บทที่ 31

หลังจากรับประทานอาหารช่วงกลางวันเสร็จแล้ว อวิ่นเยว่ก็ขับรถมาที่นอกตัวเมืองของจังหวัดซึ่งมีตลาดเก่าตั้งอยู่ อาหยูเองก็มีท่าทีสนุกสนานเมื่อมาถึง หลังจากเดินเล่นและซื้อเสร็จแล้วก็เกือบบ่ายสามโมง อวิ่นเยว่จึงขับรถกลับมาที่พักอีกครั้ง

ทันทีที่กลับมาเด็กชายก็นั่งจนเผลอหลับไปบนโซฟา ลฎาภาเดินเข้ามาหาพร้อมกับยิ้มให้อย่างเอ็นดู

คงจะเหนื่อยสินะ...

“คุณเองก็ไปพักเถอะ” อวิ่นเยว่เอ่ยขึ้น

หญิงสาวหันมาหาขณะที่เขาเดินเข้าไปในห้อง น้ำเสียงแม้จะไม่เย็นชาแต่ก็คาดเดาอารมณ์ของอีกฝ่ายไม่ได้ เธอได้แต่ถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินตามเข้าไปในห้องเงียบ ๆ เพื่อจัดเก็บของใช้ส่วนตัวบางส่วนเพื่อที่วันพรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องใช้เวลาเก็บนาน

“นี่สำหรับคุณ” อวิ่นเยว่ยื่นของส่งให้พลางหลบสายตาไปทางอื่น

“คะ ?” ลฎาภามองกล่องขนาดเล็กสีน้ำเงินที่อยู่ในมือ จำได้ว่าเขาเข้าร้านหนึ่งไปเลือกน่าจะเป็นเครื่องประดับทั้งยังใช้เวลานานพอสมควร นึกว่าจะซื้อสะสมไว้เองซะอีก “ฉันรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ”

อวิ่นเยว่มองด้วยสายตาตัดพ้อ เพราะไม่ชอบการปฏิเสธของเธอ

“ทำไม ?”

นั่นเป็นคำตอบที่เธอต้องตอบเขาด้วยหรือไม่ ? ลฎาภามองด้วยความลังเลและหนักใจ รู้เพียงว่าหากรับสิ่งนี้ไว้อาจจะทำให้เธอไม่สบายใจ...ไม่สิ เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ารู้สึกอย่างไรในตอนนี้

“ฉันรับของมีค่าจากคุณเผิงไว้ไม่ได้หรอกค่ะ” เธอตอบพร้อมกับพยายามยิ้มให้อวิ่นเยว่แสดงสีหน้าผิดหวังออกมาแม้จะแค่แวบเดียวแต่เธอก็เห็น

“ช่างเถอะ” เขาพูดแล้วเดินไปเงียบ ๆ

ลฎาภามองชายหนุ่มที่เดินจากไปจึงไม่คิดอะไรมากและรีบจัดเก็บของใช้ต่อ ครั้นเมื่อเดินไปทิ้งขยะจึงเห็นกล่องสีน้ำเงินลงไปอยู่ในถังขยะเสียแล้ว ดวงตากลมมองด้วยความรู้สึกที่ยากจะตัดสินใจ ควรจะหยิบขึ้นมาแล้วไปคืนเขา หรือว่าทำเป็นไม่เห็นแล้วทิ้งขยะในมือปิดทับไปดี

หญิงสาวใช้ความคิดอยู่ไม่นานจึงตัดสินใจโน้มตัวลงหยิบกล่องในถังขยะขึ้นมา

“ทิ้งมันไปเถอะ” อวิ่นเยว่พูดขึ้นจากทางด้านหลังทำให้เธอสะดุ้งและรีบหันกลับไปมอง

เธอไม่เข้าใจ...ไม่เข้าใจสักนิด

แววตาที่เย็นชายากจะคาดเดากับน้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนเจ็บปวดนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่ดี

“ของคุณค่ะ”

อวิ่นเยว่มองแล้วหันไปทางอื่น “ผมไม่ต้องการเก็บไว้แล้ว”

“แต่คุณเสียเงินซื้อไปแล้วนะคะ” ลฎาภาพูดขึ้นในขณะที่เขาหันหลังเดินจากไป เธอเอื้อมมือรั้งแขนชายหนุ่มไว้และยัดกล่องใส่มือเขาทันที

“ขอโทษค่ะ ฉันแค่...”

เมื่อรู้ตัวก็รีบดึงมือกลับทว่ากลับกลายเป็นฝ่ายถูกรั้งเอาไว้เสียเอง

“เอ่อ...” ร่างกายที่ถูกสัมผัสเหมือนกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านไปทั่ว ลฎาภาพยายามดึงมือกลับมาแต่ไม่เป็นผล “คุณเผิงคะ...คือว่า”

อวิ่นเยว่มองหญิงสาว แม้จะรู้สึกตกใจที่ร่างกายเผลอตอบสนองไปเอง แต่ก็รู้ดีว่า...ไม่อยากปล่อยไปในตอนนี้

“คุณเผิงคะ ปล่อยมือฉันก่อนเถอะค่ะ !”

อวิ่นเยว่ทำเป็นไม่ได้ยินทั้งยังดึงหญิงสาวเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด

“คุณเผิง !”

“รังเกียจเหรอ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ

“คะ ?” หญิงสาวตกใจก่อนจะอ้ำอึ้งตอบในปากว่า “ปะ...เปล่าค่ะ” ไม่ได้รังเกียจสักนิดแต่แค่ไม่ชินและไม่เข้าใจก็เท่านั้น...ลฎาภาไม่กล้าพูดต่อในสิ่งที่คิดออกไป ได้แต่ก้มหน้าหนีสายตาที่กำลังจ้องมอง

อวิ่นเยว่จ้องมองขณะที่โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้จนลมหายใจรดอยู่ที่แก้มของหญิงสาว เขามองเธอและอยากจะ...เพียะ !ลฎาภาฝาดฝ่ามือลงบนใบหน้าของชายหนุ่มอย่างลืมตัว เมื่อได้สติจึงรู้ว่าได้ลงมือกับเจ้านายคนหล่อไปเสียแล้วซวยแล้วยัยจอม ตายแน่ ๆ !

“ขอโทษค่ะ ! คือว่าฉัน...”

อวิ่นเยว่มองใบหน้าที่แดงก่ำของหญิงสาวแล้วหัวเราะในลำคอ...หึหึ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบ ๆ ทิ้งให้ลฎาภายืนกะพริบมองด้วยความเขินอายเพียงลำพัง

อวิ่นเยว่ถอนหายใจหลังจากที่เดินออกจากห้อง ก่อนพูดกับตัวเองว่า“สงสัยจะรีบร้อนไปจริง ๆ”

รูปภาพ:

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้