สาวๆ หลายคนน่าจะมีอาการเดียวกันคือ กินขนมกี่ห่อ ไอติมกี่ถ้วย ช็อกโกแลตกี่แท่งก็ไม่อิ่มสักที แต่กลับยิ่งหิวและอยากกินมากขึ้น มากขึ้น จนน้ำหนักพุ่งสูงขึ้นจนฉุดไม่อยู่กันเลยทีเดียว! รู้ไหมว่าการที่เธออยากกินของหวานตลอดเวลา เพราะระบบน้ำตาลในเลือดผิดปกตินั่นเอง แต่วันนี้เราจะมาเผย 10 เหตุผลว่าทำไมเธอจึง“ระบบน้ำตาลในเลือดไม่สมดุล”อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นบ้างนั้น มาดูกันค่ะ
1. คาเฟอีน

หลังดื่มกาแฟ แม้จะเป็นกาแฟดำที่ไม่มีแคลอรี ระดับน้ำตาลในเลือดก็สามารถพุ่งสูงขึ้นได้ค่ะ ชาประเภทต่างๆ อย่างชาเขียว ชาดำ หรือเครื่องดื่มเพิ่มพลังงานก็ทำให้ผู้เป็นเบาหวานมีปัญหากับน้ำตาลในเลือดเช่นกัน แต่ละคนจะมีการตอบสนองต่างกัน เธอจึงควรสังเกตเองว่าร่างกายของเธอตอบสนองกับอาหารและกิจกรรมประเภทต่างๆ อย่างไร แต่คาเฟอีนก็ยังมีข้อขัดแย้งกันเอง เพราะส่วนประกอบอย่างอื่นในกาแฟช่วยป้องกันโรคเบาหวานประเภท 2 ในคนที่สุขภาพดีเสียอย่างนั้น
2. อาหารประเภทไม่มีน้ำตาล [Sugar – Free]

อาหารหลายชนิดที่ติดฉลากไว้ว่า “ไม่มีน้ำตาล” จะเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดของเธอ เพราะอาหารเหล่านี้ยังมีคาร์โบไฮเดรตจากแป้งอีกเยอะ ทางที่ดีควรตรวจสอบจำนวนคาร์โบไฮเดรตทั้งหมดจากฉลากหลังซองก่อนกิน และสนใจในน้ำตาลประเภทซอร์บิทอล (Sorbitol) และไซลิทอล (Xylitol) ผู้ผลิตใส่ความหวานและคาร์โบไฮเดรตน้อยกว่าน้ำตาลประเภทซูโครส (Sucrose) แต่ก็ยังมีคาร์โบไฮเดรตหลงเหลือให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นอยู่ดี
3. ป่วยหนักจากโรคหวัด

ถ้าระบบร่างกายของเธอกำลังโจมตีกับเชื้อโรคร้าย ระดับน้ำตาลในเลือดของเธอจะพุ่งสูงขึ้น เธอควรดื่มน้ำเปล่าและเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ เพื่อจะได้ไม่ขาดน้ำ ไปหาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญหากเธอท้องเสียหรืออาเจียนนานกว่าสองชั่วโมง หรือป่วยนอนซมสองวันแล้วแต่ยังไม่ดีขึ้น ระวังยาบางชนิดเช่น ยาปฏิชีวนะและดีคอนเจสแตนท์ (Decongestants) หรือยาพ่นรูจมูก เพราะทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้ค่ะ
4. ความเครียดจากงาน

การที่เธอรู้สึกสิ้นหวัง เหนื่อย เซ็งจากที่ทำงาน ทำให้เกิดความเสียหายกับร่างกาย เมื่อเธอเครียด ร่างกายจะปล่อยฮอร์โมนทำให้น้ำตาลในเลือดสูง ถ้าเธอเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 จะเป็นบ่อยมากกว่าประเภท 1 เธอควรฝึกหายใจเข้าออกลึกๆ และออกกำลังกาย หากเป็นไปได้ หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้เครียดเลยจะดีมากค่ะ
5. เครื่องดื่มเกลือแร่

เครื่องดื่มเกลือแร่หลังเล่นกีฬาช่วยเติมน้ำในร่างกายของเธออย่างรวดเร็ว น่าเศร้าที่ส่วนประกอบของเครื่องดื่มเหล่านี้มักเต็มไปด้วยน้ำตาลไม่ต่างกับน้ำอัดลม ถ้าเธอออกกำลังกายไม่เกินหนึ่งชั่วโมง ดื่มน้ำเปล่าก็เพียงพอแล้ว แต่หากออกกำลังนานกว่านั้นก็สามารถดื่มเกลือแร่ได้ ทั้งนี้ควรตรวจสอบกับแพทย์ถึงแคลอรี จำนวนแร่ธาตุในเครื่องดื่มที่ปลอดภัยกับเธอด้วยนะ
6. ผลไม้อบแห้ง

ผลไม้เป็นอาหารเพื่อสุขภาพก็จริง แต่ผลไม้อบแห้งน่ะไม่ใช่ เจ้าผลไม้พวกนี้มีขนาดเล็กลงแต่จำนวนคาร์โบไฮเดรตเท่าเดิม อธิบายง่ายๆ ว่ากินน้อยแล้วไม่อิ่ม ยิ่งกินก็ยิ่งน้ำตาลในเลือดสูง ยิ่งอยากกินมากขึ้น แค่ลูกเกด 2 ช้อนโต๊ะ แครนเบอร์รี่แห้ง เชอร์รี่แห้งก็มีแป้งเทียบเท่ากับผลไม้ลูกเล็กๆ แล้วนะ! หากกินอินทผลัม 3 ลูกก็ทำให้คาร์บในร่างกายเพิ่มขึ้น 15 กรัมแล้วค่ะ เห็นว่าชิ้นเล็กแบบนี้ อย่าประมาทเชียวนะสาวๆ
7. ขนมปังเบเกิล

รู้ไหมว่าอะไรคือความแตกต่างระหว่างขนมปังขาวและขนมปังเบเกิล? เบเกิลมีแต่คาร์โบไฮเดรตและแคลอรียังไงล่ะ ขนมปังชนิดนี้มีคาร์โบไฮเดรตมากกว่าขนมปังขาวแบบแผ่นเสียอีก หากเธอโหยแป้งจริงๆ ให้เลือกขนาดเล็กลง อาหารชนิดนี้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเกินคาดเลยนะ!! หากต้องการกินจริงๆ ลองปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญนะคะ
8. สเตียรอยด์และยาชนิดน้ำ (Water Pills)ต่างๆ

ยากลุ่มใหญ่ๆ อย่างคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) เช่น เพรดนิโซน (Prednisone) ทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้น และยังมีความเสี่ยงที่จะกระตุ้นให้เกิดโรคเบาหวานได้อีกด้วย สเตียรอยด์ผลิตขึ้นเพื่อรักษาผดผื่น โรคไขข้อ โรคหอบหืด และอื่นๆ ถ้าเธอเป็นเบาหวาน ยาขับปัสสาวะที่ใช้รักษาโรคความดันในเลือดสูง หรือยาชนิดน้ำจะเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ยาแก้โรคซึมเศร้าบางตัวก็เพิ่มหรือลดน้ำตาลในเลือดเช่นกันค่ะ
9. ยาแก้หวัด

ดีคอนเจสแตนท์ (Decongestants) ที่มีส่วนประกอบเป็นซูโอเฟดรีน (Pseudoephedrine) หรือเพนนิซิลีน ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ยาแก้หวัดบางตัวมีส่วนประกอบเป็นน้ำตาลหรือแอลกอฮฮล์ แม้จะใส่น้ำตาลแค่เล็กน้อย แต่ใช้ยาชนิดไม่ใส่น้ำตาลและแอลกอฮอล์เลยดีกว่า เช่น แอนตี้ฮิสตามิน (Antihistamines) ถามเภสัชกรใกล้บ้านก่อนซื้อได้เลยว่าผลกระทบหลังกินยาจะเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อความปลอดภัยค่ะ
10. ยาคุมกำเนิด

ยาคุมกำเนิดมีสารเอสโตรเจน ส่งผลต่อระบบร่างกายที่ตอบสนองต่ออินซูลิน แต่สาวๆ ที่เป็นโรคเบาหวานก็ยังสามารถกินได้ สมาคมโรคเบาหวานอเมริกันแนะนำว่าให้ใช้ยาคู่กับนอร์เจสทิเมต (Norgestimate) และเอสโทรเจนสังเคราะห์ และทางสมาคมนี้ยังบอกว่าการใช้ยาฉีดคุมกำเนิดและการฝังห่วงนั้น ปลอดภัยกับผู้ป่วยเบาหวานแม้จะเสี่ยงต่อระดับน้ำตาลในเลือดบ้างก็ตาม ดังนั้น ป้องกันตัวเองไว้ก่อนนะคะสาวๆ
เมื่อรู้สาเหตุของการโหยขนมจนต้องกินรัวๆ แล้ว สาวๆ ลองปรับวิถีชีวิตใหม่ หมั่นออกกำลังกายให้สุขภาพดีเพื่อจะได้ไม่ป่วยง่าย ไม่กินอาหารประเภทขนมปังขาว ปล่อยวางจากเรื่องเครียด ทำสมาธิเสียบ้าง ระวังขนมและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลผสมมากเกินไป เพียงใส่ใจในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้เธอก็จะไม่อยากขนมพร่ำเพรื่อ มีสุขภาพดี หุ่นเพรียวสวยให้หนุ่มๆต้องเหลียวมองแล้วล่ะค่ะ ^_^
Credit : 20 Reasons for Blood Sugar Swings
http://www.webmd.com/diabetes/ss/slideshow-blood-sugar-swings