บทที่ 9

รูปภาพ:

มิราวดีทิ้งตัวนั่งลงที่ปลายเตียง คราวนี้เป็นอีกครั้งที่รอดมาได้เพราะเขาช่วยไว้ ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า แต่นับว่าสวรรค์ยังมีเมตตาอยู่บ้าง แต่แน่นอนว่าก็ไม่ซะทีเดียวเพราะคำพูดของชายหนุ่มยังคงดังก้องอยู่ในหัวตลอดเวลา

“แค่ช่วยเรา ทำไมต้องขอแต่งงานด้วย”  นี่เป็นสิ่งที่ติดอยู่ในใจตั้งแต่กลับมาถึงห้อง เขามีพร้อมทุกอย่าง เงินและหน้าที่การงาน แล้วทำไมจึงต้องขอผู้หญิงที่เพิ่งเจอกันเพียงสองครั้งแต่งงาน เธอไม่เชื่อหรอกว่าบนโลกนี้จะมีรักแรกพบแล้วเป็นคู่แท้กันจริง ๆ

มิราวดีมีคิดไปไกลแต่สุดท้ายก็สลัดทุกอย่างออกจากหัวสมอง เธอเชื่อว่าวันข้างหน้าต้องพบเจอกันอีก และถึงตอนนั้นอาจมีเรื่องที่จะตอบแทนเขาได้แน่นอน ทว่าตอนนี้สิ่งที่ต้องใส่ใจมากที่สุดคือพวกนั้นยังคงตามล่าเธอและไม่หยุดเพียงเท่านี้ จะต้องทำอย่างไรคนเลว ๆ จึงจะออกไปจากชีวิตของเธอได้

ความรู้สึกเสียใจจากการกระทำของแฟนหนุ่มหรือความผูกพันนั้นได้ลดจางลงไปอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงแต่สัญชาตญาณการเอาตัวรอดจากคนเลว มิราวดีไม่เจ็บปวดไม่รู้สึกอาวรณ์อะไรมากมาย หรือเป็นเพราะไม่มีเวลาสนใจ เพราะต้องหาทางออกให้ชีวิตที่แทบไม่มีหนทางเลยสักนิด กับยุคสมัยที่

มนุษย์เริ่มตกงานมากขึ้น บทบาทที่ได้มาจากเทคโนโลยีก็มีมากขึ้นจนทำให้คน

สนใจแต่เงินและอำนาจมากกว่า

หญิงสาวไม่มีทางอื่นนอกจากเตรียมเก็บของและย้ายไปที่อื่นเพื่อหลบหนีการตามล่าของคนพวกนั้น


ภายในห้องของโรงแรม รชตนั่งอยู่บนโซฟาอ่านหนังสือในยามว่าง กระทั่งอาโปปรากฏกายขึ้นเขาจึงเหลือบสายตามองและเล่าสิ่งที่เห็นให้ฟัง

“แล้วจะตามไปซื้อที่พักที่หล่อนย้ายไปอีกไหม” อาโปเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่ใช้พลังซ่อนตัวไปแอบดูหญิงสาวในห้องมา

“นายอยู่มานานและรวยมาก แต่นั่นไม่ใช่ทางแก้คำสาปที่ถูกหรอกนะ ทำแบบนี้ไปใช่ว่าจะแก้คำสาปได้เร็วขึ้น”

รชตมองด้วยสายตาเรียบนิ่ง แน่นอนว่าเขาซื้อโรงแรมนี้เมื่อไม่กี่วันหลังจากที่รู้ว่ามิราวดีย้ายเข้ามาพัก

“ฉันตั้งใจจะซื้อบริษัทที่เธอทำงานอยู่ด้วย”

“ไม่ได้ฟังที่ฉันพูดเลย !” อาโปบ่น

“ฉันขอเธอแต่งงานแล้ว”

“หา !” อาโปตาโตทำหน้าตกใจ “นี่นายขอหล่อนแต่งงานแล้ว !”

รูปภาพ:

รชตพยักหน้าตอบรับขณะที่ลุกขึ้นจากโซฟาเดินมายังชั้นวางหนังสือ

“ผู้หญิงที่ไหนจะตอบตกลงแต่งงานกับนายกันล่ะ ลืมไปแล้วหรือไงว่านี่มันผ่านมากี่ร้อยปีกันแล้ว ไม่ใช่ยุคของนายหรอกนะ”

ชายหนุ่มหยิบหนังสือแล้วหันมายิ้มที่มุมปาก

“เธอต้องตอบตกลงอย่างแน่นอน”

ไม่มีคำอื่นพูดตอบโต้จากเจ้าไก่สีขาวอีก แทนที่จะถนอมและทำให้หล่อนรักก็พอใช้เป็นทางแก้คำสาปได้แล้ว แต่ไม่รู้เหตุผลที่ชายหนุ่มตั้งใจทำสักนิด ถ้าทำแบบนั้นแล้วถอนคำสาปได้ คงไม่ต้องรอจนถึงตอนนี้หรอก เขาก็อยากจะรีบกลับคืนร่างเดิมเสียที ไม่อยากเป็นไก่แบบนี้ไปอีกร้อยปี พันปี !

อาโปได้แต่ปลงตกเช่นเคยกับความคิดที่เป็นหนึ่งของมนุษย์ผู้นี้

“เอาเถอะ นายเองก็อย่าลืมล่ะว่า ถ้าพลาดครั้งนี้ไปแล้ว ไม่รู้ว่าจะต้องรออีกกี่ร้อยปี พันปีที่เธอจะกลับมาเกิดอีกครั้ง”

รชตส่งสายตามองอาโปที่กำลังเดินออกจากห้องจนลับหายไป แววตาและสีหน้าที่เคยซ่อนความเปลี่ยวเหงาเอาไว้ได้เผยออกมา เขารู้ดีว่าหากพลาดครั้งนี้อาจจะต้องรออีกนาน หรือไม่มีโอกาสอีกเลยก็ได้ ใช่ว่ามนุษย์ทุกคนที่ตายไปแล้วจะได้กลับชาติมาเกิดใหม่เสมอไป และใช่ว่าจะตามหาดวงวิญญาณที่กลับมาเกิดใหม่ได้ง่าย ๆ

“ไม่พลาดหรอก เพราะมนุษย์ไม่เคยเปลี่ยนไป เมื่อเห็นอำนาจและเงินนั้นไม่มีใครที่จะปฎิเสธลง” รชตพูดพลางมองหนังสือในมือ ขอแค่มีเงินและอำนาจมากพอ สุดท้ายแล้วเธอที่กำลังประสบปัญหาก็ต้องกลับมาหาเขาอย่างแน่นอน

“คงต้องขอบคุณสวรรค์ที่เธอคบกับผู้ชายคนนั้น”

...จึงทำให้มีโอกาสที่จะสานสัมพันธ์ได้เร็วมากขึ้นกว่าเดิม

ฝากติดตามด้วยนะคะ

Mamaya Writer