1. SistaCafe
  2. [ Novel ] สามีพันธกาลรัก : บทที่ 11

บทที่ 11


หลังจากที่ย้ายมา มิราวดีต้องตื่นเช้าไปทำงานเร็วกว่าปกติ เพราะระยะทางจากคอนโดฯ ที่นี่ห่างจากบริษัทมากพอตัว อีกทั้งเส้นทางจราจรที่ไปก็มีรถติดจนหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทันทีที่นั่งลงที่เก้าอี้ทำงานก็หยิบแท่งสี่เหลี่ยมขนาดพอดีมือวางต่อกับไฟ ไม่ถึงหนึ่งนาทีภาพทุกอย่างก็ปรากฏขึ้นส่องเป็นแสงและภาพสะท้อนในสายตา เธอเข้าอ่านอีเมลที่ยังไม่ได้ตอบกลับหลายฉบับ



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85602%2F23c7d795-2bea-4505-819e-d4877d141726.png?v=20240313173717&ratio=0.339

หญิงสาวที่เร่งตอบอีเมลฉบับอื่นจนเสร็จ เมื่อเห็นเมลใหม่จึงเปิดอ่าน ดวงตากลมกลอกมองและหันมองเวลาก่อนอ่านอีเมลอีกรอบ

“เปลี่ยนผู้บริหารใหม่งั้นเหรอ”

การที่ผู้บริหารใหม่ที่จะเข้ามาดูแลแผนกขาย แสดงว่าเรื่องที่พยายามปิดบังไว้ได้ถึงหูของซีอีโอแล้ว

“ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องมานั่งระแวงว่าจะถูกลวนลามตอนไหน”

มิราวดีถอนหายใจออกมา นับว่าเป็นโชคที่เธอทำผลงานได้ดีจึงไม่มีข้ออ้างมาให้ตาแก่หัวงูนั่นลวนลาม หรือแสดงท่าทีน่ารังเกียจใส่ แต่ทว่าพนักงานหญิงคนอื่นคงจะไม่ใช่ แน่นอนว่าคราวนี้ก็ต้องรอดูว่าผู้บริหารใหม่จะเป็นใคร แต่จะเป็นใครก็ช่างเพราะเธอแค่ทำงานให้ตามเป้าหมายก็พอ

เวลาล่วงเลยผ่านไปนานพอสมควร หญิงสาวที่นั่งอยู่โต๊ะทำงานวุ่นวายกับการรับสายโทรศัพท์จากลูกค้าไม่ขาด

“จวนจะได้เวลาประชุมแล้วนะคะ”

ศิตราเดินเข้ามาเรียกพอดีกับที่มิราวดีวางสายลง

“งั้นเหรอ เราไปก่อนเลยเดี๋ยวพี่จะตามไป”

“ค่ะ งั้นรีบนะคะ” ศิตราเดินเข้ามากระซิบบอก “เห็นมีข่าวแว่ว ๆ มาว่า ผู้บริหารใหม่ค่อนข้างโหดค่ะ”

มิราวดีพยักหน้ารับรู้และรีบก้มหน้าส่งอีเมลให้ลูกค้าก่อนจะลุกเดินไปยังห้องประชุมทันที


ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85602%2F065804cd-0e48-4d42-a802-8573903ef891.jpeg?v=20240313173717&ratio=0.454

ทุกคนต่างเดินทยอยเข้ามาในห้องประชุมจนเกือบครบ มิราวดีนั่งประจำที่เคยนั่งทุกครั้ง ในใจรู้สึกไม่ค่อยดีเมื่อคิดถึงเรื่องผู้บริหารใหม่ทำไมเธอถึงรู้สึกหนาวเย็นแบบนี้ ทั้งที่แอร์ก็ไม่ได้เย็นเลยสักนิดแต่การเปลี่ยนผู้บริหารใหม่นับเป็นเรื่องที่ดีต่อคนในแผนก เเต่ก็ไม่รู้ทำไมอยู่ ๆ จึงตัดสินใจเปลี่ยนกระทันหัน โดยไม่มีการแจ้งพนักงานให้ทราบเลยสักนิด

“อาจจะดีกว่าก็ได้มั้ง” เธอพึมพำกับตนเอง ก้มหน้ามองหน้าจอโทรศัพท์ กระทั่งประตูปิดลงเสียงฝีเท้าย่างก้าวเข้ามาในห้อง มิราวดีจึงเงยหน้าขึ้นมองถึงกับอ้าปากค้างพูดไม่ออกด้วยความตกใจ

ใบหน้าที่คุ้นเคย รอยยิ้มเเละเเววตาเเบบนั้น ไม่ใช่เรื่องบัญเอิญอย่างเเน่นอนที่จะมาเจอ ‘เขา’ ในบริษัท

ชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องประชุมด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ครั้นเหลือบสายตามองจึงยิ้มที่มุมปากให้หญิงสาวเป็นเชิงบอกว่า ‘เจอกันอีกเเล้วนะครับ’

นี่มันบ้าบอมากที่สุด! เขากำลังจะบอกว่า เเต่งงานกับผมซะ คุณไม่มีทางหนีผมพ้น อย่างนั้นเหรอ!

มิราวดีรีบหลบสายตาแล้วเลี่ยงมองไปทางอื่นทันที นี่มันยิ่งกว่าตกนรกซะอีก แบบนี้เอาตาแก่หื่นกามกลับมายังดีกว่าสตอล์กเกอร์อีกนะ!

หญิงสาวไม่อยากจะเชื่อว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าซึ่งเคยเจอก่อนหน้านี้จะกลายมาเป็นเจ้านาย ทั้งยังเป็นหุ้นส่วนของบริษัทด้วย ถึงจะรู้อยู่เเล้วว่ายุคสมัยนี้ถ้ามีเงินก็ย่อมทำทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย เเต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะบ้าขนาดนี้ เธอเเทบไม่สนใจการเเนะนำหรือการพูดคุยภายในห้องประชุมเลยสักนิด ในสมองมีเเต่ความพะวงเรื่องของเขาจนไม่มีสมาธิ


“ผมขอฝากตัวด้วยนะครับ” เขากล่าวปิดท้ายเป็นการสิ้นสุดการประชุมเวลาหนึ่งชั่วโมงเศษ ๆ

เมื่อทุกคนทยอยลุกเดินออกจากห้องประชุมไป มิราวดีก็หลบสายตาทำเป็นไม่เห็นและรีบเดินออกไปเช่นกันแต่ทว่า

“เดี๋ยวก่อนครับ คุณมิราวดี”

หญิงสาวหยุดชะงัก ทำสีหน้าไม่สบอารมณ์ ก่อนจะหันไปหาเจ้านายหนุ่มแล้วยิ้มหวานให้ ‘โปกเกอร์เฟส’ ระดับเธอไม่มีทางที่เขาจะจับได้!

รชตยิ้มที่มุมปาก ก่อนส่งยิ้มหวานกลับให้ “เจอกันอีกแล้วนะครับ”

“ค่ะ เจอกันอีกแล้ว” มิราวดีพยายามระงับอารมณ์ฉีกยิ้มหวานตอบกลับ สติแทบหลุดในตอนนี้ ไม่อยากจะคิดอย่างอื่นนอกจากถามเขาว่าจงใจตามเธอมาถึงที่ทำงานใช่หรือไม่!

“ผมรวย มีเงินเยอะ คุณจะไม่แต่งงานกับผมจริง ๆ เหรอ” เขาถามด้วยแววตาใสซื่อราวกับว่าเป็นเด็กน้อยที่รอคุณแม่อุ้มขึ้นมาในอ้อมกอด “ผมจะรอคำตอบจากคุณนะ”

มิราวดียืนอึ้งไม่ทันพูดชายหนุ่มก็เดินออกจากห้องประชุมไปซะแล้ว

“นี่มันปีซวยอะไรเนี่ย!”

ก๊อก ๆ

เสียงเคาะบริเวณประตูดังขึ้น หญิงสาวส่งสายตามองรชต

“เย็นนี้เรากลับด้วยกันไหม”

“คะ”

“งั้นหลังเลิกงานเจอกันที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินนะ”

เมื่อพูดจบชายหนุ่มก็เดินหายไป ทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่าและความอึ้งที่ไม่ทันให้หญิงสาวตอบ

มิราวดีสะบัดหัว ยกมือขึ้นตบแก้มทั้งสองข้างเพื่อเรียกสติกลับคืนมา ก่อนจะเดินออกจากห้องประชุมกลับไปทำงานต่อ เพราะเธอเชื่อว่าหากไม่ตอบรับสัมพันธ์นี้เดี๋ยวเขาก็คงเบื่อและเลิกยุ่งไปเอง

ส่วนทางด้านรชตหลังจากเดินเข้ามาในห้องทำงานที่ถูกเตรียมไว้ ก็นั่งลงและถอนหายใจออกมาเป็นระยะ เขามีเงินมากพอแทบไม่ต้องลงทุนทำธุรกิจเพิ่มเงินที่มีอยู่แล้ว มากพอที่จะใช้แบบสบาย ๆ ไปอีกหลายร้อยปี ซ้ำบริษัทตัวเเทนเล็ก ๆ นี้แทบมองไม่เห็นกำไรที่เพิ่มมาเท่าไหร่ด้วย แต่ทว่าการที่ต้องเสียเงินกับเรื่องไร้สาระแบบนี้ก็เพราะเธอคนเดียว

ชายหนุ่มนั่งมองเอกสารตรงหน้า ถึงจะเป็นการมาแทนแบบเร่งด่วนแต่ก็ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ เพราะชีวิตที่ยืนยาวนั้นทำให้เขาได้ทำแทบทุกอาชีพที่อยู่บนโลกแล้วให้ตายสิแทนที่จะนั่งอ่านหนังสืออย่างสบายอารมณ์ กลับต้องมาทำอะไรแบบนี้ชายหนุ่มสถบในใจด้วยความหงุดหงิด เป็นเพราะว่า หญิงสาวหัวแข็งจนไม่ยอมใจอ่อนให้ แต่ก็โชคดีที่ใช้เงินเเก้ไขปัญหาทุกอย่างได้

หึหึ อยากจะรู้นักว่าจะหนีไปไหนได้อีก


เรื่องนี้มีฉบับนิยายนะคะ สามารถติดตามเเละเปย์ได้ค่า

จะบอกว่าช่วงเเรก ๆ จะฟิน ๆ พอไปหลัง ๆ จะออกเเนวดราม่านิด ๆ ( มั้ง ) คะ

ขอบคุณที่ติดตามเเละกดเข้ามาอ่านนะคะ หากชอบฝาก comment ให้กำลังใจกันได้นะคะ


ติดตามผลงาน หรือ ส่งกำลังใจให้ได้ค่ะ

Mamaya Writer


เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้