ไปเที่ยวกันค่าซิสส!
สำหรับในบทความนี้
เราจะชวนซิสบินไปเที่ยวที่เกาหลีกันอีกแล้ว แต่แหล่งท่องเที่ยวที่เราจะชวนซิสไป Check-in ไม่ได้อยู่ในตัวเมืองโซลหรอกนะคะ
เราขอเอาใจสายธรรมชาติ เที่ยวป่าเขา น้ำตก ทะเลกันหน่อย
เห็นเขาบอกว่าที่เกาะเชจู เป็นแหล่งท่องเที่ยวชมธรรมชาติที่สวยงามแห่งหนึ่งเลย
เราก็เลยไม่พลาดชวนซิสไป
Check-in ชมแหล่งท่องเที่ยวสายธรรมชาติที่เกาะเชจู
กันด้วย จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง ลองตามไปดูกันเลย
✩✩✩✩✩✩✩✩✩
อุทยานแห่งชาติฮัลลาซาน
มาเริ่มกันที่แหล่งท่องเที่ยวในเชจูที่หลายคนต้องตามมา Check-in กันเลยกับ
อุทยานแห่งชาติฮัลลาซาน
( Hallasan National Park )
ภูเขาที่อยู่ใจกลางของเกาะเชจู ถือเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเกาะเลยก็ว่าได้ค่ะ
ซึ่งอีกชื่อหนึ่งของภูเขาลูกนี้มีชื่อว่า ยองจูซาน แปลว่าภูเขาที่สูงเทียบเท่าจักรวาล
ความสูงจะขนาดไหนก็ลองเทียบกันได้เลยค่า
และที่ภูเขาฮัลลาซานเป็นที่ฮอตฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ ก็เพราะว่าภูเขาแห่งนี้ เป็นสถานที่ยอดฮิตของนักปีนเขา เนื่องจากเส้นทางเดินไม่ยาก
สามารถขึ้นไปยังจุดสูงสุดและเดินกลับได้ภายในวันเดียว แต่มีลมค่อนข้างแรง ถ้าเกิดอยากมาเดินเขาที่นี่อาจจะต้องเตรียมตัวกับแรงลมกันบ้าง แต่ถ้าฝ่าแรงลมไปจนถึงสุดสูงสุดแล้ว คงจะประทับใจน่าดู ว่ากันว่าวิวด้านบนสวยจนต้องตะลึงเลยละค่า
เวลาเปิด-ปิด:
เปิดทุกวัน พ.ย.- ก.พ. เปิด 06:00 น. มี.ค. เม.ย. ก.ย. ต.ค. เปิด 05:30 น. พ.ค. - ส.ค. เปิด 05:00 น.
ค่าเข้าชม:
ฟรี
การเดินทาง:
สถานีรถบัสเชจูไป Eorimok ขึ้นรถบัสสาย 1100 ลงที่ทางเข้าของเส้นทาง Eorimok Trail ใช้เวลาประมาณ 35 นาที ( ตารางรถบัส: 08:00, 09:00, 10:00, 11:00, 12:20, 13:40, 15:00 ) ( ช่วง เม.ย. - ต.ค. มีรถบัสเพิ่มรอบ 6:30 และ 16:00 )
สถานีรถบัสเชจูไป Seongpanak ขึ้นรถบัสสาย 5.16 และลงที่ Seongpanak, ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ( ตารางรถบัส: 06:00-21:30, รถออกทุก ๆ 10-15 นาที )
ยอดเขาซองซาน อิลชุบง
อีกหนึ่งภูเขาที่สายธรรมชาติหรือนักปีนเขาน่าจะเลิฟ ก็คือ
ยอดเขาซองซาน อิลชุบง
( Seongsan Ilchulbong Peak )
ยอดเขาที่อยู่ทางฝั่งตะวันออกของเกาะเชจู เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 100,000 ปีก่อน
ตรงปากปล่องยอดเขามีขนาดกว้างใหญ่ประมาณ 600 เมตร
บริเวณรอบ ๆ ปล่องมีหินแหลมเกือบ 100 ยอดขึ้นอยู่ดูคล้าย ๆ กับมงกุฎ นอกจากจะเหมาะกับการปีนเขา ยอดเขานี้ยังเหมาะกับการชมพระอาทิตย์ขึ้นอีกต่างหาก ยิ่ง
ในฤดูใบไม้ผลิสายดอกไม้ลองตามไป Check-in กันได้ เพราะเขาแห่งนี้จะเต็มไปด้วยดอก rapeseed สีเหลืองสดใสบานเต็มไปหมดด้วยค่า
เวลาเปิด-ปิด:
ปิดก่อนพระอาทิตย์ตกดิน 1 ชั่วโมง ( หากสภาพไม่ดีก็จะไม่เปิดให้ขึ้น )
ค่าเข้าชม:
ผู้ใหญ่ 2,000 วอน เด็ก 1,000 วอน กรุ๊ป 10 คนขึ้นไป ผู้ใหญ่ 1,600 เด็ก 800 วอน
การเดินทาง:
สถานีรถบัส Seogwipo ขึ้นรถบัส Dongilju ( ปลายทาง Seongsan ) ลงป้าย Seongsalliipgu Bus Stop ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ลงจากรถจะเห็นยอดเขาซองชาน อิลชุบงอยู่ด้านหน้า เดินต่อไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมงถึงยอดเขา
น้ำตกชอนเจยอน
ไปเที่ยวภูเขากันมาแล้ว คราวนี้ไปเที่ยวทางน้ำกันบ้างดีกว่า ที่
น้ำตกชอนเจยอน
( Cheonjiyeon Waterfall )
ที่มีความหมายบ่อน้ำของจักรพรรดิแห่งสวรรค์ แถมน้ำตกนี้ยังมีตำนานเล่าขนากันด้วยนะคะ
ว่ากันว่าบ่อน้ำนี้จะมีนางฟ้า 7 องค์ลงมาตามบันไดก้อนเมฆจากสวรรค์เพื่อมาอาบน้ำที่บ่อแห่งนี้
เขาเลยเชื่อกันว่าน้ำในสระน้ำนี้เป็นน้ำบริสุทธิ์
แต่นอกจากความศักดิ์สิทธิ์และตำนานเล่าขานแล้ว น้ำตกแห่งนี้ยังมีต้นไม้หายากหลายชนิดรอให้สายธรรมชาติได้มา Check-in
ชมความสวยงามกันด้วยค่า
เวลาเปิด-ปิด:
เปิดทุกวัน ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้น - 22:00 น.
ค่าเข้าชม:
ผู้ใหญ่ 2,000 วอน เด็ก 1,000 วอน
การเดินทาง:
สถานีรถบัสเชจู ขึ้นรถบัสสาย 516 ( ปลายทาง Seoguipo รถวิ่ง 6:00-21:40 ) ]ลงป้ายสุดท้าย ต่อแท็กซี่ไปยังน้ำตกประมาณ 3-4 นาที หรือลงป้าย Dongmun rotary stop ต่อรถบัสสาย 1 ปลายทาง Cheojiyeon ลงป้ายสุดท้าย
ชายหาดแฮมด็อก
ยังไม่จบกับแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำค่ะ ว่ากันว่าทะเลเชจู เป็นหนึ่งในทะเลที่สวยที่สุดของเกาหลีเลยนะคะ มาแวะเชจูทั้งที แล้วเราจะไม่พลาดไป Check-in ชมทะเลเกาะนี้ได้ยังไง สำหรับใครที่อยากชมวิวทะเลและธรรมชาติภูเขาสวยงาม ลองตามไป Check-in กันที่
ชายหาดแฮมด็อก
( Hamdeok Seoubong Beach )
ชายหาดยอดนิยมในเชจูที่นักท่องเที่ยวทั้งเกาหลีและต่างชาติมักจะมา Check-in ที่นี่ เพราะนอกจากวิวสวยงามระดับล้านแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุก ๆ อีกมากมายให้ลองเล่น
ไม่ว่าจะเป็นสกีน้ำ นั่งเรือบานาน่าโบ๊ท พายเรือคายัค หรือตกปลาก็ยังได้ ใครเป็นสายกิจกรรมลองตามไป Check-in กันค่า
เวลาเปิด-ปิด:
เปิดทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
ค่าเข้าชม:
ฟรี
การเดินทาง:
สนามบินเชจู ขึ้นรถบัสสาย 38 ลงป้าย Hamdok Beach หรือขึ้นรถบัสปลายทาง Jeju-si Jungang Rotary ลงป้าย Jungang Rotary Bus Stop เดินข้ามถนนต่อรถบัสสาย 10 ลงป้าย Hamdok Beach
ถ้ำลาวามานจังกุล
ไปเที่ยวถ้ำกันค่ะซิส ที่
ถ้ำลาวามานจังกุล
( Manjanggul Cave )
ชื่อก็บอกอยู่แล้วไม่ได้เป็นถ้ำธรรมดาแน่นอน
เพราะถ้ำแห่งนี้เป็นถ้ำลาวาที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ เกิดจากลาวาใต้ดินประทุและไหลออกมาทำให้เกิดเป็นอุโมงค์ แถมยังเป็นที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลกจนได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลก UNESCO
เลยนะเอ้อ ภายในจะมีหินรูปร่างแปลกตาให้ได้ชม ไม่พอยังมีสิ่งมีชีวิตอย่างค้างคาวอาศัยอยู่ในนั้นด้วยค่า
เวลาเปิด-ปิด:
09:00 - 18:00 น. เข้าชมก่อนเวลา 17:00 น. *ปิดทำการทุกวันพุธแรกของเดือน*
ค่าเข้าชม:
ผู้ใหญ่ 2,000 วอน เด็ก 1,000 วอน
การเดินทาง:
รถบัสสถานีเชจู ขึ้นรถบัสสาย 990 ปลายทาง Jeju Hamdeok Gimnyeong ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ลงป้าย Manjanggul Cave Bus Stop เดินประมาณ 5 นาทีจะถึงทางเข้าถ้ำ
พิพิธภัณฑ์ส้มไซตรัส
อีกหนึ่งของขึ้นชื่อเรียกนักท่องเที่ยวของเกาะเชจู นอกจากโทลฮารูบัง รูปปั้นหินลาวาที่คอยพิทักษ์คุ้มครองคนเชจู นั่นก็คือส้มคัมกยูลหรือส้มไซตรัส ผลไม้ของดีจากเชจูนั่นเอง
ด้วยความที่เชจูมีพื้นที่เป็นเกาะ เกิดมาจากการระเบิดของภูเขาไฟ พื้นดินส่วนใหญ่จะเป็นหินเพาะปลูกยาก แต่เชจูสามารถปลูกส้มขนิดนี้ได้สำเร็จ แถมรสหวานอร่อย ที่เกาะเชจูเขาเลยมี
พิพิธภัณฑ์ส้มไซตรัส
( Citrus Museum )
เล่าเรื่องราวของส้มชนิดนี้ที่เชจูกันด้วย และนอกจากประวัติของส้มจากเชจูแล้ว
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังมีกิจกรรมมากมายให้ได้ลองทำ
ไม่พอยังมีสวนส้มให้ได้ตามไปถ่ายรูปชมธรรมชาติเก๋ ๆ กันด้วยค่า
เวลาเปิด-ปิด:
ต.ค. - มิ.ย. เปิด 09:00 - 18:00 น. ก.ค. - ก.ย. 09:00 - 19:00 น. ปิดทำการ วันชูซอก วันไหว้พระจันทร์ วันปีใหม่
ค่าเข้าชม:
ผู้ใหญ่ 1,500 วอน เยาวชน 1,000 วอน เด็ก 800 วอน กรุ๊ป 30 คนขึ้นไป ผู้ใหญ่ 1,000 วอน เยาวชน 700 วอน เด็ก 500 วอน ( คอร์สเรียนทำขนมจากส้ม 3,000 วอนต่อ 5 คน )
การเดินทาง:
นั่งแท็กซี่จากสนามบินเชจูประมาณ 40 กิโลเมตร
หมู่บ้านวัฒนธรรมซงอึบ
ส่วนใครอยากชมธรรมชาติ พร้อมกับอินวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์เกาะเชจูไปด้วย ลองตามไป Check-in ที่
หมู่บ้านวัฒนธรรมซงอึบ
( Seongeup Folk Village )
กันได้เลยค่า
หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านเกาหลีโบราณหมู่บ้านเล็ก ๆ อยู่ตรงเชิงเขาฮัลลาน มีผู้คนอยู่อาศัยมายาวนานจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานก็ยังมีคนอาศัยอยู่จริง ๆ
ภายในหมู่บ้านมีทั้งโรงเรียน ศาลเจ้า ศาลาว่าการ อาคารโบราณที่รักษาไว้ อาหารท้องถิ่นและดนตรีพื้นเมืองก็มีให้ได้ชิมได้ชมกันด้วยค่า
เวลาเปิด-ปิด:
เปิดทุกวัน เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ค่าเข้าชม:
ฟรี
การเดินทาง:
สถานีรถบัสเชจู ขึ้นรถบัส Intercity Bus ปลายทาง Beonnyeong-ro ลงป้าย Seongeup1(il)-ri samuso เลี้ยวที่หัวมุมถนน เดินตามถนนไปอีกประมาณ 200 เมตรจะถึงหมู่บ้าน
สถานีรถบัส Seogwipo ขึ้นรถบัส Dongilju bus ลงป้าย Pyoseon-ri samuso เดินตรงไปเรื่อย ๆ เลี้ยวซ้ายที่สี่แยก เดินไปป้ายรถบัส ขึ้นรถ Beonnyeong-ro bus ลงป้าย Seongeup1(il)-ri ใช้เวลา 45 นาที
✩✩✩✩✩✩✩✩✩
และนี่ก็คือ
แหล่งท่องเที่ยวสายธรรมชาติในเกาะเชจู
ที่เราเอามาฝากเพื่อน ๆ สาวซิสในบทความนี้ค่า
ขอบอกเลยว่านอกจากแหล่งท่องเที่ยวสายธรรมชาติแบบนี้ เกาะเชจูยังมีสถานที่ฮิป ๆ เก๋ ๆ ให้ Check-in อีกเพียบและเราก็ไม่พลาดเอามาฝากซิสให้ได้ตามไป Check-in แน่นอน ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยนะค
ะ ส่วนใครที่เป็นสายชมธรรมชาติป่าเขาต้นไม้ใบหญ้าแวะไปเชจูรับรองไม่ผิดหวังเลยค่ะ ว่าแล้วก็ขอตัวไปลิสต์แหล่งท่องเที่ยวในเชจูต่อก่อนแล้ว
แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า อันยองงง
cr. 15 Best Things to Do in Jeju
https://th.hotels.com/go/south-korea/best-jeju-things-to-do
cr. chilloutkorea
https://www.chilloutkorea.com/