รูปภาพ:

คราวนี้มาจัดเต็มกับรีวิวรวมสกินแคร์ที่เบนซ์ใช้ในช่วงที่ผ่านมา และเตรียมผิวรับหน้าร้อนด้วย คือช่วงที่ผ่านมาผิวมีสภาพดีขึ้น สิวอุดตันลดลง แม้จะมีขึ้นอักเสบบ้างเวลากินของหวาน เครียด แต่โดยรวมคือพอใจมากค่ะ เลยอยากมาป้ายยาให้เพื่อนๆกันต่อ ยิ่งช่วงนี้หน้าร้อนและใส่แมสยิ่งต้องดูแลผิวให้ดีเลยล่ะ แต่ละตัวมีอะไรบ้างมาดูกันเล้ยย

รูปภาพ:

FYNE Phyto Calm Watery Essence

น้ำตบตัวนี้ใช้มาตั้งแต่ปีใหม่ กลายเป็นน้ำตบลูกรักเพราะช่วยเรื่องการปลอบประโลมผิวดีมากๆ ลดอาการแดง อาการคัน สิวคันก็ช่วย และยังช่วยลดรอยแดงจากการบีบสิวได้ดีด้วยล่ะ ตัวนี้สามารถใช้เป็นโทนเนอร์ก็ได้นะ ยิ่งตอนกลางวันเจออากาศร้อนๆมา ตอนเย็นใช้น้ำตบตัวนี้ช่วยปรับอุณหภูมิผิวให้เย็นผ่อนคลายขึ้น ใครที่ผิวระคายเคืองจากแมสล่ะก็แนะนำให้ใช้น้ำตบตัวนี้ค่ะ

รูปภาพ:

เซรั่มไฮยาใช้ติดต่อกันมาหลายขวด เหตุผลที่ใช้ตัวนี้เพราะมีไฮยา 4 โมเลกุล ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นทั้งภายในและภายนอกผิว ดูแลครบ และเนื้อสัมผัสคือดีย์มาก ใครที่เคยใช้ตัวอื่นแล้วเหนอะๆหนึบๆล่ะก็ มาลองตัวนี้เลย ไม่เหนอะและหนึบแน่นอน ราคาอาจจะสูงไปหน่อย แต่รอตุนตอนมีโปรคือคุ้ม

เรื่องอุดตันเราต้องให้ความสำคัญกับการผลัดเซลล์ผิว เซรั่ม BHA ตัวนี้ตอบโจทย์เพราะมีซาลิไซลิค 2% ช่วยลดการอุดตันได้ดีด้วย ยังช่วยลดรอยแดงรอยดำจากสิว แต่กลัวเรื่องการระคายเคืองใช่มะ ตัวนี้หายห่วงนะเพราะใส่ส่วนผสมอื่นๆที่ช่วยเรื่อง Antioxidants และการปลอบประโลมผิวมาเต็มเหนี่ยว

รูปภาพ:

เบนซ์ค่อนข้างให้ความสำคัญกับ Cleansing มากนะคะ เพราะเป็นคนผิวมีสิวอุดตันง่ายเลยกลัวระแวงเรื่องการอุดตันไปเลย แต่จะเน้นใช้คลีนซิ่งที่อ่อนโยนแต่ทำความสะอาดได้ดี ซึ่งตัวนี้เบนซ์ชอบมั่กๆ เพราะสามารถทำความสะอาดพวกครีมกันแดดและเมคอัพได้ (แต่ถ้าเป็นเมคอัพแบบติดทนนานล่ะก็ต้องใช้ออยล์ไม่ก็ makeup remover ล้างออกก่อนนะ) เนื้อครีมเจลแทบไม่มีฟอง ไม่ทำให้ผิวตึงเอี๊ยดหลังล้าง และที่ชอบมากคือกลิ่นออกแนวกลิ่นควัน เท่ห์ปนหอมซะไม่มี

รูปภาพ:

ความแข็งแรงของผิวถือว่าสำคัญมากๆนะคะ บางครั้งผิวมีปัญหาบ่อยๆเพราะผิวเราไม่แข็งแรงเนี่ยแหละค่ะ พักหลังๆมานี่เบนซ์จะให้ความสำคัญกับจุลินทรีย์บนผิวหรือ Microbiome จึงเลือกใช้สกินแคร์ที่เน้นเรื่องเสริม skin barrier และมีส่วนผสมของ Prebiotic ที่ช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์บนผิว เนื้อครีมตัวนี้เหมือนกับเซรั่ม ทาแล้วสบายผิว ให้ความชุ่มชื้นดีมากด้วยนะ

รูปภาพ:

Mesoestetic Hydra-Vital Face Mask

เบนซ์ใช้ตัวนี้เป็น Overnight Mask ค่ะ เติมความชุ่มชื้นตอนนอน จะใช้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เนื้อครีมไม่เหนอะหนะและไม่เลอะหมอนด้วย ทาแล้วซึมเข้าสู่ผิวไปเลย หลอดใหญ่ 100 มิล ราคาพันหน่อยๆ คุ้มนะ มีส่วนผสมที่เน้นเติมความชุ่มชื้นให้ผิว หรือจะใช้แบบล้างออกก็ได้เหมือนกัน ทาทิ้งไว้ 15-30 นาที แล้วค่อยล้างออก

รูปภาพ:

Luxes 2 Seconds Detox & Hydra Filler

คู่นี้ก็จำเป็นไว้ดีท็อกซ์ทุกเดือน สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว ส่วนผิวมีสิวยิ่งควรใช้เพราะช่วยเคลียร์สิวที่มีอยู่ให้ออกมาไวแบบละมุนละม่อม อ่อนโยนกว่ายาสิว ใครที่งบถึงแนะนำให้ลองใช้คู่นี้ดูนะคะ หาเวลาอย่างน้อย 3-5 วันใช้คู่นี้เดี่ยวๆแบบไม่ใช้สกินแคร์ตัวอื่นเลย เพื่อให้ผิวเราสะอาดและรับสารอาหารจากสกินแคร์ตัวอื่นๆได้ดียิ่งขึ้น

รูปภาพ:

สครับคือจำเป็นนะ การมีผิวที่สะอาดและเนียนต้องขจัดพวกเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก เบนซ์เลือกใช้ตัวนี้เพราะเม็ดสครับเนื้อละเอียด ไม่บาดผิว และระหว่างใช้จะให้ความอุ่นบนใบหน้า เป็นการเปิดรูขุมขน แต่บางครั้งก็อุ่นเกินจนร้อน ฮ่าๆๆๆ แต่ยังไงก็ชอบตัวนี้อยู่ดีค่ะ หลังสครับผิวไม่แห้งตึง และราคาไม่แรงด้วย แนะนำเลยคุ้มค่า

รูปภาพ:

Aesop Parsley Seed Cleansing Masque

เต็มที่กับการทำความสะอาดผิวด้วยมาสก์โคลน ตัวนี้ดีตรงที่เบนซ์ใช้เวลาผิวแย่ๆพังๆมีสิวคันๆ ผดผื่นขึ้นเวลาเหงื่อออกจะมาสก์ตัวนี้ ช่วยปรับสมดุลให้ผิวและขจัดสิ่งสกปรกออกจากผิว หลอดนี้ใช้ได้นานหลายเดือนนะ จริงๆผิวธรรมดาหรือผิวแห้งก็ใช้ได้ค่ะแต่อาจจะใช้สัปดาห์ละ 1 ครั้งพอ ส่วนผิวมัน 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ได้เลย

รูปภาพ:

รีวิวกันไปจุกๆ 10 ตัว เบนซ์อยากแนะนำว่าให้ใช้สกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพผิวและความต้องการของเรานะคะ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ที่สำคัญคือเรายังต้องใส่แมสก์อยู่ ยิ่งใครมีปัญหาสิวจากแมสก์ล่ะก็ ต้องหมั่นเพิ่มสกินแคร์ที่ช่วยเรื่องความแข็งแรงของผิวและช่วยปลอบประโลมลดอาการระคายเคืองนะคะ แล้วเจอกันรีวิวหน้าค่า บายย