รูปภาพ:

เมื่อพูดถึงเรื่องผิวแล้วล่ะก็เราเชื่อว่าเพื่อนๆ แต่ละคนคงอยากมีผิวที่สุขภาพดี อ่อนเยาว์ เหมือนวัยเด็กกันถูกไหมล่ะครับ แต่การจะได้ผิวแบบนั้นมาครอบครองนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ ยิ่งในสภาพแวดล้อมที่พร้อมจะรุมทำร้ายเราตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นรังสี UV, มลภาวะ, Blue-Light และอื่นๆ ดังนั้นวันนี้เราเลยขอหยิบ 3 ไอเทมเด็ดจากแบรนด์

IndiGlow

ที่ได้ลองแล้วพบว่ามี Concept และส่วนผสมที่น่าสนใจมากฝากกันฮะ...

IndiGlow Youth Charger Serum ( 30ml./1,xxx.- )

รูปภาพ:

เริ่มกันที่ไอเทมแรกกับเซรั่มชาร์จผิวเด็กอย่าง

IndiGlow Youth Charger Serum

ที่ทางแบรนด์เคลมในเรื่องการซ่อมแซมเซลล์ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยส่วมผสมที่ทางแบรนด์ให้ชื่อว่า ' Hymagic 4D ' ซึ่งเป็นไฮยาลูรอน 4 โมเลกุล เสริมทัพด้วย Bifida Ferment Filtrate ที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวให้ลึกถึง DNA นอกจากนี้ยังช่วยย้อนวัยผิว และปกป้องผิวจาก Blue Light จากเครื่องมืออิเล็คทรอนิคที่เราใช้กันเป็นประจำ

รูปภาพ:

ด้วยเนื้อสัมผัสในรูปแบบ Water-Based ที่บางเบาสบายผิว ซึมเข้าสู่ผิวได้ค่อนข้างไว แต่ในขณะเดียวกันกลับมอบความชุ่มชื้นไวบนผิวได้ยาวนาน นับว่าทางแบรนด์ทำการบ้านมาได้ดีมาก ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการดูแลผิว แต่ไม่กังวลว่าจะเหนอะหนะได้ดี

ในแง่ของส่วนผสมไม่ว่าจะเป็นTamarindus Indica Seed GumและDipotassium Glycyrrhizateที่มีฤทธ์ในการสมานแผล ลดอาการอักเสบ ช่วยชะลอเมลานินสีผิวให้ทำงานช้าลง แถมยังได้Bifida Ferment Filtrateที่สามารถช่วยซ่อมแซม DNA ของผิวได้ โดยกระตุ้นให้ผิวเกิดกระบวนการซ่อมแซม DNA เมื่อถูกแสง UVA ทำลาย

ปิดท้ายด้วยTrichosanthes Kirilowii Root Extractหรือที่มีชื่อทางการค้าว่า Derma-Clock™ ซึ่งทางผู้ผลิตเคลมว่าช่วยต่อต้านริ้วรอย ปรับสภาพผิวให้กลับมาเป็นปกติ พร้อมช่วยให้ผิวกลับมาเนียนใส เรียกว่าแต่ละตัวทีทางแบรนด์ใส่มาคือเด็ดๆ ทั้งนั้นเลยล่ะแถมยังสามารถทำเนื้อสัมผัสออกมาได้เบาสบายผิวขนาดนี้นับว่าไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ฮะ

IndiGlow Seductive White Rejuvenating Moisturizer SPF30 PA++++ ( 20ml./9xx.- )

รูปภาพ:

มาต่อกันที่มอยส์เจอร์ไรเซอร์กันบ้างปกติแล้วสิ่งที่เราคาดหวังจากมอยส์เจอร์ไรเซอร์คือความชุ่มชื้นถูกไหมครับ แต่ด้วยสารสกัดพิเศษจากเห็ดสีฟ้าที่ทางแบรนด์ใส่เข้ามา จึงช่วยปรับผิวให้กระจ่างใสได้ทันทีหลังทา และยังช่วยฟื้นฟูผิวหน้าอย่างล้ำลึกด้วยนวัตกรรม

White Loc Complex™

พร้อมปกป้องผิวจากรังสี UVA UVB ได้สูงสุด SPF 30 PA ++++ ได้อีก

รูปภาพ:

ที่น่าตื่นตาตื่นใจไปกว่านั้นคือ เนื้อผลิตภัณฑ์ของเค้าก็เป็นสีฟ้าชวนหลงไหล ดูน่าใช้แบบสุดๆ แถมเค้าไม่ได้ใส่มาให้ดูเก๋อย่างเดียวนะ เค้ายังมีคุณสมบัติในการปรับให้ผิวกระจ่างใสขึ้นทันทีหลังทา เสมือนเป็น Based Makeup ที่ช่วยทำให้ผิวดูไบร์ทขึ้นได้อีกด้วยล่ะ

ทางด้านส่วนผสมทางแบรนด์เลือกใช้สารกันแดดอย่างTitanium dioxide, Ethylhexyl Methoxycinnamate, Benzophenone-3 และ Butyl Methoxydibenzoylmethaneที่สามารถปกป้องผิวจากรังสี UV ได้ครบและค่อนข้างเสถียร

สำหรับสีสันที่ชวนให้หลงไหนนั้นได้มาจากสารGuaiazuleneซึ่งทางแบรนด์เคลมว่าเขาสกัดมาจากเห็ด ซึ่งนอกจากสีสันที่สวยงามแล้วนั้น ยังมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบได้อีกด้วย ตามมาด้วยสารสกัดอย่างSolanum Lycopersicum Fruit Extractสารสกัดจากมะเขือเทศซึ่งถูกเบลนด์เข้ากับSqualane และน้ำมันสกัดจากงามีประโยชน์ในการต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ดูดซับรังสี UV ได้ ช่วยเสริมความเสถียรของสารกันแดด ช่วยบูสต์ค่า SPF ในผลิตภัณฑ์ และยังเป็นไวท์เทนนิ่งได้อีกด้วย

IndiGlow Wake Up Younger ( 20ml./1,xxx.- )

รูปภาพ:

ปิดท้ายด้วย

IndiGlow Wake Up Younger

ที่ทางแบรนด์วาง Position เป็นครีมลดริ้วรอย-มาสก์หน้า ที่เน้นบํารุงผิวตอนกลางคืน เพื่อปรับสีผิวให้กระจ่างใส มอบผิวที่ฉ่ำวาว พร้อมคงคอนเซ็ปต์การย้อนวัยผิว และเติมเต็มทุกริ้วรอยให้ตื้นขึ้นได้ถึง 400% ด้วยทิวลิปสีดำ DUMAFLORINE® ราชินียามค่ำคืน

รูปภาพ:

ด้านเนื้อสัมผัสทางแบรนด์ยังคงคอนเซ็ปต์ของสีไว้ได้อย่างชัดเจน แต่ผลิตภัณฑ์นี้จะมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุน และมอบความชุ่มชื้นได้มากที่สุดใน 3 ไอเทมที่กล่าวมา และจากที่เราได้ลองใช้บอกได้เลยว่าเป็นผลิตภัณฑ์บํารุงผิวตอนกลางคืนที่ใช้ง่าย ซึมไว ไม่เหนอะหนะ แต่คงความชุ่มชื้นไว้บนผิวได้ยาวนาน น่าจะถูกใจใครหลายๆ คนเลยล่ะฮะ

สำหรับส่วนผสมนอกจากIndiGlow White Loc Complex™ที่ช่วยปรับผิวให้กระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยซึ่งเป็นตัวชูโรงของแบรนด์แล้วยังมีDUMAFLORINE®ที่นอกจากจะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการเพิ่มความหนาของผิวชั้น stratum corneum เพื่อช่วยกั้นสิ่งแปลกปลอมจากภายนอกไม่ให้เข้าสู่ผิวชั้นล่าง และกั้นการระเหยของน้ำใต้ผิวออกสู่อากาศ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเวลาเราทาIndiGlow Wake Up Youngerพอตื่นเช้ามาผิวยังนุ่ม และคงความชุ่มชื้นในผิวได้ดี

Let's Try...

รูปภาพ:

ในช่วงเกือบ 2 สัปดาห์ที่เราลองใช้ผลิตภัณฑ์จาก

IndiGlow

อย่างจริงจัง ต้องบอกว่าในตอนแรกนั้นเราไม่ได้ดูส่วนผสมหรือคำเคลมเลย ทำแค่ทดสอบอาการแพ้แล้วใช้แบบ Blind Test เพื่อสังเกตผลลัพธ์แบบไม่ลำเอียง ซึ่งพบว่า...

รูปภาพ:

ผิวโดยรวมนุ่ม ชุ่มชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เราสามารถผ่านพ้นช่วงที่อากาศค่อนข้างหนาวมาได้แบบไม่มีอาการแห้ง ลอก และในขณะเดียวกันก็หน้าก็ไม่มันเยิ้ม ไม่เกิดการอุดตันบนผิว และไม่พบอาการระคายเคืองแม้จะต้องเจอมลภาวะ หรือสวมหน้ากากอนามัยอยู่บ่อยๆ นับว่าตอบโจทย์ในแง่การมอบความชุ่มชื้น และการเสริมความแข็งแรงของผิวได้อย่างยอดเยี่ยม

ซึ่งเมื่อผิวเรามีความชุ่มชื้นที่พอเหมาะ บวกกับปราการผิวที่แข็งแรงแล้วนั้นก็เปรียบเสมือนการได้ย้อนวัยผิวให้กลับไปอ่อนเยาอีกครั้ง แถมยังได้ความกระจ่างใสทั้งในแง่การบำรุงผิวจากIndiGlow White Loc Complex™รวมถึงผลในเชิงเมคอัพจาก Lactarius Indigo ที่ช่วยปรับผิวให้กระจ่างใสในทันทีที่ทาเสมือนเป็น Makeup Base ไปในตัว

Conclusion

รูปภาพ:

จากที่เราได้ลองผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ไอเทมซึ่งเป็นชุดผลิตภัณฑ์ที่นักวิทยาศาสตร์ IndiGlow จัดขึ้นเพื่อการบำรุงแบบเต็มที่ตลอด 24 ขั่วโมง ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นถึง 3 ตัวไม่ว่าจะเป็น IndiGlow Youth Charger Serum, IndiGlow Wake Up Younger และ IndiGlow Seductive White Rejuvenating Moisturizer โดยรวมเรามองว่าสามารถตอบโจทย์ในแง่การมอบความชุ่มชื้น และเสริมความแข็งแรงของชั้นผิวได้ดีทีเดียว ซึ่งเมื่อผิวเรามีชุ่มชื้นที่เพียงพอเวลาแสงมาตกกระทบบนผิวทำให้เกิดการ Reflect ของแสงที่สม่ำเสมอ ทำให้ผิวเราดูสุขภาพดีอ่อนเยาว์ เหมือนได้ย้อนวัยผิวยังไงอย่างนั้นเลยล่ะฮะ

และอย่างที่เราบอกทุกๆ ครั้งว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้ Based-on สภาพผิว ไลฟ์สไตล์ การดูแลตัวเอง และผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ร่วมกันเป็นหลัก ดังนั้นผลลัพธ์ย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลส่วนคำถามที่ว่าใช้แล้วจะแพ้ไหม จะอุดตันไหม สิวจะขึ้นหรือไม่นั้น เราไม่สามารถให้คำตอบได้เนื่องจากปัจจัยที่ก่อให้เกิดการแพ้ ระคายเคือง และก่อให้เกิดสิวของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน ดังนั้นเราแนะนำว่าก่อนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดก็ตาม ควรทดสอบอาการแพ้ที่บริเวณท้องแขน และลำคอก่อนใช้ลงบนใบหน้านะขอรับ