ปัญหาโลกแตกขั้นสุดนะคะกับการชอบทานของหวาน เพราะถือคติว่า" กินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่ "มันก็เลยต้องกินทุกครั้งไป ฟีลล้างปากให้หายคาวแต่กินไปกินมาดันกินเยอะจนน้ำหนักเพิ่มนะสิ คือถ้าเพิ่มขึ้นนิดหน่อยมันก็ไม่เท่าไหร่แต่ถ้าเพิ่มขึ้นจนหมดความมั่นใจอันนี้สิน่ากังวลนะคะ วันนี้เราก็เลยมาบอกต่อทริคดี ๆถึง7 ทริคกันเลยในการทานของหวานยังไงให้ไม่อ้วนถ้าพร้อมแล้วก็มาดูกัน!

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/56/c9/b6/56c9b6f7c5554d4949853a80db2f921c.gif

♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡


7 ฮาวทู " กินของหวาน " ยังไงให้อร่อย แถม " ไม่อ้วน "

1. กินให้พอหายอยาก

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/19/4c/1f/194c1f0ec0a5347f59ed36d81603e087.jpg

กินให้พอหายอยากก็คือเอาแค่นิดเดียวก็พอเอาให้พอรู้รสชาติว่ามันเป็นยังไง มันอร่อยยังไงฟีลคล้าย ๆ ชิมแต่มากกว่าชิมนิดนึงนะคะ หลังจากนั้นก็คือเก็บเข้าตู้เย็นได้เลย เพราะถ้ายังตั้งไว้ให้เห็น มีหวังหยิบกินต่อแน่นอนค่ะ เราต้องหักห้ามใจให้ได้นะคะ ซึ่งคำว่าเอาแค่พอหายอยากของคนเราไม่เท่ากันด้วย บางคนอาจจะตีความไม่ถูก คือพูดง่าย ๆ ว่าให้ลดลงจากที่กินไหวให้เหลือสักครึ่งนึงหรืออาจจะน้อยกว่านั้นอะค่ะ เช่น ปกติทานเค้ก 2 ชิ้น คืออิ่ม แต่ถ้ากินแค่พอหายอยากก็คือกินไปสักนิดนึงแล้วรู้สึกว่าพอแล้ว แบบไม่กินต่อก็ได้ ก็ให้เก็บได้เลยนะคะ แต่ถ้ากินไปเรื่อย ๆ ก็ยังไม่เจอจุดที่รู้สึกว่าพอละ ก็ให้จบลงแค่ 1 ชิ้นก็พอนะคะ อีก 1 ชิ้นขอให้มันเป็นในวันอื่น ๆ แทนเน้อ


2. เน้นของหวานที่หวานน้อย

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/20/25/3b/20253bf1b4ceab02d2badfe3b29c470e.jpg

ปัจจุบันขนมหวานหลายเจ้ามาก ๆ ที่เริ่มทำสูตรหวานน้อยหรือใช้หญ้าหวานในการให้ความหวานแทนน้ำตาล ซึ่งก็จะดีต่อสุขภาพมากขึ้นนะคะ เพียงแต่ว่ามันอาจจะรสชาติไม่ถูกปากเราเท่าแบบสูตรเดิม แต่หลาย ๆ ร้านเขาก็ปรับสูตรให้อร่อยเทียบเคียงสูตรเดิมได้อยู่นะคะ ยังไงก็ลองไปตามหาร้านที่มีขนมหวานสูตรหวานน้อย Low Fat หรือใช้หญ้าหวานแทนกันดูนะคะ จะได้ช่วยลดการเพิ่มพลังงานจากพวกน้ำตาล อ้อ! อีกทางนึงก็คือสั่งระดับความหวานแบบต่ำ ๆ แทนก็ได้นะคะ พวกชานมไข่มุก น้ำหวานน้ำชงพวกนี้เริ่มมีให้บอกเปอร์เซ็นความหวานแล้ว นี่ก็เป็นอีกทางที่จะช่วยให้น้ำหนักไม่พุ่งด้วยน้า


3. ทานหลังมื้ออาหาร

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/1b/d8/3a/1bd83acd7e773571f9846adb70a6e604.jpg

ที่ให้กินหลังมื้ออาหารไม่ใช่เพราะว่าตัดกำลังการกินนะคะ แต่เป็นเพราะถ้าเราทานของหวานตอนท้องว่างระดับน้ำตาลในเลือดของเราจะสูงขึ้นหนำซ้ำอินซูลินยังไปกักตุนคาร์โบไฮเดรตที่ไม่ถูกใช้ให้ไปเป็นพลังงานไขมันอีกด้วย แค่ฟังก็รับรู้ถึงพุงที่จะยื่นเพิ่มออกมาเลยใช่ไหมล่า? ดังนั้นเนี่ยก็อย่าทานของหวานในตอนที่ท้องว่างนะคะ ไม่งั้นน้ำตาลในเลือดสูง แล้วยังมีไขมันมาเพิ่มอีกน้ำหนักขึ้นหนึ่ง เสี่ยงโรคเบาหวานเพิ่มอีกสองไม่คุ้มกันเท่าไหร่เน้อ


4. ลดแคลอรีลงด้วยตัวเอง

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/8a/3d/b8/8a3db80d24dfafb0e55b93a4beaf28c8.jpg

ฟังดูงง ๆ ใช่ไหมคะ คือไม่ใช่ทุกคนจะมานั่งนับแคลอรี่ได้แบบเป๊ะ ๆ เราก็เลยคิดว่าถ้าพอจะรู้แคลอรี่ของสิ่งที่จะกินคร่าว ๆเราก็น่าจะลดมันลงไปด้วยวิธีการต่าง ๆเช่น เค้ก 305 กิโลแคลอรี่ ถ้าเราเอาครีมที่อยู่บนตัวเค้กออกไป แคลอรี่น่าจะลดไปสัก 100 - 160 กิโลแคลอรี่ ทำให้การกินของหวานของเราในครั้งนี้ได้รับพลังงานลดลงนั่นเองค่ะ คือเราสามารถควบคุมแคลอรี่คร่าว ๆ ได้ อย่างเวลาสั่งเครื่องดื่มก็สั่งหวานน้อย ไม่เอาวิป แค่นี้ก็ช่วยให้เราทานของหวานได้แบบสบายใจมากขึ้นไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักจะพุ่งพรวดนั่นเองค่า


5. กินในเวลาที่เหมาะสม

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/2a/da/a8/2adaa8d9838aeddce51c4bf2627ceefc.jpg

กินของหวานในเวลาที่เหมาะสมหมายถึงหลังมื้ออาหารประมาณ 2 ชั่วโมงนั่นเองค่ะ คือช่วงนั้นระดับน้ำตาลในเลือดของเราจะคงที่แล้วแม้เราจะทานของหวานเข้าไปก็ไม่ได้ทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งพรวด ซึ่ง 2 ชั่วโมงที่ว่าต้องอยู่ในช่วงระหว่างบ่าย 2 โมง - บ่าย 4 โมงนะคะ ( 14:00 - 16:00 น. )แค่นี้ก็จะช่วยให้เรากินของหวานได้แบบสบายใจขึ้นอีกหนึ่งเปราะ แต่ ๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่ว่าจะกินเยอะเท่าไหร่ก็ได้นะคะกินในปริมาณที่เหมาะสมแค่พอหายอยากแบบข้อด้านบนก็จะดีที่สุดค่ะ :-D


6. หันมาทานผลไม้แทน

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/7a/6c/f8/7a6cf85270451a702eda01c8daef59df.jpg

ของหวานมันเป็นน้ำตาลแบบขัดสีอะไรพวกนี้นะคะ ซึ่งมันก็จะให้พลังงานที่ค่อนข้างเยอะพอสมควร ไหนจะไขมันจำพวกเนยหรือน้ำมันในของหวานอีก ยิ่งมีแต่ของที่จะชวนให้น้ำหนักพุ่งพรวด งั้นหันมาทานผลไม้แทนดีกว่าค่ะ คือผลไม้บางชนิดก็หวานจนอันตรายเหมือนกันนะคะ แต่อย่างน้อย ๆ ถ้าเรากินแบบพอประมาณก็จะช่วยให้เราหายอยากของหวานไปได้เหมือนกัน หรือถ้ายังอยากทานของหวานอยู่ก็เลือกของหวานที่มีผลไม้ด้วยก็จะดีนะคะ จะได้เพิ่มประโยชน์ให้กับร่างกายด้วย :-)


7. กินแล้วต้องเบิร์นออก

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/fd/1b/de/fd1bdeec5ef4c2f50c2439fec97491e7.jpg

ถ้าวันนี้กินของหวานแล้ว ตอนเย็นก็ต้องไปเบิร์นออกนะคะ เพราะหลาย ๆ คนกินขนมหวานแล้วไม่ค่อยได้ขยับร่างกาย หรือได้ออกไปไหน ยิ่งช่วงนี้มีโรคระบาดอีกด้วย ยิ่งไม่ได้ออกไปใช้ชีวิต ไปเดินทางด้วยการเดินเท้าให้มันเผาผลาญแคลอรี่ลงไปบ้างเลย ยิ่งทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ง่ายกว่าเดิม อ้วนง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก ๆ แต่เราก็ยังสามารถเบิร์นพลังงานหรือออกกำลังกายที่บ้านได้นะคะเสิร์ชพวกยูทูปหาคลิปที่เขานำออกกำลังกาย หรือจะเต้นพวกเพลงต่าง ๆ ก็ได้นะคะ เช่น เพลงเกาหลีที่มีท่าเต้น หลาย ๆ เพลงก็ช่วยเบิร์นพลังงานได้ดีทีเดียวเลยล่ะค่ะ


♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡


เป็นไงกันบ้างคะกับ7 ทริคดี ๆ ที่เราเอามาฝากกันในวันนี้หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนเลยน้า เพราะเชื่อว่าคนเรามันต้องมีแบบอย่างน้อยนิดนึงอะเนอะที่ทานขนมหวานแล้วถ้าน้ำหนักเพิ่มก็จะเป็นนางเครียด แต่จะไม่ทานเลยมันก็แบบไม่ได้คือในบางครั้งร่างกายมันก็ต้องการความหวานให้มีพลังงานในการใช้ชีวิตกันบ้าง เอาล่ะ~ใครสายชอบทานของหวานก็ลองไปปรับใช้กันดูนะคะ ส่วนตอนนี้เราคงต้องลาไปก่อนแล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ บ๊ายบายค่า ♥