รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/e4/9e/43/e49e4336ac99646c932e3e28ca9c1ba8.jpg

เอาจริงๆ เรื่องนี้มันเป็นปัญหาสำหรับสาวๆ อย่างเรานะ แม้มันอาจจะเป็นเรื่องตลก หรือเป็นเรื่องที่คนอื่นชอบหยิบไปบูลลี่ แต่คนที่เป็น มันไม่ได้ตลกด้วยปัญหาของกลิ่น เป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนที่กำลังเผชิญกับสิ่งนี้อยู่เสมอวันนี้เราจะมาพูดถึงกลิ่นน้องสาว หรือจิมิของสาวๆ อย่างเรานี่เองใครที่กำลังประสบปัญหาจิมิมีกลิ่น รู้ยังว่าสาเหตุมันมาจากอะไร ถ้ายังไม่รู้ งั้นเรามาเก็ทไปพร้อมๆ กันรวม 7 สาเหตุ ที่ทำให้น้องสาวมีกลิ่นเหม็นสาเหตุเหล่านี้รึเปล่า ที่ทำให้จิมิของซิส เริ่มมีกลิ่นตุๆ เรารวมมาให้อ่านตั้งแต่ปัญหาที่เล็กมากๆ ไปจนถึงปัญหาใหญ่ ถึงขั้นเป็นโรคเลยนะคะคุณ!แต่จะมีสาเหตุมาจากอะไรยังไงบ้างนั้น เราไปหาคำตอบพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่ะ

1. อาการของภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย!

รูปภาพ:https://s.yimg.com/ny/api/res/1.2/K3YtEdGhL.BY41Rhj.9vEg--/YXBwaWQ9aGlnaGxhbmRlcjt3PTk2MA--/https://media.zenfs.com/en/who_what_wear_581/f7a215e090846ea3c238d85d41976ea3

เปิดมาที่สาเหตุแรก อาจจะเริ่มจากภาวะที่ดูรุนแรงหน่อย แต่อย่าเพิ่งตกใจไปเนอะ ซิสรู้จัก

Bacterial Vaginosis หรือภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย

มั้ยคะ ว่ากันว่า นี่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้จิมิของเรามีกลิ่นเหม็นนะ ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากสาเหตุของการติดเชื้อบริเวณช่องคลอด โดยปกติแล้ว ช่องคลอดของสาวๆ อย่างพวกเรา จะมีทั้งแบคทีเรียชนิดที่ดีอย่าง

แลคโตบาซิลัส (Lactobacillus)

และชนิดที่ไม่ดีอย่าง

แอนแอโรบส์ (Anaerobes)

ซึ่งถ้าวันนึง อยู่ๆ

แบคทีเรียไม่ดีมีมากเกินไป ก็จะทำให้ปริมาณแบคทีเรียภายในช่องคลอดเสียสมดุลและเกิดภาวะ Bacterial Vaginosis ได้

ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะนี้

อาจจะมาจากการสูบุหรี่ การสวนล้างช่องคลอด การใส่ห่วงคุมกำเนิด การตั้งครรภ์ การร่วมเพศ หรือการเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ และรวมไปถึงการไม่สวมถุงยางขณะมีเพศสัมพันธ์ด้วย

อาการเบื้องต้น

ที่เพื่อนๆ สามารถสังเกตได้ง่ายๆ คือ

สีของตกขาวแปลกไป รู้สึกปวดแสบในขณะปัสสาวะ มีอาการคันบริเวณช่องคลอดทั้งด้านในและภายนอกรอบๆ ช่องคลอด และรวมไปถึงมีกลิ่นเหม็นคาวผิดปกติ

หากพบว่าน้องสาวของเราเริ่มมีอาการผิดปกติตามนี้ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนะคะ

2. เป็นโรคมะเร็งรึเปล่า!

รูปภาพ:https://bit.ly/3aBmXWn

สาเหตุที่ 2 รุนแรงขึ้นมาอีกระดับ แต่ไม่ต้องจิตตก คิดมากเกินไป อ่านให้จบก่อนเนอะ สิ่งที่เราจะบอกก็คือมะเร็งก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้มีกลิ่นที่ผิดปกติได้เช่นกันค่ะ เช่นโรคมะเร็งปากมดลูก โรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก หรือ โรคมะเร็งอวัยวะเพศหญิงยกตัวอย่างเช่นมะเร็งปากมดลูกอันนี้จะเกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) ผ่านการมีเพศสัมพันธ์แต่ก็ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงอีก เช่นการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในระยะก่อนมะเร็งมดลูก (CIN) ภูมิคุ้มกันต่ำ การสูบบุหรี่ และการมีลูกหลายคนซึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่า ซิสอาจจะเสี่ยงเป็นโรคนี้คือมีเลือดออกจากช่องคลอดอย่างผิดปกติ มีเลือดออกเวลามีเพศสัมพันธ์ ตกขาวมีเลือดหรือหนอง ช่องคลอดมีกลิ่นผิดปกติ ปวดในช่องคลอดขณะมีเพศสัมพันธ์ และยังมีอาการอื่น ๆที่อาจเกิดขึ้นอีก ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น หากรู้ตัวว่าฉันมีอาการคล้ายแบบนี้ หรือรู้สึกว่าน้องสาวมีอาการผิดปกติบางอย่างควรรีบไปปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการรักษานะคะ อย่าชะล่าใจเด็ดขาด

3. หรือเพราะว่าใส่กางเกงรัดแน่นเกินไป

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/20/96/b6/2096b672551ebe103beca63aded38132.jpg

ลดระดับความรุนแรงลงมาหน่อย กับสาเหตุข้อที่ 3 ที่

น้องสาวมีกลิ่น เกิดจากความอับชื้นรึเปล่า

จริงๆ แล้ว

การดูแลทำความสะอาดไม่ดี การสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นจนเกินไป ก็เป็นสาเหตุของกลิ่นตุๆ ได้นะ

รู้มั้ยว่าระหว่างวัน ร่างกายของเรา ขับเหงื่อออกมาตลอดเวลา ยิ่งถ้าเพื่อนๆ ใส่กางเกงที่มันรัดมากๆ ตรงบริเวณนั้น ก็จะยิ่งอับชื้น ซึ่ง

จุดซ้อนเร้น เป็นจุดที่เหงื่อออกง่าย และอับชื้นตลอด

แค่เข้าห้องน้ำเสร็จ ก็อับแล้วแม่คุณ! ซึ่งนี่แหละที่เป็นสาเหตุ ที่ทำให้จิมิของเรามีกลิ่น นอกจากกางเกงรัดแล้ว

คนที่ไม่ค่อยอาบน้ำ ทำความสะอาดไม่สะอาด แม้แต่คนที่ชอบใส่กางเกงชั้นในซ้ำๆ หรือใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ไม่ดี ก็มีโอกาสที่น้องสาวจะมีกลิ่นได้

ด้วยเช่นเดียวกันนะคะ

4. กินผิด กลิ่นก็มา

รูปภาพ:https://www.wprost.pl/_thumb/8e/a3/542f9c891f74cb7504e806968601.jpeg

สาเหตุถัดมา ที่ทำให้จิมิมีกลิ่น อาจจะมาจากการกิน! อะๆ อย่าเพิ่งใจสลายค่ะสายกิน ไม่ใช่อาหารทุกชนิดหรอกนะ ที่กินแล้วส่งผลให้น้องสาวของเรามีกลิ่นเหม็น แต่สิ่งที่เรากำลังจะบอกก็คือ การที่น้องสาวของเรามีกลิ่นนั้น

บางทีอาจจะเกิดจากการกินอาหารบางชนิดรึเปล่า

ทำให้

กลิ่นของสิ่งที่เรากลิ่นเข้าไปอะ ปนออกมากับปัสสาวะ ส่งผลให้จิมิส่งกลิ่นตุๆ

เช่น

อาหารทะเลบางชนิด ของหมัก ของดอง หัวหอม ต้นหอม หรือเครื่องเทศบางชนิด

เป็นต้น เพราะฉะนั้นอะไรที่พอจะเลือกได้ ก็เลือกหน่อยเถอะ เบาได้เบา แต่ถ้าชอบมาก ตัดใจไม่ลงและคงไม่ทำ งั้นเอางี้ ดูแลในเรื่องความสะอาดให้ดีๆ โอเคมั้ย

5. กลิ่นที่เกิดจากการสวนล้างช่องคลอด

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/14/f2/be/14f2be9c5649b786eefbd7cbc86fa41d.jpg

จริงๆ แล้วการสวนล้างช่องคลอดมีทั้งข้อดีและข้อเสียนะ หลายคนอาจจะกำลังงงว่า มันคืออะไร? มันคือการฉีดพ่นน้ำผสมน้ำส้มสายชู หรือน้ำยาสำเร็จรูปบางอย่าง เข้าไปในช่องคลอด โดยใช้ขวดหรืออุปกรณ์ฉีดพ่น (แนะนำให้ปรึษาแพทย์ หรือหาข้อมูลให้ดีๆ ก่อนทำตามนะคะ) ซึ่งข้อดีของมันก็คือ จะทำให้รู้สึกสดชื่น สะอาด ขจัดพวกกลิ่นไม่พึ่งประสงค์จากตกขาวหรือประจำเดือนได้ รวมไปถึงข้อดีอื่นๆ อีกเยอะแยะมากมาย แต่! วิธีนี้ ก็มีข้อเสียเหมือนกันนะคะ ข้อเสียใหญ่ของการสวนล้างช่องคลอดคือ ทำให้คุณมีลูกยากหรือถ้าใครกำลังท้อง แล้วเกิดทำ ก็อาจจะทำให้ครรภ์มีปัญหาได้ด้วย ทั้งนี้ยังรวมไปถึงช่องคลอดติดเชื้อไปจนถึงเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคร้ายแรงแถมยังส่งผลให้จุดซ้อนเร้นเสื่อมสภาพ ทั้งแห้ง ทั้งระคายเคืองง่ายและยังทำให้ช่องคลอดมีภาวะเป็นด่าง จนส่งผลให้มีกลิ่นตามมาได้ด้วย

6. เกิดจากตกขาว

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/bf/84/b7/bf84b7b7bb01caa6244e1419fe88a257.jpg

ตกขาว

ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักๆ ที่

ทำให้น้องสาวของเรามีกลิ่น

ว่ากันว่า

ตกขาวปกติจะมีสีขาวหรือใส และไม่มีกลิ่นเหม็น

แต่ถ้าตกขาวที่ผิดปกตินั้น จะมีสีที่ต่างไปจากเดิม ทั้งยังมีกลิ่นเหม็นด้วย ซึ่งสีของตกขาวแต่ละสี ก็จะบ่งบอกถึงอาการของความผิดปกติของร่างกายที่ไม่เหมือนกันด้วยนะ

ไม่ใช่แค่ทำให้จิมิของเราเหม็นอย่างเดียว

แต่ยังทำให้เรารู้ได้อีกว่า

เฮ้ย! นี่มันผิดปกติแล้ว

เช่น

ตกขาวสีเทา หรือเทาอ่อน

ที่มาพร้อมกลิ่นเหม็นอับหรือคาว ส่วนใหญ่จะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียจากเพศสัมพันธ์ การสวนช่องคลอด หรือการรับยาปฏิชีวนะต่อเนื่อง

ตกขาวเป็นก้อนสีขาวข้น หรือมีสีเหลืองขาว

ที่มาพร้อมกลิ่นเหม็นอับ และอาการคัน อาจเป็นร่วมกับอาการปัสสาวะขัด มักมาจากการติดเชื้อราในช่องคลอด

ตกขาวสีเหลือง

ที่มาพร้อมกลิ่นคาวและอาการคัน ปัสสาวะขัด อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น จากโรคหนองใน หรือ ติดเชื้อรา เชื้อไวรัส

ตกขาวสีเขียว


หรือเหลืองปนเขียว

ที่มาพร้อมกลิ่นคาวและอาการคัน มักเกิดจากติดเชื้อจากแบคทีเรีย หรือการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์

ตกขาวแบบมีเลือดปน


หรือมีสีน้ำตาล

อาจมีกลิ่นด้วย อาจเกิดหลังการมีประจำเดือน หรืออาจเกิดจากการติดเชื้อที่ปากมดลูก

ตกขาวแบบมีฟอง

มักมาพร้อมอาการระคายเคือง คัน และแสบขัดตอนปัสสาวะ อาการเกิดจากการติดเชื้อทริโคโมนาสในช่องคลอด ที่สามารถติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์

ตกขาวสีชมพู หรือสีชมพูจางๆ

มักพบในสาวๆ ที่พึ่งคลอดลูกและเกิดการลอกของเยื่อบุโพรงมดลูก

ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ลองตรวจเช็ดกันดูว่า สีของตกขาวของเราเป็นยังไง มีความผิดปกติตามนี้มั้ย ถ้ารู้สึกว่าสีตกขาวมันเพี้ยนๆ แปลกๆ ควรรีบไปพบคุณหมอ เพื่อทำการตรวจรักษานะคะ

7. โกนขนน้องสาวจนเกลี้ยง

รูปภาพ:https://i0.statig.com.br/bancodeimagens/72/9m/d6/729md6hm1c3r1v5zh3yc78mog.jpg

และสาเหตุสุดท้าย

ใครที่ชอบโกนน้องสาว ฟังทางนี้ นี่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้จิมิของซิส มีกลิ่นเหม็นนะคะ!

ในความเป็นจริงแล้ว

เราไม่จำเป็นต้องโกนขนน้องสาวให้เกลี้ยงเกราขนาดนั้น

จริงๆ แล้วการมีขนไม่ใช่เรื่องแย่นะ ว่ากันว่าหนึ่งใน

ข้อดีของการมีขนจิมิ

คือ มัน

ช่วยกักเก็บกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้

เช่น เวลาที่เรามีประจำเดือน เราจะรู้สึกกังวลในเรื่องของกลิ่นอับเป็นพิเศษใช่มั้ย แต่!

การมีขนเปรียบเสมือนเกราะกำบัง ที่ช่วยกักเก็บกลิ่นอันไม่พึ่งประสงค์นั้นให้หมดไป

ทั้งยังช่วย

ป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ช่องคลอด และช่วยลดแรงเสียดสีขณะมีเพศสัมพันธ์ แถมช่วยควบคุมอุณหภูมิแก่อวัยวะไม่ให้อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

อีกด้วย แต่ถ้าใครไม่ชอบความรกรุงรังของเขา สามารถเล็มความยาวให้สั้นลงได้ ไม่ต้องถึงกับโกนทิ้งก็ได้มั้ง นี่! การโกนไม่ใช่แค่ทำให้มีกลิ่นนะ แต่ยังทำให้คันด้วย จริงจริ๊ง!

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/4c/a8/99/4ca8995a0849385994f14c093e720c34.jpg

และทั้งหมดนี้ ก็คือสาเหตุ ที่ทำให้น้องสาวของเรามีกลิ่นนั่นเอง จริงๆ อย่าเพิ่งจิตตก แล้วคิดไปไกลว่า ฉันเป็นโรครึเปล่า แนะนำว่าให้สังเกตอาการตัวเอง และลองปรับเปลี่ยนพฤติพรรมบางอย่าง ที่ทำให้เกิดกลิ่นดูก่อน เช่น ลองใส่กางเกงที่สบายๆ ไม่รัดมาก หรือลองรักษาความสะอาดให้มากกว่านี้ ถ้าสมมติว่าลองแล้วไม่ได้ผล ก็ให้รีบไปปรึกษาคุณหมอนะคะสำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนแล้ว บ๊ายบาย