ปรับด่วนก่อนสาย ❗ กับ 7 วิธีแก้นิสัย 'ผัดวันประกันพรุ่ง' ให้กลับมามุ่งมั่นตั้งใจได้ในทันที

สวัสดีค่าทุกค้นนนนนนนนนนน > 0 <เปิดตัวด้วยเอนเนอร์จี้แรงขั้นสุด เพราะว่าวันนี้เราอยากจะมาปลุกความแอคทีฟความสดชื่นในตัวของทุกคนนั่นเอง~ ก็แหมเปิดเทอมแล้ว จะทำตัวขี้เกียจ นอนกลิ้งวนไปมันก็ไม่ได้ใช่ม้า? ทั้งงานกลุ่ม งานเดี่ยว การบ้านต่าง ๆ นานาถาโถมมาสุดซึ่งครูหรืออาจารย์หลายคนก็ใจดี๊ดีสั่งให้ส่งได้อาทิตย์หน้าบ้างล่ะ เดือนหน้าบ้างล่ะทีนี้แหละค่ะ นิสัยปกติของทุกคนก็คือ..." โอเค! เดี๋ยวค่อยทำละกัน "สุดท้ายก็มาปั่นงานจนตาแตกในวันใกล้ส่งงานทู้กที และเพื่อไม่ให้เราต้องมาปั่นงานจนตาแตกก็ต้องมาส่อง7 วิธีแก้นิสัยผัดวันประกันพรุ่งกันเลยค่า รับรองว่าช่วยให้ทุกคนแก้นิสัยนี้ได้แน่นอนถ้าอยากรู้แล้วว่ามีวิธีไหนบ้างก็เลื่อนลงมาอ่านเล้ยยยย ♥

✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩

✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩✩ ✩ ✩7HOW TOแก้นิสัยผัดวันประกันพรุ่งให้หายขาด!✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩✩ ✩ ✩

✩ ลงมือทำเลยทันทีที่นึกออก ✩

อันดับแรกเลยนั่นก็คือนึกออกหรือรู้ตัวว่าต้องทำงานนี้ปุ๊บ ก็ลงมือทำทันทีไม่ต้องแอบขออนุญาตตัวเองว่า" ขออีก 10 นาที / ขออีก 1 ชั่วโมงเดี๋ยวจะลุกมาทำ "คือถ้ายิ่งเราเลือกจะเลื่อนเวลามันออกไปเรื่อย ๆ เราก็จะคิดว่ามันค่อยทำก่อนก็ได้  ยังไม่ใกล้วันส่งงานนี่นา ทำแป๊บเดียวก็เสร็จ จนทำให้งานของเราไม่เสร็จสักทีนั่นเอง เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงเน้อ ถ้าเรารู้สึกตัวว่าต้องทำงานแล้วก็อยากให้ทุกคนลงมือทำเลยเราจะทำงานได้เร็วขึ้นมาก ๆแต่ถ้าถึงจุดที่ต้องทำแล้วเพราะถ้าไม่ทำงาน เราจะไม่มีอะไรไปส่งครูหรืออาจารย์ อะไรแบบนี้ก็คือสมองจะตันมาก ๆ เลยนะคะเพราะจิตใจเรามันไม่อยากจะทำแล้ว ดังนั้นถ้าคิดได้ก็ให้ทำเลย ดีดตัวขึ้นมาภายใน 15 นาทีที่คิดได้เลยเน้อช่วยได้มากเลยล่ะค่ะวิธีนี้เนี่ย :-D

✩ เริ่มจากงานที่ยากที่สุด ✩

งานที่ยากที่สุด คืองานที่มีความละเอียดหรือซับซ้อนมาก ๆ รวมไปถึงงานที่เราไม่ค่อยถนัดด้วย ซึ่งงานพวกนี้จะต้องใช้เวลาในการทำค่อนข้างมากกว่าปกติ และมันมักจะกินเวลาในการทำงานนานกว่างานทั่ว ๆ ไปเช่น ปกติทำการบ้านวิชาภาษาไทยแค่ครึ่งชั่วโมงก็เสร็จแล้ว แต่วิชาคณิตศาสตร์ต้องใช้เวลา 2 ชั่วโมง อะไรแบบนี้ ทางที่ดีควรเลือกทำคณิตศาสตร์ที่ต้องใช้เวลาเยอะก่อนนะคะ ถ้าเราทำอันที่เสร็จไวก่อน เราอาจจะใช้เวลากับวิชาคณิตมากกว่าเดิมไปอีกด้วยเน้อ แถมอาจจะทำให้เราขึ้เกียจได้ง่ายขึ้นด้วย เพราะเหลือแค่งานยาก ๆ แค่อย่างเดียวแล้ว และนี่เลยเป็นสาเหตุที่เราอยากจะแนะนำให้ทุกคนเริ่มทำงานที่ยาก ๆ ก่อนนั่นเองค่า ยังไงก็ลองไปปรับใช้กันดูเน้อ

✩ พยายามจัดตารางในแต่ละวัน ✩

ก่อนจะนอนก็ลองจัดลำดับในหัวหรือจดโน้ตในมือถือก็ได้ค่ะว่าวันพรุ่งนี้เราจะทำอะไรบ้าง คือพอเราไม่ได้กำหนดเป้าหมายหรือคิดไว้ก่อนว่าจะทำอะไร มันทำให้เราเลือกจะผัดวันประกันพรุ่งได้ง่ายขึ้นนั่นเอง ก็ลองเริ่มไล่ตั้งแต่เช้าไปเลยค่ะ เช่น ตื่นมากินข้าว อาบน้ำ เล่นมือถือ 1 ชั่วโมง ทำงานจนถึงเวลานี้ ๆ พัก10 นาที อะไรก็ว่าไปนะคะ แล้วก็พยายามทำให้อยู่ในเวลาที่เรากำหนดด้วยน้า แต่วิธีนี้จะเห็นผลดีที่สุดก็คือเขียนแปะไว้ให้เราเห็นเลยค่ะ ใครจะไปหาซื้อกระดานไว้เขียนก็ได้นะคะ หรือใครจะเขียนเป็นกระดาษโน้ตแปะไว้ในที่ ๆ เราสามารถมองเห็นได้ก็จะช่วยให้เราตื่นตัวได้ดีขึ้นด้วย ยังไงลองไปทำกันดูน้า วิธีนี้ช่วยให้เราตื่นตัวชัวร์ ๆ ♥

✩ หาที่ทำงานเงียบ ๆ ✩

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้งานเราไม่เดินสักทีก็เพราะว่าเราไม่มีที่ทำงานดี ๆ รึเปล่าน้าช่วงนี้มันเป็นยุคที่มีโรคระบาด การทำงานที่บ้าน ที่คอนโดก็เลยจะตอบโจทย์และปลอดภัยกว่าการไปนั่งทำงานที่ร้านกาแฟหรือ Working Space แต่ว่าบ้านของบางคนก็ไม่ได้เงียบสงบพอที่จะทำงานได้ เช่น ช่วงเช้าที่บ้านขายของ เสียงก็เลยจะดังมาก ๆ ทำให้ไม่มีสมาธิที่จะทำงานหรืออ่านหนังสือได้เลย เราก็เลยเลือกที่จะค่อยอ่าน ค่อยทำหลังจากที่ ๆ บ้านเงียบสงบดีแล้ว และนี่แหละค่ะ พอตั้งใจจะทำอะไรแล้วสุดท้ายก็ต้องเลื่อนมันออกไป ทำให้เราติดนิสัยในการผัดวันประกันพรุ่งและมีความขี้เกียจเพิ่มขึ้นไปอีก วิธีการที่จะแก้ปัญหานี้ได้ก็คืออาจจะต้องออกไปหาสถานที่ ๆ ทำงานเงียบ ๆ ถ้ามันเป็นพื้นที่สาธารณะก็แนะนำว่าต้องป้องกันตัวอย่างดีนะคะ ใส่แมสก์ พกเจลแอลกอฮอล์ไปทำความสะอาดด้วยเน้อ

✩ หาแอปตั้งล็อกมือถือในช่วงทำงาน ✩

การติดโซเชียลมีเดียหรือติดจับมือถือบ่อย ๆทำให้เราเสียสมาธิและติดนิสัยผัดวันประกันพรุ่งได้เหมือนกันนะเธอ เพราะเวลาจับมือถือไถไปแป๊บ ๆ อ้าว! ผ่านไป 2 ชั่วโมงแล้วเหรอ ยิ่งถ้าใครชอบเล่นเกมนะคะ อื้อหือ~ หายไปยาว ๆ ครึ่งวันเลยจ้า แบตไม่หมดไม่เลิกไปอีก ทางที่จะช่วยให้เราไม่วอกแวกไปเล่นมือถือก็คือโหลดแอปพลิเคชันที่ล็อกมือถือไว้เลยค่า แอปพวกนี้จะช่วยให้เราไม่สามารถใช้มือถือหรือแอปที่เราเลือกไว้ได้ชั่วคราว ถ้าครบกำหนดตามเวลาแล้วถึงจะกลับมาใช้งานได้ปกตินี่ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยได้เหมือนกันเน้อ แต่ ๆ ไม่ใช่ว่ากดเปิดใช้แอปในมือถือ แต่ตัวเองดันไปไถจอเล่น iPad แทนนะเธอ ถ้าทำงี้งานไม่เสร็จนะจ๊ะ T - T

✩ มีบทลงโทษเล็กน้อยให้เราจำและไม่ทำอีก ✩

บทลงโทษที่ว่าไม่ต้องตั้งแบบรุนแรงที่จะกระทบกระเทือนจิตใจเราหนัก ๆนะคะ ไม่งั้นมันจะส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตใจได้ แต่ให้ลงโทษตัวเองแบบง่าย ๆเช่น ถ้าทำงานนี้ไม่เสร็จก็จะอดกินชานมไข่มุก 1 สัปดาห์นะ ถ้าอ่านหนังสือไม่จบก็ไม่ต้องเล่นเกมเลย ตั้งบทลงโทษอะไรก็ได้ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเนี่ย ถ้าไม่ทำนะเราจะต้องอดทำนั่นทำนี่ที่ใจต้องการ แล้วสุดท้ายการตั้งบทลงโทษจะบีบให้เราต้องมาทำงานนั่นเอง ถ้าใครกลัวว่ามันจะไม่ได้ผลก็อาจจะให้แม่/พ่อหรือผู้ปกครองเป็นคนตั้งบทลงโทษเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ได้นะคะ เช่น ถ้าเราทำงานนี้ไม่เสร็จ แม่จะไม่ทำเมนูโปรดของเราให้กิน มันก็จะเป็นอะไรที่แบบบีบให้เราต้องลุกขึ้นมาทำงานได้ในที่สุดนั่นเอง ยังไงลองไปทำดูนะคะ เชื่อว่าเรื่องพวกนี้ช่วยได้แน่นอนเล้ย

✩ ตั้งเป้าหมายหลังทำงานเสร็จ ✩

ทำงานเสร็จก็จะไปฉลอง!วิธีนี้เป็นการเพิ่มแรงจูงใจให้อยากทำงานคล้าย ๆ กับการมีบทลงโทษด้านบนเลยค่ะ เพียงแต่อันนี้มันจะใหญ่กว่าหน่อยนึง แล้วก็เป็นเชิงบวกกว่าด้วยนะเออ เช่น ถ้าทำงานนี้เสร็จเราจะได้ไปกินปิ้งย่าง คือพอเราขี้เกียจหรือเริ่มอยากจะผัดวันประกันพรุ่งแล้วนึกถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ มันก็จะทำให้เราฮึดสู้ทำต่อจนเสร็จในเวลาที่กำหนดเลยใช่ม้า? เรื่องเป้าหมายก็แล้วแต่ว่าเราจะตั้งยังไงก็ได้นะคะ บางคนอาจจะซื้อของให้ตัวเองหนึ่งชิ้น บางคนอาจจะให้ตัวเองกินปิ้งย่าง/ชาบู จะวิธีไหนก็ได้นะคะ แต่ต้องเป็นการตั้งที่มีแรงจูงใจมากพอที่จะทำให้เราฮึบสู้จนทำงานเสร็จด้วยเน้อ ถ้าตั้งไว้แบบไม่จูงใจพอ อันนี้ก็อาจจะทำไม่สำเร็จเน้อ ยังไงลองไปหาดูน้าว่าเราจะตั้งเป้าหมายอะไรดี :-D

✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩

เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย มีใครแอบจดวิธีไปลองทำกันไหมน้อ... ?จริง ๆ เรื่องผัดวันประกันพรุ่งเราเข้าใจดีเลยค่ะหลาย ๆ ครั้งมันก็มีขี้เกียจกันบ้างอะเนอะแต่พอทำไปบ่อย ๆ มันทำให้เสียนิสัยจนติดจริง ๆ นะเออ รีบแก้กันตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่าถ้าติดเป็นนิสัยมันจะแก้ยากมาก ๆเลยล่ะค่ะ ตอนมัธยมครูหลายคนอาจจะใจดีให้ส่งเลทได้แต่มหาลัยถ้าเกินกำหนดส่งอาจารย์ให้ 0 คะแนนเลยเน้อ ดังนั้นเนี่ยต้องลองจัดเวลาแบ่งเวลาให้ดีนะคะ โอเค~ ตอนนี้เราคงต้องลาทุก ๆ คนไปก่อนแล้วน้าไว้พบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ บ๊ายบาย > 3 <