1. SistaCafe
  2. ตาบวมฉึ่งเหมือนเพิ่งร้องไห้! แชร์ 7 เคล็ดลับกำจัด “ ถุงใต้ตา ” ง่ายๆ ช่วยให้ดวงตาดูสดใส ไม่บวม ไม่หมองคล้ำ

กรี๊ดดด!!! ตื่นเช้ามาแล้วพบกับถุงใต้ตาบวมฉึ่ง เหมือนคนนอนร้องไห้มาทั้งคืนเลยค่ะซิส

(´⊙ω⊙`)ᵒᵐᵍᵎᵎᵎ

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F86325%2Fbc468827-1f40-4a51-a60f-15f3742cdc0a.jpeg?v=20240305110819&ratio=0.999

สาวซิสคิดเหมือนกันมั้ยว่าปัญหาผิวเนี่ยมันมีสารพัดอย่างเลยนะ ไม่ว่าจะผิวแห้ง ผิวมัน ผิวหมองคล้ำ ผิวเหี่ยวย่น ผิวเป็นสิว ฯลฯ แล้วพอปัญหาผิวโผล่ขึ้นมาบนใบหน้าทีไรก็ทำให้รู้สึกเซ็งได้ตลอดๆแล้วขอถามหน่อยสิว่ามีสาวคนไหนเคยเดินไปส่องกระจกหลังตื่นนอน แล้วพบกับถุงใต้ตาบวมๆ เป่งๆ ที่เห็นได้ชัดบ้างรึเปล่า… พอผิวบริเวณใต้ตาบวมจนเห็นเป็นลักษณะเหมือนถุงนูนออกมา ก็จะทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าเหมือนคนนอนไม่พอ แถมยังดูเหมือนคนมีอายุหรือเรียกง่ายๆ ว่าหน้าแก่ก่อนวัยด้วยนะ


โดยสาเหตุที่ทำให้ถุงใต้ตาโผล่ขึ้นมาก็เกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งจากโรคภูมิแพ้ นอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือแม้แต่เกิดการระคายเคืองจนผิวบริเวณใต้ตาบวมขึ้นวันนี้เราเลยไม่พลาดที่จะรวบรวมมาแชร์ให้ได้ลองทำตามกัน ใครที่กำลังนอยด์หนักกับปัญหานี้อยู่ ก็รีบไปจัดการกับถุงใต้ตาให้หายวับไปพร้อมกันได้เลยจ้าาา


✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤


❶ โปะถุงชาแก้บวม / ขจัดความหมองคล้ำ

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F86325%2Fbea58553-44ff-46a2-9877-036499488b9f.jpeg?v=20240305110819&ratio=1.000

เคล็ดลับข้อแรกที่หยิบมาบอกต่อกันก็คือการใช้“ ถุงชา ”กำจัดถุงใต้ตานั่นเองค่ะ อ๊ะๆ เราไม่ได้จะชวนสาวซิสมาดื่มชาร้อนๆ เพื่อแก้ไขปัญหาใต้ตาบวมหรอกนะแต่ให้ใช้วิธีการนำถุงใต้ตามาโปะผิวบริเวณใต้ตาเพื่อลดอาการบวมและขจัดใต้ตาหมองคล้ำแก้ไขปัญหาผิวรอบดวงตาแบบ x 2 ต่างหาก


โดยคาเฟอีนในใบชาอุดมสารต้านอนุมูลอิสระปริมาณมหาศาล ที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้ดีขึ้น พร้อมช่วยป้องกันแสงแดดและรังสียูวีไม่ให้ทำร้ายผิว จนเกิดความหมองคล้ำหรือทำให้ผิวแก่ก่อนวัยด้วยนะสาวๆ คนไหนที่อยากใช้ถุงชาบำรุงผิวและลดอาการบวมใต้ตา ก็แนะนำให้แช่ถุงชาในน้ำร้อน 3 - 5 นาที แล้วนำถุงชาไปแช่ในตู้เย็นต่ออีก 20 นาที จากนั้นก็บีบน้ำออกแล้วโปะถุงชาบริเวณใต้ตาทิ้งไว้ 15 - 30 นาที เพียงเท่านี้ก็ช่วยเติมความสดชื่นและลดใต้ตาให้ดูบวมน้อยลงได้แล้ว


❷ ประคบเย็นลดอาการบวมด้วยของในบ้าน

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F86325%2Fbd6fb629-c0a0-4864-922b-d77baf62ecee.jpeg?v=20240305110819&ratio=1.000

ใครที่อยากแก้ปัญหาถุงใต้ตาง่ายๆ แบบไม่ต้องเสียเงินซื้อครีมกระปุกละเป็นพันมาใช้ ก็สามารถนำของใช้ในบ้านและวัตถุดิบที่หาได้จากในห้องครัว มาใช้ลดอาการบวมบริเวณใต้ตาได้นะอย่างเคล็ดลับกำจัดถุงใต้ตาข้อนี้ใช้วิธีการ“ ประคบเย็น ”บริเวณผิวใต้ตาที่มีอาการบวมหรือหมองคล้ำอย่างเห็นได้ชัด เพราะความเย็นจะช่วยให้หลอดเลือดหดตัวอย่างรวดเร็ว และคลายอาการบวมได้ดีสุดๆ เลย


โดยสามารถเลือกใช้สิ่งของในบ้านมาเป็นตัวช่วยประคบเย็นได้หลายอย่าง เช่น ช้อนกินข้าว, แตงกวาหั่นแว่น, ผ้าขนหนูเปียกน้ำ ฯลฯแค่นำสิ่งเหล่านี้ไปแช่ตู้เย็นในช่องฟรีซ แล้วนำมาประคบที่เบ้าตานานประมาณ 15 นาทีก็จะช่วยเพิ่มความผ่อนคลายให้รู้สึกสดชื่น และผิวใต้ตาดูสดใสขึ้นด้วย


❸ ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ ช่วยลดใต้ตาบวมได้

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F86325%2F04be522e-f60e-4a94-8046-61622b2ecfb8.jpeg?v=20240305110820&ratio=0.998

ไม่ว่าจะเกิดปัญหาผิวหรือปัญหาสุขภาพก็ตาม หนึ่งในวิธีแก้ไขที่ง่ายและประหยัดมากที่สุดที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองก็คือการดื่ม“ น้ำเปล่า ”นี่แหละค่ะ โดยน้ำเปล่าถือเป็นสิ่งสำคัญที่ร่างกายจะขาดไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะน้ำหนักตัวของคนเราประกอบไปด้วยน้ำถึง 60%งานนี้หากดื่มน้ำเปล่าน้อยเกินไปก็อาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ ที่นอกจากจะรู้สึกกระหายจนคอแห้งมากๆ แล้ว ภาวะขาดน้ำยังอาจกระตุ้นให้ถุงใต้ตาบวมเป่งง่ายขึ้นกว่าเดิมด้วยนะ สาวๆ จึงควรดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ ในแต่ละวันนั่นเอง


โดยปริมาณการดื่มน้ำที่เหมาะสมสำหรับผู้ชายควรดื่มน้ำเปล่าประมาณ 13 แก้ว / วันส่วนสำหรับผู้หญิงควรดื่มน้ำเปล่าประมาณ 9 แก้ว / วันก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดภาวะขาดน้ำและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวพรรณรู้แบบนี้แล้วก็ควรวางขวดน้ำดื่มไว้ใกล้ๆ ตัว จะได้ไม่ลืมหยิบมาจิบตลอดทั้งวันไงล่ะ


❹ ขยันทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F86325%2Fa644285a-ccb0-41a8-8497-53d93a12c697.jpeg?v=20240305110820&ratio=1.002

ช่วงไหนที่ต้องออกไปเดินท่ามกลางแดดแรงจ้า นอกจากแสงแดดมันจะแผดเผาจนทำให้รู้สึกแสบๆ ร้อนๆ ผิวแล้ว ยังมี“ รังสียูวี ”ที่เรียกได้ว่าเป็นศัตรูอันดับต้นๆ ที่มุ่งเข้ามาทำร้ายผิวแฝงมาพร้อมกับแสงแดดอีกด้วยนะโดยรังสียูวีจะเข้าไปทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวอ่อนแอและผิวแก่ก่อนวัย จนเกิดเป็นริ้วรอยและถุงใต้ตาที่บวมเป่งจนเห็นได้ชัดเจนด้วย


ดังนั้น ถ้าอยากกำจัดถุงใต้ตาและฟื้นคืนชีพให้ผิวกลับมาแข็งแรงอีกครั้งเต็ปการดูแลผิวที่ต้องทำเป็นประจำก็คือการทา“ ครีมกันแดด ”ทุกวันไม่ว่าจะเป็นวันที่ออกไปทำกิจกรรมข้างนอก หรือวันที่เก็บตัวอยู่แต่ในบ้านก็ตามแล้วก็ควรเลือกครีมกันแดดที่สามารถป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB รวมทั้งมีค่าป้องกันแสงแดดตั้งแต่ SPF 30 ขึ้นไป จะได้มั่นใจว่าครีมกันแดดที่ใช้มีประสิทธิภาพปกป้องผิวมากพอ


❺ เช็ดเครื่องสำอางออกก่อนเข้านอนทุกคืน

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F86325%2Ff4c2bb19-47a1-420c-9565-198a8014266e.jpeg?v=20240305110820&ratio=1.000

เห้อออ ไม่เข้าใจจริงๆ เลยนะว่าสำหรับสาวๆ บางคนต่อให้ต้องเสียเวลาแต่งหน้าเป็นชั่วโมงๆ ก็ไม่รู้สึกเหนื่อยหรือบ่นออกมาสักคำแต่หลังจากที่ออกไปลั้ลลานอกบ้านจนหนำใจ พอกลับมาถึงบ้านกลับทิ้งตัวลงนอนอย่างหมดสภาพทันที โดยที่ไม่แม้แต่จะอาบน้ำหรืออย่างน้อยๆ ก็ล้างหน้าให้เสร็จก่อน


ขอเตือนไว้เลยนะว่าพฤติกรรมการนอนหลับไปโดยที่มีเครื่องสำอางอยู่บนใบหน้า มันจะทำให้เกิดสารพัดปัญหาผิวตามมา โดยเฉพาะสิวเห่อขึ้นเต็มหน้าและถุงใต้ตาบวมฉึ่งด้วย เพราะการที่มีคราบเมคอัพติดอยู่บนหน้าตลอดทั้งคืน อาจทำให้ผิวเกิดการอุดตัน อักเสบ และระคายเคืองขึ้นได้ง่ายๆ จนผิวหนังส่วนที่บอบบางมากที่สุดอย่างบริเวณใต้ตาเกิดการระคายเคือง และมีอาการบวมขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเพราะฉะนั้นก่อนเข้านอนทุกคืนก็ควรใช้เมคอัพรีมูฟเวอร์เช็ดคราบเมคอัพออกก่อน แล้วตามด้วยการทำความสะอาดผิวด้วยโฟมล้างหน้าคราวนี้จะได้นอนหลับอย่างสบายใจและสบายผิวสุดๆ ไปเลย


❻ นอนหลับให้เต็มอิ่ม อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F86325%2F74b63d13-547b-401f-b434-9e020676377f.jpeg?v=20240305110820&ratio=1.000

เคยสังเกตบ้างรึเปล่าว่าช่วงไหนที่ต้องถ่างตานอนดึกติดต่อกันหลายๆ คืน หรือโหมทำงานหนัก / อ่านหนังสือจนพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็จะทำให้ผิวดูหมองคล้ำ ไม่สดใส และผิวใต้ตาบวมหนักจนเห็นได้ชัดด้วยนะเพราะหลังจากที่ใช้งานสายตาหนักมาตลอดทั้งวัน แล้วไม่ได้นอนหลับเพื่อพักสายตาอย่างเต็มที่ ก็จะยิ่งทำให้ถุงใต้ตาบวมขึ้น และหลอดเลือดดำบริเวณผิวใต้ตาขยายตัวขึ้นจนใต้ตาดูหมองคล้ำชัดมากๆ


หากสาวซิสอยากเรียนคืนความสดใสให้ผิวบริเวณรอบดวงตา ก็ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองซะใหม่ จากที่เคยนอนดึกหรือนอนเช้าแทบจะทุกวันก็ให้รีบเข้านอนแต่หัวค่ำและนอนหลับให้เต็มอิ่มครบ 8 ชั่วโมงซึ่งเราอยากแนะนำให้เปลี่ยนท่าทางการนอนมาใช้หมอนหนุนศีรษะที่สูงขึ้นอีกสักนิดวิธีนี้ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้ของเหลวในร่างกายไหลมาคั่งอยู่บริเวณผิวใต้ตาในช่วงเวลาที่นอนหลับได้แล้ว


❼ เลิกกินเค็ม เน้นกินอาหารอุดมด้วยวิตามินซี

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F86325%2F13fdf27b-c6a7-4e84-83eb-c9c2c391a9e8.jpeg?v=20240305110820&ratio=0.993

เรื่องอาหารการกินถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องใส่ใจให้มากๆ ถ้าอยากมีสุขภาพร่างกายที่ดีและบำรุงให้ผิวพรรณสวยใสไร้ปัญหาผิว แบบนี้ใครที่มีปัญหาถุงใต้ตาที่เด่นจนเห็นชัดก็ควรเลิกกินเค็มจะดีกว่านะเพราะหากติดกินเค็มหรือชอบกินอาหารที่มีเกลือปริมาณมากเกินไป เจ้า“ โซเดียม ”ในเกลือจะทำให้ร่างกายกักเก็บของเหลวไว้ จนอาจเกิดอาการบวมน้ำได้ง่ายๆ โดยเฉพาะบริเวณผิวใต้ตา


นอกจากคนที่มีปัญหาถุงใต้ตาควรเลิกกินเค็มแล้วเราขอแนะนำให้หันมาเน้นกินอาหารที่อุดมด้วย“ วิตามินซี ”ให้มากขึ้นด้วยเช่น ส้ม, สตรอว์เบอร์รี, บรอกโคลี, ผักเคล, พริกหวาน ฯลฯเพราะวิตามินซีมีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ส่งผลให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส กระชับ และดูผิวสุขภาพดีขึ้น


✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤ ✤หลายคนอาจรู้สึกท้อใจเวลาเกิดปัญหาผิวขึ้น และคิดว่ามันช่างเป็นเรื่องที่แก้ยากแก้เย็นซะเหลือเกิน… แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีทางแก้ไขหรอกนะคะอย่างคนที่มีปัญหาถุงใต้ตาบวมเป่งจนทำให้ดวงตาดูอ่อนล้า และดูแก่เกินอายุจริงไปมากในเมื่อรู้ว่าสาเหตุที่ทำให้ผิวบริเวณใต้ตามันบวมขึ้นเกิดจากอะไร ก็ควรหลีกเลี่ยงตัวการเหล่านั้น และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของตัวเองซะใหม่ไม่ว่าจะเป็นการดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ, ลดกินเค็มและเน้นกินอาหารที่มีวิตามินซีสูง, ล้างหน้าก่อนเข้านอนทุกคืน, นอนหลับพักผ่อนให้เต็มอิ่ม, ขยันทาครีมกันแดดเป็นประจำ รวมทั้งลองใช้เทคนิคที่ช่วยลดอาการบวมบริเวณผิวใต้ตา เช่น การประคบเย็น, โปะเบ้าตาด้วยถุงชา, นอนหมอนสูงขึ้น ฯลฯ เพียงเท่านี้ก็ช่วยกำจัดปัญหาถุงใต้ตาไม่ให้กลับมากวนใจได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองแล้ว ٩(>ᴗ<)۶


เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้