ยิ่งทำผิวยิ่งพังหนัก! รวม 7 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการ ' รักษาสิว ' ทำแล้วสิวไม่หาย แถมหน้าเห่อหนักกว่าเดิม
บางครั้งสาเหตุที่สิวบุกขึ้นหน้าไม่หยุดหย่อน อาจเกิดจากพฤติกรรมการดูแลผิวหน้าที่ไม่ถูกต้องก็เป็นได้ วันนี้เราเลยจะพาไปส่อง 7 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการ ‘ รักษาสิว ’ ที่สาวซิสอาจเผลอทำอยู่ตอนนี้กันค่ะ
เผยแพร่: 29 เม.ย. 2564 17:00 น.
Views: 4,079
รหัสบทความ: 84110
เรื่องสิว… ใครว่าเป็นแค่เรื่องจิ๋วๆ กันละคะ ถามจริ๊งงง?!
สาวซิสคิดเหมือนกันมั้ยว่าปัญหาผิวกวนใจอันดับต้นๆ ของผู้หญิงเรา ก็คงหนีไม่พ้น‘ สิวตัวร้าย ’ที่เป็นศัตรูของผิวสวยใสนี่แหละค่ะเพราะสิวมักจะหาสารพัดเหตุผลโผล่ขึ้นมาบนใบหน้าได้ตลอดเวลาเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นตอนเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ตอนมีประจำเดือน ตอนที่นอนดึกจนพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือแม้แต่ช่วงไหนที่เครียดหนัก สิวก็ยังจะโผล่พรึ่บขึ้นมาโชว์หราอยู่บนหน้าได้เสมอจนเรียกได้ว่าปัญหาสิวไม่ได้ทำให้ผิวไม่สวยเนียนใสอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังทำให้รู้สึกรำคาญใจเวลาส่องกระจกแล้วเจอสิวด้วยเหมือนกัน
ซึ่งในบางครั้งสาเหตุที่สาวๆ บางคนยังโดนสิวบุกขึ้นหน้าไม่หยุดหย่อนแบบนี้ อาจเกิดจากพฤติกรรมการดูแลผิวหน้าที่ไม่ถูกต้องก็เป็นได้นะ วันนี้เราเลยจะอาสาพาไปส่องที่ไม่ได้ช่วยทำให้สิวหาย แถมยังอาจกระตุ้นให้หน้าเห่อหนักกว่าเดิมหลายเท่าเผื่อว่าใครที่ลองเช็คแล้วจะได้รู้ตัวว่าเธอเผลอทำพฤติกรรมตามที่เราบอกไปรึเปล่าไงล่ะ
・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・
➀ ล้างหน้าบ่อยๆ หรือสครับหน้าแรงๆ ช่วยลดสิวได้
คนที่มีปัญหาสิวส่วนใหญ่มักจะมีสภาพผิวมันเยิ้มเป็นทุนเดิมอยู่แล้วหลายคนเลยมีความเข้าใจผิดๆ คิดว่าการล้างหน้าบ่อยๆ ถี่ๆ มันจะช่วยกำจัดความมันส่วนเกินออกไปจากผิวและลดการเกิดสิวได้
แต่เราขอเถียงสุดใจเลยนะคะว่าไม่จริง!!!เพราะการล้างหน้าบ่อยจนเกินไป รวมถึงการสครับผิวหน้าแรงๆ มันไม่ได้ช่วยรักษาสิวเลยสักนิด เผลอๆ อาจยิ่งกระตุ้นให้ผิวเกิดการระคายเคืองและทำลายน้ำมันตามธรรมชาติที่เคลือบปกป้องผิวจนผิวแห้งกร้านขาดน้ำและทำให้ร่างกายต้องผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมามากกว่าปกติ พอผิวเดี๋ยวแห้ง เดี๋ยวมัน เดี๋ยวอุดตัน ก็กลายเป็นวงจรสิวที่ไม่มีที่สิ้นสุดทางที่ดีเราแนะนำให้ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง ช่วงเช้า - เย็น ด้วยคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยนสำหรับคนเป็นสิวก็พอแล้ว
➁ เห็นสิวโผล่มาเมื่อไหร่ ต้องรีบบีบสิวทันที
เอาจริงๆ บางทีก็อดสงสัยไม่ได้นะว่าพื้นที่บนใบหน้าก็ตั้งกว้าง แต่ทำไมนังสิวตัวดีมันชอบโผล่ขึ้นหน้าในจุดที่สังเกตง่ายทุกครั้ง อย่างเช่นกลางหน้าผาก แก้ม คาง หรือจมูก แล้วต่อให้จะใช้คอนซีลเลอร์หรือรองพื้นที่ดีเริ่ดขนาดไหนก็กลบสิวเม็ดเป้งเหล่านี้ไม่ได้อยู่ดีสาวๆ บางคนเลยเลือกที่จะบีบเค้นสิวด้วยตัวเอง เพราะคิดว่าการบีบสิวมันจะช่วยให้สิวยุบเร็ว แห้งไว และหายไปเร็วขึ้น
แต่ความเชื่อนี้มันไม่ถูกต้องเลยนะคะ เพราะยิ่งเธอบีบสิว แกะสิว เค้นสิว ด้วยการใช้นิ้วมือบีบหรือใช้ปลายเล็บจิกลงไปที่หัวสิวแบคทีเรียที่ติดอยู่ตามซอกเล็บหรือบนนิ้วอาจเข้าสู่หัวสิวจนสิวอักเสบมากกว่าเดิม หรือยิ่งทำให้แบคทีเรียฝังเข้าไปใต้ผิวหนังลึกกว่าเดิมด้วยนะที่สำคัญการบีบสิวแบบไม่ถูกวิธียังเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดรอยแผลเป็นจากสิวง่ายขึ้นไปอีกขอให้สาวซิสห้ามใจและห้ามมือของตัวเองไม่ให้เอื้อมไปบีบสิวเด็ดขาด แล้วใช้วิธีประคบร้อนเพื่อลดการบวมและการอักเสบของสิวแทนจะดีกว่า
➂ เลิกทามอยส์เจอไรเซอร์ ช่วยลดความมันบนใบหน้า
สาวผิวมันคนไหนที่กำลังเจอกับปัญหาสิวเห่อขั้นสุดพวกเธออาจคิดเองเออเองว่าการทา‘ มอยส์เจอไรเซอร์ ’อาจยิ่งทำให้ผิวมันเยิ้มหนักขึ้นกว่าเดิม จนรูขุมขนเกิดการอุดตันแล้วตามด้วยสิวเม็ดเป้งตัวร้าย แบบนี้พวกเธอเลยกด Skip ข้ามสเต็ปการทามอยส์เจอไรเซอร์ทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็นไปซะอย่างนั้น
แต่อย่าลืมสิคะว่าพวกผลิตภัณฑ์รักษาสิวทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเจลแต้มสิว ครีมรักษารอยสิว หรือแม้แต่โฟมล้างหน้าสูตรสำหรับคนเป็นสิว มันมีส่วนผสมที่อาจทำให้ผิวแห้งขึ้นกว่าเดิมได้งานนี้ถ้าผิวขาดความชุ่มชื้นแล้วไม่ได้ทามอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวหน้า ก็อาจยิ่งกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมา จนกลายเป็นปัญหาผิวมันขาดน้ำตามมาได้ดังนั้น สาวผิวมันที่มีปัญหาสิวก็ควรหาซื้อมอยส์เจอไรเซอร์สูตรไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ( Noncomedogenic ) มาใช้ทาเพื่อเติมความชุ่มชื้นก็จะดีกับผิวที่สุดนะคะ
➃ การไม่ทาครีมกันแดดช่วยลดสิว / การอุดตันได้
ไม่ว่าสาวซิสจะมีปัญหาผิวแบบไหน จะผิวมันเยิ้ม ผิวแห้งกร้าน ผิวหมองคล้ำ ผิวเหี่ยวย่น หรือผิวเป็นสิว ไอเทมสำคัญที่จะละเลยไปไม่ได้เด็ดขาดเลยก็คือ‘ ครีมกันแดด ’นี่แหละค่ะ ที่ต้องย้ำเตือนล่วงหน้าแบบนี้ก็เพราะเรารู้ว่าคนเป็นสิวหลายๆ คนอาจรู้สึกว่าเวลาทาครีมกันแดดแล้วผิวหน้ามันเยิ้ม จนกลัวว่าผิวจะอุดตันและสิวเห่อหนักกว่าเก่า ก็เลยพาลไม่ทาครีมกันแดดเวลาออกไปลั้ลลานอกบ้านเลยสักวัน
พอผิวหน้าไม่มีครีมกันแดดมาเป็นเกราะป้องกัน ก็จะเปิดทางให้ทั้งแสงแดด & รังสียูวีรุมเร้าเข้ามาทำร้ายผิวให้อ่อนแอลง และทำให้ปัญหาผิวมันรุนแรงขึ้นกว่าเดิมด้วยนะสาวๆ ที่มีปัญหาสิวเลยควรเลือกครีมกันแดดสูตรไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ( Noncomedogenic ) มาใช้ และอย่าลืมเช็กค่าป้องกันแสงแดดให้มี SPF 30 ขึ้นไปจะได้เอาไว้หยิบมาใช้ทาปกป้องผิวหน้าในทุกๆ วันค่ะ
➄ อยากให้สิวหายเร็วๆ ต้องใช้ยารักษาสิวแรงๆ
สำหรับคนที่เคยซื้อผลิตภัณฑ์รักษาสิวมาใช้ก่อนหน้านี้แล้ว เธอก็คงจะต้องคุ้นเคยกับชื่อ‘ Benzoyl Peroxide ’แน่นอนเลยล่ะสิ?เจ้า Benzoyl Peroxide เป็นส่วนผสมที่พบได้บ่อยในผลิตภัณฑ์รักษาสิวอย่างพวกเจลแต้มสิว เพราะมีสรรพคุณต้านเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบ และรักษาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยมีระดับความเข้มข้นมาให้เลือกใช้กันตั้งแต่ 2.5 - 10% เลยทีเดียว
แต่เราขอเตือนไว้ก่อนเลยนะว่าการใช้ Benzoyl Peroxide ที่มีความเข้มข้นสูงเกินไป อาจกลายเป็นทำร้ายให้ผิวเสียได้ง่ายๆ มากกว่าที่จะใช้ผลลัพธ์ที่ดีในการรักษาสิวอีกนะเพราะผลข้างเคียงจากการใช้ Benzoyl Peroxide อาจทำให้ผิวแห้งขึ้นกว่าเดิม และก่อให้เกิดการระคายเคืองสำหรับคนผิวแพ้ง่ายได้ด้วยเหมือนกันรู้แบบนี้แล้วก่อนซื้อผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide มาใช้ก็ควรปรึกษาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญก่อน หรือเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นน้อยๆ ก่อนจะเซฟกว่านะ
➅ ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิว เฉพาะตอนที่สิวโผล่ขึ้นหน้าเท่านั้น
เคยได้ยินประโยคที่ว่า‘ กันไว้ก่อนดีกว่าต้องมาแก้ทีหลัง ’รึเปล่าคะ?! ขอบอกเลยนะว่าประโยคนี้มันนำมาใช้กับปัญหาผิวได้เหมือนกันเพราะสาวๆ หลายคนมักจะละเลยและไม่ใส่ใจการบำรุงผิว แต่กลับมานั่งทาสกินแคร์หรือหาวิธีรักษาหลังจากที่ปัญหาผิวนั้นๆ มันเกิดขึ้นแล้วแทน
โดยเฉพาะกับสิวซึ่งเป็นปัญหาผิวที่มักจะโผล่มาให้ได้เจอเรื่อยๆ เกือบทุกเดือนแทนที่เธอจะหาซื้อผลิตภัณฑ์รักษาสิวมาใช้เฉพาะตอนที่สิวเห่อ ก็ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าสูตรอ่อนโยนที่มีส่วนผสมของ‘ กรดซาลิไซลิก’ บำรุงผิวเป็นประจำในทุกๆ วัน เพื่อช่วยลดโอกาสที่จะเกิดสิวเห่อครั้งใหม่เพราะกรดซาลิไซลิกมีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบและลดการระคายเคืองต่อผิวได้ด้วยนั่นเอง
➆ พอสิวหายช้าไม่ทันใจ ก็รีบหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนั้นๆ ทันที
บางครั้งผลิตภัณฑ์รักษาสิวบางตัวก็มักจะมาพร้อมกับคำเคลมที่เกินจริงไปสักนิด เช่น‘ ใช้แล้วสิวยุบทันที ’/‘ สิวหายชั่วข้ามคืน ’/‘ ผิวใสขึ้นภายใน 3 วัน ’เป็นต้น เพราะฉะนั้นก่อนสาวๆ จะซื้อสกินแคร์ตัวไหนมาใช้ก็ควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ตัวนั้นให้ดีๆที่สำคัญก็อย่าได้คาดหวังว่าไอเทมรักษาสิวตัวที่ซื้อมา พอใช้แล้วจะช่วยให้สิวหายวับไปแบบปุ๊บปั๊บรวดเร็วทันใจในชั่วข้ามคืนเด็ดขาดเลยนะเพราะปัญหาผิวแต่ละอย่างมันต้องใช้เวลารักษาและฟื้นฟูดูแลกันทั้งนั้นแหละค่ะ
งานนี้หากสาวๆ อยากรักษาสิวด้วยตัวเองก็ต้องใจเย็นๆ กันหน่อย เพราะปกติแล้วผลิตภัณฑ์รักษาสิวแต่ละชนิด มักจะเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงในช่วง 6 - 8 สัปดาห์ขึ้นไปไม่ใช่ว่าใช้วันนี้แล้วพรุ่งนี้สิวหายแบบไม่เหลือร่องรอย ท่องไว้เลยว่า‘ ความอดทน ’และ‘ ความสม่ำเสมอ ’เป็นเรื่องสำคัญมากๆ
・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・ไม่แปลกใจเลยนะว่าทำไมสิวถึงเห่อหนักขึ้นกว่าเดิม! เพราะทั้ง 7 ข้อที่บอกไป เรามั่นใจว่าต้องมีสาวๆ หลายคนเผลอทำไปด้วยความไม่รู้อยู่แน่ๆแต่ในเมื่อวันนี้รู้ตัวแล้วก็ต้องตะโกนบอกตัวเองดังๆ เลยนะว่าแล้วปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการดูแลรักษาผิวพรรณใหม่ให้มันถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรักษาความสะอาดผิวหน้า ต้องขยันทามอยส์เจอไรเซอร์และกันแดดเป็นประจำ รวมทั้งเลือกใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวให้เหมาะสมเพียงเท่านี้ก็จะช่วยบรรเทาไม่ให้สิวเห่อหนักขึ้น และฟื้นบำรุงให้ผิวกลับมาสวยสตรองได้อีกครั้งแล้วละ ^^
