำให้รู้สึกทรมาน มนุษย์ไม่ชอบถูกบังคับหรือกดดัน สุดท้ายสมองจะสั่งให้เธอตบะแตก สุดท้ายก็กลับไปอ้วนแบบเดิม

แทนที่จะใช้คำที่ทำให้รู้สึกห่อเหี่ยวอย่าง ' ลดความอ้วน ' หรือ ' คุมอาหาร ' ลองเปลี่ยนเป็น " ปีนี้ฉันจะกินอาหารสุขภาพ แคลอรี่ต่ำให้มากขึ้น ", " ปีนี้ฉันจะเริ่มทำอาหารกินเอง เป็นอาหารคลีนที่พลังงานต่ำ " ใจความหลักจะอยู่ที่ " ฉันจะกิน / ฉันจะทำอาหารกินเอง " ซึ่งเป็นคำทางบวก ทำให้ทำตามปณิธานได้ยั่งยืนกว่า


และจะเห็นผลดียิ่งขึ้นเมื่อเธอตัดอาหารแปรรูป และอาหารที่เป็นแป้งขัดสี แป้งขาว ข้าวขาว ขนมปังขาว ออกจากมื้ออาหารควบคู่ไปด้วยค่ะ

2. " ฉันจะไปฟิตเนส / ออกกำลังกายให้ได้ทุกวัน "

รูปภาพ:https://img.168upload.com/uploads/20201113/3801f2ba3cc248c8140a6f226cf3ffca097068d2.jpg

การออกกำลังกาย เป็นส่วนนึงในการลดน้ำหนักก็จริง แต่ถือว่าสัดส่วนน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับการคุมอาหาร

หากเธอยังเป็นมือใหม่เข้าฟิตเนส ปกติไม่เคยออกกำลังกาย ไม่เคยวิ่ง จ็อกกิ้ง กระโดดเชือก ปั่นจักรยานใดๆ มาก่อนเลย ก็อย่าใช้ปณิธานประเภทว่า " จะไปฟิตเนสทุกวัน " เพราะมีแนวโน้มล่มสูงมาก


แม้จะดัดหลังตัวเองด้วยการจ่ายค่ารายเดือน คนมันไม่อยากไป ถึงเสียค่าสมาชิกก็ไม่แคร์หรอกค่ะ ปล่อยทิ้งไปเลยก็เยอะ

เพิ่งเข้าสู่วงการไดเอท อย่าเพิ่งใช้คำว่า ' ฟิตเนส ' มาหลอนตัวเอง เพราะคนปกติส่วนใหญ่จะนึกถึงความเหนื่อย ความทรมาน ความงง ไม่รู้ว่าเครื่องไหนมีวิธีใช้ยังไงจนล้มเลิกความคิดไปซะก่อน


ให้เริ่มจาก " ฉันจะขยับร่างกายมากขึ้น ", ฉันจะเดินรอบสวนวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน ", " ฉันจะไปวิ่งครั้งละ 30 นาที สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง " เป็นต้น


ด้วยระยะเวลาที่ไม่นานมาก จะทำให้สาวซิสมีกำลังใจจะทำต่อเนื่องได้ทั้งปีมากกว่าค่ะ

3. "ฉันจะชั่งน้ำหนักทุกวัน"

รูปภาพ:https://img.168upload.com/uploads/20201113/b8ed2a910a45a46eae3e49ca1f99a3f0cec5bd8a.jpg

สาวๆ บางคนอยากลองกดดันตัวเอง เพราะการไดเอทถ้าทำไปเรื่อยๆ ก็ไม่รู้ว่ามาถูกทางรึยัง จึงต้องมีการติดตามผลอยู่เสมอ แต่การตั้งปณิธานอย่างแรงกล้าว่า " ฉันจะชั่งน้ำหนักทุกเช้า " ก็อาจไม่ใช่คำตอบ

เพราะน้ำหนักค่อนข้างลดช้า วันนึงลด 2 ขีด อีกวันอาจจะเพิ่มเป็น 8 ขีด ตามปริมาณน้ำที่ดื่มเข้าไป จึงทำให้เครียดโดยไม่จำเป็น บางคนหมกมุ่นกับตัวเลข พยายามอดข้าวอดน้ำ เพื่อฟินกับตัวเลขที่ลดลง แต่ที่ลดคือน้ำกับกล้ามเนื้อ ขนาดตัวก็ยังเท่าเดิมอยู่ดีค่ะ

วิธีที่วัดความเปรียบเทียบได้ชัดเจน และไม่ต้องกดดันกับตัวเลขมากไปก็คือ เทียบขนาดกับ ' ไซส์กางเกงยีนส์ตัวโปรด ' อาจจะเป็นยีนส์สมัยผอมที่เคยใส่ได้ หรือยีนส์ตัวเล็กที่ซื้อมาแต่ยังใส่ไม่ได้ แล้วใช้แทนเครื่องชั่งน้ำหนักไปเลย


หากเธอลดน้ำหนักถูกวิธี ขนาดตัวจะลดลงเรื่อยๆ และเมื่อไหร่ที่เธอใส่ยีนส์ตัวนั้นได้ แปลว่าเธอผอมลงแล้วอย่างแน่นอน! ทั้งนี้ ถ้าอยากชั่งน้ำหนักจริงๆ เพื่อเก็บไว้เป็นสถิติ ชั่งแค่สัปดาห์ละครั้ง ตอนเช้าหลังตื่นนอนก็เพียงพอแล้วค่ะ

4. "ฉันจะไม่กิน ' อาหารที่ชอบ ' อีกแล้ว เดี๋ยวจะอ้วน "

รูปภาพ:https://img.168upload.com/uploads/20201113/58897665179873cf2e4aaf4e3ca5b8f4d576c166.jpg

การตั้งใจจะลดความอ้วน คำแรกที่ไม่ควรใช้เลยคือ " ฉันจะไม่.... " เพราะจะทำให้กดดัน เครียดสะสม โดยเฉพาะปฏิเสธสิ่งที่เป็นความชอบของตัวเอง เช่น อาหาร ขนมหวานของโปรดที่กินแล้วมีความสุข


เมื่อตั้งปณิธานว่าจะไม่กิน สมองจะสั่งการว่าไม่กินของที่มีความสุข = ความทุกข์ หากใจไม่แกร่งจริง ก็มีสิทธิ์แพลนล่ม กลับมากินแหลกได้ในไม่กี่วันเลยล่ะค่ะ

ให้เปลี่ยนความตั้งใจใหม่เป็น " ถ้าฉันอยากกินขนมจริงๆ ฉันจะกินช็อกโกแลตแท่งเล็กๆ แท่งเดียว หรือไอติมแท่งเล็ก 1 แท่ง สัปดาห์ละครั้งพอหายอยากเท่านั้น " สังเกตว่าคีย์เวิร์ดคือ " ฉันจะ... " ซึ่งเป็นคำทางบวก ทำให้จิตใต้สำนึกของเราไม่ต่อต้าน


ทั้งนี้ หากร่างกายอยู่ในภาวะพิเศษ เช่น อยู่ในช่วงมีรอบเดือนหรือป่วย ต้องการพลังงาน จะกินเยอะกว่านี้อีกหน่อยก็ได้ ฟังเสียงร่างกายเป็นหลัก อดหรือเคร่งเกินไป เสี่ยงจะเป็นโรคบูลีเมีย หรือโรคพฤติกรรมการกินผิดปกติ ( Binge Eating Disorder ) ได้ในภายหลัง กินไปเถอะ แต่กินแค่พอดี!

5. " ฉันจะลดน้ำหนักด้วยตัวเอง จะไม่บอกใคร กลัวเสียหน้า! "

รูปภาพ:https://img.168upload.com/uploads/20201113/3889959483b651a4b1de9702618ca4c25aeead38.jpg

สาวๆ บางคนก็กลัวเสียหน้า หากป่าวประกาศกับคนรอบข้างว่า " ฉันจะลดความอ้วนแล้วนะ " แต่สุดท้ายน้ำหนักไม่ลงสักขีด จึงตั้งปณิธานว่าจะไดเอทคนเดียวเงียบๆ เผื่อไม่ผอมจะได้ไม่หน้าแตก แต่เมื่อคนอื่นไม่รู้ คนที่น่าจะซัพพอร์ตเธอ กลับเป็นมารผจญเสียเอง

ไม่ว่าจะขนมที่เพื่อนเอามาแจก รุ่นพี่ที่ทำงานเอามาฝาก มีปาร์ตี้ที่บริษัท ญาติไปต่างจังหวัดซื้อขนมมาให้ ต้องรีบกินเดี๋ยวหมดอายุ ทั้งที่บางทีแค่พูดไปว่า " ไดเอทอยู่ค่ะ " พวกเขาอาจให้ความร่วมมืออย่างดีก็ได้

ไม่จำเป็นต้องโพสต์ลงโซเชียลส่วนตัว หรือทวิตตลอดเวลาหรอก ( แต่ถึงจะทำก็ไม่ผิดนะ ) แต่เธอควรมีกลุ่มซัพพอร์ตส่วนตัว ที่เอาไว้เตือนสติเวลาเธอจะตบะแตก เช่น เพื่อนในแก๊ง, ครอบครัว, กรุ๊ปลับในเฟสบุ๊ก / เพจเกี่ยวกับการลดความอ้วน


หรือถ้าให้ดี หาเพื่อนที่จะลดความอ้วนไปกับเรา ช่วยห้ามปราม ช่วยดึงไปในทางที่ผอมด้วยกัน เธอจะรู้สึกมีกำลังใจเพิ่มขึ้น มีแรงกระตุ้น ไม่เหงา เปลี่ยนจากคิดว่าจะออกกำลังคนเดียว เป็น " ฉันจะบอกทุกคนให้เป็นกำลังใจให้ ฉันทำได้! " เส้นชัยอาจมาถึงเร็วกว่าที่คิดค่ะ

6. " ฉันจะไม่กินข้าวนอกบ้านอีกเลย ไม่รู้แม่ค้าใส่อะไรมาบ้าง งดไปเลยละกัน "

รูปภาพ:https://img.168upload.com/uploads/20201113/ed7c7579b04703cb54fc7ab36797a40c02f92cce.jpg

แม้จะเป็นความจริงที่ว่า การกินอาหารนอกบ้านที่ไม่รู้ที่มา ส่วนผสม เสี่ยงมากกับการได้รับแคลอรี่ส่วนเกินเข้าร่างกาย เพราะเราก็ไม่รู้ว่าหลังครัวแอบผสมอะไรมาบ้าง ด้วยความนอยด์ บางคนจึงตัดปัญหาด้วยการตั้งใจว่า " จะไม่กินข้าวนอกบ้าน " เลย ซึ่งเป็นไปได้ยากมากๆ!

ยิ่งสาวออฟฟิศที่งานยุ่ง ไม่มีเวลา ต้องตื่นเช้าก็จะแย่แล้ว ใครจะมานั่งทำอาหารได้ตลอด บางทีมีอีเวนต์พิเศษที่ต้องไปร้านอาหารทั้งแผนก งานวันเกิดเพื่อน หรือวันที่ยุ่งจนต้องฝากท้องกับอาหารตามสั่ง ตามหลักความเป็นจริง เธอหนีร้านนอกบ้านยากมากๆ ค่ะ

แทนที่จะบอกว่า " ไม่กินร้านอาหารนอกบ้านเลย กลัวปนเปื้อน " เปลี่ยนเป็นแนวคิดว่า " จะเลือกเมนูที่เน้นต้ม นึ่ง วัตถุดิบไม่แปรรูป รสชาติไม่ปรุงแต่ง กินแล้วเฮลตี้ " ไม่จำเป็นต้องร้านอาหารคลีนโดยเฉพาะ แบบนี้จะหาร้านกินได้ง่ายกว่ามาก

หรือทำอาหารคลีนไปกินเองบ้างบางวัน แต่มีวันไปเข้าสังคม กินข้าวร้านปกติกับเพื่อนบ้าง แบบนี้จะทำให้ชีวิตไม่ตึงเกิน ยังใช้ชีวิตกับคนรอบข้างได้โดยไม่แปลกแยกจนเกินไปด้วยนะคะ

7. " ฉันจะอดมื้อเช้า กินน้อยๆ ทำไปสักพักก็คงผอมเองแหละ "

รูปภาพ:https://img.168upload.com/uploads/20201113/45b2523df0602270d98e1054a7d644ace47a42de.jpg

คนที่เคยกินอิ่ม 3 มื้ออยู่ตลอด คงไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมชั่วข้ามคืน ( แต่เปลี่ยนปีใหม่ ) ได้ด้วยการอดข้าวอย่างแน่นอน! การตั้งปณิธานว่าจะ " อดข้าวเช้า กินสองมื้อต่อวันก็พอ จะได้ผอม " จะทำให้สมองเครียด ส่งผลให้โหย อยากกินอาหารมื้ออื่นเพิ่มมากขึ้นเพื่อทดแทนมื้อที่ขาดไป


แทนที่จะกินตอนเช้าเสียให้จบเพื่อย่อยตามเวลา สุดท้ายลงเอยด้วยการยัดเหมือนพายุในมื้อเที่ยงหรือเย็น เผลอๆ ย่อยไม่ทัน นอนเร็วเกินก็เป็นกรดไหลย้อนอีก อย่าหาทำ!

มื้อเช้า หรือมื้อแรกของวันเป็นมื้ออาหารที่สำคัญที่สุดแล้ว แค่เลือกให้เป็นแบบเฮลตี้หน่อย ก็ไม่ได้ทำให้เธออ้วนขึ้นแต่อย่างใด กลับกัน ถ้าท้องอิ่มตั้งแต่เช้า แนวโน้มในการกินมื้ออื่นๆ ก็ลดลงด้วย สุดท้ายน้ำหนักก็ค่อยๆ ลงตามเป้าหมาย


หรือจะเปลี่ยนเป็น " ฉันจะแบ่งเป็นมื้อย่อยๆ 5 มื้อ เพื่อกระตุ้นการเผาผลาญ " แทนก็ได้ เมื่อเมตาบอลิซึ่มถูกกระตุ้นตลอด ก็จะทำให้ร่างกายเผาไขมันได้ดีขึ้นด้วยค่ะ

รูปภาพ:https://pa1.narvii.com/5720/7dd68ac77e4da621dbd219a4be261b28d0742f1d_00.gif

----------------------------------------

อยากหุ่นเพรียวสวยเป๊ะ อย่าหาทำ wish list เป็น 7 ปณิธานนี้ จะทำให้เครียด กดดันตัวเอง น้ำหนักพุ่งกว่าเดิมเสียเปล่าๆ แม้จะขึ้นปีใหม่แล้ว เราก็ไม่ต้องรีบบีบคั้นไลฟ์สไตล์ตัวเองให้แย่กว่าเดิมก็ได้ ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เริ่มควบคุมอาหาร ออกกำลังกายไปทีละสเต็ป ไม่ต้องเคร่งขนาดทำทุกวัน มีวันปล่อยฟรี วัน cheat meal บ้าง ปล่อยใจไปกับอาหารที่ชอบในโอกาสพิเศษบ้าง จะได้ไม่ตบะแตกเนอะ เน้นมุ่งเป้าหมายระยะยาว เส้นทางสู่ความผอมก็ไม่ไกลเกินที่ฝันไว้ค่ะ  ขอให้สาวซิสทุกคนได้หุ่นที่มุ่งหวังไว้ในปี 2021 กันทุกคนน้า วันนี้ขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่คราวหน้าค่าา

♡ ( ̄З ̄)