สาวก Netflix บางคนอาจจะเบื่อแนวไฮสคูล แต่ก็ไม่รู้จะดูอะไรดี เพราะซีรีส์-ภาพยนตร์บางเรื่องก็ยาวไป ไม่สนุก ดูแล้วเข้าใจยาก พี่อาร์ตขอเสนอเรื่อง' Glow 'ค่ะ สาว ๆ คนไหนที่ชอบอะไรที่ท้าทายเล็ก ๆ แต่ดูแล้วเข้าใจง่าย รับรองว่าเรื่องนี้สนุกแน่นอน!
#1 เรื่องย่อ
เป็นการย้อนไปสมัยยุค 80's ( ประมาณ 30 กว่าปีที่แล้วสมัยคุณแม่เรายังสาว ) มีการผุดโปรเจค Glow ซึ่งเป็นโปรเจคนักมวยปล้ำหญิงแนวบันเทิง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ใหม่มาก ๆ ในยุคนั้น การฟอร์มทีมจึงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่ก็เข้าใจว่ากีฬามวยปล้ำเป็นกีฬาที่รุนแรง เจ็บจริง แม้จะรู้มาบ้างว่ามันก็มีการแสดงปนอยู่ ( อย่างที่เคยดูจากมวยปล้ำชาย ซึ่งยุคนั้นซุปเปอร์สตาร์ดังก็คือ Hulk Hogan ) แต่ในที่สุดก็ได้นักแสดงผู้หญิงที่เป็นคนหลายเชื้อชาติ หลายที่มา มารวมตัวกันได้
นอกจากการฝึกซ้อมที่เหมือนการเข้าค่ายเก็บตัวนักกีฬา ยังมีอุปสรรคอีกมากให้พวกเธอและผู้กำกับ ( ซึ่งเป็นตาลุงแก่ ๆ วัยประมาณ 50 ปี ) และทีมงานต้องร่วมแรงร่วมใจกันฝ่าฟัน ทั้งในเรื่องของการช่วยกันครีเอทสคริปต์ การวิ่งหาสปอนเซอร์ใจกล้ามาลงทุนกับโปรเจคที่ไม่รู้ว่าจะล่มหรือรุ่ง ไปจนถึงความสัมพันธ์ของพวกเธอที่มีต่อแฟนหนุ่ม หรือผู้ชายที่ทำงานร่วมกัน
และที่น่าสนใจก็คือ ความสัมพันธ์ระหว่างนางเอกและเพื่อนสนิท ก็ต้องลุ้นกันเป็นตอน ๆ ไปว่าจะคืนดีกันได้หรือไม่ ร่วมงานกันได้สนิทใจรึเปล่า เพราะนางเอกดันไปกิ๊กกับสามีของเพื่อนสนิทจนความสัมพันธ์ต้องแตกร้าว แต่ผู้กำกับโปรเจคกลับไม่ยอมให้ทั้งเธอและเพื่อนสนิทลาออกจากโปรเจคนี้ง่าย ๆ!
#2 ตัวละครหลักเรื่องนี้เป็นผู้หญิงหลากหลายเชื้อชาติ
อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นถึงเรื่องย่อค่ะว่า เป็นการฟอร์มทีมที่คัดนักมวยปล้ำจากผู้หญิงหลากหลายบุคลิก และเชื้อชาติ เรื่องนี้จึงสนุกตรงที่เหมือนได้ดูเพื่อนสาวที่มาจากหลากหลายประเทศ หลายสไตล์มารวมกัน ซึ่งดูรวม ๆ แล้วเป็นแก๊งที่น่าสนใจ ไม่น่าเบื่อเท่าแก๊งที่มีอะไรเหมือนกันไปหมด
#3 ใครที่ชอบแฟชั่นย้อนยุค เรื่องนี้ถูกใจแน่นอน
ใครที่ชอบแฟชันเสื้อผ้า เพลง รถยนต์ หรืออะไรก็ตามที่เป็นศิลปะในยุค 80's เรื่องนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน และเป็นเรื่องที่สามารถนำไปเป็นไอเดียเก๋ ๆ สำหรับการแต่งตัวแนวย้อนยุคที่แต่งแล้วไม่ดูเฉิ่มเชย แต่สวยงาม สะดุดตา!
#4 เป็นซีรีส์แนวเพื่อนหญิง พลังหญิง
ใครที่ชอบดูซีรีย์แนว feminism ( สตรีนิยม ) หรือแนวที่ปลุกพลังหญิงในตัวเองให้แกร่งขึ้น เรื่องนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเช่นกันค่ะ เพราะการรวมพลังกันของทีมนักมวยปล้ำหญิงในแต่ละ EP จะทำให้คุณรู้สึกอุ่นใจ ภูมิใจที่ตัวเองเกิดมาเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถดี ๆ ไม่แพ้ผู้ชาย
#5 แม้จะเป็นแนวดราม่า แต่ก็ไม่เครียดเกินไป มีความขบขันอยู่
เส้นทางการพิสูจน์ตัวเองของตัวละครแต่ละตัวในเรื่องอาจจะดูตึงเครียด ชวนดราม่า แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นแบบนั้นตลอดเรื่องเสมอไป ตราบใดที่มีผู้หญิงรวมตัวกัน เรื่องสนุก ๆ ตามประสาผู้หญิงมีให้ดูแน่นอน มีแก๊กตลกง่าย ๆ แทรกมาบ้าง ทำให้ดูได้เพลิน ๆ จนแทบไม่อยากกดรีโมทข้ามเลยแหละ !
#6 ดูแล้วอาจทำให้รู้สึกว่าคิดถึงเพื่อนสนิทที่เคยเข้าใจผิดกัน ห่างกันไป
ความสัมพันธ์ระหว่างนางเอกและเพื่อนสนิทที่แตกหักกัน แต่ต้องร่วมงานกัน และหาทางคุยกันให้ได้ อาจไปโดนใจสาว ๆ บ้างว่า" ชีวิตเราเองก็อาจจะมีช่วงที่ทะเลาะกับเพื่อน เพียงเพราะเข้าใจอะไรบางอย่างผิดไป "แล้วทำให้ฉุกคิดได้ว่า" อยากมีโอกาสอีกสักครั้งที่ได้เปิดอกคุยกันบ้างจัง "ไม่แน่นะคะ ดูเรื่องนี้จบแล้ว อาจได้เพื่อนที่ทำหายไปกลับคืนมาก็ได้นะ
#7 ดูจบได้ภายใน 3-5 วัน
มีเพียงแค่ 2 ซีซัน ( ในขณะนี้ ปี 2018 ) ซีซันละ 10 ตอน ตอนละ 30 นาทีกว่า ๆ ใครที่ว่างจัด ใช้เวลาเพียง 3 วันก็ดูจบแล้วค่ะ ส่วนใครที่ดูไปทำงานไป ใช้เวลาเพียง 5 วันก็รู้เรื่องแล้ว เรื่องไม่ซับซ้อนเกินกว่าจะเข้าใจ และการเดินเรื่องก็เป็นไปอย่างเรียบง่าย กระชับ เด็ก ๆ ก็ดูได้ ผู้ใหญ่ก็ดูเพลิน จะดูคนเดียวหรือดูกับแฟน หรือจะดูกับเพื่อนก็ได้ทั้งนั้น ไม่มีปัญหาเรื่องเพศ ภาษา และระยะเวลาแต่อย่างใดเลย
#8 ดูแล้วเข้าใจกีฬามากขึ้น รู้สึกคันมืออยากทำอะไรที่ท้าทายความสามารถ
กีฬาไม่เพียงแต่เป็นการออกกำลังกายให้รูปร่างดี สุขภาพดี แต่ยังเป็นการพิสูจน์ตัวเองอย่างหนึ่งว่า" ผู้หญิงก็สามารถทำอะไรที่ดูโหดได้เหมือนกันนะเนี่ย "และบางทีแล้ว กีฬาก็ไม่ใช่แค่การแข่งขันเสมอไป สามารถนำมาปรับให้เป็นโชว์อย่างหนึ่งที่มีสคริปต์เข้าไปด้วย ใครดูจบแล้วอาจได้ไอเดียนำไปใช้การพรีเซนต์งานหน้าห้องสนุก ๆ หรือนำไปครีเอทการออกกำลังกายโดยส่วนตัวก็ได้นะคะ
#9 ดูจบแล้วรู้สึกว่ามีแรงบันดาลใจที่จะก้าวต่อไป
ในสถานการณ์ที่ผู้หญิงต้องต่อสู้อะไรสักอย่าง ผู้หญิงมักรู้สึกว่าตัวเองเล็กลงกว่าเดิม อ่อนแอกว่าเดิม ซีรีส์เรื่องนี้จะพาไปดูการต่อสู้ของตัวละครหญิงเลยว่า " สิ่งที่คิดว่าไม่น่าจะรอดสำหรับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนเดียว บางทีก็รอดได้เหลือเชื่อ และบางครั้งก็จำเป็นต้องขอเพื่อนสาวมาช่วยคิด " ถ้าใครที่กำลังหมดแรง รู้สึกว่าชีวิตเหมือนหมดไฟ ขาดแรงบันดาลใจบางอย่าง กำลังเผชิญปัญหาอะไรที่แก้ไม่ตก ซีรีส์เรื่องนี้อาจทำให้รู้สึกมีกำลังใจ มีแรงบันดาลใจ และค้นพบทางออกได้เองอย่างเหลือเชื่อค่ะ" ชีวิตจริงอาจไม่เหมือนในละครหรือซีรีส์ แต่เราก็สามารถนำสิ่งดี ๆ ที่เพิ่งดูมาปรับใช้ได้นะ "
อ่านจบแล้วอย่ารอช้า ใครที่ยังไม่ได้ดู เข้าแอปฯหรือเว็บ Netflix แล้วพิมพ์ Glow ขึ้นมาเลย ส่วนใครที่ดูแล้วก็ลุ้นต่อไปค่ะว่าจะมีซีซันต่อไปเมื่อไหร่ ดูคนเดียวไม่สนุก ก็ชวนเพื่อนหรือแฟนมาดูก็ได้นะคะ ซีรีส์เรื่องนี้สนุกมาก เหมาะกับทุกเพศทุกวัย พี่อาร์ตคอนเฟิร์มเลย แล้วพบกันใหม่กับรีวิวครั้งหน้าค่ะ!
